เมื่อเธอคิดจะหลอกล่อจอมมารเสน่ห์ร้ายด้วยประสบการณ์อ่อนหัดแล้วยังกล้าดีหลบหนีออกจากกรงทองของจอมมารผู้หล่อเหลาอย่างไม่ใยดีทำให้เขาต้องเสียความมั่นใจ เกมแก้แค้นแสนเร่าร้อนจึงอุบัติขึ้น... “จะหนีไปไหน เธอก็รู้ว่าหากฉันไม่อนุญาตใครก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้ ที่คืนนั้นเธอกลับไปได้ก็เพราะฉันไม่เคยให้ผู้หญิงที่หิ้วมานอนร่วมเตียงจนถึงเช้า..” คำพูดของเขาทำให้วิกานดาทั้งโกรธทั้งอาย เขาเห็นเธอเป็นเพียงอีตัวที่หิ้วมานอนด้วยแล้วก็เขี่ยทิ้งเท่านั้นแล้วทำไมจะต้องมายุ่งกับเธอด้วย “ถ้าฉันเป็นแค่อีตัว ก็ปล่อยฉันไปสิ ไม่อยากร่วมเตียงกับอีตัวไม่ใช่เหรอ” “แต่บังเอิญว่าเธอถูกใจฉัน และฉันยังไม่เบื่อ ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามยุ่ง” “แต่เราจบกันแล้ว คุณให้เช็คฉันมานั่นหมายความว่าการซื้อขายของเรามันสิ้นสุดจบลงแล้ว” วิกานดาตัดสินใจยกเรื่องนี้มาอ้างแม้จะรู้สึกอับอายไม่น้อย “อ้อ.. งั้นซื้อบริการใหม่ก็ได้ คราวนี้จะให้เยอะกว่าเดิมด้วยเอาไหม” “ไม่.. ฉันไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดต้องขายตัวให้คุณ และหากฉันจะขายอีกครั้ง คงไม่คิดจะขายให้ผู้ใช้บริการรายเก่าหรอก ไม่เร้าใจ..” วิกานดาตอบกลับไปด้วยความน้อยใจทั้งโกรธที่ธีร์ทำเหมือนว่าเธอเป็นหญิงขายบริการที่เขาจะซื้อมานอนด้วยตอนไหนก็ได้ แต่คำพูดของเธอทำให้ธีร์เลือดขึ้นหน้าเลยทีเดียว...
วิกานดา ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อถูก ธีร์ ธีรเทพ ลูเซียโน่ เฉิน เจ้าของภัตตาคารชื่อดังที่เธอทำงานอยู่ซึ่งวันนี้เขาเข้ามาตรวจงานด้วยตัวเองเรียกไปพบที่ห้องพักของเขา ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่เคยมีใครได้ขึ้นไปพบเขาแบบเป็นการส่วนตัวเช่นนี้สักครั้ง เพราะส่วนใหญ่งานต่างๆ ในภัตตาคารจะมีผู้จัดการร้านคอยดูแลและสำนักงานของภัตตาคารก็อยู่ที่ชั้นสองของโรงแรม แต่ครั้งนี้เกิดเรื่องใหญ่เมื่อเธอเผลอทำให้แขกคนสำคัญไม่พอใจอย่างมากถึงขนาดที่ธีร์ต้องมาจัดการด้วยตัวเองทีเดียว หญิงสาวเข้ามายืนอยู่กลางห้องพักสุดหรูด้วยความตื่นเต้นและหวาดหวั่นอยู่ในที เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าธีร์พักอยู่ท
ี่นี่ตลอดเวลาที่มาดูแลงานที่ภัตตาคาร
“อ้อ.. เธอนี่เองวิกานดา..” ธีร์ลุกขึ้นเต็มความสูงใบหน้าเรียวยาวได้รูปกับเครื่องหน้าที่วิกานดาให้คำนิยามว่า หล่อตี๋ คมเข้มแสนสมาร์ต เพราะเขาเป็นลูกผสมถึงห้าเชื้อชาติใบหน้าหล่อเหลานั้นจึงผสมผสานความลงตัวของทุกเชื้อชาติไว้ในตัวเขา เหมือนว่าพระเจ้าได้ประทานความหล่อเหลาขั้นเทพที่แสนจะสมบูรณ์แบบไว้ที่เขาเพียงผู้เดียว มารดาของธีร์เป็นลูกครึ่งสาวไทยเกาหลีใต้และอังกฤษ ส่วนบิดาของเขาเป็นลูกครึ่งจีนอิตาลี และตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงจนเธอนึกขยาด ปกติใครๆ มักเห็นเขายิ้มหัวอย่างคนอารมณ์ดี อย่างที่เรียกว่าหนุ่มเจ้าสำราญ ซึ่งธีร์ก็เป็นหนุ่มเนื้อหอมมีหญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังและมีข่าวคาวกับหญิงสาวแทบไม่เว้นแต่ละวันทั้งดารานักร้องนางแบบหรือเหล่าไฮโซชื่อดัง แล้วฉายาเพลย์บอยของธีร์จะไปไหนเสีย...
“คะ คือค่ะ ฉันเองวิกานดาไม่ทราบว่าคุณธีร์เรียกดิฉันมาพบเรื่องอะไรคะ”
“นี่ยังจะมาถามอีกเหรอว่าฉันเรียกเธอมาทำไม เธอทำให้ร้านเกือบวอดวายไปเกือบครึ่งร้าน ซ้ำลูกสาวของคุณหญิงไก่ก็โวยวายจะเอาเรื่องร้านฉัน เดือดร้อนไปจนถึงคุณหญิงแม่ของฉันต้องออกโรงไกล่เกลี่ยด้วยตัวท่านเองทั้งที่ตลอดสิบปีมานี้ภัตตาคารของเราไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
ธีร์เสียงดังใส่เธอแล้วเดินไปรินวิสกี้ยี่ห้อดังเทใส่แก้วใบสวยเกือบครึ่งแก้วแล้วกระดกทีเดียวหมดแก้ว วิกานดาตาโตไม่คิดว่านอกจากเขาจะเป็นคาสโนว่าตัวพ่อแล้วยังเป็นนักดื่มตัวยงด้วย
“อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ที่ฉันดื่มก็เพราะเธอนั่นล่ะ รู้อะไรมั้ยวันนี้ฉันชวดสนุกกับสาวสวยแซบอย่างน้องแพตตี้ แล้วยังโดนคุณแม่ของฉันด่าซะจนหูชา ไม่พอ ที่ร้านก็ยังจะมีปัญหาอีก เพราะเธอเลยทีเดียว..”
“ตะ แต่ว่าวิว เอ่อ ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับการดูตัวของคุณเลยนะคะ คุณไม่มีเสน่ห์ไม่รวยมากพอจะทำให้เขาสนใจรึเปล่าคะ อุ๊บ..”
ด้วยความเผลอตัวทำให้วิกานดาพูดอย่างที่คิดออกไปและมันทำให้ธีร์หน้าตึงเดินมาตรงหน้าเธอด้วยใบหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าเพราะโกรธหรือเพราะวิสกี้ที่เขาดื่มไป
“รู้อะไรมั้ย ฉันนี่รวยระดับมหาเศรษฐี และฉันมีธุรกิจในมือมากมายไม่มีผู้หญิงหน้าโง่คนไหนปฏิเสธฉันหรอก แต่ที่ชวดก็เพราะเธอทำให้ร้านวุ่นวาย และน้องแพตตี้คือคนที่ฉันจะเดตด้วยคืนนี้ พอเกิดเรื่องที่ร้านฉันจึงต้องมาจัดการที่นี่ก่อน จากที่ฉันจะได้ไปสนุกกับน้องแพตตี้ฉันต้องลดตัวมาอบรมพนักงานต๊อกต๋อยอย่างเธอไง เออ.. ก็ไม่รู้ทำไมฉันต้องทำแบบนี้ด้วยวะ..”
ธีร์พูดเสียงดังเหมือนจะว่าเธอแต่ก็เหมือนเขาพูดกับตัวเอง วิกานดามองเขาอย่างงงๆ และเจ็บปวดกับคำว่าพนักต๊อกต๋อยที่เขาต้องลดตัวมาคุยด้วย แต่ก็จริงอย่างที่เขาว่านั่นล่ะ
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงล่ะคะ”
“พรุ่งนี้เธอต้องไปกราบขอโทษคุณหญิงไก่กับลูกสาวที่บ้านของเขา”
“ไม่ค่ะ เพราะฉันได้ขอโทษเขาไปแล้ว อีกอย่างที่หม้อแกงหกราดตัวของคุณวัชราลูกสาวคุณหญิงไก่ก็เพราะเธอทำตัวเอง เธอทำหกใส่ตัวเองเพราะต้องการจะเอาแกงหม้อนั้นราดหัวฉัน แต่พลาดโดนตัวเอง กล้องวงจรปิดในร้านก็บันทึกภาพในร้านทุกมุม คุณสามารถไปดูได้เลยค่ะว่าจริงมั้ย พนักงานในร้านก็เป็นพยานให้ฉันได้”
“สวัสดีค่ะ ท่านผีปู่ผีย่าผีตาผียายท่านผีบรรพบุรุษทั้งหลายเจ้าขา หนูชื่อลลนานะคะ ชื่อเล่นว่านุ่มค่ะ ถูกคนใจร้ายหน้าตาดีแต่ปัญญานิ่มเข้าใจผิดจับตัวมาแล้วยังพูดจาทำร้ายจิตใจนุ่มต่างๆ นานา นุ่มเสียใจมากเลยค่ะและคิดถึงบ้านมากแล้วก็เป็นห่วงนิ่งที่อาการสาหัสอยู่ด้วย นุ่มอยากขอให้พวกท่านดลบันดาลให้เขาปล่อยตัวนุ่มกลับบ้านเร็วๆ ด้วยค่ะ และขอให้นุ่มพ้นจากอำนาจชั่วร้ายป่าเถื่อนของคนใจร้ายด้วยเถิ้ดดด และจะให้ดีนุ่มขอสามตัวตรงๆ งวดนี้เลยนะคะ นุ่มจะได้มีเงินมีความสุขสบายไม่ต้องทำงานกลางคืนให้ใครดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นผู้หญิงกลางคืน ไม่ต้องเจอผู้ชายนิสัยไม่ดีมาลวนลามทำร้าย แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด ดีมากๆ ก็ขอให้นุ่มได้สามีดีๆ หล่อๆ จิตใจดีไม่ปัญญานิ่ม และรวยมาก รักนุ่มมากๆๆๆ นะคะ สาธุๆๆ” “นี่เธอ พอได้แล้ว เลอะเทอะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว” สิงหาเอ็ดหญิงสาวที่บรรจงปักธูปด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้เหลือคณา “อ้าว.. คุณนี่นะ ฉันขอในสิ่งที่ฉันอยากได้จริงๆ เผื่อท่านจะดลบันดาลให้ฉันได้ดังหวัง จะได้ไม่ต้องมาเจอคุณอีกไง” “อย่างกับฉันอยากจะเจอเธองั้นล่ะ” “แต่คุณก็จับตัวฉันมา” “โอ๊ย... โอเค ฉันผิดเองที่ไม่ดูให้ดี ขอโทษ โอเคมั้ย พอใจรึยัง” สิงหาโวยเสียงขุ่นมองหน้าหญิงสาวที่ยิ้มยียวนด้วยความหมั่นไส้เหลือกำลัง พอรู้ว่าเขาผิดเจ้าหล่อนก็เล่นไม่เลิก
เพราะถูกแม่เลี้ยงใจร้ายเสือกไสไล่ส่งมาให้เป็นเมียขัดดอกของนายใหญ่แห่งหุบเขาคนเถื่อนที่ใครๆ ต่างก็กล่าวขวัญกันว่า โหดร้ายน่ากลัว แต่แล้วเธอกลับพบว่า คนเถื่อนอย่างเขาก็มีหัวใจ และมีไว้เพื่อเธอคนเดียว ++++++++++ “พี่มาร์คไปแล้ว.. ทีนี้ก็เหลือแค่เรา..” ปิ่นกมลเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กันตามลำพัง และถิ่นเถื่อนก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดูท่าทางเขาขัดเขินไม่น้อย “มีอะไรจะสารภาพกับปิ่นมั้ยคะ” “ไม่มีนี่นา..” “ใครกันนะบอกว่า เป็นผัวเมียกัน ต้องบอกกันทุกเรื่อง ให้ไว้ใจกันและกัน” ถิ่นเถื่อนทำอึกๆ อักๆ ท่าทางของคนตัวใหญ่โต แต่ดูเก้งก้างเมื่อตอนนี้เขามีความผิดติดตัว “ก็บางเรื่อง มันยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกไง..” “อ้ออออ.. หรือคะ แล้วพี่เถื่อนคิดว่าจะบอกปิ่นตอนไหนคะ และเรื่องไหนบ้าง” ปิ่นกมลเดินมาหยุดตรงหน้าชายหนุ่ม แล้วเงยหน้ามองเขายิ้มๆ ถิ่นเถื่อนเมินหน้าหนีน้อยๆ แต่ใบหูแดงก่ำ “ก็..” “ก็อะไรคะ..” ปิ่นกมลซักไซ้ ถิ่นเถื่อนหันกลับมามองหน้าคนช่างซักอย่างรู้สึกหมั่นไส้แกมเอ็นดูคนตรงหน้ายิ่งนัก “ก็.. ไปคุยกันบนห้องดีกว่าไง” “ว้าย... พี่เถื่อน ปล่อยปิ่นนะคะ เรายังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย..” ปิ่นกมลหวีดร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อชายหนุ่มตวัดร่างบอบบางขึ้นไว้ในวงแขนแข็งแรงหน้าตาเฉย
สวย ดุดัน เข้ม หยาบคาย เผ็ด แซ่บ ตดเป็นตด ฟังไม่ผิดหรอก ตดน่ะถูกแล้ว นั่นคือ นิยามของ ฝันงาม ชื่อสวยหรูคุณหนูสุดๆ แต่นั่นมันไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าเธอจะเป็นคุณหนูสายแบ๊ว เพราะเธอคือผู้ฉีกทุกกฎของคำว่ากุลสตรี .. +++++++ “จะมีผัวทั้งทีก็ต้องดูดีๆ สิคะ ธิดาหน่อทองไม่ได้กระจอกงอกง่อยนะ มีทั้งมงและสายตะพายพร้อมโล่เกลียดก็อด.. จะให้เอาพวกไม่มีอนาคตมาทำผัวเหรอ..” “ครับเมียพี่ฉลาดเก่งที่สุดในสามโลก เมียจ๋า.. พี่ร้อนแล้ว..” กวินเริ่มเสียงสั่นพร่าเมื่อมือเล็กร้ายกาจเลื่อนไปยังแก่นกลางกายที่เริ่มคึกคะนอง.. “วันนี้งามจะทำให้พี่วินลืมโศก ลืมเศร้า เราจะมันกันอย่างเดียว..” กวินหัวเราะลั่นกับคำพูดห่ามๆ ของเมียรักที่แสนจะตรงไปตรงมาและตรงใจเขาเหลือเกิน.. “งั้นแสดงฝีมือเลยเมียจ๋า หากฟ้าไม่เหลืองห้ามหยุดนะ..” กวินท้าทายฝันงามหรี่ตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างยั่วยวน.. “อย่าร้องขอชีวิตก็แล้วกัน..” ปล. หนังสือเสียงนี้ได้รวมตอนพิเศษไว้ด้วยนะคะฟังกันเต็มอิ่มไปเลยจ้า
“จะอ่อยฉันอีกนานไหม...” เสียงห้าวดังขึ้นทำให้หญิงสาวลืมตาทันทีก่อนจะผละออกจากวงแขนแกร่งของเขาทันที ใบหน้านวลแดงปลั่งทั้งขัดเขินและอับอายกับคำพูดของเขาแต่เหนือสิ่งอื่นใดเธออับอายที่กำลังจะกลายเป็นสาวร่านร้อนเที่ยวกอดจูบกับผู้ชายมากกว่า “คนบ้า ปากเสีย... ฉะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นเสียหน่อย...” หญิงสาวสูดหายใจลึกๆ แล้วถลึงตาใส่เขาพลางต่อว่าเขาเสียงเขียวแต่ข้างในใจสาวกลับสั่นไหวหวิวๆ แทบจะเป็นลมแข้งขาสั่นไปหมดจนขยับเดินไม่ได้...
เจ้าสาวคาวโลกีย์สำหรับเขา เพราะหวงชีวิตหนุ่มโสดที่ยังใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่ต้องการแต่งงานตามคำสั่งของมารดาที่ทั้งเจ้ายศเจ้าอย่างและจุ้นจ้านวุ่นวาย ทำให้เขาต้องหาไม้กันหมาที่ต้องแสบแซบเร้าใจเพื่อคานอำนาจของมารดา...สำหรับเธอ มีเงินท่วมหัว ไม่ต้องมีผัวก็ได้ จึงต้องมารับอาชีพไม้กันหมาให้ชายหนุ่ม แต่เมื่อหลวมตัวรับงานนี้ ณดา ก็แทบมอดไหม้ด้วยไฟเสน่หาอันร้อนแรง
เขาหล่อเขาร้ายและร้อนแรงดังเปลวเพลิงที่พร้อมจะละลายน้ำแข็งอย่างเธอ ให้เดือดพล่านด้วยไฟเสน่หา.. ++++++++++ “คนบ้าปล่อยนะ พี่แสน อ๊ายย” หญิงสาวหวีดร้องเสียงหลงเมื่อภาสกรก้มลงหอมแก้มใสหนักๆ อย่างมันเขี้ยวและอยากแกล้ง “แก้มน้ำแข็งหอมจัง” “พี่แสนคนบ้า รังแกน้ำแข็ง คอยดูนะน้ำแข็งจะฟ้องพี่ธาร” หญิงสาวหน้าแดงก่ำทั้งโกรธทั้งอาย “ฟ้องไอ้ธารคนเดียวเหรอ ฟ้องคุณอาด้วยสิ และฟ้องให้หมดด้วยนะว่าพี่ทำอะไรบ้าง” “พี่แสนจะทำอะไร ว้าย.. ปล่อยนะ คนบ้า พี่แสน กรี๊ดดด..” ทิพย์ธาราหวีดร้องเสียงหลงเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่รัดแน่นของเขาแล้วทิพย์ธาราก็รู้ได้ทันทีว่าตนตกเป็นรองเขาหญิงสาวดิ้นเร่าอย่างโมโหฉุนเฉียวเกรี้ยวกราด ความเยือกเย็นที่มีก่อนหน้าหายไปสิ้น เพราะเมื่อปะทะกับเขาทีไรเธอก็มักจะเป็นเช่นนี้และไม่สามารถควบคุมตัวเองให้สงบเยือกเย็นได้นานเลยสักครั้ง
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!