待补充
待补充
“น้องดา ไหว้พี่ภูสิลูก” กำนันมิตร โพธิ์วิจิตรบอกบุตรสาวในวัย 6 ขวบ ที่กำลังน่ารักน่าชังในสายตาของผู้ใหญ่ เด็กหญิงมธุรดามองเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้าอย่าสงสัย ก่อนพนมมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนช้อยงดงาม ทำให้เด็กชายภูผา ชัยเชษฐ์ในวัย 10 ขวบ ต้องยกมือขึ้นรับไหว้ และส่งยิ้มอ่อนโยนให้น้องตัวน้อย
“ภู...นี่น้องดา คนที่ภูจะต้องดูแลไปตลอดชีวิต เมื่อภูมีอายุครบ 28 ปีนะลูก” นายหัวภูศิษฐ์บอกลูกชาย
“ดูแลตลอดชีวิต หมายความว่ายังไงครับพ่อ” เด็กชายภูผาไม่เข้าใจในคำพูดของบิดาเท่าไรนัก จึงถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
“ภูไม่ต้องไปหาเจ้าสาวที่ไหนแล้วไงลูก พอภูอายุครบ 28 ปี ภูจะมีเจ้าสาวที่ชื่อมธุรดาหรือน้องดาคนนี้” นายหัวภูศิษฐ์อธิบาย
ในเวลานั้นเด็กชายและเด็กหญิงยังไม่เข้าใจผู้ใหญ่นัก แต่ความที่ถูกชะตากันของทั้งคู่ ทำให้พี่ภูและน้องดาสนิทสนมกันเรื่อยมา และเป็นบ่อเกิดของความรักแต่หาใช่ความรักระหว่างชายหญิงไม่ แต่กลับเป็นความรักระหว่างพี่ชายกับน้องสาว
“แม่ครับ คำว่าเจ้าสาว หมายถึงผู้หญิงที่ต้องแต่งานกับผู้ชายคนหนึ่ง และคนทั้งคู่รักกันด้วยใช่มั้ยครับ” เด็กชายภูผาถามมารดาขึ้นในวันหนึ่ง
“ใช่จ้ะ” รสรินมารดาของภูผาตอบ
“แล้วคนไม่ได้รักกันจะแต่งงานกันได้มั้ยครับ”
รสรินถอนหายใจยาว ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าบุตรชายถามเพราะอะไร แต่เรื่องระหว่างเพื่อนรักคือสามีของเธอกับกำนันมิตรนั้น เป็นเรื่องที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะตอนที่เธอแต่งงานกับภูศิษฐ์ กำนันมิตรและคุณถนอมซึ่งเป็นภรรยายังไม่มีบุตร และได้พูดกับคู่บ่าวสาวคู่ใหม่ว่า
“ถ้านายมีลูกสาว นายต้องยกลูกสาวนายให้ลูกชายเรานะภูศิษฐ์” กำนันมิตรบอก
“ได้สิเพื่อนรัก และถ้านายมีสาว นายก็ต้องยกลูกสาวให้ลูกชายเราด้วยนะมิตร” และภูศิษฐ์ก็ตอบรับอย่างยินดี
มันเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่เพื่อนรักให้ไว้ต่อกัน และคำพูดของลูกผู้ชายที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคง เป็นที่เคารพนับหน้าถือตาของคนทั่วไป ทำให้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขคำพูดนั้นได้
รสรินมองน้องลูกชายที่จ้องมองมาตาแป๋วอย่างอยากรู้ ก็ย่อตัวลงและลูบศีรษะทุยนั้นอย่างรักใคร่
“ถึงจะยังไม่รักกัน แต่หลังจากแต่งงานกันแล้ว ก็ต้องรักกันเข้าสักวันหนึ่งนะลูก” นั่นเป็นคำตอบที่รสรินคิดว่าดีที่สุดในเวลานั้น
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บัดนี้เด็กชายภูผาเติบโตขึ้นจนอายุ 25 ปี ร่างสูงกำยำดูสง่าผ่าเผยและรูปงามยิ่งนัก เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ มากมาย แต่ยกเว้นอยู่คนหนึ่งที่เธอไม่คิดจะมองภูผาอย่างหมายปองมากกว่ามองด้วยความชื่นชมและภูมิใจในตัวพี่ชายคนนี้
“พี่ภูคะ น้องดาว่าเราน่าจะหากุหลาบดินมาปลูกแถวนี้นะคะ เหมืองชัยเชษฐ์จะได้ดูมีสีสันขึ้นมาหน่อย”
“ก็แล้วแต่น้องดาสิครับ อีกหน่อยน้องดาก็จะมาอยู่ที่นี่ในฐานะของนายหญิง น้องดาอยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ”
“พี่ภูขา...” มธุรดาเรียกชายหนุ่มเสียงหวาน
“ว่าไงครับ” ภูผาเองก็ตอบรับเสียงนุ่มเช่นกัน
“พี่ภูไม่มีคนรักเหรอคะ น้องดาเห็นสาวๆ ตบแถวเรียงหน้ากระดานเข้าหาพี่ภูตั้งเยอะ ไม่ชอบใครสักคนเลยเหรอคะ”
ภูผาชะงักไปนิด ก่อนมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของมธุรดานิ่ง เขายังไม่คิดจะรักใคร เพราะยังอยากใช้ชีวิตอิสระให้คุ้มค่าก่อน และอีกไม่กี่ปีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลผู้หญิงตรงหน้าก็จะเริ่มขึ้นแล้ว มธุรดาเป็นผู้หญิงที่น่ารักอ่อนหวาน เขาคิดว่าสักวันคงจะรักเธอได้ไม่ยาก ตามที่มารดาเคยพูดเอาไว้
“แล้วน้องดาล่ะ มีคนรักหรือยัง เอ...แต่ใครน๊อ จะมาชอบผู้หญิงขี้แยแบบนี้ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ภูผาถามกลับและกระเซ้าด้วยคำพูด จนหญิงสาวหน้าแดงที่ถูกล้อ
“เชอะ...ไม่ต้องมาล้อเค้าเลยนะ สักวันเค้าก็ต้องมีคนรักอยู่แล้วล่ะ” มธุรดาทำปากยื่นและแลบลิ้นปลิ้นตาให้ภูผา
จากนั้นไม่นานภูผาก็ถูกบิดาส่งไปเรียนต่ออเมริกาด้านธรณีวิทยา เพื่อกลับมาดูแลกิจการเหมืองแร่ต่อจากผู้เป็นบิดาเป็นเวลา 3 ปี ในขณะนั้นมธุรดาก็มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาจีบ แต่เธอกลับไม่ชอบใครสักคนเลย จนกระทั่งภูผากลับมา
มธุรดาไปรอรับที่สนามบิน ภูผาในวันนี้ดูเป็นหนุ่มใหญ่ ร่างสูงสง่างามนั้นน่าเกรงขาม ใบหน้าคมเข้มที่เปื้อนยิ้มให้เธอได้ตลอดเวลาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“สวัสดีค่ะพี่ภู ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยนะคะ ไหนๆ มีสาวๆ ตามมาบ้างหรือเปล่าเอ่ย...” มธุรดาแกล้งชะโงกหน้าไปด้านหลังของภูผา ทำทีเป็นหาสาวตาน้ำข้าวที่อาจจะตามติดมา เพราะพี่ภูของเธอในวันนี้หล่อเหลากว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วมาก
“ยัยบ๊อง พี่ยังนิยมของไทยจ้ะ ไม่นิยมของนอก แล้วเราล่ะ เจอคนถูกใจรึยัง” ภูผาจิ้มนิ้วชี้เข้าที่หน้าผากมน และยิ้มกว้าง
“เฮ้อ...ยังเลยค่ะ พี่ภูคงต้องมีน้องดาเป็นเจ้าสาวจริงๆ แล้วล่ะค่ะ”
“พี่น่ะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ยังไม่ได้รักใคร แต่น้องดาน่ะสิ ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว น้องดาไปเจอคนถูกใจเข้าจะทำยังไง พี่ก็คงปล่อยให้น้องดามีความสุขกับคนที่รัก” ภูผาบอกอย่างปลงตก ถ้ามธุรดาไม่มีคนรัก วันหนึ่งเธอกับเขาคงจะรักกันได้อย่างแน่นอน ภูผาถอนหายใจออกมาแรงๆ
“ขอบคุณนะคะพี่ภูที่เข้าใจ น้องดาโชคดีที่สุดที่มีพี่ชายอย่างพี่ภู”
และวันแต่งงานของทั้งคู่ก็มาถึง งานแต่งงานของภูผาและมธุรดาจัดว่าเป็นงานแต่งงานที่โด่งดังที่สุดในจังหวัดระนอง เพราะบิดาและมารดาของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สังคม ฉะนั้นแขกเหรื่อที่มาร่วมงานในวันนี้จึงแน่นขนัด ลานกว้างของเหมืองชัยเชษฐ์แทบจะต้อนรับแขกที่มาร่วมงานไม่พอเลยทีเดียว จนกระทั่งถึงเวลาส่งตัวเข้าห้องหอและบิดามารดาทั้งสองฝ่ายเข้าไปให้ศีลให้พรและกลับออกไปแล้วนั่นแหละ
“เหนื่อยจัง” มธุรดาบ่นออกมาทันทีที่ประตูห้องหอปิดสนิท
“เหนื่อยก็ไปอาบน้ำแต่งตัวและเข้านอนซะ”
“อ้าว...แล้วพี่ภูล่ะคะ นอนที่ไหน”
ภูผาพยักเพยิดไปที่ประตูเล็กๆ ด้านขวามือ
“นั่นเป็นประตูเข้าไปห้องข้างๆ พี่จะไปนอนห้องโน้น ส่วนน้องดาก็นอนห้องนี้แล้วกัน ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับได้ เพราะกุญแจห้องข้างๆ นั่นอยู่ที่พี่คนเดียว คนอื่นไม่มีเก็บไว้ เพราะเป็นห้องของพี่ตอนเด็กๆ”
“ขอบคุณนะคะพี่ภู” มธุรดาซาบซึ้งในน้ำใจของภูผา เพราะเขาไม่คิดจะล่วงเกินเธอ และทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเรื่อยมา แม้กระทั่งแต่งงานกันแล้วแบบนี้ เขามีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ทำเหตุผลง่ายๆ คือ ภูผาไม่ได้รักมธุรดานั่นเอง
หลังจากงานแต่งงานผ่านพ้นไปเพียง 1 ปี ข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของภูผาก็เกิดขึ้น เมื่อนายหัวภูศิษฐ์และนายหญิงรสรินที่กำลังเดินทางไปท่องเที่ยวไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์ก็ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตลงพร้อมกัน ภูผาเศร้าโศกเสียใจมาก แต่ยังได้รับกำลังใจจากมธุรดาเป็นอย่างดี และภาระหน้าที่ดูแลกิจการเหมืองชัยเชษฐ์ก็ตกมาถึงมือภูผา ชายหนุ่มตรากตรำทำงานหนักจนแทบไม่ได้หลับได้นอน และแทบไม่ได้เจอกับมธุรดาเลยด้วยซ้ำ จนหญิงสาวต้องดักรอด้วยความเป็นห่วงในเช้าวันหนึ่ง
“พี่ภูขา...พักซะบ้างนะคะ เดี๋ยวล้มป่วยลงไปอีกคน”
“ขอบใจน้องดาที่เป็นห่วงพี่ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ว่าแต่น้องดาเถอะ พี่ไม่มีเวลาคุยด้วยเลย ถ้าอยากกลับบ้านหรือออกไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ก็ให้คนขับรถพาไปนะจ๊ะ”
“ค่ะ พี่ภูไม่ต้องห่วงน้องดาหรอกค่ะ ห่วงตัวพี่เองดีกว่า พี่ภูผอมลงไปเยอะเลยนะคะนี่”
“หึ หึ ขอบใจจ้ะ พี่ต้องเข้าเหมืองแล้ว ไปก่อนนะจ๊ะ” ภูผายกมือยีผมของมธุรดาอย่างหยอกเย้า ก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน
มธุรดามองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทางนิตินัย ก่อนคิดว่าวันนี้จะกลับไปหาบิดาที่บ้านและอาจจะออกไปหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ในตลาดด้วยเลย
สำหรับเดือนกันยา ความรักที่หลบซ่อนเป็นสิ่งที่น่าชิงชังมากกว่าอื่นใด แต่ไยเธอจึงถวิลหาความรู้สึกนั้น ทำไมมันถึงช่างอบอุ่นอ่อนหวานทั้งที่ทำให้เธอต้องขมขื่นใจ บนใบหน้าเศร้าโศกต้องสวมหน้ากากของความสดใสแว่วหวานเอาไว้ทุกเสี้ยววินาที หัวใจที่ร่ำร้องเรียกหาความรักตะโกนก้องราวกับกำลังขาดใจ สำหรับสงคราม ความรักสำหรับเขาไม่ใช่ของเล่น แต่ความรักจะอยู่เหนือเหตุผลและความจำเป็นก็ไม่ได้ ถ้ารักต้องอยู่เหนือเหตุผล ทุกคนบนโลกจะพบแต่ความหลงใหล เขาแยกแยะได้ แต่สิ่งที่กำลังเจอคือความเร่าร้อนที่ต้องหลบซ่อน รักที่เร่าร้อน รักแรก และรักเดียว มันกลับเป็นการหลบซ่อน และพอกพูนไฟสวาทให้เผาไหม้ทุรนทุราย “เธอก็รู้ว่าไม่มีทางปฏิเสธพี่ได้ หัวใจเธอรู้ดีลูกแก้ว” “ลูกแก้วเกลียดพี่คราม ชิงชังพี่คราม พี่ครามทำแบบนี้ได้ไง พี่ครามเป็นสามีของพี่อัง ทำได้ไง พี่ครามเลวที่สุด” “เราก็เลวด้วยกันทั้งคู่ หรือเธอจะเถียงว่าไม่ได้รักพี่” “ใจร้าย พูดแบบนี้ได้ไง พี่ครามใจร้ายกับพี่อังได้ยังไง” “บางเรื่องเธอก็ไม่จำเป็นต้องรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมมีเหตุผล” นิ้วกลางของสงครามชอนไชเข้าสู่ปากถ้ำอันอุดมไปด้วยแหล่งน้ำที่หลั่งริน เดือนกันยากรีดร้องสุดเสียง ทั้งเกลียดเขา เกลียดตัวเอง และซ่านกระสันไปทุกรูขุมขน ร่างอิ่มที่ถูกพันธนาการไว้กับหัวเตียงดิ้นพล่านทุรนทุราย
เมื่อทุกคนในครอบครัวถูกขู่เอาชีวิต หญิงสาวจำต้องฝืนความเจ็บสักลวดลายบนเรือนร่างและสวมชุดกี่เพ้าผ้าไหมจีนแสนสวย พาตัวเองไปยืนอยู่หน้าพญามังกรดำ หยางโจวหมิง มาเฟียใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง ผู้ชายรูปงามที่มีดวงตาสีสนิมเหล็กวาววับและเย็นชา มีเรียวปากโค้งบางเฉียบสีเข้มที่คล้ายจะคอยเหยียดหยามทุกคนตลอดเวลา ผู้ชายที่มีอำนาจล้นฟ้าและบงการชีวิตของใครก็ตามที่เขาต้องการ โดยเฉพาะ...ชีวิตของเธอ สรัญรัตน์ อัคราบริรักษ์ “คุณมันไม่ใช่คน ร้ายกาจที่สุด” สรัญรัตน์กัดฟันบริภาษเขาออกไป อย่างน้อยก็ขอพูดว่าสักนิดเถอะ ไม่ใช่แต่ยอมให้เขาข่มเหงอยู่ข้างเดียว “ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนแบบคุณอยู่บนโลกใบนี้” “ใครที่อยู่ข้างนอก ไปตามนายอรรถวัฒน์กลับมา!” “อย่า!!! ฉัน...จะทำ” พญามังกรดำหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้บุหนังสีน้ำตาลเข้ม เขามองมือสั่นๆ ที่ค่อยๆ เลื่อนไปตามขอบเสื้อ มองผิวกายขาวผ่องเปิดเปลือยออกทีละนิด จนกระทั่งชุดกี่เพ้าเลื่อนลงมาอยู่ใต้อก บราเซียสีขาวสะอาดไร้สายดูเหมือนจะเล็กกว่าสิ่งที่ต้องปิดบังไปมาก เนินอกอิ่มล้นทะลักออกมาเบียดชิดกันอยู่ด้านบน เห็นร่องเนื้อขาวผุดผาดให้ไพล่คิดไปถึงสิ่งที่อยากเข้าไปอยู่ในร่องอกนั้น ชุดกี่เพ้าเลื่อนลงไปเรื่อยๆ มันช้าแต่ก็ทำให้ลมหายใจของหยางโจวหมิงขาดๆ หายๆ แต่ลมหายใจของสรัญรัตน์แทบขาดรอน เสียงสะอื้นเบาๆ ดังออกมาเป็นระยะไม่ได้ทำให้พญามังกรดำบังเกิดความสงสาร ดวงตาคมเฉียงขึ้นที่ปลายหางอย่างคนที่มีเชื้อชาติจีนแผ่นดินใหญ่ จับจ้องนวลนางละเอียดลอออย่างไม่ละสายตา หรืออีกทีเขาก็ไม่สามารถเบือนสายตาไปจากความงามเป็นหนึ่งนั้นไม่ได้ ผ้าไหมสีแดงสดปักลายดอกสีดำตัดกัน ค่อยเลื่อนลงมาถึงสะโพกผาย สัดส่วนโค้งเว้าดุจนาฬิกาทรายเรียกเลือดในกายชายหนุ่มให้เดือดพล่าน เรียวปากบางเฉียบได้รูปสวยของชายกระตุกมุมโค้งขึ้นก่อนจะแยกแย้มผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ มือใหญ่เริ่มเกร็งขึ้นเพราะความอยากจะแตะต้อง อยากจะตีตรา อยากจะลิ้มลองของใหม่สำหรับเขา แต่คงเก่าสำหรับคนอื่น นั่นเองที่ทำให้พญามังกรดำฝืนนั่งนิ่งอยู่กับที่ ทั้งที่ใจเต้นโครมครามอยู่ในอก สรัญรัตน์ชะงักมือที่เลื่อนชุดกี่เพ้าค้างไว้บนสะโพกสวย เธอสะอื้นฮักจนตัวโยนรู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ค่าสิ้นดี ไม่คิดไม่ฝันว่าต้องมาแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายใจร้ายคนนี้ “ไม่ได้ยินที่ฉันพูด หรือฉันบอกไม่ชัดเจน ว่าให้เธอถอดเสื้อผ้าออกให้หมด หรือประโยคนั้นมันฟังดูดีจนเธอไม่เข้าใจ ฉันคงต้องบอกว่า ให้เธอแก้ผ้าจนล่อนจ้อนต่อหน้าฉัน...เดี๋ยวนี้”
เพราะรัก...มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟิเรนเซ่ จึงต้องกลายร่างจากเสือมาเป็นแมวตัวผู้ขี้อ้อน เพื่อออเซาะหาไออุ่นจากคนรักผู้แสนเย้ายวน “พี่ราฟ! นอนดีๆ สิคะ แบบนี้จะดูหนังได้ยังไง” “ไม่ดูแล้ว” มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวโต สัมผัสเนื้อแท้ที่เนียนนุ่มและเย็นลื่น “แต่น้ำผึ้งอยากดูนี่คะ กำลังสนุกเลย พระเอกกำลังจะตามหานางเอกเจอด้วยค่ะ” สาวน้อยปัดป้องสุดแรง แต่แรงเท่ามดหรือจะสู้แรงช้างสารได้ “เจอแล้ว พระเอกเจอนางเอกแล้ว นี่ไง...กำลังกอดอยู่นี่ไง” เสียงแหบพร่ากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเล็กๆ ก่อนงับติ่งหูนุ่มของคนดื้อรั้นเบาๆ “ไม่...น้ำผึ้งจะดูหนัง พี่ราฟปล่อยน้ำผึ้งเดี๋ยวนี้นะ” “ไม่ปล่อย จนกว่าพี่จะได้กินน้ำผึ้งก่อน หนังน่ะ เอาไว้ค่อยดูทีหลังก็ได้ เสร็จก่อนแล้วค่อยดู นะ...นะ” เสียงออดอ้อนออเซาะที่แหบกระเส่าของราฟาเอลไม่เป็นผล เมื่อมธุรสออกแรงผลักราฟาเอลเต็มแรง ภาพของนางแบบสาวที่ตรงรี่เข้ามาจูบปากราฟาเอล ทำให้สาวน้อยมีแรงฮึดสู้ แรงผลักนั้นทำให้ร่างของราฟาเอลกลิ้งตกโซฟาแต่ร่างบางก็กลิ้งตามลงไปด้วย เพราะชายหนุ่มไม่คิดจะปล่อยร่างบาง “ตุบ” “โอ๊ย...น้ำผึ้งจะดิ้นทำไม เห็นมั้ยว่าพี่เจ็บ” ราฟาเอลโอดครวญ แต่แววตานั้นแพรวพราวจนน่าหยิก
หนุ่มวิศวะปีสี่ที่ได้ฉายา เสือยิ้มยาก เขาผู้ไม่เคยยิ้มให้ใครแต่กลับยิ้มให้เธอเห็นเพียงคนเดียว จากคนที่ไม่คิดจะรักใครแต่กลับรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น มารู้ตัวอีกทีก็ไม่อยากเป็นแค่รุ่นพี่แล้วแต่อยากเป็น(ผัว)
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’
เมื่อน้องสาวฝาแฝดแสนอ่อนแอต้องแต่งเข้ามาเป็นฮองเฮาเพื่อมาสืบเรื่องราวการตายของวงศ์ตระกูลที่แท้จริง และได้มาเจอกับฮ่องเต้ที่มีปมฝังใจจนกลายเป็นคนขี้ระแวง แฝดผู้พี่จึงต้องปลอมตัวเป็นน้องสาวเพื่อมาจัดการกับสนมที่ข่มเหงน้องสาวฝาแฝดของนางและต่อกรกับฮ่องเต้ที่ไม่สนใจใยดีฮองเฮาของตนเอง แถมยังต้องตามสืบหาความจริง แต่นางจะสามารถทำได้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจไว้จริงหรือ?
“ปล่อยหยกนะคุณโตก คุณทำบ้าอะไรคะ” หญิงเรียบร้อยโวยวายทุบตีเขาและดิ้นรนให้เขาปล่อยแต่ก็ดิ้นเสียแรงเปล่าเมื่อเขากอดรัดเธอแน่นกว่าเดิม พร้อมกับฟาดตีก้นของเธอแรงๆ หลายครั้งติดต่อกันจนเจ็บน้ำตาเล็ด “อยากก็บอกผัวสิ ไปอ่อยไอ้หมอคมนั่นทำไม” ปัง! เท้าใหญ่ยกถีบประตูห้องทำงานตัวเองให้เปิดออก และเมื่อเปิดออกแล้วก็ถีบปิดแรงๆ กลับ ปัง! “พูดบ้าอะไรของคุณคุณโตก มันเรื่องส่วนตัวของหยก หยกจะอ่อยใครก็ได้ จะคุยกับใครก็ได้”
หล่อนถูกส่งมาบรรณาการในฐานะทาสบำเรอความใคร่ เพื่อแลกกับหนี้สินก้อนโต นอนกับเขาจนกว่าเขาจะเบื่อ แล้วเมื่อนั้นแหละหน้าที่บำเรอบนเตียงของหล่อนจึงจะหมดไป พะแพง ถูกส่งตัวมาเป็นนางบำเรอให้กับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส หน้าที่ของหล่อนคือทำให้เดมอน ลินการ์ด มีความสุขที่สุดยามอยู่บนเตียง หล่อนก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ไม่นานเขาก็เบื่อหน่าย ขับไล่ไสส่งหล่อนออกไปจากชีวิต ข่าวงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยและแสนคู่ควรดังก้องคับแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนต้องหลบอยู่ในซอกหลืบของความมืดมิดเพื่อซ่อนเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้อย่างรวดร้าวทรมาน
วังวนแห่งกามราคะ หากเผลอกายถลำใจ ก็ยากนักจะถอนตัว ยิ่งอยากหยุดกลับยิ่งโหยหาลุ่มหลง เพียงสบตา ก็เปียกแฉะร้อนฉ่าไปหมดแล้ว... ++++++++++++++++ EX 1 : “ พี่อาร์มขา ” “ ขา ” “ เราควรจบแค่นี้ หยุดมัน แล้วปล่อยเรไปเถอะนะคะ ” เธอวอนขอเขาอย่างหมดท่า แต่สุ้มเสียงกระเส่าสั่นกับร่างกายที่กำลังอ่อนระทวยมันขัดกับคำพูดเหลือเกิน เธอถูกรั้งเข้าสู่อ้อมอกกว้าง และถูกเขาซุกไซ้ไปทั่วซอกคอ ดมดอม ดูดเม้ม ขณะที่มือหนึ่งล้วงเข้าใต้ชายเสื้อ อีกข้างสอดซุกลงในขอบกระโปรง “ พี่อาร์ม ได้ยินที่เรพูดไหมคะ ” “ ได้ยินค่ะ ” “ ได้ยินแล้วทำไมไม่หยุด ” “ เรอยากให้พี่หยุดจริงเหรอ ” “ จริง... จริงสิคะ ” “ ถ้าอยากให้พี่หยุดจริง มือเรคงไม่กุมเป้ากางเกงพี่แน่นขนาดนี้หรอก ” ................................... EX 2 : เธอซ่านเสียวจนหูอื้อตาลายเมื่อถูกความแข็งแกร่งโอฬารทั้งสามทะลวงลึกทั้งรูหน้า รูหลัง และโพรงปาก ลีลากระทั้นบั้นเด้าที่ไม่มีใครยอมใคร เข้าสุด ออกสุด หนักแน่น ถาโถมจนไม่ได้หายใจหายคอ ส่งเธอสู่จุดหมายปลายทางนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่พวกเขาจะหลั่งในตัวเธอบ้าง เสียงคำรามลึกแหบห้าวประสานเมื่อพบกับความสุขสมอันร้อนเร่า น้ำใคร่ขาวขุ่นเอ่อล้นในทุกรูร่อง แต่ยัง พวกเขายังไม่พอ ราตรีบนรถทัวร์นี้ยังอีกยาวไกล คืนครบรอบแต่งงานทั้งที ต้องจัดของขวัญให้ภรรยาคนดีอย่างสาสม !
© 2018-now MeghaBook
บนสุด