เธอคือหญิงสาวที่เขารอคอยมาตลอดชีวิต...
เธอคือหญิงสาวที่เขารอคอยมาตลอดชีวิต...
ซีรีส์ดวงใจยอดเสน่หา
เล่ม 1 ดวงใจยอดเสน่หา
ฟ้าใสนั่งมองเด็กน้อยซึ่งเป็นลูกศิษย์ด้วยสายตาเอ็นดูระคนรักใคร่ เด็กชายพศินเรียนอยู่ชั้นอนุบาลสามเป็นช่วงวัยกำลังซน
“คุณครูพี่ฟ้าครับ ผมหิวข้าว”
เด็กน้อยบอกเสียงละห้อย เอามือลูบท้องไปมา
“ตายแล้ว ครูก็ลืม งั้นกินขนมปังรองท้องไปก่อนนะ”
เธอมีขนมปังกับนมเปรี้ยวติดกระเป๋าเอาไว้ยามหิวจึงเอามาให้เด็กน้อยรับประทาน
“คุณพ่อยังไม่มาอีกเหรอคะ”
เธอมองนาฬิกาข้อมือเรือนจิ๋วของตัวเองด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะตอนนี้เย็นมากแล้ว ในโรงเรียนก็ไม่มีใคร นอกจากคุณลุงภารโรงที่พักอาศัยอยู่บ้านพักด้านหลังโรงเรียนซึ่งจะมาคอยปิดประตู
เธอมาเป็นครูสอนเด็กอนุบาลเพราะเป็นคนรักเด็ก อีกทั้งยังเป็นบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวที่ต้องสืบทอดกิจการโรงเรียนแห่งนี้ต่อจากมารดา
จริงๆ เธอไม่จำเป็นต้องมาเป็นครูสอนเด็กๆ ก็ได้ แต่ไปนั่งเป็นผู้บริหารช่วยเหลือมารดาเพื่อเรียนรู้งาน แต่เธอนึกสนุกอยากสอนเด็กขึ้นมา มารดาก็ไม่ห้ามปราม แถมยังสนับสนุนให้ทำอย่างที่ใจชอบ
“นั่นครับ คุณพ่อมาแล้ว”
เสียงของหนูน้อยทำให้เธอเงยหน้ามองบุรุษร่างสูงเพรียวแข็งแรงที่กำลังเดินมาหา เขาเป็นผู้ชายตัวสูงที่เธอกะประมาณว่าน่าจะเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ช่วงขาของเขาขณะเดินเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนแลดูแข็งแรงแนบกับกางเกงผ้าเนื้อดีที่สวมใส่
บุรุษตรงหน้าเป็นคนใบเรียวได้รูป คางผ่า จมูกโด่งเป็นสัน เธอเหลือบมองตรงคางของเขามีไรหนวดเขียวครึมที่ผ่านการโกนอย่างเรียบร้อย โหนกแก้มของเขาสูง ดวงตาคมเข้ม คิ้วพาดเฉียง ขนตาดกหนา หน้าผากกว้าง เขาจัดว่าหล่อเหลาเชียวล่ะ
“คุณพ่อ”
พศินโผเข้าหาบิดา ก่อนจะถูกอุ้มขึ้นแนบอก เด็กชายตัวน้อยซบอกบิดา กอดคอออดอ้อนตามประสา
“รอนานไหมครับ”
“รอนานมากเลยครับ ทำไมคุณพ่อมารับช้าจัง”
“พ่อติดงานด่วนน่ะครับ หิวหรือยัง”
“คุณครูพี่ฟ้าเอาขนมกับนมให้กินแล้วครับ”
เด็กน้อยลูบท้องไปมาขณะพูด พายัพมองคุณครูสาวอายุน่าจะประมาณ 22-23 ปีตรงหน้า เขาคาดคะเนจากสายตา เธอน่าจะเพิ่งเรียนจบ ใบหน้าเรียวรูปไข่ ผิวขาวเนียนละเอียด ผมดำสนิทรวบเอาไว้เป็นหางม้า ตรงหน้ามีไรผมนิดหน่อย ปากเป็นรูปกระจับ จมูกโด่ง ตาสวยหวาน คิ้วเรียวโก่งงาม ขนตาอ่อนช้อยงอนงาม เธอเป็นคนสวยติดไปทางน่ารัก ขณะยิ้มให้ลูกชายของเขาก็มีลักยิ้มข้างแก้ม แถมยังมีเขี้ยวอีกด้วย
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่มารับลูกชายช้าไปหน่อย และต้องขอบคุณมากๆ นะครับที่ช่วยดูลูกให้ผม”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเป็นครูของน้องพีท เป็นหน้าที่ของฉันอยู่แล้วค่ะ”
“คุณครูกลับยังไงครับ”
“ฉันขับรถมาค่ะ”
ฟ้าใสยิ้มละมุนให้เขา เธอแยกไปอยู่ที่คอนโดส่วนตัวในเมือง ไม่ได้อยู่ร่วมบ้านกับมารดา แต่ก็ไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด เมื่อก่อนไปเรียนอยู่กรุงเทพฯ พอเรียนจบก็กลับมาช่วยมารดาดูแลโรงเรียนอนุบาล
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
เธอยิ้มให้เขา ในขณะที่เด็กน้อยรีบโบกไม้โบกมือให้คุณครูคนสวย
“ลาก่อนนะครับคุณครูพี่ฟ้า”
พศินโบกมือไม่ยอมหยุด หันไปมองคุณครูประจำชั้นที่เดินตามหลังมาติดๆ ด้วยรอยยิ้มใสซื่อตามประสาเด็ก
“อุ๊ย! ตายแล้ว”
ฟ้าใสอุทานเมื่อเห็นล้อรถของเธอยางแบน
“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ”
“รถของฉันยางแบนน่ะค่ะ”
สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าเซ็ง และนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย
“ให้ผมไปส่งนะครับ ถือว่าตอบแทนคุณครูที่อยู่เป็นเพื่อนตาพีทจนเย็นย่ำแบบนี้”
“เอ่อ... ฉันเรียกแท็กซี่ดีกว่าค่ะ รบกวนคุณเปล่าๆ”
“ไม่รบกวนหรอกครับ ผมอยากไปส่งคุณจริงๆ”
“งั้นก็ขอบคุณนะคะ”
ในที่สุดฟ้าใสก็จำต้องทิ้งรถอีโก้คาร์ของเธอเอาไว้ที่โรงเรียน หลังจากล็อกรถเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปนั่งรถของพายัพ เขาเอ่ยถาม เธอจึงบอกที่พักของตัวเองให้เขารู้
“คุณครูไปกินข้าวกับผมกับน้องพีทก่อนได้ไหมครับ คือน้องพีทแกหิวน่ะครับ”
“ได้สิคะ”
เธอหันไปมองเด็กน้อยที่คุยจ้ออยู่ด้านหลัง ดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อคุณครูคนสวยและใจดีจะไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน
ร้านอาหารไทยที่พายัพพามารับประทานเป็นร้านอาหารที่เงียบสงบ บรรยากาศดี มองเห็นทิวทัศน์ด้านนอกเป็นทุ่งนาและสวนผลไม้ อากาศเย็นสบายทำให้ผ่อนคลายไม่น้อยเพราะมีแม่น้ำไหลผ่าน มองทัศนียภาพแล้วรู้สึกดี เจริญหูเจริญตา แทบหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“ผมชอบพาน้องพีทมากินร้านนี้ครับ บรรยากาศดี อาหารก็อร่อยด้วย”
“ค่ะ” เธอรับคำยิ้มๆ ไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาดี
พายัพมองสบตากับลูกชาย เจ้าตัวดีอยากให้เขาจีบคุณครูสาว แต่เขาก็เฉยๆ คิดว่าลูกชายตัวน้อยคงชอบคุณครูประจำชั้นเพราะใจดีเลยหลงรักเป็นธรรมดา เดี๋ยวพอเลื่อนชั้นไปเรียนกับคุณครูคนใหม่ ก็คงจะหลงรักอีกคน ถ้าเขาบ้าจี้จีบครูประจำชั้นของลูกชายทุกคน เขาคงมีเมียมากกว่าหนึ่งโหลแน่ๆ
“คุณครูคงรักเด็กมากนะครับ เลยมาเป็นครู”
“เรียกฟ้าดีกว่าค่ะ เรียกคุณครูฟังดูเป็นทางการไปหน่อยน่ะค่ะ”
“ครับคุณฟ้า”
“ฟ้ามาช่วยคุณแม่ดูแลโรงเรียนน่ะค่ะ แล้วก็ชอบอยู่กับเด็กๆ เลยมาสอนหนังสือเด็กๆ ด้วยค่ะ”
พายัพถึงบางอ้อ ที่แท้เธอก็คือบุตรสาวของภคินีนี่เอง เขาค่อนข้างจะสนิทกับมารดาของเธอ แต่เคยได้ยินท่านบอกว่าบุตรสาวไปอยู่กับยายและเรียนอยู่กรุงเทพฯ แต่เด็ก
“น้องพีทเล่าเรื่องคุณให้ผมฟังทุกวันเลยนะครับ”
“เล่าว่ายังไงเหรอคะ”
เธออมยิ้มถามอย่างอยากรู้
“ประมาณว่าคุณฟ้าใจดี น่ารัก พูดเพราะ แล้วก็สวยน่ะครับ”
พายัพพูดแล้วอมยิ้ม เขาว่าฟ้าใสสวยและน่ารักมากๆ อย่างที่บุตรชายพูดจริงๆ
“ยอกันเกินไปแล้วนะคะ”
พศินอมยิ้มเมื่อเห็นบิดาคุยกับคุณครูคนสวยคุยกันถูกคอ เด็กน้อยปีนขึ้นไปบนตักก่อนจะกระซิบที่หูของบิดา
“น้องพีทชอบคุณครูพี่ฟ้าครับ อยากได้มาเป็นคุณแม่”
กระซิบกระซาบเสียงเบามาก ฟ้าใสไม่ได้ยินแต่เธอก็อยากรู้ว่าเด็กน้อยกระซิบว่าอะไร
“เอาไว้พ่อคิดดูก่อนนะครับ”
พายัพแบ่งรับแบ่งสู้ จู่ๆ จะให้เขาบุ่มบ่ามไปจีบก็ใช่เรื่อง อีกอย่างหากคนตรงหน้ามีแฟนแล้ว เขาได้หน้าแตกยับเยิน
“คุณครูพี่ฟ้ามีแฟนหรือยังครับ”
เด็กชายตัวน้อยรีบเอ่ยถาม บิดาจะได้มั่นใจและมีกำลังใจในการจีบ
“มีแล้วจ้ะ”
คำตอบของคุณครูคนสวยทำให้น้องพีทหรือเด็กชายพศินกะพริบตาปริบๆ หน้าหมองลงในทันที คนที่ยังไม่ได้ตบปากรับคำว่าจะจีบก็รู้สึกหมดหวังไปทันที
ฟ้าใสโกหกคำโต เธอเพิ่งเลิกกับแฟนหนุ่มและหนีมาอยู่ที่นี่ เขาตามมา แต่เธอไม่คุยด้วย เธอไม่อยากจะมีรักครั้งใหม่ เพราะเข็ดกับครั้งก่อน จึงจำต้องบอกไปว่ามีแฟนแล้ว
“จริงๆ เหรอครับ”
เด็กน้อยเอ่ยถามตาละห้อย อยากได้คนตรงหน้ามาเป็นมารดาจริงๆ เพราะผู้หญิงคนอื่นไม่รักตนเท่าฟ้าใส
“อาหารมาแล้วครับ เรากินกันเลยดีกว่า น้องพีทหิวแล้วใช่ไหม”
พายัพหันไปถามลูกชาย อีกฝ่ายพยักหน้า แต่หน้าหมองๆ นั้นทำให้เขานึกสงสาร
“ฟ้าขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
ฟ้าใสบอกสองพ่อลูก ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ
“เดี๋ยวพ่อจีบคนอื่นให้”
พายัพก้มลงไปกระซิบที่ริมหูเล็กๆ เด็กน้อยรีบส่ายหน้าให้บิดาในทันที
“ทำไมละครับ”
“จะเอาคนนี้ครับ คุณครูพี่ฟ้าใจดี รักผมมากๆ ด้วย ผู้หญิงคนอื่นไม่รักผม”
“ผู้หญิงคนอื่นของพ่อไม่รักน้องพีทยังไงครับ”
“พวกเขาไม่รักน้องพีท น้องพีทรู้”
สีหน้าท่าทางยิ้มแย้มก็จริง แต่พอลับหลังยบิดาพวกเธอก็ทำท่ารำคาญ ไล่ให้ไปนั่งไกลๆ ไม่อยากกอดหอมเหมือนอยู่ต่อหน้าบิดา แถมยังจิกตาน่ากลัวใส่ตนด้วย นั่นทำให้พศินไม่อยากมีมารดาเลี้ยงใจร้ายแบบนั้น
“คุณครูฟ้าใสมีแฟนแล้วนะครับ น้องพีทจะให้คุณพ่อไปแย่งแฟนคนอื่นหรือไง”
“น้องพีทรู้ครับ”
เด็กชายตัวน้อยก้มหน้าถอนใจอย่างเสียดาย
ปานวาดตื่นขึ้นมาด้วยอาการอ่อนเพลียและปวดหัวอย่างรุนแรง เธอค้นพบว่าไม่ได้นอนอยู่คนเดียว กวาดสายตามองรอบตัวก็เห็นเพียงห้องไม่คุ้นตา แต่ที่ทำให้เธอตกใจแทบช็อกก็เพราะว่าร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายข้าง ๆ “กรี๊ด!!!” ปานวาดกรีดร้องสุดเสียง ปลุกให้เชนที่นอนอยู่ข้าง ๆ สะดุ้งตื่น เขารีบคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ ก่อนที่จะจัดการอุดปากของเธออย่างตกใจเช่นกัน “กรีดร้องทำไมแม่ตัวดี เดี๋ยวคนก็แห่กันมาหรอก” “อื้อ ๆ ๆ” เธอร้องประท้วง อึก ๆ อัก ๆ อยู่ใต้ร่างหนาหนัก ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ “ถ้าเธอไม่ร้องพี่จะปล่อยเธอ เข้าใจไหม” เธอรีบพยักหน้า แต่พอเชนปล่อยมือเธอก็กรีดร้องอีก “กะ.. กรี๊ด! อื้อ...” เชนอุดปากของเธอเอาไว้ กอดปล้ำกันจนเตียงสั่นไปหมด สุดท้ายเชนก็กระแทกริมฝีปากลงไปหา บดจูบเพื่อปิดเสียงร้องของเธอ แต่จูบไปจูบมาดันมามีอารมณ์ อาจเพราะเบื้องล่างไม่มีอะไรสวมใส่อยู่เลย ทำให้แก่นกายชายของเขาเสียดสีกับน้องสาวของเธอถนัดถนี่ “ไม่เงียบใช่ไหม งั้นพี่คงต้องหาอะไรอุดปากของเธอซะ”
โปรย คลั่งรักเมียทาส เพราะพี่สาวขโมยเงินและเครื่องเพชรหนีไป เขาจึงต้องจับเธอเอาไว้เป็นตัวประกัน เป็นทาสบำเรอรักบนเตียงกว้างอันแสนเร่าร้อน เหนือสิ่งอื่นใดยังมีบางอย่างแอบแฝงที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน ว่าเขาอยากได้เธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น และคลั่งรักเธอมากเพียงใด ตัวอย่างบางช่วงบางตอน มยุรินมองเขาอย่างชื่นชม เขาหล่อ ดูดี ร่ำรวย และเซ็กซี่เหลือร้าย แต่เขาก็ร้ายกาจมากเช่นกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะหลงรักผู้ชายร้ายกาจคนนี้ได้ เด็กสาวอยากที่จะเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อใจเจ้ากรรมดันตกหลุมคนใจร้ายอย่างเขาไปเสียแล้ว "อาบน้ำให้ฉันหน่อย" เขาเชยคางสาวให้แหงนขึ้นมาสบตา ก่อนที่ก้มลงมาบดจูบอย่างร้อนแรง "คุณชัชคะ หนูเหนื่อยจังค่ะ" เธอประท้วงน้อย ๆ ในชณะที่ชัชมองเด็กสาวด้วยสายตาร้อนแรง "เธอเป็นทาสของฉันจำไม่ได้หรือไง ถ้าเธอทำตัวดี ๆ เจอพี่สาวเธอเมื่อไหร่ฉันจะไว้ชีวิต หรือเธออยากให้พี่สาวของเธอตาย" "ไม่ค่ะ" มยุรินรีบส่ายหน้าไปมา "ก็อย่าขัดใจฉันสิ" ชัชพูดเสียงกร้าว มองเด็กสาวเหมือนจะกลืนกิน "หนูแค่เหนื่อยน่ะค่ะ" เขาตื่นมาตอนเที่ยงแล้วลากเธอขึ้นเตียงจนเกือบเย็น ก้นของเธอปวดเมื่อยระบบไปหมดแล้ว ช่องคลอดเหมือนจะฉีกขาดเสียให้ได้ ชัชกระแทกไม่ยั้งจนช่วงล่างของเธอแทบพัง เธอตกเป็นของเขาในครั้งแรกยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขายิ่งรู้ก็ยิ่งเอา ไม่ได้บันยะบันยังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา "นอนอ้าขาเฉย ๆ เหนื่อยด้วยเหรอ บอกให้ตอดก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง" เขาสลัดผ้าห่มที่คลุมกายของเธอออก มยุรินร้องเบา ๆ เพราะตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าเปิดเผยต่อสายตาของเขาอีกครั้ง "หนูจะขาดใจแล้วค่ะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น กอดอกหน้าแดง แต่เขากระชากแขนที่กอดอกของเธอออก ทำให้ปทุมถันอวบเต็มเด้งไปมาจากแรงขยับ ริมฝีปากหน้าร้ายกาจก้มลงงับดูดอย่างเร่าร้อน
เธอแอบรักเขา จึงยอมเขาทุกอย่าง จนกระทั่งวันที่เธอตั้่งท้อง เธอต้องเลือกระหว่างการทนอยู่กับคนที่ไม่รัก หรือจากไปพร้อมกับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลก
"วันนี้เธอมาหาฉันทำไม" พายัพเอ่ยถามพลางไล่สายตามองร่างสมส่วนไม่วางตา "หนูจะมาขอผัดผ่อนหนี้สินของคุณพ่อไปก่อนจะได้ไหมคะ" เธอบอกเขาเสียงสั่น "ได้สิ มีอะไรแลกเปลี่ยนไหม" เขาแตะลิ้นเลียริมฝีปาก "ตัวหนูพอจะแลกเปลี่ยได้ไหมคะ" เธอรู้ว่าเขาอยากได้เธอ แม้จะรังเกียจเขาเพียงใด แต่เธอก็ต้องทำเพื่อครอบครัว "ก็พอได้นะ" เขายกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มแบบนี้ทำให้เธอต้องกัดปากตัวเอง เขาชอบยิ้มแบบนี้เสมอ ผู้ชายตรงหน้าคือมาเฟียตัวร้าย เขามีเงิน มีอำนาจ ยิ่งใหญ่คับบ้านคับเมืองเสียเหลือเกิน เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับเขาได้เลย "ไหนลองช่วยตัวเองให้ฉันดูหน่อยสิ" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาด้วยความอาย ฃ เพี้ยะ!!! เธอตบหน้าเขาจนหน้าหัน ไม่รู้เหมือนกันว่ากล้าตบหน้าเขาแบบนี้ได้อย่างไรกัน ใบหน้าของพายัพกระด้าง เขาดุนดันกระพุ่งแก้มเบา ๆ คล้ายเจ็บ ๆ คัน ๆ ดวงตาคมกริบของเขามองเธอไม่วาง "ชอบตบจูบอย่างนั้นเหรอ" เขากระชากเธอเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดัน "ปล่อยหนูนะ" "ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าฉันมาก่อน" พายัพดันร่างของเด็กสาวไปจนชิดกับผนัง กวาดสายตามองเธอไม่วาง "ถ้าฉันยังไม่ได้ทดสอบสินค้าจะรู้ได้ยังไงว่ามันคุ้มกับการแลกเปลี่ยนหรือเปล่า เพราะไอ้แฟนของเธอคงไม่ปล่อยให้เธอยังเวอร์จิ้นอยู่กระมัง" ประโยคของเขาทำให้ข้าวหอมหน้าชาอีกครั้ง ทั้งอับอาย ทั้งโกรธเกลียดเขาอย่างเหลือล้น เจ้าหนี้หน้าเลือดของบิดา!!!
เธอปลอมตัวไปเป็นเลขาของเขาเพื่อจะจับผิดว่าเขานอกใจเธอหรือเปล่า เพราะแท้ที่จริงเขาคือคู่หมั้นของเธอที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ปลอมตัวอย่างไรไม่ทราบ ดันไปตกเป็นเมียของเขาเสียนี่ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ต่อไปผมจะมารับคุณไปทำงานทุกวัน” “รับทำไมคะ” พิมพ์พิศาอุทานออกมา กำลังคิดอยู่เชียว เขาเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรเลยพูดดักคอออกมาแบบนี้ “คุณเป็นเลขา เผื่อผมมีงานด่วนอะไรต้องเรียกใช้คุณ คุณก็ต้องพร้อมทุกสถานการณ์ คุณไปทำงานพร้อมผมน่ะดีแล้ว” “เจ้านายคนอื่นเขามารับเลขาไปทำงานด้วยกันแบบนี้ไหมคะ” เธอประชด “รับ” คำสั้น ๆ ของเขาทำให้เธอค้อนเขาเสียวงใหญ่ “เพิ่งรู้นะคะนี่” “คุณกินอาหารเช้าหรือยัง” เสียงท้องของเธอเป็นคำตอบ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องลูบท้องตัวเองอย่างเขินอาย “ผมคงไม่ต้องถามคุณซ้ำหรอกนะว่าคุณหิวหรือไม่หิว” ระยะทางที่ขับรถมาถึงคอนโดฯ ของเขาไกลพอสมควร เธอเหลือบมองเขาพลางคิดในใจว่าเขาขับรถจากคอนโดฯ มารับเธอไกลขนาดนี้เชียวหรือ พิมพ์พิศารีบเสไปมองข้างทางเมื่อเขาหันมาสบตากับเธอเข้าพอดี เธอกำลังมองเขาเพลินเชียว เวลาอยู่กับเปรม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองพอสมควร สมบูรณ์จอดรถหน้าคอนโดฯ หรูของเปรม ก่อนจะรีบลงไปเปิดประตูให้คนทั้งสอง ในขณะที่พิมพ์พิศากำลังเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นั้น เปรมก็แตะข้อศอกของเธอเบา ๆ ทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง “ตามผมมาสิ” เขาเอ่ยกับเธอก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านใน พิมพ์พิศาเริ่มลังเลว่าจะตามเขาขึ้นไปดีไหม เธอเป็นผู้หญิงจะขึ้นห้องไปกับผู้ชายมันก็ดูไม่ดี “เร็วสิคุณ เดี๋ยวไปทำงานสายนะ เรามีเวลาไม่มาก” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู เร่งเร้าให้เธอเดินตามเขาไป พิมพ์พิศาจึงต้องรีบตามเขาขึ้นไปบนห้องพัก “เชิญครับ” เขาเปิดประตูห้องให้เธอ ก่อนจะผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อน เธอยืนอึ้ง ๆ ทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าประตู แต่ก็โดนเขาดันร่างเข้ามาภายในห้องโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงแค่ประตูปิดลง เปรมก็กดร่างของเธอไปกับผนังห้อง ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะบดจูบเข้าหาปากของเธออย่างเร่าร้อน “อื้อ... ท่านประธานทำอะไรคะ” พิมพ์พิศาดิ้นรน แต่มือหนาของเขากดมือเธอไปกับผนังห้องไม่ยอมปล่อย “ผมหิว” “หิวอะไรคะ อื้อ... พอก่อนค่ะ” ถามอีกก็ถูกจูบอีก จูบจนปากแทบช้ำ “หิว” เขาตอบสั้นน้ำเสียงอ้อยอิ่ง มองริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธอไม่วาง สายตาของเธอนั้นทำให้ท้องไส้ของเธอปั่นป่วนยิ่งนัก “ท่านประธาน อย่าค่ะ” เธอเบี่ยงหลบเมื่อเขาทำท่าจะประทับจุมพิตลงมาอีกครั้ง “ทำไมเรียกพี่เสียห่างเหินแบบนั้นล่ะ” “คะ” พิมพ์พิศาหลุดอุทานออกมา มองเขาตาปริบ ๆ พลางกัดปากตัวเองด้วยความรู้สึกใจสั่นสะท้าน อย่าบอกนะว่าเขารู้ความจริงหมดแล้ว “อุตส่าห์นั่งรถไปตั้งไกล เหนื่อยไหม”
ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวบ่าวไปเอาขมิ้นกับมะขามเปียกก่อนนะเจ้าคะ คุณบัวรออยู่ที่ท่าน้ำก่อนนะเจ้าคะ” “จ้ะพี่” กลีบบัวตอบรับ นั่งรออยู่ที่ท่าน้ำด้วยจิตใจเลื่อนลอย “พี่พุดซ้อนมาแล้วเหรอจ๊ะ อุ๊ย! พี่พฤกษ์” หล่อนร้องอุทานเมื่อหันไปก็เจอเข้ากับพฤกษ์ที่วางมือร้อนๆ อยู่ตรงไหล่บอบบางของหล่อน “จะอาบน้ำเหรอ” เขาเอ่ยถาม “ค่ะพี่พฤกษ์” คนพูดมีท่าทีเขินอาย เสียงสั่นสะท้าน ก้มงุดเพราะตัวเองอยู่ในสภาพอันล่อแหลมนัก “ตัวหอมอยู่แล้ว ไม่ต้องอาบก็ได้” เขากระซิบลงตรงริมหู ใช้ริมฝีปากดุนดันกลีบปากของหล่อนเบาๆ พอหล่อนเบี่ยงหลบเขาก็หอมแก้ม ขบเม้มติ่งหูสาวอย่างมีชั้นเชิง “อย่าเจ้าค่ะพี่พฤกษ์ เดี๋ยวบ่าวในเรือนมาเห็นเข้า” “ไม่มีใครมาเห็นหรอก ข้าสั่งไอ้เข้มเอาไว้แล้วว่าไม่ให้ใครเข้ามา” “ตรงนี้เป็นท่าน้ำนะเจ้าค่ะ มันไม่เหมาะสม” “ท่าน้ำแล้วทำไม” เขาปลดอาภรณ์ออกจากกาย ไม่ได้สนใจเสียงประท้วงของหล่อนอีก เขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ และเวลานี้เขาต้องได้หล่อนให้สมใจอยาก
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
โปรย : กลางวันเธออยู่หน้าห้อง กลางคืนเธออยู่หน้าเตียง +++++++++++++++++++++++++++++ มัสยาหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาแล้วเปิดก๊อกให้น้ำไหลลงสู่ผ้าจนชุ่ม เขาชิงดึงผ้าออกไปแล้วค่อยเช็ดซับลงบนคราบกาแฟที่กระเซ็นโดนส่วนแขนของเธอเสียเอง แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มือของเขาไต่ขึ้นสูงจนมาถึงหน้าอกอวบอิ่ม มัสยารีบตะครุบมือเขาเอาไว้ “ ตรงนี้ไม่ได้เปื้อนค่ะ ” “ เปื้อนสิ มีรอยนิดหน่อย มัสไม่เห็นแต่ฉันเห็น ดูผ่านกระจกก็ได้ ” เขาหมุนตัวเธอให้ไปประจันหน้ากับกระจกโดยที่ตนเองประกบซ้อนอยู่ด้านหลังแล้วสวมกอดพลางใช้ผ้านั้นเน้นย้ำซับเช็ดหนักขึ้นเรื่อย ๆ ตรงทรวงอก เช็ดไปเช็ดมากลายเป็นว่าใช้มือขยำคลึงแทน “ ฉันมันนิสัยไม่ดี ใจร้อนตลอด เลยทำกาแฟหกโดนเธอ ขอโทษนะมัส ” กล่าวคำขอโทษแต่การกระทำดูเหมือนจะไม่สำนึก เขารุกล้ำซุกซนไปเรื่อย ๆ มือหนึ่งเริ่มแกะกระดุมเชิ้ตของเธอช้า ๆ “ คุณเอกขา อย่าค่ะ ตรงนั้น... ไม่ต้อง ” เจ้าของทรวงท้วงเสียงสั่นเมื่อเขาก้มลงดูดเม้มที่ใบหูเบา ๆ “ ต้องสิ เพราะฉันต้องดูว่ามันเปื้อนไปถึงข้างในด้วยหรือเปล่า ”
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด