待补充
待补充
“น้องดา ไหว้พี่ภูสิลูก” กำนันมิตร โพธิ์วิจิตรบอกบุตรสาวในวัย 6 ขวบ ที่กำลังน่ารักน่าชังในสายตาของผู้ใหญ่ เด็กหญิงมธุรดามองเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้าอย่าสงสัย ก่อนพนมมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนช้อยงดงาม ทำให้เด็กชายภูผา ชัยเชษฐ์ในวัย 10 ขวบ ต้องยกมือขึ้นรับไหว้ และส่งยิ้มอ่อนโยนให้น้องตัวน้อย
“ภู...นี่น้องดา คนที่ภูจะต้องดูแลไปตลอดชีวิต เมื่อภูมีอายุครบ 28 ปีนะลูก” นายหัวภูศิษฐ์บอกลูกชาย
“ดูแลตลอดชีวิต หมายความว่ายังไงครับพ่อ” เด็กชายภูผาไม่เข้าใจในคำพูดของบิดาเท่าไรนัก จึงถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
“ภูไม่ต้องไปหาเจ้าสาวที่ไหนแล้วไงลูก พอภูอายุครบ 28 ปี ภูจะมีเจ้าสาวที่ชื่อมธุรดาหรือน้องดาคนนี้” นายหัวภูศิษฐ์อธิบาย
ในเวลานั้นเด็กชายและเด็กหญิงยังไม่เข้าใจผู้ใหญ่นัก แต่ความที่ถูกชะตากันของทั้งคู่ ทำให้พี่ภูและน้องดาสนิทสนมกันเรื่อยมา และเป็นบ่อเกิดของความรักแต่หาใช่ความรักระหว่างชายหญิงไม่ แต่กลับเป็นความรักระหว่างพี่ชายกับน้องสาว
“แม่ครับ คำว่าเจ้าสาว หมายถึงผู้หญิงที่ต้องแต่งานกับผู้ชายคนหนึ่ง และคนทั้งคู่รักกันด้วยใช่มั้ยครับ” เด็กชายภูผาถามมารดาขึ้นในวันหนึ่ง
“ใช่จ้ะ” รสรินมารดาของภูผาตอบ
“แล้วคนไม่ได้รักกันจะแต่งงานกันได้มั้ยครับ”
รสรินถอนหายใจยาว ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าบุตรชายถามเพราะอะไร แต่เรื่องระหว่างเพื่อนรักคือสามีของเธอกับกำนันมิตรนั้น เป็นเรื่องที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะตอนที่เธอแต่งงานกับภูศิษฐ์ กำนันมิตรและคุณถนอมซึ่งเป็นภรรยายังไม่มีบุตร และได้พูดกับคู่บ่าวสาวคู่ใหม่ว่า
“ถ้านายมีลูกสาว นายต้องยกลูกสาวนายให้ลูกชายเรานะภูศิษฐ์” กำนันมิตรบอก
“ได้สิเพื่อนรัก และถ้านายมีสาว นายก็ต้องยกลูกสาวให้ลูกชายเราด้วยนะมิตร” และภูศิษฐ์ก็ตอบรับอย่างยินดี
มันเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่เพื่อนรักให้ไว้ต่อกัน และคำพูดของลูกผู้ชายที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคง เป็นที่เคารพนับหน้าถือตาของคนทั่วไป ทำให้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขคำพูดนั้นได้
รสรินมองน้องลูกชายที่จ้องมองมาตาแป๋วอย่างอยากรู้ ก็ย่อตัวลงและลูบศีรษะทุยนั้นอย่างรักใคร่
“ถึงจะยังไม่รักกัน แต่หลังจากแต่งงานกันแล้ว ก็ต้องรักกันเข้าสักวันหนึ่งนะลูก” นั่นเป็นคำตอบที่รสรินคิดว่าดีที่สุดในเวลานั้น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บัดนี้เด็กชายภูผาเติบโตขึ้นจนอายุ 25 ปี ร่างสูงกำยำดูสง่าผ่าเผยและรูปงามยิ่งนัก เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ มากมาย แต่ยกเว้นอยู่คนหนึ่งที่เธอไม่คิดจะมองภูผาอย่างหมายปองมากกว่ามองด้วยความชื่นชมและภูมิใจในตัวพี่ชายคนนี้
“พี่ภูคะ น้องดาว่าเราน่าจะหากุหลาบดินมาปลูกแถวนี้นะคะ เหมืองชัยเชษฐ์จะได้ดูมีสีสันขึ้นมาหน่อย”
“ก็แล้วแต่น้องดาสิครับ อีกหน่อยน้องดาก็จะมาอยู่ที่นี่ในฐานะของนายหญิง น้องดาอยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ”
“พี่ภูขา...” มธุรดาเรียกชายหนุ่มเสียงหวาน
“ว่าไงครับ” ภูผาเองก็ตอบรับเสียงนุ่มเช่นกัน
“พี่ภูไม่มีคนรักเหรอคะ น้องดาเห็นสาวๆ ตบแถวเรียงหน้ากระดานเข้าหาพี่ภูตั้งเยอะ ไม่ชอบใครสักคนเลยเหรอคะ”
ภูผาชะงักไปนิด ก่อนมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของมธุรดานิ่ง เขายังไม่คิดจะรักใคร เพราะยังอยากใช้ชีวิตอิสระให้คุ้มค่าก่อน และอีกไม่กี่ปีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลผู้หญิงตรงหน้าก็จะเริ่มขึ้นแล้ว มธุรดาเป็นผู้หญิงที่น่ารักอ่อนหวาน เขาคิดว่าสักวันคงจะรักเธอได้ไม่ยาก ตามที่มารดาเคยพูดเอาไว้
“แล้วน้องดาล่ะ มีคนรักหรือยัง เอ...แต่ใครน๊อ จะมาชอบผู้หญิงขี้แยแบบนี้ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ภูผาถามกลับและกระเซ้าด้วยคำพูด จนหญิงสาวหน้าแดงที่ถูกล้อ
“เชอะ...ไม่ต้องมาล้อเค้าเลยนะ สักวันเค้าก็ต้องมีคนรักอยู่แล้วล่ะ” มธุรดาทำปากยื่นและแลบลิ้นปลิ้นตาให้ภูผา
จากนั้นไม่นานภูผาก็ถูกบิดาส่งไปเรียนต่ออเมริกาด้านธรณีวิทยา เพื่อกลับมาดูแลกิจการเหมืองแร่ต่อจากผู้เป็นบิดาเป็นเวลา 3 ปี ในขณะนั้นมธุรดาก็มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาจีบ แต่เธอกลับไม่ชอบใครสักคนเลย จนกระทั่งภูผากลับมา
มธุรดาไปรอรับที่สนามบิน ภูผาในวันนี้ดูเป็นหนุ่มใหญ่ ร่างสูงสง่างามนั้นน่าเกรงขาม ใบหน้าคมเข้มที่เปื้อนยิ้มให้เธอได้ตลอดเวลาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“สวัสดีค่ะพี่ภู ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยนะคะ ไหนๆ มีสาวๆ ตามมาบ้างหรือเปล่าเอ่ย...” มธุรดาแกล้งชะโงกหน้าไปด้านหลังของภูผา ทำทีเป็นหาสาวตาน้ำข้าวที่อาจจะตามติดมา เพราะพี่ภูของเธอในวันนี้หล่อเหลากว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วมาก
“ยัยบ๊อง พี่ยังนิยมของไทยจ้ะ ไม่นิยมของนอก แล้วเราล่ะ เจอคนถูกใจรึยัง” ภูผาจิ้มนิ้วชี้เข้าที่หน้าผากมน และยิ้มกว้าง
“เฮ้อ...ยังเลยค่ะ พี่ภูคงต้องมีน้องดาเป็นเจ้าสาวจริงๆ แล้วล่ะค่ะ”
“พี่น่ะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ยังไม่ได้รักใคร แต่น้องดาน่ะสิ ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว น้องดาไปเจอคนถูกใจเข้าจะทำยังไง พี่ก็คงปล่อยให้น้องดามีความสุขกับคนที่รัก” ภูผาบอกอย่างปลงตก ถ้ามธุรดาไม่มีคนรัก วันหนึ่งเธอกับเขาคงจะรักกันได้อย่างแน่นอน ภูผาถอนหายใจออกมาแรงๆ
“ขอบคุณนะคะพี่ภูที่เข้าใจ น้องดาโชคดีที่สุดที่มีพี่ชายอย่างพี่ภู”
และวันแต่งงานของทั้งคู่ก็มาถึง งานแต่งงานของภูผาและมธุรดาจัดว่าเป็นงานแต่งงานที่โด่งดังที่สุดในจังหวัดระนอง เพราะบิดาและมารดาของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สังคม ฉะนั้นแขกเหรื่อที่มาร่วมงานในวันนี้จึงแน่นขนัด ลานกว้างของเหมืองชัยเชษฐ์แทบจะต้อนรับแขกที่มาร่วมงานไม่พอเลยทีเดียว จนกระทั่งถึงเวลาส่งตัวเข้าห้องหอและบิดามารดาทั้งสองฝ่ายเข้าไปให้ศีลให้พรและกลับออกไปแล้วนั่นแหละ
“เหนื่อยจัง” มธุรดาบ่นออกมาทันทีที่ประตูห้องหอปิดสนิท
“เหนื่อยก็ไปอาบน้ำแต่งตัวและเข้านอนซะ”
“อ้าว...แล้วพี่ภูล่ะคะ นอนที่ไหน”
ภูผาพยักเพยิดไปที่ประตูเล็กๆ ด้านขวามือ
“นั่นเป็นประตูเข้าไปห้องข้างๆ พี่จะไปนอนห้องโน้น ส่วนน้องดาก็นอนห้องนี้แล้วกัน ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับได้ เพราะกุญแจห้องข้างๆ นั่นอยู่ที่พี่คนเดียว คนอื่นไม่มีเก็บไว้ เพราะเป็นห้องของพี่ตอนเด็กๆ”
“ขอบคุณนะคะพี่ภู” มธุรดาซาบซึ้งในน้ำใจของภูผา เพราะเขาไม่คิดจะล่วงเกินเธอ และทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเรื่อยมา แม้กระทั่งแต่งงานกันแล้วแบบนี้ เขามีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ทำเหตุผลง่ายๆ คือ ภูผาไม่ได้รักมธุรดานั่นเอง
หลังจากงานแต่งงานผ่านพ้นไปเพียง 1 ปี ข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของภูผาก็เกิดขึ้น เมื่อนายหัวภูศิษฐ์และนายหญิงรสรินที่กำลังเดินทางไปท่องเที่ยวไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์ก็ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตลงพร้อมกัน ภูผาเศร้าโศกเสียใจมาก แต่ยังได้รับกำลังใจจากมธุรดาเป็นอย่างดี และภาระหน้าที่ดูแลกิจการเหมืองชัยเชษฐ์ก็ตกมาถึงมือภูผา ชายหนุ่มตรากตรำทำงานหนักจนแทบไม่ได้หลับได้นอน และแทบไม่ได้เจอกับมธุรดาเลยด้วยซ้ำ จนหญิงสาวต้องดักรอด้วยความเป็นห่วงในเช้าวันหนึ่ง
“พี่ภูขา...พักซะบ้างนะคะ เดี๋ยวล้มป่วยลงไปอีกคน”
“ขอบใจน้องดาที่เป็นห่วงพี่ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ว่าแต่น้องดาเถอะ พี่ไม่มีเวลาคุยด้วยเลย ถ้าอยากกลับบ้านหรือออกไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ก็ให้คนขับรถพาไปนะจ๊ะ”
“ค่ะ พี่ภูไม่ต้องห่วงน้องดาหรอกค่ะ ห่วงตัวพี่เองดีกว่า พี่ภูผอมลงไปเยอะเลยนะคะนี่”
“หึ หึ ขอบใจจ้ะ พี่ต้องเข้าเหมืองแล้ว ไปก่อนนะจ๊ะ” ภูผายกมือยีผมของมธุรดาอย่างหยอกเย้า ก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน
มธุรดามองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทางนิตินัย ก่อนคิดว่าวันนี้จะกลับไปหาบิดาที่บ้านและอาจจะออกไปหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ในตลาดด้วยเลย
เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”
กลางป่าเขาเขียวขจี ระหว่างการหลบหนีไล่ล่า กองเพลิงแห่งไฟสวาท นั้นเร่าร้อนแผดเผา สองร่างดื่มด่ำรสสวาท สองหัวใจผูกพันยึดมั่น เร่าร้อน...รุนแรง… หากแต่แม้นออกจากป่า เปลวไฟสวาทนั้นก็ยังไม่มอดไหม้
“เจ้านายอย่าคิดว่า ความคิดความรู้สึกของเจ้านายนั้นถูกหมดทุกอย่างนะคะ” สาวน้อยเริ่มไม่พอใจ ที่เขาหาเรื่องรวนเธอ ชวนนท์ยืนขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาว ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง ความสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเล็กลงไปอีก “เธออย่าปฏิเสธฉันเลยดลลดา ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอกลัวฉัน” “ดิฉันไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวคุณ” หญิงสาวเชิดหน้าตอบ “แน่ใจเหรอ” “ค่ะ” แล้วลำแขนเรียวกลมกลึง ก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าหาตัวชายหนุ่ม จนทรวงอกนุ่มหยุ่นแนบชิดกับอกกว้างแข็งแรงของเขา ดลลดาขืนตัวเอาไว้เต็มกำลังที่มี แม้จะเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม ดวงตาคู่สวยมองสบดวงตาคมกริบด้วยความหวาดกลัว “นั่นไง เธอกลัวฉันจริงๆ” ชวนนท์เห็นความกลัวในดวงตาของหญิงสาว “เจ้านาย ปล่อยค่ะ” เสียงใสๆ นั้นสั่นระรัว
เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด
‘กาย’ หนุ่มใหญ่ผู้ไม่เคยมีศรัทธาในความรัก เขากระหายในความเจ็บปวด ยิ่งเธอทรมาน ก็ยิ่งมีความสุข เสียงครวญครางของเธอเป็นเหมือนอาหารรสเลิศที่ขาดไม่ได้ ทว่า...เธอกลับเรียกแรงศรัทธาในความรักให้เดินเข้าหาเขา ‘มารียัน’ เด็กสาวผู้ที่ตกหลุมพรางของผู้ใหญ่ กลายเป็นทาสของซาตานผู้ไร้หัวใจ เป็นชู้กับน้าเขยตัวเอง บทรักของเขาเรียกน้ำตาจากเธอทุกครั้ง ทว่า...มันกลายเป็นยาเสพติดที่เธอขาดไม่ได้ จะทำยังไงให้ซาตานที่รักตอบแทนความรักอันเจ็บปวดของเธอได้บ้าง
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
ก็เลิกกันไปแล้ว ไม่รักกันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ขุนพลแฟนเก่าของนาเดียพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนมีเจตนาแอบแฝง นาเดียไม่ไว้ใจเขาทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้พบหน้า เธอพยายามถอยห่าง เขาพยายามรุกคืบ และการกระทำนั้นทำให้เธอเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน เขายังทำตัวเป็นหมาหวงก้าง และระรานคนไปทั่ว ผู้ชายเฮ็งซวยที่เลิกกันไปหลายปีแล้วกำลังทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงที่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งพันตัวเธอจนติดหนึบกับเขา คำแนะนำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ หากชื่นชอบรบกวนผู้อ่านทุกท่านกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ และซื่อในเว็บหรือแอนดรอยจะราคาถูกกว่า แอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY