จงหมิงเฮ่าขมวดคิ้ว มีความรู้สึกเหมือนถูกหลอก
ในห้องรับแขก
ป้าหยูได้ลุกมาเตรียมอาหารเช้าแล้ว เห็นหลินซิงเยี่ยนใส่ชุดนอนนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว เธอได้ถามด้วยรอยยิ้ม “เมื่อคืนหลับสบายมั้ยคะ?”
เธอนึกว่าเมื่อคืนจงหมิงเฮ่าอยู่กับไป๋จู๋เหว่ยจะไม่กลับมาซะแล้ว ยามดึกได้ยินความเคลื่อนไหวก็เลยตื่นขึ้นมาดูแว็บนึง รู้ว่าเมื่อคืนจงหมิงเฮ่าได้กลับมา แถมยังนอนในห้องด้วย
นี่เป็นภรรยาที่คุณผู้หญิงหมั้นหมายให้คุณชายไว้ ย่อมดีอยู่แล้ว ในที่สุดคุณชายก็แต่งงานสักที ป้าหยูที่ดูแลเขามาโดยตลอดก็รู้สึกดีใจเหมือนกัน
สีหน้าและน้ำเสียงของเธอเป็นมิตรไมตรีเกิน และกระหนุงกระหนิงเกินไป หลินซิงเยี่ยนฉีกรอยยิ้มที่แข็งกระด้างออกมา “ก็ หลับสบายดีค่ะ”
“งั้นคุณรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ ป้าไปเตรียมอาหารเช้า แล้วเดี๋ยวทานข้าวกันค่ะ” ป้าหยูเดินเข้าห้องครัวและเริ่มทำอาหารเช้า
หลินซิงเยี่ยนก้มหน้ามองดูชุดนอนของตัวเอง เสื้อที่เธอเอามายังอยู่ในห้องนอน ตอนนี้ผู้ชายที่อยู่ในห้องคงจะใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วมั้ง?
เธอลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอน ยืนอยู่หน้าห้อง เธอยกมือเคาะประตู แต่ไม่มีคนตอบเธอสักที
เธอเคาะอีกครั้งก็ไม่มีคนตอบอีกเช่นเคย ภายใต้ความจนปัญญาเธอจึงลองผลักประตูห้อง ปรากฏประตูไม่ได้ล็อค เธอแค่ผลักก็เปิดออกแล้ว
แต่นาทีที่ผลักประตูออก สิ่งที่พัดโชยมาตรงหน้าคือลมหนาวของเดือนสิบสอง ที่พัดจนคนตัวสั่น
ผู้ชายนั่งอยู่ขอบเตียง สายตาเย็นชาจ้องกระดาษใบหนึ่งไว้ กระดาษใบนั้น——
ไม่นานหลินซิงเยี่ยนก็เห็นชัดว่าในมือเขาถืออะไรอยู่ ถัดมาสายตาได้เห็นความเละเทะบนพื้น มีความรู้สึกอาบอายที่ความเป็นส่วนตัวถูกคนสอดแนม เธอวิ่งเข้าไปคว้ามาแล้วเค้นถาม “คุณถือสิทธิ์อะไร ไม่ได้รับอนุญาตจากคนอื่นก็ดูของของคนอื่น คุณเข้าใจความเป็นส่วนตัวหรือเปล่า?”
เหอะๆ
จงหมิงเฮ่าหัวเราะอย่างเย็นชาทีนึง “ความเป็นส่วนตัวงั้นเหรอ?”
หน้าตาที่ฝืนยิ้มของเขา ดูแล้วทำให้คนกลัวเป็นพิเศษ “ในท้องของคุณมีลูกนอกสมรสคนหนึ่ง แต่งงานกับผม แต่ตอนนี้กลับมาพูดคำว่าความเป็นส่วนตัวกับผม?”
“ฉัน——ฉัน——” หลินซิงเยี่ยนอยากอธิบาย แต่กลับหาคำพูดเหมาะสมไม่ได้ในชั่วขณะ
จงหมิงเฮ่าลุกขึ้นมา ก้าวฝีเท้าอย่างไม่ช้าไม่เร็วและมีจังหวะมาก ทุกฝีเท้า ล้วนเหมือนความกดอากาศได้ค่อยๆเข้ามาใกล้ ก้อนเมฆที่มืดครึ้มลอยผ่านสีหน้าแววตาดุเดือดรุนแรงของเขา “บอกมา คุณมีจุดประสงค์อะไร?”
อยากให้เขาเป็นพ่อเลี้ยง เป็นหลานชายคนแรกของตระกูลจง?
ข้อตกลงของก่อนหน้านี้ ก็เป็นแค่แผนรับมือชั่วคราวของเธอเฉยๆ?
ยิ่งคิดสีหน้าเขายิ่งบูดบึ้ง
หลินซิงเยี่ยนเม้มปากและตัวสั่น เธอถอยหลังอย่างไม่หยุด มือทั้งสองกุมหน้าท้องไว้ กลัวเขาจะทำร้ายลูกในท้องของเธอ “ฉันไม่ได้มีใจปิดบังคุณนะคะเราสองคนก็แค่แต่งงานตามข้อตกลงเฉยๆ ฉันถึง——ฉันถึงไม่ได้พูด ไม่มีจุดประสงค์อะไรแน่นอนค่ะ”
โทนเสียงของจงหมิงเฮ่ามีการข่มขู่ที่แปลกประหลาด “งั้นเหรอ?”
หลินซิงเยี่ยนกุมหน้าท้องไว้ ขยับไปด้านหลังอย่างไม่เผยอารมณ์ออกมา ฝืนสงบนิ่งไว้ “จริงค่ะ เรื่องแบบนี้จะปิดบังสำเร็จได้ยังไง ถ้าฉันคิดอะไรเกินเลย ก็ขอให้ไม่ได้ตายดี ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าฉันจะราวีคุณจงจริงๆ ฉันคิดว่าคุณจงก็มีวิธีการเอาฉันตายเหมือนกัน?”
ถึงแม้ท่าทางของเธอเล็กน้อยมาก เบามาก แต่จงหมิงเฮ่าก็ยังเห็นอยู่ดี สายตาได้กวาดผ่านหน้าท้องที่เธอคอยปกป้องไว้
สายตาจ้องอยู่ที่ใบหน้าเธอ “ทำไมไม่พูดให้ชัดเจนตั้งแต่แรก?”
จงหมิงเฮ่าไม่เชื่อเธอง่ายๆหรอก
มือทั้งสองข้างที่ปกป้องหน้าท้องของเธอได้ค่อยๆกุมแน่น สำหรับเธอแล้วลูกคนนี้เหนือความคาดหมายเกินไป แต่กลับเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเธอ เธอเสียน้องชายไปแล้ว เพราะฉะนั้นเธออยากคลอดลูกคนนี้ออกมา
ต่อไปสามารถอยู่กับแม่เหมือนเมื่อก่อน ทั้งสามคนใช้ชีวิตอย่างพึ่งพาอาศัยกัน
นึกถึงคืนนั้น เธอก็อดตัวสั่นไม่ได้ มีเหงื่อซึมออกมาจากฝ่ามือ “ฉัน ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานนี้เองค่ะ”
เธอถึงขั้นไม่กล้าบอกจวงจื่อจิ้น เธอไม่กล้าเอาผลตรวจตั้งครรภ์ไว้ที่พัก ก็เพราะกลัวจวงจื่อจิ้นจะเห็น
คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้มีความเคลื่อนไหวใหญ่โตแบบนี้
ทำให้จงหมิงเฮ่าสงสัยว่าเธอมีแรงจูงใจที่ไม่บริสุทธิ์
เธออายุยังไม่มาก ไม่นึกเลยว่าจะ——
ทำตัวสำส่อนขนาดนี้?
สีหน้าของจงหมิงเฮ่าบูดบึ้งสุดๆ เขาเตือน “ในหนึ่งเดือนนี้ประพฤติตัวให้มันดีๆหน่อย อย่าให้ผมรู้นะว่าคุณกำลังทำเรื่องอะไรอยู่——”
“ไม่ค่ะ ไม่มีแน่นอนค่ะ ฉันจะประพฤติตัวดีแน่นอนค่ะ ถ้าทำเรื่องอะไรที่นอกกรอบ คุณจงจะลงโทษยังไงก็ได้ค่ะ” หลินซิงเยี่ยนรีบรับประกัน
ถึงไม่ได้รับความเชื่อใจจากเขา ก็ให้เขาสงสัยแรงจูงใจของตัวเองไม่ได้
เดิมทีเธอก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่แล้ว ถ้ามีศัตรูเพิ่มขึ้นมาอีกคน จะเป็นผลเสียกับการแย่งของของเธอกลับคืนมาอย่างมาก
จงหมิงเฮ่าจ้องมองเธอด้วยสายตาที่สืบหาความจริง เหมือนกำลังวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจากคำพูดเธอ
ก๊อกๆๆ——ขณะนี้ป้าหยูได้เดินมา “อาหารเช้าเสร็จแล้วค่ะ”
จงหมิงเฮ่าดึงสายตากลับ และเก็บสีหน้าดุร้ายไว้ “เก็บของบนพื้นให้สะอาด” พูดจบก็ได้เดินออกไป
พอจงหมิงเฮ่าออกไปปุ๊บ หลินซิงเยี่ยนก็เข่าอ่อนเลย เธอจับตู้ของข้างหลังไว้
ผ่อนคลายอยู่สักพักถึงฟื้นฟูกำลังกลับมา เธอนั่งยองๆเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมา
มองใบอัลตร้าซาวด์ในมือแล้ว น้ำตาไหลลงมาหยดใส่บนกระดาษ
เธอเช็ดหน้า เธอจะร้องไห้ไม่ได้ ร้องไม่ได้ นั่นเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนแอ
เธอจะอ่อนแอไม่ได้ แม่และลูกในท้องต่างก็ต้องการเธอ
พับกระดาษแล้วเก็บเข้าไปในกระเป๋า จากนั้นได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากห้อง
ในห้องอาหารไม่มีคนอยู่แล้ว บนโต๊ะอาหารมีถ้วยกาแฟและจานที่ว่างเปล่าวางอยู่ เขาน่าจะทานเสร็จและออกจากบ้านไปแล้ว
หลินซิงเยี่ยนโล่งอกอย่างไร้สาเหตุ อยู่กับผู้ชายคนนั้นช่างอึดอัดจริงๆ
เธอเดินมาที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลงมาทานข้าว
ทานอาหารเช้าเสร็จเธอก็ได้ออกจากบ้าน เธอเคยบอกแม่ว่าจะกลับไป เธอกลัวจวงจื่อจิ้นจะเป็นห่วงตัวเอง
พอเข้ามาในที่พักปุ๊บก็ถูกจวงจื่อจิ้นดึงตัวไว้แล้วถาม “คุณชายใหญ่ของตระกูลจง——”
“แม่คะ” หลินซิงเยี่ยนขึ้นเสียงสูง เรื่องนี้เธอไม่อยากพูดมาก “เขาเป็นคนดีมากค่ะ อย่าเป็นห่วงหนูเลย”
จวงจื่อจิ้นถอนหายใจทีนึง ลูกสาวโตแล้วมีความคิดของตัวเองและไม่ชอบฟังเธอพูดมากแล้ว รู้สึกจิตตกอย่างห้ามใจตัวเองไม่ได้ “แม่ก็แค่เป็นห่วงลูกเฉยๆ”
กลัวผู้ชายคนนั้นจะไม่ดีกับเธอ
หลินซิงเยี่ยนกอดเธอไว้ เธอไม่ได้ตั้งใจ แต่แค่ต่อกรกับจงหมิงเฮ่า พูดโน้มน้าวเขา เธอก็ใช้เรี่ยวแรงจนหมดและรู้สึกเหนื่อยมากแล้ว
“แม่คะ หนูแค่เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจ”
“แม่รู้ แม่ไม่ได้โทษลูก” จวงจื่อจิ้นลูบหลังของเธอ เหมือนรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้าของเธอ “ถ้าเหนื่อยก็ไปพักหน่อย”
หลินซิงเยี่ยนพยักหน้า ถึงไม่อยากนอน แต่เธอรู้สึกว่าเหนื่อยจริงๆ พอกลับถึงห้องก็หลับไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลย
ตอนเที่ยง จวงจื่อจิ้นทำกับข้าวเสร็จ ได้เรียกเธอลุกขึ้นมาทานข้าว
นั่งอยู่ที่โต๊ะทานข้าว จวงจื่อจิ้นตักข้าวให้ลูกสาว “แม่ทำปลาที่ลูกชอบกินที่สุดด้วยนะ”
จวงจื่อจิ้นรู้สึกละอายใจต่อลูกสาว ถึงแม้คลอดเธอออกมา แต่ไม่สามารถให้วัยเด็กที่สวยงามกับเธอ ให้เธอต้องมาลำบากกับตัวเอง
หลินซิงเยี่ยนมองปลาเปรี้ยวหวานที่แม่ทำ ปลาจะออกรสเปรี้ยวหวานเล็กน้อย เมื่อก่อนเป็นเมนูที่เธอชอบทานที่สุด แต่นาทีนี้ได้กลิ่นแบบนี้แล้วรู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรง
เธอทนไม่ไหว แหวะ——
“เยี่ยนเยี่ยน”
หลินซิงเยี่ยนปิดปากไว้ไม่มีเวลาอธิบาย เธอวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น จากนั้นได้ก้มหน้าอาเจียนอยู่ที่อ่างล้างมือ
จวงจื่อจิ้นเป็นห่วงจึงตามมาดู เธอเป็นคนอาบน้ำร้อนมาก่อน มองดูปฏิกิริยาของลูกสาวแล้วหน้าซีดเซียวเล็กน้อย แต่เธอก็รู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ลูกสาวเป็นคนอนุรักษ์นิยมมาก เป็นเด็กเชื่อฟังมาก อยู่ที่โรงเรียนก็ไม่เคยมีแฟนเลย เธอรักนวลสงวนตัวมาก
เสียงของจวงจื่อจิ้นค่อนข้างสั่น “เยี่ยนเยี่ยน นี่ลูกเป็นอะไร?”
ทันใดนั้นร่างกายของหลินซิงเยี่ยนแข็งทื่อไว้ มือสองข้างที่จับอ่างล้างหน้าไว้กำแน่นอย่างไม่ขาดสาย เธอตัดสินใจเอาลูกคนนี้ไว้ งั้นไม่ช้าหรือเร็วจวงจื่อจิ้นก็ต้องรู้อยู่ดี
เธอหันมามองแม่แล้วรวบรวมความกล้า: “แม่คะ หนูท้องค่ะ”
จวงจื่อจิ้นทรงตัวไม่นิ่งในชั่วขณะ เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว ค่อนข้างไม่อยากจะเชื่อ เธอเพิ่งจะอายุสิบแปดเอง