ความสุขในฐานะคุณหนูอันดับหนึ่งของหนานอิงต้องพังลงทันใด เมื่อนางถูกโจรชั่วจับตัวมาและยังกระทำย่ำยี กระทั่งมารดาของนางยังถูกคร่าชีวิต สาวใช้ข้างกายถูกตัดลิ้นจนเสียสติกลายเป็นคนบ้าใบ้ ทั้งหมดด้วยความริษยาของฮูหยินใหญ่ผู้นั้น หนานอิงได้พบกับหานเซียวและลู่หนิงหวังสองอ๋องพี่น้องที่คอยช่วยเหลือนาง อ๋องผู้ป่าเถื่อนโหดร้ายและแสนเย็นชา แม้จะให้การช่วยเหลือแต่นางก็กลายเป็นนางบำเรอของพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าสองอ๋องจะโหดร้ายแต่นางจำต้องอดทน สุดท้ายนางกลายเป็นมือสังหารที่วางชีวิตไว้กับพวกเขาเพื่อแลกกับการแก้แค้น นางถูกฝึกอย่างหนักจนเก่งกาจยิ่ง หนานอิงจะทำเช่นใดเมื่อได้รู้ว่า คนที่ย่ำยีนางและเป็นศัตรูที่นางต้องการสังหารคือ สองอ๋องทั้งสองที่เป็นผู้กระทำย่ำยีนางจนปางตาย ฆ่า หรือ ไม่ฆ่า ล้วนเป็นนางที่ต้องเลือก! หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นความรักแบบ 3P โปรดดาวน์โหลดตัวอย่างก่อนอ่านค่ะ ภาคต่อของนิยายเรื่องนี้คือเรื่อง Trigger warning: 3P
ร่างเล็กที่ถูกจับมัดไว้ในกระสอบถูกโยนเข้ามาภายในกระโจมของผู้เป็นนาย ซู่อ๋องลู่หนิงหวังดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่มองที่กระสอบใบนั้นพร้อมกับยกสุราขึ้นดื่ม
ในขณะที่อวิ๋นอ๋องหานเซียวรองแม่ทัพที่มีศักดิ์เป็นน้องชายบุญธรรมของซู่อ๋องดูจะสนใจกว่า เขายกสุราจรดริมฝีปากดื่มอย่างละเมียดละไมพร้อมกับลุกขึ้นในมือยังคลึงแก้วสุราช้า ๆ
อวิ๋นอ๋องเตะกระสอบใบนั้นไปครั้งหนึ่ง แรงจากฝ่าเท้าไม่นับว่ามากแต่เหตุไฉนมีเสียงหนึ่งดังออกมา
"อ๊า ซี๊ด"
อวิ๋นอ๋องหานเซียวมองทหารที่นำกระสอบนี้เข้ามา ทหารผู้นั้นคุกเข่าลงทันใด
"ทูลท่านรองแม่ทัพนี่คือนางคณิกาผู้หนึ่งที่พวกข้าจับได้ขณะสู้กับโจรพวกนั้นขอรับ เห็นว่านางงดงามนักจึงนำมาถวายนายท่านทั้งสอง มิใช่หัวหน้าโจรขอรับ"
แน่นอนว่าทหารใต้การนำทัพของพวกเขาล้วนซื่อสัตย์ แม้จะอดอยากปากแห้งเรื่องสตรีมานานหลายปีเพียงใด แต่หากเป็นของดีที่พวกเขาคิดว่าคู่ควรกับผู้เป็นนายจึงไม่รีรอที่จะนำของดีมาประเคนให้ถึงมือ
อวิ๋นอ๋องผู้มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ดูเย็นชาเป็นอย่างยิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบหาได้ตื่นเต้นประการใด
"ข้าเข้าใจผิดหรือเช่นนั้นเปิดดูเสียหน่อยพวกเจ้าจะได้ไม่เสียน้ำใจ ว่างเว้นสตรีมานานได้นางคณิกามาบำบัดก็คงจะสำราญอยู่บ้าง"
ทหารผู้นั้นรีบทำตามคำสั่ง เขาแกะกระสอบใบใหญ่ออก ที่ต้องจับนางไว้ในกระสอบเช่นนี้มีสาเหตุเพียงประการเดียวก็คือ ไม่ให้ผู้ใดเห็นร่างงดงามของนางแล้วเกิดราคะจนกระทั่งอดใจไม่ไหวนำของมาไม่ถึงมือนายท่านทั้งสอง
เมื่อหนานอิงถูกปล่อยเป็นอิสระร่างกายร้อนของนางได้รับไอเย็นแล้วจึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย แต่ความร้อนรุ่มนี้ทำเช่นไรก็ไม่หาย นางรู้เพียงแต่ว่าต้องการผู้ใดและสิ่งใดสักอย่างมาสัมผัสเพื่อบรรเทาความกระหาย
อวิ๋นอ๋องหานเซียวนั่งลงจับคางของนางให้เงยขึ้นเขาไม่พูดสิ่งใดมีรอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏที่ใบหน้า
ทหารผู้นั้นย่อมรู้ว่าเขาพึงใจเพียงใด
ซู่อ๋องลู่หนิงหวังวางจอกสุราเห็นร่างขาวผ่องราวหยกขาวเนื้อดีคลานออกมาจากถุงใบนั้นในใจพลันคิดว่าคงเป็นยอดคณิกา เขาจึงเริ่มรู้สึกอยากเห็นหน้าเสียแล้ว
และเมื่อได้เห็นใบหน้างดงามของนางอีกทั้งท่าทางร่านราคะที่นางมองพวกเขาด้วยดวงตาหยาดเยิ้มจึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย
ลู่หนิงหวังเดินไปเปิดหีบที่อยู่ข้างเตียงโยนถุงเงินถุงใหญ่ที่ยึดมาได้จากพวกกบฏให้ทหารผู้นั้นแล้วเอ่ยเสียงเย็น
"เอาไปแบ่งกันข้าพอใจมากคิดว่าท่านรองแม่ทัพก็เช่นกัน"
ทหารผู้นั้นได้รับความดีความชอบด้วยเงินก้อนใหญ่ เบื้องหน้าคือเขตเมืองหลวงถึงคราที่พวกเขาจะได้พักผ่อนและใช้เงินซื้อความสุขให้ตนเองเสียที
ทหารผู้นั้นเอ่ยด้วยความกล้าหาญ
"ท่านแม่ทัพขอรับนางโลมที่โจรจับมายังมีอีกหลายคน หากท่านอนุญาตพวกข้าจะขอให้พวกนางปรนนิบัติได้หรือไม่"
ลู่หนิงหวังยกมือขึ้น
"เอาเถิดพวกเจ้าเองก็ลำบากมามิใช่น้อย แต่เวรยามที่อยู่เฝ้าค่ายต้องกำชับอย่าให้หละหลวม สตรีพวกนี้ด้านหนึ่งก็ประดุจงูพิษพึงระวังตนให้มากอย่าได้ไว้ใจเป็นอันขาด"
"ข้าน้อยรับทราบ ขอบคุณท่านแม่ทัพ ขอบคุณท่านรองแม่ทัพ ข้าน้อยทูลลา"
ถึงแม้ว่าซู่อ๋องลู่หนิงหวังและอวิ๋นอ๋องหานเซียวคนน้องในยามออกรบจะกลายเป็นปีศาจร้าย แต่หลังจากงานใหญ่เสร็จลุล่วงทหารในการดูแลของเขาที่รอดตายมักจะได้ปูนบำเหน็จและร่ำรวยยกฐานะขึ้นมาได้ ทุกคนที่อยู่ในกองทัพจึงเคารพและเชื่อฟังเป็นอย่างมาก
เมื่อคนออกไปแล้วคงเหลือแต่เพียงแม่ทัพใหญ่ทั้งสองกับหญิงคณิกาผู้นี้ที่อยู่ด้านในกำหนัดที่อัดอั้นมาเนิ่นนานเมื่อออกรบทัพจับศึกในคืนนี้พวกเขาจะได้ปลดเปลื้องเสียที
อวิ๋นอ๋องหานเซียวสำรวจร่างกายของนางโลมด้วยสายตา ทั้งยังเอ่ยถามเสียงหนัก เขาเองก็ยังระวังตัวอยู่ไม่น้อย ไม่ต้องการให้ตนเองมาเสียท่าให้สตรี
"เจ้าถูกโจรจับตัวมาหรือ"
คำถามที่ถามออกไปกลับได้รับคำตอบที่ไม่ตรงคำถามเท่าใดนัก
"นายท่านข้าร้อนเหลือเกินช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่รู้ว่าตนเองต้องการสิ่งใด อ๊า ร้อนไปหมดแล้ว อ๊า"
อวิ๋นอ๋องหานเซียวหัวเราะเย็นเมื่อเห็นนางกำลังเล่นรักถูไถส่วนนั้นของนางกับปลายเท้าของเขา
เขารู้อยู่แล้วว่าพวกโจรป่ามักจะให้นางโลมที่ติดตามพวกเขาดื่มยากำหนัดเพื่อร่วมรักกับคนทั้งกองโจร
นางผู้นี้ก็เช่นกันแต่ในเมื่ออยู่ในสถานะนางโลมแล้วก็ย่อมเป็นหน้าที่ของนางที่จะสนองตัณหาบุรุษพวกนั้น
เขาเองย่อมเชื่อคำของคนของตน ท่าทางร้อนรักและงดงามจนผู้คนตื่นตะลึงเช่นนี้คงมีตำแหน่งสูงในหอนางโลมเป็นแน่ ผิวพรรณเนียนละเอียดยังดูบอบบางราวกลีบดอกไม้
ร่างอรชรนี้ยั่วยวนจนกระทั่งทำให้แท่งหยกของเขาบวมเป่งแม้ยังมิได้แตะต้องนาง
หานเซียวจ้องมองนางอย่างพึงใจ ดวงตาเป็นประกายร้อนแรงยิ่ง
"เจ้าชอบนางหรือ"
ซู่อ๋องลู่หนิงหวังเดินกลับมานั่งยังเก้าอี้ที่เดิมพร้อมกับถามน้องชายด้วยใบหน้าราบเรียบ นางผู้นั้นงามนักแม้เขาเองยังตกตะลึง ในขณะที่หานเซียวผู้น้องก็ยังจับจ้องนางมิวางตา
"นางถูกใจข้าเป็นอย่างยิ่ง มิได้พบหญิงงามหมดจรดเช่นนี้มานานเพียงใดแล้ว"
ซู่อ๋องลู่หนิงหวังกลับใจกว้างยิ่งนัก
"เช่นนั้นก็ให้ปรนนิบัติเจ้าแล้วกัน"
หานเซียวส่ายหน้า
"ท่านเองก็พึงใจในตัวนางมิใช่หรือ ข้ามิเคยเห็นท่านมองสตรีใดเนิ่นนางเพียงนี้มานานมากแล้ว ท่านพี่เช่นนั้นก็ให้นางปรนนิบัติเราทั้งคู่เถิด"
ลู่หนิงหวังยกยิ้มบาง ๆ เขามิได้ปฏิเสธน้องชาย ความชอบของเขาและหานเซียวที่ผ่านมามักจะคล้ายกันเสมอ และเมื่อชอบแล้วต่างก็ยินดีแบ่งปันให้กันและกันด้วยความเต็มใจ
ในชีวิตของเขามีเพียงน้องชายผู้นี้เท่านั้นที่เขารักและยินดีจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ชีวิต หานเซียวมีค่าต่อลู่หนิงหวังยิ่งนัก
"ในเมื่อเจ้าไม่หวงนางข้าย่อมยินดี มาเถิดบทรักบนเตียงของนางจะทำให้เราพึงใจได้หรือไม่ข้าเองก็อยากรู้เช่นกัน"
ลู่หนิงหวังยกจอกสุราขึ้นแล้วสาดน้ำเมาลงคอ รสชาติของสุราย่อมดีไม่น้อยแต่เขากลับคิดว่าอาจจะมิสามารถเทียบเคียงรสชาติของสตรีนางนี้ได้
"นายท่านจะช่วยข้าแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ"
"แน่นอนแต่เจ้าต้องช่วยตนเองด้วย"
หนานอิงย่อมฟังที่พวกเขาพูดไม่เข้าใจ ดวงตาของนางพร่ามัวแยกทิศทางไม่ออก รู้เพียงแต่ว่านางร้อนรุ่มและต้องได้รับการปลดปล่อยในตอนนี้
หลังจากถูกกลุ่มโจรจับมาเรียกค่าไถ่จากท่านพ่อแล้ว นางก็อยู่อย่างหวาดกลัวในกระท่อมเล็ก ๆ มีโจรคอยเฝ้านับสิบคนและหลังจากนั้นหนึ่งในกลุ่มโจรเกิดติดใจเรือนร่างและความงามของนาง
แม้หัวหน้าโจรจะห้ามปรามเพราะกลัวเสียราคาด้วยตั้งใจว่าหลังจากได้เงินค่าไถ่แล้วจะไม่ส่งมอบนางคืนแก่บิดาแต่จะผิดคำพูดแล้วขายนางต่อไปที่หอนางโลม
สตรีผู้งดงามเช่นนี้เขาจะพลาดเงินก้อนโตได้อย่างไร
แต่โจรผู้ทรยศนั่นกลับใจกล้าวางยากำหนัดอย่างรุนแรงเพื่อจะเชยชมความงามของนางโดยที่หนานอิงไม่โวยวายจนทำให้เขาถูกจับได้
เพราะถูกยาปลุกกำหนัดทำให้หนานอิงในยามนี้ไม่รู้เหนือใต้แล้ว นางรู้เพียงแต่ว่าก่อนที่นางจะตายด้วยความทรมานนางต้องได้รับการปลดปล่อย แต่ปลดปล่อยอย่างไรนางเองก็ไม่รู้เช่นกัน
อวิ๋นอ๋องหานเซียวเหมือนจะเป็นบุรุษที่อ่อนโยนกว่าซู่อ๋องลู่หนิงหวังเล็กน้อย
เขาก้มลงแล้วช้อนร่างบอบบางของนางเอาไว้ในวงแขน หนานอิงเหมือนได้รับยาวิเศษจากเรือนกายบุรุษ หญิงสาวกอดคอของเขาแล้วตวัดลิ้นเลียตามสัญชาตญาณดิบในร่างกายทันใด
"นางผู้นี้ร่านรักเหลือเกิน ใจเย็น ๆ เถิด เจ้าได้ปรนนิบัติข้าและพี่ชายเป็นแน่"
เขาหัวเราะด้วยความพอใจก่อนจะวางนางลงที่เตียง กระทั่งได้ยินเสียงเย็นชาของซู่อ๋องดังขึ้น
"ถอดอาภรณ์ของเจ้าออกให้หมดแล้วทำหน้าที่ของเจ้าได้แล้ว"
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!