img มนต์ไอยคุปต์  /  บทที่ 2 ดินแดนทะเลทราย | 4.17%
ดาวน์โหลดแอป
ประวัติการอ่าน

บทที่ 2 ดินแดนทะเลทราย

จำนวนคำ:2808    |    อัปเดตเมื่อ:22/02/2022

“มิ... รา...” ชนะชนพึมพำชื่อของเธอ เสียงขาดหายไปในลำคอ นัยน์ตาเบิกกว้างคล้ายกำลังเจอเรื่องเหนือธรรมชาติจากอีกห้วงมิติ

...ไม่ผิดแน่! ชายหนุ่มบอกตัวเอง พร้อมกับจับจ้องเธออย่างไม่วางตา หญิงสาวเจ้าของใบหน้ารูปไข่ ปากนิดจมูกหน่อยดูน่ารัก แต่นัยน์ตากลมโตมีแววโศก เธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีม่วงอ่อน กับแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน สวมขายาวกางเกงสีกรมท่า และรองเท้าส้นเตี้ย ผมยาวเกือบถึงกลางหลังรวบไว้เรียบร้อย แล้วก็อาจเป็นเพราะชนะชนจ้องมองเธอนานเกินไป หญิงสาวจึงรู้สึกตัวและหันมามองเขา ถึงอย่างนั้นลึกๆ ข้างในแววตาของเธอก็ไม่ได้ปรากฏสิ่งที่บ่งบอกว่า เธอเคยรู้จักกับเขามาก่อนเลยแม้แต่น้อย

“เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จักกันไว้นะคะ” เจ๊แหม่ม ผอ.สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ยิ้มแย้มบอกทั้งสองฝ่าย ก่อนจะเริ่มต้นแนะนำ 1 คนชรากับ 2 หนุ่มให้ 2 สาวรู้จักก่อน “ทางซ้ายมือสุดคือ ผอ.วิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีจ้ะ ถัดมาคนกลางก็พี่ชนะชนเป็นหัวหน้ากลุ่มวิชาการโบราณคดี แล้วก็ท้ายสุดพี่จตุรงค์ รองหัวหน้ากลุ่มวิชาการโบราณคดี”

“สวัสดีค่ะ” สองสาวยกมือไหว้ทั้ง 3 คนตามลำดับ ขณะที่อีกฝ่ายก็รีบรับไหว้ โดยชนะชนยังคงจับจ้องเพียง ‘เธอ’ คนเดิม ส่วนจตุรงค์ซึ่งมั่นใจนักหนาว่า เสื้อเชิ้ตลายทางสีขาว – น้ำเงิน กับกางเกงขายาวสีขี้เถ้าที่พึ่งควักกระเป๋าซื้อมาใหม่ จะช่วยเสริมหล่อให้เขาพอสูสีกับชนะชนได้ ก็เล็งเป้าหมายไปที่สาวหมวยหน้าหวานเจ้าของผมม้าสไลด์ ในชุดแซกลายสก๊อตผูกเอว ดูทันสมัยเหมือนหลุดจากนิตยสารแฟชั่น

“ส่วนคนสวย 2 คนนี้ มินตรากับเกสรี เจ้าหน้าที่กลุ่มประวัติศาสตร์ เป็นน้องใหม่พึ่งเข้ามาทำงาน มีอะไรก็ช่วยๆ กันแนะนำหน่อยนะคะ” เจ๊แหม่มแนะนำ 2 สาวให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายชายรู้จักบ้าง

“ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้เลยนะครับ” จตุรงค์ฉีกยิ้มบอกสองสาว ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ยิ้มฝืดตอบขอบคุณ

“เป็นรุ่นพี่ที่น่ารัก ถ้าอย่างนั้นช่วยเอาพาสปอร์ตของทุกคน ไปเช็คอินตั๋วทีนะจ๊ะ” เจ๊แหม่มแก้เผ็ดความกะล่อนของจตุรงค์ พร้อมกับส่งพาสปอร์ตของตัวเองกับสองสาวให้ โดยได้รับความร่วมมือจาก ‘ป๋า’ ผอ.สำนักโบราณคดี และชนะชนซึ่งพร้อมใจกันหยิบพาสปอร์ตส่งให้จอมกะล่อนเช่นกัน

“แหะๆ ไม่มีปัญหาครับ” จตุรงค์หน้าเจื่อนลงไปนิดหนึ่ง ถึงอย่างนั้นก็ยังฉีกยิ้มสู้

“ดีมากจ้ะ งั้นฝากกระเป๋าของสองสาวไปด้วยนะจ๊ะ จตุรงค์คนเก่งช่วยเข็นไปทีนะ” เจ๊แหม่มฉวยกระเป๋าเดินทางในมือมินตรากับเกสรีวางลงบนรถสำหรับเข็นกระเป๋า ซึ่งมีกระเป๋าเดินทางของสองผู้อาวุโสวางอยู่ก่อนแล้ว “ชนะชนก็เอากระเป๋ามาวางไว้ด้วยกันซะสิจ๊ะ จะได้ไม่ต้องเดินลาก สบายออก”

“เอ่อ... ครับ” ชนะชนวางกระเป๋าของตัวเองลงบนรถเข็นกระเป๋าตามที่เจ๊แหม่มบอก ยิ่งทำให้จตุรงค์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม มุมปากที่เคยชี้ขึ้นฉีกยิ้มแบบสู้ตายค่อยๆ ตกลงๆ กระทั่งไม่เหลือแม้รอยยิ้มฝืด เพราะแค่สัมภาระของเจ๊แหม่มชนิดแทบจะขนบ้านไป ก็คงทำให้หนุ่มร่างบางสูงโปร่งอย่างเขาแทบจะสะบักสะบอมแล้ว เรื่องนั้นชนะชนเองก็รู้

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอก เดี๋ยวฉันช่วยเข็นไปให้” ชายหนุ่มตบบ่าเพื่อนสนิท ก่อนจะเป็นฝ่ายเข็นรถเข็นกระเป๋าเดินนำไปก่อน กระทั่งสิ้นสุดการเช็คอินตั๋ว และชั่งน้ำหนักกระเป๋าซึ่งสองหนุ่มต่างช่วยกันขนสัมภาระของคนทั้งคณะ ลงจากรถเข็นกันอย่างแข็งขันเสียเหงื่อชุ่มแผ่นหลัง

“ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับหัวหน้า” จตุรงค์โค้งให้ชนะชนท่าทางนอบน้อม จนถูกอีกฝ่ายถลึงตาใส่

“บอกว่านอกเวลางานไม่ต้องเรียกหัวหน้าไง เดี๋ยวขากลับให้เข็นกระเป๋าคนเดียวซะเลยนี่”

คำพูดของชนะชนเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน ยกเว้นจตุรงค์ที่ยืนหน้าซีดเป็นไก่ต้มรอบสอง เมื่อนึกถึงของฝากจากอียิปต์ที่เจ๊แหม่ม ผอ.สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ของพวกเขา จะขนกลับมาอีกพะเรอเกวียน

“โห โหดร้ายกับเพื่อนตาดำๆ ได้ไงเนี่ย”

“ทีแบบนี้ล่ะอยากเป็นเพื่อนขึ้นมาเชียวนะ”

ทั้งคำพูดและท่าทางหงอๆ ของจตุรงค์ กับสีหน้าเอือมระอาของชนะชน ยิ่งทำให้ทุกคนพากันขบขัน ไม่เว้นแม้แต่สองสาวน้องใหม่อย่างมินตราและเกสรี นั่นเองที่ทำให้ชนะชนชะงักไปอีกครั้ง เมื่อได้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของหญิงสาว

“เฮ้ๆ จะตกหลุมรักสาวทั้งที ก็เก็บอาการนิดนึงสิ แบบนี้น้องเขาก็รู้หมด” จตุรงค์สะกิดเตือนเพื่อน หลังจากที่เห็นชนะชนเอาแต่คอยชำเลืองมองรุ่นน้องสาวแทบทุกอิริยาบถ ตั้งแต่อยู่ภายในสนามบินจนกระทั่งขึ้นมานั่งบนเครื่องบิน เตรียมมุ่งหน้าสู่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์

“ทีนายเองยังทั้งส่งสายตา ทั้งแสดงออกว่ากำลังขายขนมจีบรุ่นน้องแบบไม่เกรงใจผู้ใหญ่เลยนี่ เลยโดนแกล้งซะ” ชนะชนย้อนขำๆ ถึงอย่างนั้นก็ยอมรับแต่โดยดีว่า ตัวเองตกหลุมรักมินตราเจ้าหน้าที่น้องใหม่เข้าอย่างจังเบ้อเร่อ โดยเฉพาะรอยยิ้มของเธอที่ทำให้หัวใจแข็งๆ ของเขาอ่อนยวบลงในทันที ทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน และทั้งที่ยังไขปริศนาเกี่ยวกับตัวเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ

“ก็นั่นมันเอกลักษณ์ของฉัน แต่เอกลักษณ์ของนายมันไม่ใช่นี่ มันต้องขรึม ขรึม และขรึม ถึงจะสมกับเป็นนาย” จตุรงค์แจกแจง ขณะที่ชนะชนรับฟัง พลางชำเลืองมองมินตราซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งฝั่งตรงข้ามทางด้านซ้ายมือของเขา และกำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนสนิทของตัวเองเช่นกัน

“นี่! มิน ฉันว่ารุ่นพี่ที่ชื่อชนะชนอะไรนั่นน่ะ ต้องแอบชอบเธอแน่ๆ เลย” เกสรีกระซิบบอกเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ เสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเกรงว่าเจ๊แหม่ม ผอ.สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ซึ่งนั่งอยู่ด้วยกันจะได้ยินเข้า

“พูดอะไรน่ะเกด ไปเอามาจากไหน เดี๋ยวเขารู้ก็ซวยกันหมดหรอก” มินตราเอ็ดเพื่อนเสียงเบา นัยน์ตากลมโตราบเรียบ ไร้แวววูบไหว เพราะไม่คิดว่านั่นจะเป็นเรื่องจริง

“เธอไม่สังเกตหรือรู้สึกตัวบ้างเหรอว่า เขามองเธอแทบจะตลอดเวลา ฉันยังเห็นเลย” เกสรียืนยัน พลางชำเลืองมองจับผิดชนะชนซึ่งกำลังชำเลืองมองมินตราอยู่เช่นกัน “นั่นไง! ลองหันไปดูสิมิน” เพื่อนสาวหน้าหมวยพยักเพยิดหน้าให้มินตราหันไปมองชนะชน เป็นเวลาเดียวกับที่จตุรงค์สะกิดชนะชนให้ตั้งใจฟังที่เขาพูด

“เขาก็คุยอยู่กับเพื่อนของเขานี่ เธอดูละครหลังข่าวมากไปหรือเปล่าเกด” มินตราหันไปมองชนะชนแวบหนึ่ง แล้วหันกลับมาหาเกสรี ส่ายหน้าให้กับคำพูดของเพื่อน จึงไม่เห็นว่าชนะชนหันมาชำเลืองมองเธออีก

“ก็อีตารองหัวหน้าติ๊งต๊องนั่น ดันสะกิดให้เขาหันไปพูดด้วยตอนที่เธอหันไปมองพอดีนี่ อ๊ะ! นั่นไงๆ หันมามองเธออีกแล้ว หันไปดูสิมิน” เกสรีสะกิดเพื่อนให้หันไปมองชนะชนอีกครั้ง เป็นเวลาเดียวกับที่แอร์โฮสเตสสาวประจำเครื่องสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ชนะชนจึงหันไปฟังสิ่งที่แอร์โฮสเตสพูด รวมทั้งก้มลงมองสำรวจความเรียบร้อยของอุปกรณ์ต่างๆ รอบตัว

“ก็ไม่เห็นว่าเขาจะหันมามองฉันเลยนี่เกด เธอน่ะดูหนังดูละครมากเกินไปจริงๆ ด้วย” มินตราส่ายหน้าเอือมระอาอีกรอบ แล้วหันไปฟังแอร์โฮสเตสพูดบ้าง ปล่อยให้เกสรีนั่งโมโหหัวเสียกับการที่ชนะชนแคล้วคลาด หลุดรอดจากการจับผิดของเธอไปเป็นครั้งที่ 2

ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังไม่คิดที่จะยอมแพ้ เธอหมายมั่นปั้นมือที่จะจับผิดชนะชนให้ได้คาหนังคาเขา ในระยะเวลาการเดินทางไปอียิปต์ 5 วัน 4 คืนนี้ โดยลืมจุดประสงค์ในการเดินทางของคณะนักโบราณคดีจากประเทศไทยไปเสียสนิท

ตอนที่ 2

นกยักษ์บินลัดฟ้าข้ามทวีปมาจนถึงที่หมาย ณ สนามบินนานาชาติกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ในเวลา 18 นาฬิกา หรือเกือบ 13 นาฬิกาตามเวลาในประเทศอียิปต์ ซึ่งช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 4-5 ชั่วโมง โดยไม่มีการแวะพักที่สนามบินใด รวมระยะเวลาในการเดินทางเกือบ 10 ชั่วโมง นับเป็นช่วงเวลายาวนานสำหรับสองสาวที่ยังไม่เคยเดินทางไกลด้วยเครื่องบินมาก่อน โดยเฉพาะเกสรี สาวน้อยคนเดียวของคณะผู้อาจหาญชี้นิ้วเลือกอาหารอียิปต์มารับประทานเป็นมื้อกลางวันบนเครื่องบิน

“โอย ยังติดลิ้นอยู่เลยล่ะมิน” เธอหันไปบ่นกับเพื่อนสาวคนสนิท ระหว่างรอกระเป๋าสัมภาระที่กำลังโหลดจากใต้ท้องเครื่องบิน

“ก็ฉันบอกแล้วว่าให้เลือกอาหารที่เราคุ้นๆ กันอยู่ เกดก็ไม่เชื่อ” มินตราส่ายหน้าให้เพื่อนอีกรอบ

“แหม! ฉันก็อยากลองกินอาหารอียิปต์บ้างสิ อุตส่าห์ได้มาบ้านเมืองเขาทั้งที”

“ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวทางสถานทูตเขาก็ทำให้กิน เผลอๆ จะทุกมื้อด้วยซ้ำ” ชนะชนซึ่งถือโอกาสมายืนอยู่ข้างๆ มินตราพูดขึ้นยิ้มๆ แต่เพราะคำพูดของเขานั่นเองที่ทำให้เกสรีแทบชักตาตั้ง

“หา ! จะ... จะ... จริงหรือคะ!?”

“ใจเย็นๆ จ้ะ ถึงจะเป็นอาหารต่างประเทศ แต่เขาก็จะพยายามทำให้รสชาติออกมาคล้ายอาหารไทย ทานง่าย ไม่เหมือนของดั้งเดิมหรอก” จตุรงค์ซึ่งสบโอกาสทำไม่รู้ไม่ชี้มายืนข้างเกสรีเช่นกัน ปลอบหญิงสาวที่ทำท่าจะลมจับขึ้นมาดื้อๆ แต่นั่นเป็นเพียงแค่ปัญหาของเธอคนเดียว ยังไม่รวมถึงปัญหาที่คนทั้งคณะต้องประสบ

“การสื่อสารของทางเรากับสถานทูตคงมีอะไรผิดพลาด เขาบอกว่าสถานทูตไทยแจ้งว่ามีนักโบราณคดีเดินทางมาแค่ 4 คน” ผอ.สำนักโบราณคดีควบตำแหน่งหัวหน้าคณะ เดินเข้ามาบอกทุกคนสีหน้าเคร่งเครียด หลังการเจรจากับเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศอียิปต์เป็นที่ล้มเหลว

“เดี๋ยวฉันจะลองไปพูดอีกแรงนะคะ” เจ๊แหม่มในฐานะรองหัวหน้าคณะ เดินจ้ำอ้าวไปหาเจ้าหน้าที่ พร้อมกับพยายามปั้นหน้านางยักษ์ให้กลายเป็นใบหน้าของนางสิบสอง แต่ก็ต้องเดินกลับมาด้วยใบหน้านางยักษ์ตามเดิม

“เขาบอกว่ายังไงก็ไม่ได้ค่ะ ให้ตายเถอะ! นี่มันอะไรกันเนี่ย”

“เดี๋ยวผมไปเคลียร์เองครับ ขอบัตรประชาชนกับบัตรประจำตัวข้าราชการของทุกคนด้วยครับ” ชนะชนพูดขึ้นเสียงขรึม ก่อนจะรับบัตรประจำตัวของทุกคนมา และเดินไปหาเจ้าหน้าที่ซึ่งปั้นหน้าบูดๆ รอรับอยู่แล้ว

แต่หลังจากนั้น...

“หัวหน้าชนะชนพูดภาษาอาหรับได้ด้วยหรือคะเนี่ย!?” เกสรีทำตาโต ออกอาการตื่นเต้น เมื่อได้ยินเสียงพูดภาษาอาหรับโต้ตอบกันดังแว่วมาเข้าหู แทนที่จะเป็นภาษาอังกฤษ

“ไม่ใช่แค่ภาษาอาหรับกับภาษาไทย แต่ทั้งภาษาอังกฤษสำเนียงอังกฤษ สำเนียงอเมริกัน ภาษาจีน แล้วก็ภาษาญี่ปุ่น ชนะชนพูดได้เหมือนเป็นเจ้าของภาษาเลยล่ะ” ผอ.สำนักโบราณคดีตอบด้วยความภาคภูมิใจแทนเจ้าตัว ยิ่งทำให้สองสาวรู้สึกทึ่งในตัวชายหนุ่ม

“เป็นมนุษย์ 5 ภาษาที่หาตัวจับยากจริงๆ” เจ๊แหม่ม ผอ.สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ยืนกอดอกมองชนะชนอย่างชื่นชม

“ทีนี้คงหมดปัญหาเสียทีสินะ” จตุรงค์ยิ้มรับเพื่อนสนิทที่เดินกลับมา อันที่จริงแล้วเขาเองก็พูดภาษาอาหรับได้เหมือนกับชนะชน แต่ท่าท่งขรึมๆ ดูน่าเกรงขามของหมอนั่น คงเหมาะกับงานแบบนี้มากกว่า

“เขาจะยึดบัตรประชาชนของเราไว้ก่อนนะครับ แล้วจะคืนให้เมื่อมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตมายืนยัน แต่ตอนนี้ให้เราผ่านไปได้ครับ” ชนะชนส่งบัตรข้าราชการและพาสปอร์ตคืนให้ทุกคน รวมทั้งคืนหนังสือราชการระหว่างประเทศฉบับสำเนาที่เจ้าหน้าที่ยึดไว้ให้ ผอ.สำนักโบราณคดีด้วย

แต่... ปัญหาของคนทั้งคณะก็ยังไม่ได้จบลงแค่นี้

img
สารบัญ
บทที่ 1 หญิงสาวในความฝัน บทที่ 2 ดินแดนทะเลทราย บทที่ 3 ดินแดนทะเลทราย (จบตอน) บทที่ 4 เงาที่เริ่มปรากฏ บทที่ 5 วันแรกที่อียิปต์ บทที่ 6 อดีตชาติ บทที่ 7 อดีตชาติ (จบตอน) บทที่ 8 จารึก บทที่ 9 ห้วงคำนึง บทที่ 10 ห้วงคำนึง (จบตอน)
บทที่ 11 ความทรงจำที่หวนคืน
บทที่ 12 พีระมิดแห่งกิซาห์
บทที่ 13 พีระมิดแห่งกิซาห์ (จบตอน)
บทที่ 14 สำนึกแห่งฟาโรห์
บทที่ 15 ความอาฆาตของสองพี่น้อง
บทที่ 16 ความอาฆาตของสองพี่น้อง (จบตอน)
บทที่ 17 ภาพลวงตาของความจริงใจ
บทที่ 18 วันสุดท้ายของการเดินทาง
บทที่ 19 วันสุดท้ายของการเดินทาง (จบตอน)
บทที่ 20 อีกคนจากอดีตชาติ
บทที่ 21 อีกคนจากอดีตชาติ (จบตอน)
บทที่ 22 พันธนาการแห่งอดีต
บทที่ 23 วันพักผ่อนของทั้งคู่
บทที่ 24 เรื่องเข้าใจผิด
บทที่ 25 เรื่องเข้าใจผิด (จบตอน)
บทที่ 26 ความอาฆาตจากอดีตชาติ
บทที่ 27 ความอาฆาตจากอดีตชาติ (จบตอน)
บทที่ 28 ทางเลือก
บทที่ 29 การมาของสองพี่น้อง
บทที่ 30 การมาของสองพี่น้อง (จบตอน)
บทที่ 31 แผนการ
บทที่ 32 ความพยายามของเพื่อน
บทที่ 33 แผนการของเซรี
บทที่ 34 การร่วมมือกันของสองพี่น้อง
บทที่ 35 การร่วมมือกันของสองพี่น้อง (จบตอน)
บทที่ 36 เสียงร่ำไห้ในสายหมอก
บทที่ 37 สองสาวอียิปต์ในป่าเขาใหญ่
บทที่ 38 สองสาวอียิปต์ในป่าเขาใหญ่ (จบตอน)
บทที่ 39 ภาพอดีต
บทที่ 40 คำสารภาพ
บทที่ 41 คำสารภาพ (จบตอน)
บทที่ 42 การตัดสินใจ
บทที่ 43 การตัดสินใจ (จบตอน)
บทที่ 44 งานแต่งงานของทั้งสอง
บทที่ 45 ความตายที่เฝ้าติดตาม
บทที่ 46 ความตายที่เฝ้าติดตาม (จบตอน)
บทที่ 47 คำพิพากษาสุดท้ายของความอาฆาต
บทที่ 48 บทส่งท้าย
img
  /  1
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY