ชูเหอถูกบังคับให้แต่งงานกับนักเลงชื่อดัง น้องสาวของเธอจับมือแฟนเก่าของชูเหอแล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง "เธอเป็นแค่ลูกสาวบุญธรรม สามารถแต่งงานแทนฉันถือว่าเป็นบุญของเธอ!" ทุกคนต่างรอดูชูเหอจะใช้ชีวิตอย่างน่าสงสาร อย่างไรก็ตาม ชีวิตของชูเหอมีความเจริญรุ่งเรืองหลังจากการแต่งงาน ทุกคนที่รังแกเธอได้รับผลกรรม แม้แต่จับสลากยังได้รางวัลเป็นบ้านหลังใหญ่อีกด้วย! ชูเหอโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของสามีแล้วเอาแต่อุทานว่าเป็นสามีทำนำโชคให้ภรรยาจริงๆ กู้เฉินยิ้มอย่างอ่อนโยน "คุณเองที่โชคดีไป" จนกระทั่งวันหนึ่ง คนรักในวัยเด็กของกู้เฉินมาหา "เธอไม่คู่ควรกับเขา ฉันจะให้คุณเงินก้อนใหญ่แล้วออกไปขากเขาซะ " จากนั้นชูเหอถึงรู้ว่านี่นักเลงที่ไหนกัน เขาเป็นมหาเศรษฐีชัดๆ! คืนนั้น เธอมองไปที่มหาเศรษฐีและเสนอหย่าอย่างตัวสั่นเท้า ทว่าชายคนนั้นกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างครอบงำ "ผมจะให้ทรัพย์สินทั้งหมดของผมแก่คุณ ห้ามหย่าร้าง!"
ชูเหอกำลังจะแต่งงาน แต่เธอมีแฟนอยู่แล้ว
เธอจึงตัดสินใจที่จะหนีการแต่งงาน อยากให้แฟนหนุ่มมาพาเธอหนีไป
แต่แล้วเธอกลับได้เห็นฉากที่ทำให้เธอไม่มีทางลืมได้ไปตลอดทั้งชีวิต——
หลังประตูห้องนอนที่เปิดแง้มอยู่ มีผู้หญิงเปลือยกายกำลังนั่งค้อมอยู่บนตัวผู้ชายคนหนึ่ง และโยกตัวไปมาอย่างแรง
“อืม…… ชูหมิง สรุปแล้วคุณรักฉัน หรือว่ารักสู่ยชูเหอนั่นกันแน่?”
จ้าวชูหมิงพูดพลางหอบหายใจอย่างหนักว่า “ที่รัก ยัยทึ่งนั่นจะมาเทียบกับคุณได้ยังไง? ถ้าไม่ใช่เพราะผมกังวลว่าหากเลิกกันแล้วจะทำให้ผมต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ผมสลัดเธอทิ้งไปตั้งนานแล้ว!”
หญิงสาวยิ้มอย่างได้ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ “ไม่เป็นไร รอให้คืนนี้เธอแต่งงานกับไอ้สวะนั่นไปก่อน ต่อไปก็จะไม่มีใครมาขัดขวางการคบหากันของพวกเราได้อีกแล้ว~”
ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความรักอันลึกซึ้ง แล้วก็กอดกันนัวเนีย......
ตรงช่องของประตู ใบหน้าของชูเหอซีดเผือด เธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เธอได้เห็นเลย
แฟนของเธอ กำลังมีอะไรกันอยู่กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องสาวของเธอ!
“ปัง!”
ทั้งสองคนที่กำลังพลอดรักกันอยู่อย่างดุเดือดตกใจสะดุ้งโหยง
ก่อนที่จ้าวชูหมิงจะทันได้โต้ตอบ หัวของเขาก็ถูกแจกันทุบจนแตกไปแล้ว
สู่ยชูเย่วกรีดร้องขึ้นมา แล้วก็รีบวิ่งไปปะทะกับชูเหอ “เธอเป็นบ้าไปแล้วรึไง? ชูหมิงไม่ได้ชอบเธอมาตั้งนานแล้ว แต่ที่เขาไม่เลิกกับเธอ เป็นเพราะความรับผิดชอบเท่านั้นแหละ! เธอหยุดบ้าได้แล้ว!”
“เรื่องของฉันกับเขา ไม่จำเป็นต้องให้คนที่เป็นมือที่สามอย่างเธอมาออกความเห็น!” ชูเหอผลักเธอออกไปอย่างเย็นชา แล้วก็มองไปที่จ้าวชูหมิง “จ้าวชูหมิง ฉันต้องการให้คุณเป็นคนพูดด้วยตัวเองว่าคุณกับสู่ยชูเย่วมีอะไรกันมานานแล้วรึยัง?”
จ้าวชูหมิงหลบสายตา “........ ผมขอโทษนะ ชูเหอ”
หัวใจของชูเหอเหมือนกับถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ เธอเจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว
เธอกำฝ่ามือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในฝ่ามือและมีรอยเลือดขึ้นมา “จ้าวชูหมิง คุณไม่รู้สึกผิดต่อฉันบ้างเลยเหรอ? คุณลืมไปแล้วเหรอว่าใครที่เลี้ยงดูคุณมาสามปี แล้วก็พาคุณออกมาจากห้องใต้ดิน ไปซื้อบ้านเป็นของตัวเองน่ะ? ?”
ในตอนท้าย เธอตะโกนออกมา
จ้าวชูหมิงหลบสายตาเธอด้วยความรู้สึกผิด ได้แต่เอามือกุมหัวเอาไว้ในความเงียบ
สู่ยชูเย่วที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเยอะเย้ยขึ้น ก่อนจะพูดว่า “เธอคิดว่าถ้าเธอเอาเรื่องความสัมพันธ์มาพูด ชูหมิงจะเปลี่ยนใจอย่างนั้นเหรอ?”
ชูเหอยิ้มอย่างเฉยชา “ฉันจะอยากให้เขาเปลี่ยนใจไปทำไม? ผู้ชายที่เป็นแมงดาแบบนี้ก็แค่ขยะที่ต้องคอยแอบอยู่ข้างหลังผู้หญิงเท่านั้นแหละ ฉันต้องขอบคุณเธอด้วยซ้ำที่รับเขาไว้”
สู่ยชูเย่วแทบจะกระอักเลือดเลยทีเดียว
นี่มันหมายความว่าเธอเป็นถังขยะอย่างนั้นเหรอ?”
สู่ยชูเย่วโกรธมากจนกัดฟันกรอด “ฉันอยากจะดูนักว่าเธอจะทำตัวเย่อหยิ่งไปได้อีกนานแค่ไหน คุณแม่คงจะรู้แล้วสินะว่าเธอหนีการแต่งงานไปน่ะ?”
สีหน้าของชูเหอเปลี่ยนไปทันที
การแต่งงานครั้งนี้ ความจริงแล้วไม่ควรจะเป็นเธอด้วยซ้ำ
ความจริงแล้วคน ๆ นั้นระบุชื่อมาเลยว่าต้องการแต่งงานกับสู่ยชูเย่วที่เป็นลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลสู่ย ส่วนเธอ เธอเป็นเพียงลูกสาวบุญธรรมที่แม่ฝากฝังให้ตระกูลสู่ยเลี้ยงดูมาหลายปีแล้วเท่านั้น
ในช่วงบ่าย ตอนที่เจียงอิงซึ่งเป็นคุณนายตระกูลสู่ยเรียกเธอไปดื่มน้ำชา หลังจากดื่มชาไปแก้วนึง เธอก็หมดสติไป
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็สวมชุดแต่งงานไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังกำลังนั่งอยู่ในห้องจัดงานแต่งงานที่แปะคำว่า ยินดี สีแดงตัวใหญ่เอาไว้ด้วย
เจียงอิงกำลังพูดอยู่นอกประตูว่าให้เธอแต่งงานกับไอ้คนเสเพลคนนั้นแทนสู่ยชูเย่ว ถือเป็นการทำตามสัญญาการแต่งงานที่ตกลงกันโดยคนรุ่นก่อนของทั้งสองตระกูล
ซึ่งแน่นอนว่าชูเหอไม่ยอม
มีข่าวลือว่าคนเสเพลคนนั้นชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาท ดื่มสุรา เล่นการพนันและทำความชั่วทุกรูปแบบ ตอนแรกที่การหมั้นหมายนี้ถูกกำหนดมาเป็นสู่ยชูเย่ว เธอก็ร้องห่มร้องไห้หนักมาก บอกว่ายอมตายดีกว่า และจะไม่ยอมแต่งงานเด็ดขาด
แล้วตอนนี้เธอจะยอมได้อย่างไรล่ะ?
เธอจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะกระโดดออกไปนอกหน้าต่างและจากไป แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่า......
ความโกรธ และความโศกเศร้ายังคงอยู่ในหัวใจของเธอ เธอกำชุดแต่งงานไว้แน่นและกัดฟันกรอด
“พวกเธอจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่ต้องการแน่”
เธอหันหลังกลับ และวิ่งออกไปทันที
สู่ยชูเย่วไม่ได้ไล่ตามเธอออกไป เธอเอาเรื่องที่ชูเหอเคยมาที่นี่ไปบอกพ่อแม่ของเธอแล้ว
ในเมืองหลิง การที่ตระกูลสู่ยอยากจะจับใครสักคน มันง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก
……
ชูเหอวิ่งหนีไปไกลมาก
ทุกพื่นที่ล้วนมีคนคอยตามล่าเธออยู่
“ตึง!” เธอสะดุดก้อนหินข้างถนน ทำให้ล้มลงไปกับพื้นอย่างจนตรอก
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ชายร่างใหญ่หลายคนที่อยู่ข้างหลังเธอถือกระบองไฟฟ้าไล่ตามเธอมา
ไม่ เธอจะถูกจับตัวกลับไปไม่ได้เด็ดขาด
เธอกัดฟันแล้วพยายามลุกขึ้นมา จากนั้นก็เดินโซเซ และหายไปในค่ำคืนที่มืดมิด
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ชูเหอได้วิ่งหอบหายใจเข้าไปในโกดังเก่าแห่งหนึ่ง
เธอมาซ่อนตัวอยู่ในแถบชานเมืองแบบนี้แล้ว คนกลุ่มนั้นไม่น่าจะตามทันได้หรอกมั้ง?
เธอลากร่างกายที่เหนื่อยล้าของตัวเองขึ้นไปบนชั้นสองของโกดัง แล้วก็คว้าอะไรบางอย่างกั้นประตูเอาไว้
ในที่สุดเธอก็ได้พักหายใจสักที
ทว่าหลังจากที่เธอผ่อนคลายได้ไม่นาน เธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ามีเสียงดังมาจากความมืด!
หนูเหรอ?
ไม่ ไม่ มันเป็นเสียงฝีเท้าของคนต่างหาก!!
ตึ้ง ตึ้ง.....
มันเป็นเสียงรองเท้าบูทหนังตอนเหยียบพื้น ในคืนที่มืดมิดเช่นนี้มันจังดังกึกก้องเป็นพิเศษ
ความรู้สึกกลัวแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอแล้ว
กล้ามเนื้อมุมปากของเธอหยุดกระตุกไม่หยุด ด้วยความที่หวาดกลัวอย่างมากเสียงของเธอจึงสั่นเครือ “คุณ คุณอาศัยอยู่ที่นี่เหรอ? ขอโทษที่ฉันมารบกวนนะ ฉันจะไปแล้ว...”
ทันทีที่เธอยืนขึ้น มือใหญ่ ๆ ข้างหนึ่งก็จับเธอเอาไว้จากด้านหลัง
คบดาบเย็น ๆ สัมผัสมาที่ลำคออันบอบบางของเธอ
เสียงของชูเหอแทบจะเหือดแห้งไปแล้ว
เสียงผู้ชายที่เย็นชา ดังมาจากด้านบนของหัวเธอ
“ใครส่งคุณมาที่นี่?”
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า “ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง” และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า ‘ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ’ เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว “ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้” ‘อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ’ เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น “กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?” เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
หนุ่มวิศวะปีสี่ที่ได้ฉายา เสือยิ้มยาก เขาผู้ไม่เคยยิ้มให้ใครแต่กลับยิ้มให้เธอเห็นเพียงคนเดียว จากคนที่ไม่คิดจะรักใครแต่กลับรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น มารู้ตัวอีกทีก็ไม่อยากเป็นแค่รุ่นพี่แล้วแต่อยากเป็น(ผัว)