“อย่าค่ะคุณนิโคลัส ปรางขอโทษ อย่าทำอะไรปรางเลยนะคะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานด้วยสรรพนามเดิมเพื่อหวังให้เขาเห็นใจแต่ไม่เลย... “สายไปแล้วสาวน้อย เพราะตอนนี้ฉันต้องการเธอจนปวดร้าวไปหมดแล้ว เธอต้องโทษตัวเองที่ยั่วฉันก่อน” เขาบอกเสียงพร่าพร้อมกับโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาท่ามกลางดวงตากลมโตที่เบิกกว้างทั้งกลัวทั้งหวั่นไหวทั้งงงงวยของเธอ เธอไปยั่วยวนเขาตอนไหนกัน.. เฌอปรางได้แต่คิดอย่างมึนงงและเธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกเพราะริมฝีปากกระด้างฉกวูบลงมาทาบกลีบปากอวบอิ่มอย่างรุนแรงเร่าร้อนโดยไม่ให้เธอได้มีโอกาสตั้งตัวหรือปฏิเสธ
นิโคลัส ฟ็อกซ์ มองหนังสือพิมพ์ในมือย่างเย็นชา ร่างสูงถึงร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตรยืนขึ้นเต็มความสูงเหยียดยิ้มให้กับหนังสือพิมพ์เหล่านั้นอย่างไม่ใยดี นักข่าวพยายามเหลือเกินที่จะเขียนข่าวของเขาทั้งในแง่ดีและแง่ลบ แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นข่าวในแง่ลบมากกว่า เช่นข่าวของเขากับดารานางแบบสาวหลายคน รวมไปถึงข่าวเกี่ยวกับธุรกิจที่มีคนพยายามดิสเครดิตเขา
ชายหนุ่มมีผิวสีแทนใบหน้าคมเข้มอย่างลูกครึ่งไทย แอฟริกาใต้ ใบหน้าเรียวยาวมีเคราเขียวๆ ขึ้นครึ้มจรดจอนผม ผมหยักศกหนาในแบบฉบับของผู้ชายเลือดผสมตัดเล็มได้รูปรับกับเครื่องหน้าที่ประกอบด้วยคิ้วเข้มดกหนาเหนือดวงตาคมใหญ่สีน้ำเงินเข้มจัด และมันจะแทบกลายเป็นสีดำยามที่เจ้าของดวงตาคมโกรธจัด จมูกโด่งเป็นสันสวยรับกับริมฝีกปากหยักได้รูปสีเรื่อด้วยสุขภาพที่ดี แต่ใบหน้าหล่อเหลานั้นกลับเรียบเฉยอยู่เป็นนิจ ทำให้บุคลิกของนิโคลัสดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง ชายหนุ่มวัยสามสิบสามในปีนี้กอดอกมองผ่านกระจกใส ซึ่งเห็นทิวทัศน์ของเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยตึกรามมากมายรถราขวักไขว่อยู่ทั้งบนทางด่วนและไม่ด่วน ผู้คนที่เห็นเป็นเพียงจุดเล็กๆ เบื้องล่างราวกับมดตัวเล็กๆ นั้นขยับเคลื่อนไหวไปมาไม่มีทีท่าว่าหยุดลงแม้แต่จุดเดียว
นักธุรกิจหนุ่มหล่อดีกรีมหาเศรษฐีทั้งยังเป็นอดีตดาราหนุ่มสุดฮอต พระเอกพันล้านจากภาพยนตร์บู๊แอ็กชั่นสุดมันส์เมื่อเจ็ดปีก่อน และเขาแสดงฉากเสี่ยงตายกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยตัวเองและไม่ใช้แสตนอิน ซึ่งทำรายได้มากกว่าพันล้านในเมืองไทยและดังไกลถึงฮอลลีวูด แต่เขากลับหันหลังให้วงการบันเทิงปฏิเสธแสดงหนังและละครทั้งหมดอย่างไม่มีใครรู้สาเหตุ แล้วหลังจากนั้นไม่นานนิโคลัสก็ประกาศหมั้นหมายกับสาวสวยนอกวงการที่เคยเป็นข่าวกับเขาเมื่อสองปีก่อน
สาวสวยดีกรีนักเรียนนอกทายาทตระกูลดัง พิมพ์อักษร อัศวพิทักษ์ หญิงสาวผู้โชคดีที่สามารถครอบครองดวงใจของชายหนุ่มผู้เพียบพร้อม ข่าวคราวการหมั้นหมายของเขากับหญิงสาวนั้นโด่งดังอยู่พักใหญ่
แต่แม้ว่าเขาจะหันหลังให้วงการบันเทิงแล้วก็ตามเขาก็ยังเดินแบบหรือถ่ายแบบให้กับหนังสือบางเล่มที่พิเศษจริงๆ หรืองานแฟชั่นโชว์เพื่อการกุศลซึ่งเขาพอใจจะเป็นนายแบบให้เท่านั้น แต่ข่าวคาวๆ ของเขามักมีเข้ามาให้บรรดานักข่าวได้ลงข่าวกันอย่างสนุกสนาน ทำรายได้ให้กับสำนักพิมพ์ที่ลงข่าวเขามากมายเลยทีเดียว
นิโคลัสหันกลับมายังโต๊ะทำงานแล้วเริ่มอ่านตรวจทานเอกสารทุกอย่าง อย่างละเอียดเพราะตอนนี้เขาไม่อาจจะปล่อยให้ใครมายักยอกทรัพย์สินจากบริษัทของเขาได้อีกแน่นอน และเขาก็เห็นความผิดปรกติของบัญชีตรงหน้า
“ไอ้จักร แกอยู่ไหน..”
ชายหนุ่มต่อสายถึง จักร ลูกน้องคนสนิทที่เขาให้ออกไปหาข่าวบางอย่าง น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยภาษาไทยนั้นชัดเจนไม่แปร่งหูเหมือนอย่างลูกครึ่งบางคนที่ส่วนใหญ่มักพูดภาษาไทยไม่ชัด
“อยู่แถวหน้ารามฯ ครับคุณนิค”
“เจอไหม”
“ครับ มันเป็นคนของไอ้ ราเชนทร์”
จักรลูกน้องคนสนิทวัยเดียวกันกับผู้เป็นนายเรียนและเติบโตมาด้วยกัน พวกเขาผูกพันกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ยาตายายแล้วก็ว่าได้ เพราะตาและบิดาของจักรก็ทำงานอยู่กับครอบครัวของนิโคลัสมาตั้งแต่แรกเริ่มจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนิโคลัสไปแล้ว เพราะทุกคนในครอบครัวของจักรได้รับความไว้วางใจจากตระกูลฟ็อกซ์มาตลอด
“ดี ตามไปให้ถึงรังและจับตาดูมันไว้อย่าให้มันรู้ตัว ฉันอยากจะรู้ว่าไอ้ราเชนทร์มันจะทำอย่างไรต่อไป”
นิโคลัสวางสายดวงตาคมที่เรียบเฉยเมื่อครู่ลุกวาวด้วยไฟโทสะที่แสดงออกมาเพียงแววตาที่กราดเกรี้ยวเท่านั้น ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรนั้นยังคงเรียบเฉยดูเย็นชาเช่นเดิม ซึ่งลักษณะที่ดูเหมือนเย็นชาไม่สนใจใคร ไม่ยอมให้นักข่าว สื่อมวลชนเข้าถึงตัวได้ง่ายๆ และค่อนข้างไว้ตัวและปิดปากเงียบกับการให้ข่าวต่างๆ ที่มีกับดารานางแบบสาวทำให้นิโคลัสได้รับฉายาที่มีคำว่า พระเอกเทวดาคาสโนวาแห่งวงการ ในวงการบันเทิงเมื่อเจ็ดปีก่อนนั้นไม่มีใครจะไม่รู้จักเขาจากฉายานี้
“ฉันอยากจะรู้เหมือนกันไอ้เชน ว่าแกจะทำอะไร”
เขาพูดกับตัวเอง เมื่อนึกถึง ราเชนทร์ คู่อริที่ขับเคี่ยวกันมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น... และเป็นคนเดียวที่เป็นมารหัวใจเขามาตลอดเช่นกัน
“สวัสดีค่ะ ท่านผีปู่ผีย่าผีตาผียายท่านผีบรรพบุรุษทั้งหลายเจ้าขา หนูชื่อลลนานะคะ ชื่อเล่นว่านุ่มค่ะ ถูกคนใจร้ายหน้าตาดีแต่ปัญญานิ่มเข้าใจผิดจับตัวมาแล้วยังพูดจาทำร้ายจิตใจนุ่มต่างๆ นานา นุ่มเสียใจมากเลยค่ะและคิดถึงบ้านมากแล้วก็เป็นห่วงนิ่งที่อาการสาหัสอยู่ด้วย นุ่มอยากขอให้พวกท่านดลบันดาลให้เขาปล่อยตัวนุ่มกลับบ้านเร็วๆ ด้วยค่ะ และขอให้นุ่มพ้นจากอำนาจชั่วร้ายป่าเถื่อนของคนใจร้ายด้วยเถิ้ดดด และจะให้ดีนุ่มขอสามตัวตรงๆ งวดนี้เลยนะคะ นุ่มจะได้มีเงินมีความสุขสบายไม่ต้องทำงานกลางคืนให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่ต้องเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีมาลวนลามทำร้าย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ดีมากๆ ก็ขอให้นุ่มได้สามีดีๆ หล่อๆ จิตใจดีไม่ปัญญานิ่ม และรวยมาก รักนุ่มมากๆๆๆ นะคะ สาธุๆๆ” “นี่เธอ พอได้แล้ว เลอะเทอะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว” สิงหาเอ็ดหญิงสาวที่บรรจงปักธูปด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้เหลือคณา “อ้าว.. คุณนี่นะ ฉันขอในสิ่งที่ฉันอยากได้จริงๆ เผื่อท่านจะดลบันดาลให้ฉันได้ดังหวัง จะได้ไม่ต้องมาเจอคุณอีกไง” “อย่างกับฉันอยากจะเจอเธองั้นล่ะ” “แต่คุณก็จับตัวฉันมา” “โอ๊ย... โอเค ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษ โอเคมั้ย พอใจรึยัง” สิงหาโวยเสียงขุ่นมองหน้าหญิงสาวที่ยิ้มยียวนด้วยความหมั่นไส้เหลือกำลัง พอรู้ว่าเขาผิดเจ้าหล่อนก็เล่นไม่เลิก
เพราะถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเสือกไสไล่ส่งมาให้เป็นเมียขัดดอกของนายใหญ่แห่งหุบเขาคนเถื่อนที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญกันว่า โหดร้ายน่ากลัว แต่แล้วเธอกลับพบว่า คนเถื่อนอย่างเขาก็มีหัวใจ และมีไว้เพื่อเธอคนเดียว ++++++++++ “พี่มาร์คไปแล้ว.. ทีนี้ก็เหลือแค่เรา..” ปิ่นกมลเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพัง และถิ่นเถื่อนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูท่าทางเขาขัดเขินไม่น้อย “มีอะไรจะสารภาพกับปิ่นมั้ยคะ” “ไม่มีนี่นา..” “ใครกันนะบอกว่า เป็นผัวเมียกัน ต้องบอกกันทุกเรื่อง ให้ไว้ใจกันและกัน” ถิ่นเถื่อนทำอึกๆ อักๆ ท่าทางของคนตัวใหญ่โต แต่ดูเก้งก้างเมื่อตอนนี้เขามีความผิดติดตัว “ก็บางเรื่อง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกไง..” “อ้ออออ.. หรือคะ แล้วพี่เถื่อนคิดว่าจะบอกปิ่นตอนไหนคะ และเรื่องไหนบ้าง” ปิ่นกมลเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วเงยหน้ามองเขายิ้มๆ ถิ่นเถื่อนเมินหน้าหนีน้อยๆ แต่ใบหูแดงก่ำ “ก็..” “ก็อะไรคะ..” ปิ่นกมลซักไซ้ ถิ่นเถื่อนหันกลับมามองหน้าคนช่างซักอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดูคนตรงหน้ายิ่งนัก “ก็.. ไปคุยกันบนห้องดีกว่าไง” “ว้าย... พี่เถื่อน ปล่อยปิ่นนะคะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..” ปิ่นกมลหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มตวัดร่างบอบบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแรงหน้าตาเฉย
สวย ดุดัน เข้ม หยาบคาย เผ็ด แซ่บ ตดเป็นตด ฟังไม่ผิดหรอก ตดน่ะถูกแล้ว นั่นคือ นิยามของ ฝันงาม ชื่อสวยหรูคุณหนูสุดๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเธอจะเป็นคุณหนูสายแบ๊ว เพราะเธอคือผู้ฉีกทุกกฎของคำว่ากุลสตรี .. +++++++ “จะมีผัวทั้งทีก็ต้องดูดีๆ สิคะ ธิดาหน่อทองไม่ได้กระจอกงอกง่อยนะ มีทั้งมงและสายตะพายพร้อมโล่เกลียดก็อด.. จะให้เอาพวกไม่มีอนาคตมาทำผัวเหรอ..” “ครับเมียพี่ฉลาดเก่งที่สุดในสามโลก เมียจ๋า.. พี่ร้อนแล้ว..” กวินเริ่มเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเล็กร้ายกาจเลื่อนไปยังแก่นกลางกายที่เริ่มคึกคะนอง.. “วันนี้งามจะทำให้พี่วินลืมโศก ลืมเศร้า เราจะมันกันอย่างเดียว..” กวินหัวเราะลั่นกับคำพูดห่ามๆ ของเมียรักที่แสนจะตรงไปตรงมาและตรงใจเขาเหลือเกิน.. “งั้นแสดงฝีมือเลยเมียจ๋า หากฟ้าไม่เหลืองห้ามหยุดนะ..” กวินท้าทายฝันงามหรี่ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน.. “อย่าร้องขอชีวิตก็แล้วกัน..” ปล. หนังสือเสียงนี้ได้รวมตอนพิเศษไว้ด้วยนะคะฟังกันเต็มอิ่มไปเลยจ้า
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม...” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้หญิงสาวลืมตาทันทีก่อนจะผละออกจากวงแขนแกร่งของเขาทันที ใบหน้านวลแดงปลั่งทั้งขัดเขินและอับอายกับคำพูดของเขาแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธออับอายที่กำลังจะกลายเป็นสาวร่านร้อนเที่ยวกอดจูบกับผู้ชายมากกว่า “คนบ้า ปากเสีย... ฉะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย...” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ แล้วถลึงตาใส่เขาพลางต่อว่าเขาเสียงเขียวแต่ข้างในใจสาวกลับสั่นไหวหวิวๆ แทบจะเป็นลมแข้งขาสั่นไปหมดจนขยับเดินไม่ได้...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย