ชายหนุ่ม ขาตาย กลายเป็นหมดเรี่ยวแรงจะฝืนยืน ลนลานจนเข่าทรุดกระแทกพื้น ยกมือสั่นไหว้ซุกหน้าหลับตาหนีภาพศพสยองสีโชกเลือด สำลักสำนึกผิด
“…ผะผม….ขะ ขอโทษ ผมไม่ตั้งใจจริง ๆ มันเป็นอุบัติเหตุ ยะยกโทษให้ผมเถอะ ผมจะทำบุญอุทิศกุศลไปให้นะ อย่ามาหลอกหลอนผมเลย ขอโทษจริง ๆ ครับ” ชายหนุ่ม
“ไม่มีวัน แกต้องชดใช้อย่างสาสม แกฆ่าฉัน แกพรากความรักของเรา ฉันจะไม่ผุดเกิด ฉันจะจองเวรแกจนกว่าแกจะรับกรรมที่ทำกับเรา แก…ต้องงง…ตายยย” ผีสาวย้ำสยอง
แล้วร่างผีสาวลอยพุ่งเข้าหา มาปะทะตาโพลงซึ่งหน้าชายหนุ่ม เลือดข้นคลัก ๆ กระฉอกจากร่างศพสาวที่หยุดกึก สาดเข้าเต็มหน้าอาบตัวเขาจนเปียกหนืด ย้อยหยดแดง
“…ว๊าาาก ไม่ อย่างทำผมเลย กะกลัวแล้ววววว” ชายหนุ่มผงะหงาย มือเท้าตะกายพื้น พุ่งร่างไปอีกฝั่งห้อง หมายหนีออกจากตรงนี้ไปไหนก็ได้ที่จะพ้นนังผีร้าย แต่คราบเลือดที่เจิ่งนองพื้นยังไล่หลังตามเขาไปติด ๆ ทุกย่างก้าว ไม่ว่าจะก้าวด้วยเท้าหรือมือ จ้ำเหนียวเหนอะบนพื้นท่วมเลือดจนตะกายสีขาลื่นล้มแล้วลนลานลุกลนอีก ก็ยังไม่พ้นทะเลเลือดเธอ
นังผีร้าย ยังพุ่งตาโพลงแค้นจ้องไล่หลังไหล่เขาไปติด ๆ
นั่น...! หน้าต่าง...ทางออก
เขา...เค้นแรงเฮือกที่เหลือ ถีบตัวเองพุ่งกระโจนใส่บานหน้าต่าง จนร่างลอยออกห่างจากนังผีร้าย...พ้นแล้ว
แต่...
!!!…นี่มันตึกชั้น 6
“ฮะฮ่า ๆๆๆ ตายตกไปตามกัน” เสียงนังผีร้ายยังลอยหลอนหู ตอนที่เขานึกขึ้นได้ในระหว่างเสี้ยววินาที...คว้างลอย...ก่อนที่ร่างจะดิ่งลง
...ปั๊ก
…แรงกระแทก ทำสำนึกที่หลอน วูบดับ
...
“ไปโดนอะไรมา ครั้งนี้เจ็บตัวกว่าคราวก่อนอีก ดีนะไม่กระทบระบบประสาทสั่งการ” หญิงสาว อีกคน เอ่ยถามที่ปลายเท้า
ภาพหญิงสาวในชุดกราวด์ที่คุ้นเคย ภาพหมอแพท ค่อย ๆ เลื่อนซ้อนรวมเป็นภาพเดียวกันเมื่อเขาค่อย ๆ ปรับโฟกัสสายตา เมื่อได้สติคืนตัว พบว่าหัวหน้าของเขานั่นเองที่เอ่ยถามจากปลายเตียงคนเจ็บ
“!…ผะผี ผีหลอกครับ ผีผู้หญิงคนนั้นหลอกผมครับ บอส” เขา ยังช็อกจากอาการหลอน ก่อนจะสำรวจมองรอบตัว สายน้ำเกลือ เตียงผู้ป่วย เครื่องวัดความดันและชีพจร ที่นี่คือห้องพักฟื้น ที่นี่คือที่ทำงานเขาเอง
“ผีเผอที่ไหนกัน วรุฒ นี่เธอเป็นเลขาฉันนะ เป็นผู้ช่วยนักวิทยาศาสตร์ เรื่องแบบนี้ออกจากปากคนสายงานอย่างเราได้อย่างไร แต่…เดี๋ยวนะ นี่เธอกลัวผี ได้ด้วยเหรอ” หมอแพท นักวิทยาศาสตร์หญิง ถามซักฟอกทันทีที่เขาตื่นสติ
“…อ้าว ก็กลัวสิครับ ผีนะ ใครไม่กลัวบ้าง ผมเจอจริง ๆ นะครับ ผีมีจริงครับบอส ก็ผีผู้หญิงคนที่เป็นคู่รักของ ผอ.ธงชัย ที่ประสพอุบัติเหตุเมื่อคืนก่อนนะครับ เคสที่เราเกือบกลายเป็นคู่กรณีไงครับ วิญญาณผู้หญิงคนนั้นคงตามแค้นผม ตามหลอกผม” เลขาวรุฒ ยืนยัน
“…เรื่องนั้นไว้ก่อน งั้นที่นายตกจากหน้าต่างห้องแล็ป ก็ไม่ใช่อุบัติเหตุจริง แต่เกิดจากอาการกลัว…ผี…แน่นะ” หัวหน้าสาว ถามหาสาเหตุ
“ครับ ก็ผมหนีเธอ แล้วคราบเลือดพวกนั้นล่ะ เลือดนองเต็มห้องแล็ปเลยครับบอส คราบเลือดนั่นยืนยันได้” เลขาวรุฒ ยังจำได้ติดตา
“ไม่…ไม่มีคราบเลือดอะไรทั้งนั้น มีแต่เอกสารกระจัดกระจาย อุปกรณ์แตกหักเสียหาย หน้าต่างบานใหญ่ก็ด้วย และที่ยืนยันได้ดีกว่าคำพูดเธอ ก็ภาพจากกล้องวงจรปิดบอกว่าเธอมีปฏิกิริยาตอบสนองกับบางอย่าง แต่ในภาพฉันไม่เห็นใครนอกจากเธอ จึงสรุปได้อย่างเดียวว่า อาการเธอเหมือคนเห็นภาพหลอน นี่มัน...เป็นไปได้อย่างไรกัน” หมอแพท บอสสาว กอดอกถามเอาความจริง อย่างจริงจัง
“แต่สำหรับผม มันไม่ใช่ภาพหลอนแน่ ๆ ครับ” เลขาวรุฒ ชักขัดข้องใจ ทำไมหัวหน้าไม่เชื่อคำพูดเขาบ้างเลย ก็เขาเจอวิญญาณเธอคนนั้นจริง ๆ
“นี่ วรุฒ นายพักก่อนละกัน ระหว่างนี้ก็ทบทวนให้ดี ๆ ว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุคราวนี้...ผี...เพ้อเจอ หรือเธอรวนไปเอง และอย่าลืมว่าเธอเป็นผู้ช่วยของหัวหน้าทีมวิจัยชีวะเทคโนโลยี และเรากำลังทำโครงการวิจัยอะไหล่ชีวนะ ฉะนั้น อย่าเอาเรื่องผีสางไปป่าวประกาศให้ใครได้ยินจากปากเธอล่ะ ห้ามเด็ดขาด" หมอแพท มองพิจารณาลูกน้องตัวเอง ถี่ถ้วน
“แต่…” วรุฒ จะยกข้อโต้แย้ง
"…นี่เป็นคำสั่ง" บอสสาว สะกดอารมณ์ ก่อนเปล่งเสียงแสดงอำนาจ...สั่งการ
“ครับ...บอส” เลขาวรุฒ โดนดุซึ่งหน้า ได้แต่คิดค้านในใจ เก็บซ่อนอาการ
“…ผีหลอก…ภาพหลอน…งั้นเชียว” หมอแพท ถอนใจระบายบ่น ก่อนเดินออกจากห้องพักพื้น เธอไม่ลืมจะเอื้อมไปปิดสวิทซ์ไฟให้เลขาวรุฒได้พักสายตา
“…เออ เปิดไฟไว้เถอะครับ…บอส” เลขาวรุฒ ร้องห้าม
“…” หมอแพท ค้างมือที่สวิทซ์ หันจ้องมองหน้าเลขาส่วนตัว มองนิ่งจริงจัง
“…” วรุฒ หลบสายตามุ่งมั่นคู่นั้น แล้วบ่ายตาไปตามซอกมุมห้อง ในใจยังนึกหวั่นเกรงกับสิ่งลี้ลับที่เพิ่งได้เจอกับตัวเอง…ผี ผีที่ทำให้เขาตะกายหน้าต่างหนีจนตกจากชั้น 6 เจ็บตัว…ก็เตียงที่นอนอยู่นี่เป็นห้องพักเขาเอง ที่ชั้น 8 …ตึกเดียวกัน
ปั้ง…เสียงประตูกระแทกปิด
ทำเอาเลขาวรุฒสะดุ้งกับเสียงดัง สำนึกรับรู้ทันทีว่าหัวหน้าไม่พอใจกับความผิดพลาดและอาการหวาดกลัวของเขา แต่ผีสาวคนนั้น…น่ากลัวจริง ๆ นี่นา เจอซึ่งหน้าจนเจ็บตัวอย่างนี้แล้วยังจะไม่ให้เชื่อกันอีก ไม่ให้กลัว ไม่ไหวแล้ว
หมอแพท นักวิทยาศาสตร์สาวใหญ่ เก่งรอบจัด เป็นหัวหน้าทีมวิจัยและเจ้าของตึกหลังนี้ ศูนย์วิจัยโครงการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อชีวนะ
แม้ใคร ๆ ในสายงานจะเคลมว่าเธอเป็นอริกับสังคม ความร้ายของเธอแม้เป็นที่รับรู้กันดีในหมู่นักวิทย์ด้วยกัน และเรื่องที่เธอดูแคลนพวกศาสตร์ลี้ลับถึงขึ้นแอนตี้พวกหัวงมงาย ก็เป็นอีกภาพ
ร้าย ๆ ประจำตัวเธออยู่แล้ว แต่เคสแบบนี้…ดันมาเกิดกับผู้ช่วยส่วนตัวของเธอเนี่ยนะ
หมอแพท ยังยืนนิ่งพิงหลังประตูห้องพักฟื้น ในโถงทางเดินใต้แสงสลัว เงยมองหลอดไฟหรี่แสงอ่อน ช่วยซ่อนสีหน้าของเธอที่กำลัง…กระหยิ่มยิ้ม เงียบ ๆ
รับรู้อยู่แก่ใจคนเดียว แอบดีใจที่เห็นว่าเลขาของเธอ เลขา
วรุฒ…กลัวผี
“หุ่นยนต์…กลัวผี” หมอแพท ย้ำกับตัวเอง
แสดงว่า ระบบการประมวลผลด้านอารมณ์ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์ขึ้นมาอีกมิติแล้วสิ ในด้านที่คิดไม่ถึงซะด้วย
“…ภาพหลอน เห็นภาพหลอนด้วยเหรอ…ฮึๆ” หมอแพท ยิ้มในเงามืด