หญิงสาวยิ้มอย่างได้ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ “ไม่เป็นไร รอให้คืนนี้เธอแต่งงานกับไอ้สวะนั่นไปก่อน ต่อไปก็จะไม่มีใครมาขัดขวางการคบหากันของพวกเราได้อีกแล้ว~”
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความรักอันลึกซึ้ง แล้วก็กอดกันนัวเนีย......
ตรงช่องของประตู ใบหน้าของชูเหอซีดเผือด เธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เธอได้เห็นเลย
แฟนของเธอ กำลังมีอะไรกันอยู่กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวของเธอ!
“ปัง!”
ทั้งสองคนที่กำลังพลอดรักกันอยู่อย่างดุเดือดตกใจสะดุ้งโหยง
ก่อนที่จ้าวชูหมิงจะทันได้โต้ตอบ หัวของเขาก็ถูกแจกันทุบจนแตกไปแล้ว
สู่ยชูเย่วกรีดร้องขึ้นมา แล้วก็รีบวิ่งไปปะทะกับชูเหอ “เธอเป็นบ้าไปแล้วรึไง? ชูหมิงไม่ได้ชอบเธอมาตั้งนานแล้ว แต่ที่เขาไม่เลิกกับเธอ เป็นเพราะความรับผิดชอบเท่านั้นแหละ! เธอหยุดบ้าได้แล้ว!”
“เรื่องของฉันกับเขา ไม่จำเป็นต้องให้คนที่เป็นมือที่สามอย่างเธอมาออกความเห็น!” ชูเหอผลักเธอออกไปอย่างเย็นชา แล้วก็มองไปที่จ้าวชูหมิง “จ้าวชูหมิง ฉันต้องการให้คุณเป็นคนพูดด้วยตัวเองว่าคุณกับสู่ยชูเย่วมีอะไรกันมานานแล้วรึยัง?”
จ้าวชูหมิงหลบสายตา “........ ผมขอโทษนะ ชูเหอ”
หัวใจของชูเหอเหมือนกับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ เธอเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว
เธอกำฝ่ามือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือและมีรอยเลือดขึ้นมา “จ้าวชูหมิง คุณไม่รู้สึกผิดต่อฉันบ้างเลยเหรอ? คุณลืมไปแล้วเหรอว่าใครที่เลี้ยงดูคุณมาสามปี แล้วก็พาคุณออกมาจากห้องใต้ดิน ไปซื้อบ้านเป็นของตัวเองน่ะ? ?”
ในตอนท้าย เธอตะโกนออกมา
จ้าวชูหมิงหลบสายตาเธอด้วยความรู้สึกผิด ได้แต่เอามือกุมหัวเอาไว้ในความเงียบ
สู่ยชูเย่วที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเยอะเย้ยขึ้น ก่อนจะพูดว่า “เธอคิดว่าถ้าเธอเอาเรื่องความสัมพันธ์มาพูด ชูหมิงจะเปลี่ยนใจอย่างนั้นเหรอ?”
ชูเหอยิ้มอย่างเฉยชา “ฉันจะอยากให้เขาเปลี่ยนใจไปทำไม? ผู้ชายที่เป็นแมงดาแบบนี้ก็แค่ขยะที่ต้องคอยแอบอยู่ข้างหลังผู้หญิงเท่านั้นแหละ ฉันต้องขอบคุณเธอด้วยซ้ำที่รับเขาไว้”
สู่ยชูเย่วแทบจะกระอักเลือดเลยทีเดียว
นี่มันหมายความว่าเธอเป็นถังขยะอย่างนั้นเหรอ?”
สู่ยชูเย่วโกรธมากจนกัดฟันกรอด “ฉันอยากจะดูนักว่าเธอจะทำตัวเย่อหยิ่งไปได้อีกนานแค่ไหน คุณแม่คงจะรู้แล้วสินะว่าเธอหนีการแต่งงานไปน่ะ?”
สีหน้าของชูเหอเปลี่ยนไปทันที
การแต่งงานครั้งนี้ ความจริงแล้วไม่ควรจะเป็นเธอด้วยซ้ำ
ความจริงแล้วคน ๆ นั้นระบุชื่อมาเลยว่าต้องการแต่งงานกับสู่ยชูเย่วที่เป็นลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลสู่ย ส่วนเธอ เธอเป็นเพียงลูกสาวบุญธรรมที่แม่ฝากฝังให้ตระกูลสู่ยเลี้ยงดูมาหลายปีแล้วเท่านั้น
ในช่วงบ่าย ตอนที่เจียงอิงซึ่งเป็นคุณนายตระกูลสู่ยเรียกเธอไปดื่มน้ำชา หลังจากดื่มชาไปแก้วนึง เธอก็หมดสติไป
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็สวมชุดแต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังกำลังนั่งอยู่ในห้องจัดงานแต่งงานที่แปะคำว่า ยินดี สีแดงตัวใหญ่เอาไว้ด้วย
เจียงอิงกำลังพูดอยู่นอกประตูว่าให้เธอแต่งงานกับไอ้คนเสเพลคนนั้นแทนสู่ยชูเย่ว ถือเป็นการทำตามสัญญาการแต่งงานที่ตกลงกันโดยคนรุ่นก่อนของทั้งสองตระกูล
ซึ่งแน่นอนว่าชูเหอไม่ยอม
มีข่าวลือว่าคนเสเพลคนนั้นชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาท ดื่มสุรา เล่นการพนันและทำความชั่วทุกรูปแบบ ตอนแรกที่การหมั้นหมายนี้ถูกกำหนดมาเป็นสู่ยชูเย่ว เธอก็ร้องห่มร้องไห้หนักมาก บอกว่ายอมตายดีกว่า และจะไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาด
แล้วตอนนี้เธอจะยอมได้อย่างไรล่ะ?
เธอจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะกระโดดออกไปนอกหน้าต่างและจากไป แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่า......
ความโกรธ และความโศกเศร้ายังคงอยู่ในหัวใจของเธอ เธอกำชุดแต่งงานไว้แน่นและกัดฟันกรอด
“พวกเธอจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่ต้องการแน่”
เธอหันหลังกลับ และวิ่งออกไปทันที
สู่ยชูเย่วไม่ได้ไล่ตามเธอออกไป เธอเอาเรื่องที่ชูเหอเคยมาที่นี่ไปบอกพ่อแม่ของเธอแล้ว
ในเมืองหลิง การที่ตระกูลสู่ยอยากจะจับใครสักคน มันง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก
……
ชูเหอวิ่งหนีไปไกลมาก
ทุกพื่นที่ล้วนมีคนคอยตามล่าเธออยู่
“ตึง!” เธอสะดุดก้อนหินข้างถนน ทำให้ล้มลงไปกับพื้นอย่างจนตรอก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ชายร่างใหญ่หลายคนที่อยู่ข้างหลังเธอถือกระบองไฟฟ้าไล่ตามเธอมา
ไม่ เธอจะถูกจับตัวกลับไปไม่ได้เด็ดขาด
เธอกัดฟันแล้วพยายามลุกขึ้นมา จากนั้นก็เดินโซเซ และหายไปในค่ำคืนที่มืดมิด
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ชูเหอได้วิ่งหอบหายใจเข้าไปในโกดังเก่าแห่งหนึ่ง
เธอมาซ่อนตัวอยู่ในแถบชานเมืองแบบนี้แล้ว คนกลุ่มนั้นไม่น่าจะตามทันได้หรอกมั้ง?
เธอลากร่างกายที่เหนื่อยล้าของตัวเองขึ้นไปบนชั้นสองของโกดัง แล้วก็คว้าอะไรบางอย่างกั้นประตูเอาไว้
ในที่สุดเธอก็ได้พักหายใจสักที
ทว่าหลังจากที่เธอผ่อนคลายได้ไม่นาน เธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีเสียงดังมาจากความมืด!
หนูเหรอ?
ไม่ ไม่ มันเป็นเสียงฝีเท้าของคนต่างหาก!!
ตึ้ง ตึ้ง.....
มันเป็นเสียงรองเท้าบูทหนังตอนเหยียบพื้น ในคืนที่มืดมิดเช่นนี้มันจังดังกึกก้องเป็นพิเศษ
ความรู้สึกกลัวแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอแล้ว
กล้ามเนื้อมุมปากของเธอหยุดกระตุกไม่หยุด ด้วยความที่หวาดกลัวอย่างมากเสียงของเธอจึงสั่นเครือ “คุณ คุณอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ? ขอโทษที่ฉันมารบกวนนะ ฉันจะไปแล้ว...”
ทันทีที่เธอยืนขึ้น มือใหญ่ ๆ ข้างหนึ่งก็จับเธอเอาไว้จากด้านหลัง
คบดาบเย็น ๆ สัมผัสมาที่ลำคออันบอบบางของเธอ
เสียงของชูเหอแทบจะเหือดแห้งไปแล้ว
เสียงผู้ชายที่เย็นชา ดังมาจากด้านบนของหัวเธอ
“ใครส่งคุณมาที่นี่?”