รุ่นพี่ที่ฉันแอบชอบ เค้าได้ทั้งจูบแรก และความบริสุทธ์ของฉันไป ควรจะดีใจหรือเสียใจดีนะ
รุ่นพี่ที่ฉันแอบชอบ เค้าได้ทั้งจูบแรก และความบริสุทธ์ของฉันไป ควรจะดีใจหรือเสียใจดีนะ
"ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง 09:10 นาที "
เช้าอันแสนวุ่นวายของฉันเห้อ..ง่วงจังอยากกลับห้องแล้ววว โอ๊ะ!!ลืมแนะนำตัวสวัสดีฉันชื่อ ณิชา พิทักษ์สกุล หรือเรียกง่ายๆว่า มีมี่ อายุ22ปี เรียนสาขาวิชาช่าง (ใช่ค่ะช่างไฟ) 555 แปลกๆ ใช่มั้ยล้าา เพราะผู้เยอะ ฉันเลยเลือกเรียนสายนี้ ≧∇≦ ฉันมีเพื่อนสนิท ชื่อมายด์ เรียบร้อยน่ารักตัวก็นุ่มนิ่ม ขาวสวยตากลมๆ ริมฝีปากน่าจุ๊บ ≧ω≦ ถ้าฉันเป็นผู้ชายฉันก็คงแอบรัก 555
" ยัยมี่ ทางนี้ "
ฉันมองตามเสียงยัยเพื่อนรักที่นั่งรอฉันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
" มาเร็วกว่าฉันอีกนะแก "
ฉันเอ่ยทักเพื่อนสาวเพราะชีมาไวจริงๆ ^o^
" แกมาช้าเองงง "
มายด์ทำหน้าซังกะตายใส่ฉัน ผู้มาช้าตลอด ~_~
" ฉันหิวแล้วอ่ะ ไปหาข้าวกินกัน "
แล้วเราสองคนก็พากันเดินไปร้านข้าวข้างๆ วิลัย ที่เป็นร้านประจำของเราสองคน หลังจากกินข้าวกันเสร็จฉันก็แวะคาเฟ่ที่ฉันชอบมากที่สุดของที่สุด เพราะว่าเป็นคาเฟ่น้องแมว แล้วก็มีพวกเครื่องดื่ม เค้ก ขนมเยอะแยะไปหมด แถมน้องชายพี่เค้าหล่อมากกก แถมเป็นหนึ่งในสามหนุ่มฮอตของสาวๆ ในมออีก ≧∇≦ เห้อ!!!จะมีวาสนาได้ควงแขนเค้ามั้ยน๊าาาา..
" เอาเหมือนเดิมค่ะพี่มินตัน "
ฉันบอกพี่มินตัน พร้อมมองหาน้องชายเค้า
" มายด์เอาแบบมี่ค่ะ (⌒o⌒) "
"ตาเหนือไม่อยู่หรอก ออกไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว"
" อ่อ..ค่ะ "
ฉันรับน้ำจ่ายตังเรียบร้อยแล้วก็พากันกลับวิลัยเพราะใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วระหว่างจะเดินขึ้นบรรได ฉันเดินชนกับใครก็ไม่รู้
ปึก~
ก้นจ้ำเบ้าเลยฉัน อ่าา~~เจ็บชะมัด ยัยมายด์รีบมาช่วยพยุงฉันขึ้นยังไม่ทันจะอ้าปากพูดอะไรเลย เสียงคนอีกฝั่งก็ตะโกนใส่ฉัน
"เดินบ้าอะไรของเธอกาแฟหกใส่เสื้อฉันเปื้อนหมดแล้วเนี่ย -_-# "
ฉันรีบเงยหน้ามองคนตรงหน้า ⊙_⊙ พี่เหนือ!! ซวยแล้วฉัน
" เอ่อ..ขะ ขอโทษค่ะ "
มัวแต่ดูโทรศัพท์ไม่ได้มองทางจนชนพี่เหนือเข้าให้ แถมกาแฟหกเปื้อนเสื้อพี่เค้าอีก ตาย ตายแน่ฉัน (。ŏ_ŏ)
"เซ่อซ่า!! เดินไม่ดูทาง ทีหลังแหกตาดูทางซะบ้าง "
" ขอโทษแทนเพื่อนหนูด้วยนะคะพี่ "
ยัยมายด์กล่าว แล้วก็มีเพื่อนพี่เหนือตามมาอีกสองคน
" มีอะไรวะใอเหนือ (~_^) "
พี่เฟิร์สกับพี่ไนท์ถามพร้อมมองเสื้อเพื่อนที่เปื้อนกาแฟ
" ก็ยัยนี่ดิ เดินไม่มองทางชนกาแฟหกใส่เสื้อกู "
พี่เหนือตอบและถอดเสื้อออกก่อนจะโยนใส่หน้าฉัน °Д°แกรรรร!!! หุ่นพี่เค้าปังมากกก เนื้อแน่น หน้าท้องเป็นลอนๆ ขาวโอ๊ยยยยย!!
" เห้ย!! "
หนุ่มๆทั้งสามคนร้องเป็นเสียงเดียวกันเพราะฉันเลือดกำเดาไหล ≥3≤
"แก!!ใอมี่เลือดกำเดาแกไหล Σ (゚Д゚;)"
ฉันรีบเอามือจับจมูกสวยๆ เออเลือดไหล ( ̄へ ̄)
"พาเพื่อนเธอไปห้องพยาบาลดิ ยืนเซ่ออยู่ทำไม "
พี่เหนือกล่าวแล้วหยิบเสื้อสำรองในเป้ออกมาใส่ แล้วทั้งสามคนก็เดินหายเข้าตึกไป
" แกไหวมั้ยเนี่ย "
" ไหวแกแค่ตะลึงหุ่นพี่เค้า (≧∇≦) "
ฉันบอกเพื่อนแล้วมองเสื้อที่เปื้อนกาแฟของพี่เหนือ คนอะไรหุ่นดีชะมัด หลังจากฉันจัดการเลือดที่ไหลเรียบร้อย ก็พากันไปเรียน แต่เรียนไม่รู้เรื่องเลยฉัน มีแต่หุ่นพี่เหนือฟุ่งเต็มไปหมดในหัว 5555
#เหนือ
เวรกรรมอะไรของผมวะเดินลงบรรไดมาดีๆ ก็มียัยบ้าที่ไหนก็ไม่รู้เดินมาชนแถมกาแฟหกเปื้อนใส่เสื้ออีกแม่ง!! หงุดหงิดก็ถอดเสื้อโยนใส่ไปสิ แต่ยัยบ้านั่นดันเลือดกำเดาไหลซะงั้น ผมก็เลยบอกให้เพื่อนยัยนั่นพาไปห้องพยาบาล พอบอกเสร็จผมกับเพื่อนก็พากันขึ้นไปเรียน อ้อ!! ผมชื่อเหนือ คณะวิศวะ เป็นลูกชายคนที่สองของบ้าน พี่สาวผมเปิดคาเฟ่แมวพร้อมทั้ง ขนม นม เนยเค้ก เครื่องดื่มต่างๆ อยู่ข้างมอหรูหราหมาเห่ามาก ที่บ้านก็รวยไม่รู้จะเปิดทำเองทำไม ผมชอบมานอนเล่นที่ร้านของพี่สาวเพราะมีแมว555 มากกว่ากลับไปคอนโดตัวเอง
ผมมีหุ้นที่ผับกับเพื่อน ก็มักจะแวะไปนั่งประจำ มีสาวๆ ติดผมมากมาย แต่ผมไม่สนใจใครทั้งนั้นแค่ควงเล่นไปวันๆไม่คิดจริงจังหรือคบเป็นตัวเป็นตน เพราะผู้หญิงหน้าลำคานจะตายไป...
พักเที่ยง...
"ใอมี่เสื้อพี่เค้าแกจะเอายังไง"
ยัยมายด์ถามฉัน
"ก็คงต้องเอาไปซักคืนพี่เค้าดิ "
ฉันตอบพลางมองเสื้อในถุงกระดาษ
" เลิกเรียนแล้วแกไปไหนต่อ "
" ไปกินชาบูกันมั้ยแก "
"ไปดิ แต่ฉันขอเอาเสื้อพี่เค้าไปร้านซักก่อน "
ฉันตอบเพื่อนแล้วเดินไปที่รถขับไปร้านซักแถวห้างจะได้รับเสื้อกลับทีเดียวเลย พอเดินเข้าร้าน ตาก็ดันดีหันไปเจอพวกกลุ่มพี่เหนือเดินควงสาวนมโตๆ กันทั้งนั้นเลย ชิ!! (¬_¬) พ่อเทพบุตร ควงไม่ซ้ำหน้าแต่ละวัน
" ใอเหนือ นั่นใช่น้องคนที่เดินชนมึงเมื่อเช้าใช่ป่ะ"
พี่เฟิร์สถามพี่เหนือก็มองมาที่ฉันกับเพื่อน แบบไม่สบอารมณ์หน้ากลัวชะมัดเลย แล้วพี่เค้าก็เดินมาทางฉัน (ŏ_ŏ)
" หายเซ่อรึยังยัยบื้อ -_-|| "
"คะ ค่ะ เสื้อพี่ มี่เอาไปส่งซักแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้มี่เอาไปคืนพี่ที่ร้านนะคะ "
" อืม มีความรับผิดชอบดีหนิ ¬_¬ "
แล้วพี่เหนือก็เดินไปเลย เย็นชาชะมัด
ฉันกับมายด์เดินเข้าร้านนั่งกินชาบูอย่างสบายใจ
"นี่แกก็ชอบพี่เค้ามาเป็นปีแล้วนะไม่คิดจะบอกเค้าหน่อยหรอ "
มายด์เอ่ยถามฉัน ฉันได้แต่เงียบไม่ตอบก้มหน้าก้มตากิน ใช่ฉันชอบพี่เหนือมาสองปีแล้วแต่ไม่กล้าบอกพี่เค้าเพราะว่าพี่เหนือควงสาวไม่ซ้ำหน้า แล้วก็ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ละคนหน้าตาดีเซ็กซี่กันทั้งนั้น ขาว สวย หมวย เอ็กซ์มาก ต่างจากฉันได้แค่ขาว จมูกโด่ง หน้าอกนี่เทียบไม่ติดเลยได้แต่มองดูเค้าอยู่ห่างๆ เหมือนสต๊อกเกอร์เลยฉัน >_< พี่เค้าเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ ผมสีน้ำตาล ดวงตาคม สันจมูกโด่ง ผิวขาว สูงหุ่นดีเลยแหละ มีแต่สาวๆ ติดหนึบที่พร้อมจะพลีกายให้ หลังจากกินชาบูกันเสร็จแล้ว ฉันก็ขับรถไปรับเสื้อพี่เหนือ แล้วก็ไปส่งยัยมายด์ก่อนค่อยกลับคอนโด พอถึงคอนโดฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเตรียมจะนอน เพราะวันนี้เหนื่อยมาก ไหนจะสร้างเรื่องไว้กับพี่เหนือไว้อีก ฉันนอนมองเสื้อนักศึกษาของพี่เหนืออยู่พักนึง ก่อนจะนอนดูโทรศัพท์ไปเรื่อย เอ๋!!พี่เค้าออนไลน์ด้วย (⌒o⌒) แล้วอยู่ๆ พี่เค้าก็ทักมา
ติ๊ง~
เหนือ : ยัยเซ่อ พรุ่งนี้อย่าลืมเอาเสื้อมาคืนฉันด้วย
มีมี่ : ค่ะ
เอิ่มก็ไม่วายทวงเสื้ออ่ะเนอะมีตัวเดียวรึไงกัน (¬_¬) แล้วฉันก็ปิดหน้าจอโทรศัพท์นอน
-รุ่งเช้า
ร่างบางยังคงหลับไหลอยู่บนที่นอนนุ่มๆ
08.30 นาที
ติ๊ง~
มายด์มิ้นท์ :แกตื่นยัง
10นาทีต่อมา ฉันตื่น เปิดดูโทรศัพท์ ใครส่งอะไรแต่เช้า
มีมี่ :ว่าไงแก ตื่นแล้ววว
มายด์มิ้นท์ :แกเอาเสื้อไปคืนพี่เหนือยัง
มีมี่ :ยังอ่ะ เดี๋ยวฉันอาบน้ำเเต่งตัวเสร็จแล้วจะออกไปที่ร้านพี่มินตัน
มายด์มิ้นท์:จะโดนพี่เค้าแหกอกอีกมั้ยแกเนี่ย (~_^)
จบสนทนาฉันก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเอาเสื้อไปคืนที่ร้านพี่มินตัน
-ร้านพี่มินตัน
" หวัดดีค่ะพี่มินตัน "
ฉันทักพี่มินตัน
"อ่าวน้องมี่ รับอะไรดีคะ (⌒o⌒) "
"เอ่อคือ มี่จะฝากเสื้อคืนพี่เหนือหน่อยค่ะ พอดีเดินชนพี่เค้ากาแฟหกใส่เมื่อวาน"
"อ่อ..โอเคค่ะ^_^ "
แล้วฉันก็ขอตัวกลับกำลังจะขึ้นรถก็ดันเจอกับพี่เหนือ แล้วเค้าก็มองและเดินมาทางฉัน เอาไงดีใอมี่เอ้ย จะโดนแหกอกมั้ยเนี้ย
"เอ่อ..หวัดดีค่ะมี่ฝากเสื้อไว้ที่พี่มินตันแล้วนะคะŏ_ŏ"
ฉันเอ่ยบอกพี่เหนือ
"เออแล้วทีหลังก็หัดมองทางบ้างไม่ใช่ดูแต่โทรศัพท์ -_-+ "
พี่เค้าบ่นฉันแต่อยู่ๆ เค้าก็ดันตัวฉันให้ติดประตูรถ แล้วโน้มหน้าหล่อๆ เค้าลงมาประกบริมฝีปากนุ่มๆ ของฉัน Σ (⊙▽⊙")ฉันตกใจมากถึงมากที่สุด พี่เค้าจูบฉันค่ะแกรร!!
"ค่าซักเสื้อฉัน ツ"
พี่เหนือบอกแล้วเดินไปหน้าตาเฉย ทิ้งให้ฉันยืนเอ๋ออยู่คนเดียว จูบแรกของฉัน พี่เค้าขโมยจูบแรกฉันไป ควรดีใจหรือเสียใจดีว่ะ O_O
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
“ฉันไม่ชอบเธอ! อย่าเข้ามายุ่งกับฉันอีก” “ชะเอมก็ไม่เคยคิดที่จะชอบคนอย่างพี่เหมือนกัน แต่ที่ทำก็เพราะ..”
มีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาได้ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่นั้นได้ดีที่สุดก็คือยมทูตรับส่งวิญญาณ เขารีบตามหาวิญญาณของเธอเพื่อพากลับเข้าร่างโดยเร็วที่สุด แต่ทุกอย่างก็สายเกินแก้เพราะเขาเจอเธอเมื่อร่างของเธอถูกเผาไปแล้ว ทางเดียวที่จะแก้ไขความผิดก็คือต้องส่งเธอกลับไปในร่างของคนอื่นที่เพิ่งหมดลมหายใจ และด้วยเหตุผลที่เธอเรียกร้องบางประการ จึงทำให้เธอได้กลับไปเกิดใหม่ในรัชสมัยของราชวงศ์หมิง ในร่างของหญิงสาววัย 19 ปีนามว่า "เฟิ่งต้าชวี่" แต่ "เฟิ่งต้าชวี่" ไม่ใช่ดรุณีแรกแย้มไร้เจ้าของ นางเป็นพระชายาที่แสนบริสุทธิ์ของแม่ทัพผู้เกรียงไกร "อ๋องใหญ่เกาหรงซาน" พระชายาที่เขาเขียนหนังสือหย่าทิ้งไว้ในห้องหอตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน แต่เพราะความรักและหน้าที่ของสตรีชาวฮั่น นางจึงทนอยู่อย่างปวดร้าวในตำหนักของเขาตลอด 2 ปีก่อนจะตรอมใจตาย
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY