เพราะคำว่า ‘หนี้’ ทำให้ชีวิตของนิลยาพลิกผัน คำๆ นี้มันร้ายแรงถึงขั้นทำให้ครอบครัวเธอแตกแยก แถมเธอยังถูกพี่ชายต่างพ่อ มอมยาแล้วนำมาขายราวกับสินค้าไร้ราคา ++++++++++++++ “อยากได้เงินมากขนาดนั้นเลยหรือไง” “ใช่...ฉันอยากได้เงิน เพราะเงินมันทำให้ฉันไปจากที่นี่ได้” เพราะโกรธที่ราเชนทำกับเธอย่างไม่มีเหตุผล ทำให้นิลยาตอบกลับมาด้วยอารมณ์ ทั้งๆ ที่พึ่งขอบคุณในใจไปหยกๆ ที่เขาเข้าไปช่วยให้รอดพ้นจากไพรวัลย์ “ถ้างั้นฉันจะให้เธอเอง” เอ่ยจบ ราเชนก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน จากนั้นก็เปิดลิ้นชักออกแล้วคว้าเงินปึกใหญ่หลายปึกมาถือไว้ เสร็จก็เดินกลับหานิลยาพร้อมโยนเงินปึกแรกให้เธอ “หนึ่งแสนสำหรับเสื้อตัวนั้น ถอดออกสิ” ประโยคที่ได้ยินจากราเชน ทำให้นิลยาหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าที่ผ่านมาเธอมองผู้ชายตรงหน้าผิดไป เขาคงเหมือนผู้ชายเลวๆ คนอื่น ที่คิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง นิลยาจ้องมองราเชนด้วยแววตาผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แววตานั้นทำให้ราเชนชะงักไปนิดหน่อยและรู้สึกผิดที่ทำเช่นนี้ แต่เพราะอยากสอนให้เธอรู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้สวยงามไปเสียหมด ราเชนก็จำต้องใจร้าย “แล้วนี่ก็อีกหนึ่งแสนสำหรับกระโปรงตัวนั้นของตัวเธอ อยากได้เงินมากไม่ใช่เหรอ ถ้าใช่ก็รีบถอดเสื้อกับประโปรงออกมาแลก” นิลยาไม่เอ่ยอะไร แต่ทว่าเธอกลับทำตามที่ราเชนบอก ด้วยการถอดเสื้อและกระโปรงออกทันที ราเชนมองเห็นความกลัวจากแววตาของนิลยาได้ รวมถึงร่างกายบอบบางที่กำลังสั่นเทานั่นก็ด้วย แต่เขากลับมองเธอด้วยความเฉยชา กระทั่งนิลยาถอดเสื้อและกระโปรงพ้นไปจากตัว เรือนร่างกึ่งเปลือยของนิลยานั้นชวนมองไม่น้อย แต่ราเชนก็จำต้องใจแข็ง “สองแสนสำหรับบราเซียกับบิกินี่” เอ่ยจบราเชนก็โยนเงินลงไปบนโต๊ะตรงหน้านิลยา เธอยืนกำหมัดเล็กๆ ของตัวเองไว้แน่น พร้อมพยายามหยุดน้ำตาที่ค่อยๆ เอ่อออกมา นิลยากัดฟันไว้แน่น จากนั้นก็ปลดสายบราเซียออกจากหัวไหล่ข้างซ้ายก่อนตามด้วยข้างขวา แต่จังหวะที่เธอเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดตะขอ ราเชนกลับทนดูไม่ไหวเสียเอง “หยุด พอแค่นั้นแหละ” “แต่ฉันอยากได้เงินเพิ่ม ส่วนคุณก็พร้อมจะจ่ายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” นิลยาเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมจ้องมองราเชนอย่างถือดี ชายหนุ่มก้าวเพียงหนึ่งก้าวก็เข้ามาประชิดตัวนิลยาได้แล้ว ก่อนจะโยนเงินทั้งหมดในมือลงไปบนโซฟา แล้วล็อคใบหน้าของเธอไว้ด้วยมือหนาทั้งสองข้าง จากนั้นก็บดขยี้จูบหนักๆ ลงไปบนริมฝีปากอิ่มของเธออย่างจาบจ้วง
เพล้ง!
เสียงแก้วหรืออะไรสักอย่างที่หล่นแตกในบ้านดังมาเข้าหู นั่นทำให้นิลยาที่พึ่งกลับจากทำงานถึงกับตกใจ ก่อนจะรีบรุดเข้าไปภายในบ้านด้วยท่าทางรีบร้อน เพราะกลัวจะเกิดเหตุร้ายกับคนในครอบครัว
และก็จริงอย่างที่เธอคิด เพราะทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เธอก็เห็นภาณุ พี่ชายต่างพ่อกำลังเงื้อมือขึ้นสูงหมายจะทำร้ายแม่ของเธอ ที่เวลานี้นั่งอยู่บนเก้าอี้หวายด้วยอาการตัวสั่น นั่นทำให้นิลยารีบตะโกนห้ามขึ้นทันที
“พี่ณุจะทำอะไร” เอ่ยเสร็จ ก็เข้าไปกระชากตัวภาณุให้ออกห่างจากแม่ของเธอสุดแรง จนร่างหนาๆ ของพี่ชายต่างพ่อเซถลาออกมาได้ไกลพอสมควร
“ไม่ได้จะทำอะไร” ภาณุไหวไหล่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ด้วยความที่ทั้งคู่อายุห่างกันถึงสี่ปี ภาณุจึงได้สิทธิ์ความเป็นพี่ไปครอง แต่ความคิดบางอย่างกลับสวนทางกับอายุ
“แต่ฝ้ายเห็นว่าพี่ณุกำลังจะทำร้ายแม่นะ” สีหน้าของนิลยานั้นบึ้งตึง เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ภาณุจะทำร้ายแม่ของเธอ ครั้งก่อนก็คาดโทษไว้ แต่สุดท้ายก็ทำอีก
แม้จะเรียกภาณุว่าพี่ แต่ลึกๆ นิลยาก็ไม่ได้เคารพชายตรงหน้าสักเท่าไหร่ นั่นเพราะภาณุหาเรื่องให้เธอรวมถึงทุกๆ คนในบ้าน เดือดเนื้อร้อนใจไม่ได้หยุด ไม่เว้นแม้แต่อาทิตย์ พ่อแท้ๆ ของภาณุเอง
“กำลังจะทำไม่ได้หมายความว่าทำ”
“พี่ณุ” คำพูดไม่ยอมรับผิด ชนิดเถจนสีข้างถลอกของภาณุยิ่งทำให้นิลยาไม่พอใจ ภาพที่เห็นไม่ได้ทำให้ชมเดือนสบายใจนัก จึงเอ่ยถามลูกสาวขึ้น
“พอเถอะฝ้าย”
“แม่ก็ยอมพี่ณุซะแบบนี้ ถึงได้ใจไม่เลิกรา”
“นี่แกว่าพี่หรือฝ้าย” ภาณุเดือดทันทีที่ได้ยินคำพูดของนิลยา
“ใช่...เพราะพี่โตเป็นควายขนาดนี้แล้ว ยังแบมือของเงินแม่เป็นเด็กอยู่ได้ งานการไม่คิดจะไปทำบ้างหรือไง” ในที่สุดความอดทนของนิลยาก็มาถึงขีดสุด
“นี่แก...” เพราะถูกด่าชนิดแทงใจดำ ภาณุถึงกับเลือดขึ้นหน้า ชมเดือนจึงต้องเข้ามาขวางคนทั้งคู่ไว้ ทั้งๆ ที่ในใจนั้นรู้สึกเหนื่อยเต็มทน
“พอๆ ทั้งคู่นั่นแหละ”
“ถ้าอยากให้พอก็เอาเงินมาสิ ผมจะได้ไป”
“แม่บอกไปกี่หนแล้วว่าไม่มีให้” ชมเดือนปฏิเสธคำขออีกครั้ง ต่อให้มีเธอก็คงให้ภาณุไม่ได้จริงๆ เพราะต้องเก็บไว้ใช้ที่บ้าน
“งั้นฝ้าย เอาเงินมาให้พี่” เมื่อชมเดือนไม่มี ภาณุก็เบนเข็มมาที่นิลยาน้องสาว แถมยังแบมือขอกันอย่างหน้าด้านๆ
“ให้อะไรอีก ทั้งๆ ที่อาทิตย์ก่อนพี่ก็เอาไปแล้ว”
“หมดแล้ว”
“หมดในบ่อนอีกนะสิ” นิลยายิ้มเหยียดออกมา เธอก็เป็นแค่พนักงานออฟฟิศ ทำงานกินเงินเดือนหลักหมื่นเต้นๆ ไม่ได้เป็นระดับ ซีอีโอร้อยล้านพันล้าน ถึงจะได้มีเงินให้คนอื่นถลุงเล่นบ่อยๆ
“เออ”
“ณุ...ไหนสัญญากับแม่ว่าจะหยุด ไม่เล่นการพนันอีก” ชมเดือนเอ่ยขึ้น แต่คนอย่างภาณุลิ้นสองแฉก ก็แถไปได้เรื่อยๆ
“หนสุดท้ายแล้วนะแม่”
“หนสุดท้ายมากี่ครั้งแล้วละ” ประโยคนี้ดังมาจากนิลยาที่เอ่ยสวนขึ้น นั่นเพราะเธอเอือมระอาต่อภาณุอย่างที่สุดแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าพ่อเลี้ยงหรือพ่อแท้ๆ ของภาณุดีกับแม่รวมถึงเธอมากละก็ เธอตัดขาดไปนานแล้ว ไม่เอาความทุกข์คนอื่นมาใส่ตัวเองอยู่แบบนี้หรอก
“สรุปมีไหมเงิน...หา” เสียงตะคอกของภาณุดังขึ้น เขามองหน้าชมเดือนและนิลยาด้วยแววตาที่แสดงออกว่าไม่พอใจ
“ไม่มี” นิลยาเอ่ยตอบนิ่งๆ พร้อมสบตาภาณุไปด้วย
“ไม่มีใช่ไหม...ได้ ไม่มีก็ไม่มี” เอ่ยจบภาณุก็เดินตรงไปยังโทรทัศน์ขนาดห้าสิบกว่านิ้ว ที่นิลยาซื้อเข้าบ้านมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
“พี่ณุจะทำอะไร นั่นทีวีที่ฝ้ายซื้อมาให้แม่กับลุงคมนะ” นิลยาร้องห้าม แต่ทว่าเวลานี้ภาณุกลับไม่ได้สนใจเสียงห้ามของน้องสาวต่างพ่อเลยแม้แต่น้อยนิด
ภาณุที่กำลังโกรธจัดเพราะมาขอเงินแล้วไม่ได้สักบาท กำลังจัดการถอดปลั๊กทุกอย่างออกจากโทรทัศน์ที่ขนาดใหญ่กว่าตัวเองจนหมด จากนั้นก็อุ้มขึ้นมาด้วยท่าทางทุลักทุเลแล้วเดินตรงออกไปจากบ้านอย่างรวดเร็ว
นิลยาอยากเข้าไปห้าม เพราะนั่นคือสมบัติที่เธอซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่กลับถูกผู้เป็นแม่ห้ามไว้ และเมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ บ้านก็พบแต่ความเสียหายจากภาณุ ที่คงอาละวาดเพราะไม่ได้เงินอีกตามเคย
“เราไปอยู่ที่อื่นกันดีไหมแม่”
“ที่ไหนละฝ้าย”
“ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่ ฝ้ายไม่อยากอยู่กับพี่ณุ” ฟังแบบนี้แล้วชมเดือนก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ เธอนั้นเข้าใจความรู้สึกของนิลยาลูกสาวเป็นอย่างดี แต่ก็ทอดทิ้งอาทิตย์ผู้เป็นสามีไม่ได้จริงๆ
“แล้วลุงคมละลูก”
“แม่เลิกห่วงคนอื่นได้แล้ว”
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"