เพราะคำว่าไม่คู่ควรเธอจึงทอดทิ้งเขา โดยที่เขาไม่เคยรับรู้ถึงเหตุผล เพราะคำว่ารักปนแค้นเขาจึงยังเฝ้ารอ กระทั่งวันหนึ่งทั้งคู่ได้กลับมาพบกัน เขาเข้าหาเพื่อจะเอาคืน ส่วนเธอหนีหน้าเพื่อไม่ให้ใจตัวเองบอบช้ำ แต่สุดท้ายทั้งสองก็ไม่อาจหนีจากบ่วงพิศวาสไปได้ ---------ในบ่วงพิศวาส------------ ริมฝีปากอิ่มของเธอยังคงนุ่มและหวานฉ่ำเหมือนครั้งแรกที่อัตถ์ได้ลิ้มลอง แม้มันจะผ่านมานานแล้วแต่เขาก็ยังคงจดจำความรู้สึกของจูบแรกได้เป็นอย่างดี แต่ความอ่อนโยนก็เกิดขึ้นเพียงครู่เดียวก่อนที่ความป่าเถื่อนจะเข้ามาแทนที่อีกครั้ง และสลับกันไปแบบนี้จนทรายแก้วยากจะรับมือ ใช่ว่ามีเพียงอัตถ์เท่านั้นที่ยังคงจำจูบแรกได้ทรายแก้วเองก็จำได้และโหยหามันเช่นกัน แต่เธอก็เลือกที่จะออกมาจากชีวิตของอัตถ์นั่นก็เพื่อให้ชายหนุ่มได้พบเจอคนที่ดีกว่าเธอ เพราะยังคงรัก แรงต่อต้านของทรายแก้วจึงค่อยๆ ลดลงอย่างลืมตัว และนั่นก็ทำให้อัตถ์เลือกที่จะผลักเธอออกห่าง “ก็แค่จูบ...แต่ทำไมคุณพี่เลี้ยงถึงอ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งลนไฟกับคนไม่เคยรู้จักอย่างผมได้ละครับ แบบนี้มันไม่เท่ากับคุณให้ท่า...” เพียะ ยังไม่ทันที่อัตถ์จะได้พูดจบประโยค เตียงตบฉาดใหญ่ก็ดังขึ้นส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาของอัตถ์หันไปตามแรงตบนั้นทันที ทรายแก้วตบเขาแรงมากจนรู้สึกชาที่มือส่วนอัตถ์ก็เจ็บจนชาไปทั้งหน้าเช่นกัน ชายหนุ่มใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มฝั่งที่ถูกตบพร้อมกับยกมือขึ้นลูบไปด้วย “คาดหวังอะไร ตบมาผมต้องจูบกลับอย่างนั้นเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างประชดประชัน “ไม่ค่ะ เพราะจูบคุณมันห่วยสิ้นดี” คำพูดของทรายแก้วยิ่งกระตุ้นพายุอารมณ์ในใจของอัตถ์ให้พวยพุ่ง “ห่วยแต่มันก็ให้เธออ่อนระทวยได้ไม่ใช่หรือไง ถ้าผมจูบนานกว่านี้อีกสักหน่อย ดีไม่ดีเธออาจเคลิ้มจนลากผมขึ้นเตียงแล้วก็ได้”
เสียงเพลงกล่อมเด็กยังคงดังขึ้นคลอเบาๆ เพื่อกล่อมให้เจ้าตัวน้อยนอนหลับฝันดี โดยข้างๆ มีพี่เลี้ยงสาวสวยนั่งดูแลอยู่ไม่ห่าง แม้นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่สุดก็ตาม แต่ทรายแก้วก็เลือกที่จะนั่งอยู่ข้างๆ เด็กน้อยในการดูแลของเธอ แก้มยุ้ยๆ เวลาหลับช่างดูน่ารัก แพขนตางอนๆ รับกับดวงตา จมูกได้รูป ปากกระจับ รูปหน้าพ่อแม่ช่างปั้นแต่งออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเดือนก่อนเธอถูกไล่ออกจากงานที่ทำอยู่อย่างกะทันหัน นั่นทำให้เธอกลุ้มใจจนเผลอร้องไห้กับตัวเองหลายครั้ง ทุกๆ วันยังคงแต่งตัวออกจากบ้านแต่เธอไม่ได้ไปทำงานแต่อย่างใด เธอเดินสมัครงานจนขาทั้งสองข้างแทบจะเดินไม่ไหว ปริญญาบัตรและเกียรตินิยมที่ได้มาแทบไม่ได้ช่วยอะไรในเวลานั้น กระทั่งเพื่อนสนิทยื่นมือมาช่วย
“น้องอายหลับแล้วหรือจ๊ะทราย”
“หลับแล้วจ้ะ” ทรายแก้วหันมาตอบมารดาของเด็กหญิงตัวน้อยพร้อมส่งยิ้มให้
“งั้นเราออกไปคุยกันที่ห้องรับแขกหน่อยสิ” ฤทัยเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำออกไปก่อน ทรายแก้วจับผ้าห่มคลุมตัวให้เด็กหญิงอีกนิดแล้วกวาดสายตามองรอบๆ จากนั้นจึงเดินตามออกไป
“มีอะไรจะคุยกับเราอย่างนั้นเหรอ” พี่เลี้ยงสาวเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นกันเอง นั่นเพราะเธอกับฤทัยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย พออีกฝ่ายรู้ว่าเธอถูกไล่ออกจากงานจึงเสนอให้มาเป็นพี่เลี้ยงลูกของเธอ ทั้งๆ ที่ทรายแก้วปฏิเสธไปด้วยเหตุผลว่าเธอไม่มีประสบการณ์ แต่ฤทัยกลับไว้ใจและขอร้องให้มาลองทำงานนี้ดูก่อน บวกกับเธอเองก็ไม่ไว้ใจคนอื่นพอที่จ้างได้เช่นกัน
จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบสี่เดือนแล้วที่ทรายแก้วเข้ามารับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้ลูกสาว ซึ่งทรายแก้วก็รับผิดชอบงานของตัวเองได้เป็นอย่างดี เธอใจเย็นเวลาอยู่กับเด็กและบวกกับความรักเด็กอยู่แล้วงานที่คิดว่ายากจึงไม่ยากอย่างที่คิด
“คือ...อย่างที่เราเคยบอกทรายไปว่าคุณเมฆมีแผนจะย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศ” ฤทัยเกริ่นนำออกไปก่อน
“อื้อ...เราจำได้” นอกจากจำได้แล้วทรายแก้วยังสนับสนุนให้ฤทัยย้ายตามสามีไปด้วย แต่ตอนนั้นเพื่อนกลับปฏิเสธเพราะกลัวจะปรับตัวไม่ได้
“เรามาลองคิดกับตัวเองดูอีกทีตามที่ทรายแนะนำ ก็เลยได้คำตอบว่าเราจะตามคุณเมฆไปทำงานที่ต่างประเทศ” คำตอบของฤทัยทำให้ทรายแก้วยิ้มออกมา
“ดีแล้ว แล้วนี่จะเดินทางเมื่อไหร่”
“อีกสองอาทิตย์ ขอโทษนะที่เรามาบอกกะทันหันแบบนี้” ฤทัยเอ่ยขอโทษออกไป ทีแรกเธอเองก็ตั้งใจจะอยู่เลี้ยงลูกรอสามีที่นี่ แต่ไปๆ มาๆ การย้ายไปอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่าแยกกันอยู่ โดยเฉพาะกับลูกสาวของเธอ
“ไม่เป็นไรเลย มีเวลาให้เราหางานใหม่อีกตั้งหลายวัน สบายมาก” ทรายแก้วส่งยิ้มให้เพื่อนสนิท
“ถ้าไงเราจะช่วยหางานใหม่ให้อีกแรง เพราะทรายก็เป็นพี่เลี้ยงได้อย่างดี ดีมากๆ เลยด้วย” ฤทัยเอ่ยชมจากใจ
“ขอบใจเธอมากนะฤทัย”
“เราต่างหากที่ต้องขอบใจเธอ ส่วนนี่เราให้” เอ่ยจบฤทัยก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ทรายแก้ว นั่นทำให้คนตรงหน้าเกิดความสงสัยขึ้นทันที
“อะไร”
“เงินเดือนเดือนนี้กับโบนัสพิเศษ”
“ยังไม่หมดเดือนจะรีบให้เราไปทำไมแล้วเงินโบนัสพิเศษอะไรนั่นเราไม่รับได้ไหม เก็บไว้ให้น้องอายเถอะ”
“ไม่ได้ เธอต้องรับแล้วก็ห้ามปฏิเสธด้วย มันออกจะน้อยไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่เธอทำให้น้องอาย” ฤทัยคว้ามือของทรายแก้วไว้แล้วส่งซองสีน้ำตาลให้พร้อมกำมือเพื่อนไว้แน่นเพื่อไม่ให้ปล่อย สุดท้ายทรายแก้วก็จำต้องยอมรับ
คืนนั้นหลังจากกลับมาถึงบ้าน ทรายแก้วก็ค้นหางานใหม่ในอินเตอร์เน็ตและส่งใบสมัครไปทันที รวมถึงผ่านไปที่ไหนแล้วเห็นป้ายติดประกาศรับสมัครงงานเธอก็เข้าไปสมัครอย่างไม่รีรอ ทว่ากลับยังไม่มีที่ไหนเรียกตัว บวกกับบรรยากาศในบ้านที่ไม่น่าอยู่มากขึ้นทุกวัน เธอก็ยิ่งอยากไปให้พ้นๆ
“มีเงินไหม ขอหน่อย” เอ่ยจบธิดาก็แบมือขอเงิน แม้เธออายุมากกว่าทรายแก้วสิบกว่าปีแต่เรื่องวุฒิภาวะนั้นแทบจะติดลบ
“ไม่มีค่ะ”
“ไม่มีได้ยังไง เห็นออกไปทำงานทุกวัน” เมื่อถูกปฏิเสธธิดาก็เริ่มหัวร้อน เพราะหวังเต็มเปี่ยมว่าทรายแก้วต้องให้เงินเธอใช้
“ไม่มีให้คนอื่นใช้ค่ะ” ทรายแก้วเน้นย้ำคำว่าคนอื่นจนธิดาหน้าชา ลูกติดของสามีเธอคนนี้ภายนอกดูเรียบร้อยๆ แต่คำพูดคำจาร้ายกาจไม่เบา
“อีนังทราย ลืมไปแล้วหรือไงว่ากูเป็นแม่มึงนะ” ธิดาเท้าสะเอวตะคอกใส่ทรายแก้ว ทว่าคนตรงหน้ากลับไม่ได้ให้ค่าอะไร
“แค่แม่เลี้ยงไม่ใช่หรือคะ”
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง