/0/23171/coverbig.jpg?v=90a6e3d1ede961db85639ea827896535)
อาเย่ว คู่หมั้นหมายราวกิ่งทองใบหยก ภายใต้ชุดฮั่นฝูทะมัดทะแมง ทรงผมเกล้าสูงราวจอมยุทธหญิงผูกริบบิ้นสีครามอ่อนมีโอปอประดับ ใบหน้าแฉล่มแช่มฉ้อย ผู้ที่รักการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ สดใสร่าเริง อยากรู้อยากเห็นไปหมด มาดูกันว่าเขาจะช่วยคู่หมั้นได้อย่างไร อาเว่ย หรือ องค์ชายหลางเว่ย ร่างจำแลงแปลงกายราวต้องอาถรรพ์ในชุดสีดำพร้อมเสื้อคลุมตัดกับสีผิวขาวละมุน ผู้แอบซ่อนความรู้สึกเอาไว้ ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ นั่นตัวอะไรกระโดดออกจากหน้าต่างท่าทางหน้ากลัว หรืออาถรรพ์ที่ว่านี้จะทำให้เกิดอาเพศใหญ่ ผู้คนล้มตาย แล้วเลือดหญิงสาวพรหมจรรย์นั้นมันเกี่ยวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ล่ะ อาเย่วจะช่วยอาเว่ยได้หรือไม่ ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•
꧁༻บทที่ ๑༺꧂
หลางเว่ย องค์ชายหมาป่า
ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บในสวนท้อกลางหุบเขาที่มืดมิด พระจันทร์ดวงกลมโตส่องแสงสว่างทั่วบริเวณนั้น
โอ๊ย!! ช่วยข้าด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที หรือใกล้จะคลอดแล้วนี่
“ท่านแข็งใจหน่อยพระมเหสี เดี๋ยวข้าไปตามหมอหลวงที่ติดตามมาดูอาการของท่าน” สิ้นเสียงนางกำนัลที่เดินคล้อยหลังออกไป
พระมเหสีลูบครรภ์ที่ยื่นมากกว่าส่วนอื่นวนไปมาทาถูๆ ด้วยอาการทุรนทุรายก่อนจะทรุดตัวลงไปกองกับพื้น ร้องสลับกับการพลิกตัวไปมาอยู่ครู่หนึ่ง
ไม่นานนักก็ปรากฏลำแสงสีขาวจากท้องฟ้าอันมืดมิดสาดส่องลงมาบริเวณที่พักแรมของพระมเหสี
“นั่นลำแสงอะไรน่ะ” นางกำนัลชี้มือไปที่ลำแสงพร้อมตะโกนให้เหล่าองครักษ์ติดตาม
“ข้าว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นกับพระมเหสีแน่ๆ” องครักษ์จางรีบวิ่งไปที่กระโจมก่อนจะมีเสียงเล็กๆเล็ดลอดออกมา
“อุแว้ๆๆ !! ” เสียงองค์ชายน้อยน่ารักได้ถือกำเนิดขึ้น หมอหลวงติดตามและนางกำนัลรีบไปประคองพระมเหสีและองค์ชายน้อยจากพื้นขึ้นมา
“ข้าไม่เป็นอะไรมาก เจ้าช่วยไปดูองค์ชายลูกของเราหน่อย” พระมเหสีปาดเหงื่อ
“ว้าว!! หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักจังเลยเพคะ” นางกำนัลคว้าตัวองค์ชายน้อยที่ห่อตัวด้วยผ้าแพรอย่างดี สายตาจ้องมองไปที่ทารกน้อยอย่างเอ็นดู
“เอ๊ะ!! ดูนี่สิ ทำไมองค์ชายมีถึงมีหูชูชันผิดปกติ นัยน์ตาแดงก่ำราวโลหิตแดงฉาน”
“ไหนให้เราดูสิ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
“เขามีลักษณะเหมือนสัตว์ป่าชนิดหนึ่งก็ไม่ปาน แม่เจ้า !! มันหดกลับเข้าไปได้ เอ๊ะ..ฉันตาฝาดหรือนี่ อืม..น่าประหลาด องครักษ์จางท่านช่วยส่งม้าเร็วไปแจ้งข่าวให้ฮ่องเต้ทราบว่า พระมเหสีได้ให้กำเนิดองค์ชายแล้ว”
“แต่จริงๆอยากจะกลับเสียเดี๋ยวนี้ เราตั้งใจจะพาองค์ชายน้อยกลับไปด้วยตนเองเสียด้วยซ้ำ” องครักษ์จางกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างรวดเร็ว เขาตวัดแส้ไปที่หลังม้าหนึ่งที
“ช่า” “ฮี๊!!” ม้ายกข้าหน้าขึ้นอย่างลำพองก่อนที่จะออกตัววิ่งจนฝุ่นตลบอบอวลราวกับอยู่ในเมฆหมอก ใบหน้าของอิสตรีผู้สูงศักดิ์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปล่งเสียงนุ่มๆชวนฟังว่า
“คิดถึงที่นอนนุ่มๆเสียแล้วสิ พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกันแล้วนะ” สีหน้าของนางกำนัลยิ้มละมุนอย่างรู้ทัน
“ข้าน้อยว่าท่านน่าจะคิดถึงฮ่องเต้มากกว่าที่นอนเป็นแน่แท้”
สีหน้าของพระมเหสียิ้มเห็นไรฟัน เหลือกตามองบนพร้อมกับเบ้ปากก่อนที่จะหัวเราะขึ้นเบาๆ
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
รุ่งเช้าวันใหม่…แสงแดดสาดส่องกลีบดอกท้อสีชมพูระเรื่อไล่โทนสีเข้มสุดจากใจกลางเกสรของดอกไม้สู่ปลายก้านดอกท้อที่ยังมีดอกตูมสลับไปมาตามกิ่ง
“เมื่อคืนเราเกือบแย่แล้ว” ในสถานการณ์ที่คับขันห่างไกลจากคนรักเช่นนี้ ความเจ็บปวดเกือบคร่าวิญญาณไปจากร่างผู้เสียสละที่เรียกว่า “แม่”
“ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ท่านปลอดภัย” สายตานางกำนัลมองไปยังพระมเหสีด้วยความเข้าใจหัวอกของผู้เสียสละพร้อมอุ้มองค์ชายน้อยอย่างทะนุถนอมก่อนที่จะยื่นให้อิสตรีผู้สูงศักดิ์รับทารกน้อยเอาไว้แนบอก
เอ้ เอ เอ่ เอ้ ~~ ลูกน้อยของแม่
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
ทหารเปิดประตูเมืองให้พระมเหสีพร้อมด้วยคณะผู้ติดตามเขาไปในพระราชวัง
“เจ้ากลับมาพร้อมลูกของเรา” สายตาฮ่องเต้จ้องมองหน้าทารกน้อยน่ารักพิมพ์เดียวกับเขาอย่างกับลอกคราบเขาเมื่อสิบห้าปีก่อน
เรียกว่าถอดแบบเดียวกันก็คงจะไม่ผิดประการใด คิดๆไปก็ชื่นใจกับดีเอ็นเอที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าราวกับผ้าขาวบริสุทธิ์ส่งเสียงร้องโยเย ก่อนที่พระมเหสีจะเข้ามาปุ้มองค์ชายจากมือผู้ครองบัลลังก์
“เอ๊ะ เขาคงจะหิวแล้ว งั้นหม่อมฉันขอตัวก่อน” อากัปกิริยาของทารกน้อยเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้มสวยๆให้กับผู้เป็นแม่ ใบหน้าของผู้รู้งานก็เป็นเช่นนี้นั้นเอง
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกจากทารกโตขึ้นเป็นหนุ่มน้อยที่ชอบซุกตัวอยู่กับกองตำราบ่งบอกให้รู้ว่าเขาก็เป็นหนอนหนังสือตัวยง แต่ซ่อนความเก็บกดไว้ภายใต้หน้าตาอันหล่อเหลานั้นไว้
“ช่วยด้วย ๆ…” เสียงชาวบ้านร้องเรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงละแวกนั้นวิ่งหน้าตาตื่นราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ ไม่สิ!! นี่มันมิใช่ยามวิกาล
“ข้าตั้งใจจะไปเลี้ยงไก่ แต่กลับพบเจอซากสัตว์ปีกตายเกลื่อน มันช่างน่าสยอง” ชายผู้หนึ่งยกซากไก่ทั้งสองมือกลางกลุ่มชนนับสิบที่เปิดสภาตั้งวงสดับรับฟังถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้
“บ้านของข้าก็เจอเช่นกัน” เสียงตะโกนของชายฉกรรจ์ตะโกนขึ้นมาราวกับผู้ประสบภัย จู่ๆสองสามีภรรยาคู่หนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นโหวกเหวกโวยวาย
“ใครก็ได้ช่วยลูกข้าด้วย” ชายฉกรรจ์ชี้มือไปยังร่างเด็กน้อที่นอนหายใจรวยริน พร้อมกับเสียงคร่ำครวญปานใจจะขาดแรงกอดและเขย่าไม่สามารถปลุกเด็กน้อยให้ฟื้นชีวิตขึ้นมาได้
หรือนี่จะเป็นลางบอกเหตุที่เลวร้าย หมูบ้านนี้กำลังจะเจอกับอาเพศจากการทำไม่ดีใช่หรือไม่
“เฮ้ย !! ดูนั่นสิตัวอะไรไม่รู้” สายตาของทุกผู้ทุกนามในบริเวณนั้นมองตามนิ้วของชายคนหนึ่งไป
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
จื่อหยวน หมอหนุ่มอนาคตไกล อายุ25 ปี ผู้หลงใหลการวิ่งมาราธอนเป็นชีวิตจิตใจ แต่ทำไม๊ทำไมโชคชะตาเล่นตลกอะไรกับเขากันแน่ ถึงแพ้ใจให้กับบุรุษร่างทองผู้คลั่งรักจนสุดลิ่มทิ่มประตูซะขนาดนั้น เป่ยห่าวอี้ บุรุษร่างทองในยุคราชวงศ์โบราณ อายุ25 ปี พระพักตร์งดงามราวอิสตรี ใบหน้ารูปไข่ ปากกระจับสีแดงระเรื่อคิ้วโก่งดั่งคันศร ผิวขาวราวไข่ปอก เขาทั้งสุขุม นุ่ม ลึก อภิเษกสมรสได้มิเท่าไหร่ก็ต้องแปลกพระทัยกลับร่างเดิม แต่จิตวิญญาณใหม่ที่เล่นแร่แปรธาตุอลวนอลเวงครื้นเครงไปตามๆกัน ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ เพราะความใจดีกระโดดลงไปช่วยแมวทั้งที่แต่ก็ดันจับพลัดจับผลูไปเป็นพระมเหสีในพระราชวังเข้าจนได้ โธ่ๆๆ วิ่งอยู่ดีๆแท้ๆเลยเรา จะให้ข้ากลับไปยังไงดีหล่ะ…เอ๊ะ!! หรือว่าอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าแต่มันจะช่วยข้าได้หรือ? ช่วยข้าด้วย!! ใครก็ได้ช่วยข้าที… มือปลาหมึกคลั่งรักขนาดนี้ ใครมันจะทนไหวล่ะ แพ้ใจตัวเองซะเปล่าๆ
“อันนี้ก็ตอบไม่ได้นะคะ อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า หมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม เชิญค่ะ” “พ่อไปเอายัยเด็กปากตำแยมาจากไหนไม่ทราบ พูดจากวนประสาทผมมากเลยครับ” “ผมต้องรู้ให้ได้ว่ายัยปากตำแยนี้เป็นใคร มาจากไหนลูกเต้าเหล่าใคร ทำอาชีพอะไรกันแน่” เมย สาวไซด์ไลน์ อายุ 23 ปี หญิงสาวใบหน้าคม ตากลม ผมยาว ที่รักศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง ถึงแม้หล่อนจะเป็นสาวไซด์ไลน์ แต่ก็มิวายตกหลุมรักลูกคุณหนูลุคแบดบอยเข้าจนได้ คาวี คุณหนูลุคแบด อายุ 30 ปี หนุ่มมาดแบดบอยมีลูกเล่นชั้นเชิงในการตกเหยื่อด้วย สายตาหวานกรุ้มกริ่มสไตล์คนเจ้าชู้ปากไม่เป็นสองรอง ใคร ที่แพ้ใจสาวไซด์ไลน์เข้าอย่างจัง… ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ เมื่อต้องเป็นสาวไซด์ไลน์รับงานจากชายแปลกหน้าก็อยากจะดูสิว่า เล่ห์ไหนที่ทำให้เธอต้องแพ้ใจตัวเอง งานเข้ารัวๆ แบบไม่มีสาเหตุ อีตาบ้าอย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่รัก.. แผนรักกลลวงอีท่าไหน ใจหล่อนถึงต้องยอมให้กับคุณหนูลุคแบดบอย ที่คอยตอแยเธอไม่เลิก
ฮองซู นางกำนันฝึกหัด อายุ 18 ปี หญิงสาวผมยาวสีดำขลับ ภายใต้ชุดสีชมพูเรียบง่ายที่ไม่ตกแต่งหรือประดับประดาสิ่งใด ที่ชอบสุมหัวอยู่กับกองหนังสือในตำหนักหอตำราหลวง นางไม่คิดอาจเอื้อมปันใจให้ใคร แต่วันหนึึ่งจู่ๆหัวใจก็สั่นคลอน ลี่หมิง องค์ชายรูปงามกล้ามตึงเปรี๊ยะ อายุ 25 ปี ชายคิ้วเข้ม โครงหน้ารูปไข่เด่นชัด ในรูปลักษณ์สีขาวทองเรียบหรูที่เป็นเอกลักษณ์ วันๆง่วนอยู่กับการชมสวน ทว่า ความฉลาดของเขาดันโป๊ะแตก เมื่อสาวปากจัดคนหนึ่งกล้าลูบคม… ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ เข้างานนางกำนันวันแรกก็จะโดนโบยเสียแล้ว อยู่ไปอยยู่มาจะโดนเด้งให้ไปเฝ้าศพซะงั้น โอ๊ย ชีวิต แล้วนี่มันอะไร ตาลุงนั่นมันเป็นอาจารย์จริงหรือ จะให้ไปเรียนกับไอ้อาจารย์บ้านั่นก็อยากจะบ้า แต่ที่อยากจะบ้ากว่าเดิม ราชโองงการให้นางไปรับใช้องค์ชายบ้านั่นอะนะ เพิ่งรู้ว่าองค์ชายมีงานอดิเรกชอบเสแสร้งแกล้งทำเช่นนี้
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี