เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
"อ้วนเป่าเจ้าทำดีมาก กลับจวนแล้วข้าจะเลี้ยงเนื้อเท่าที่เจ้าต้องการ"
จื่อรั่วอิงกอดอกกล่าวคำชมเชยบ่าวตัวอ้วนที่มุมแห่งมืดแห่งหนึ่งของวัดเชิงเขา
"ขอบคุณคุณหนูขอรับ คราวนี้บ่าวยอมตัดผมโกนหัวเนรคุณบิดามารดาเพื่อคุณหนูเลยนะขอรับ เป็นการแสดงความภักดีที่มีต่อคุณหนูเพียงผู้เดียว"
จื่อรั่วอิงทำหน้าตาจริงจัง เอ่ยย้ำให้อ้วนเป่าคนนี้เข้าใจ
"อ้วนเป่า เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเจ้าเป็นเด็กกำพร้าข้างถนนไม่รู้บิดามารดาของตนคือใคร ชีวิตเจ้ามีเพียงข้าที่เปรียบเสมือนบิดามารดาที่รับเด็กข้างถนนเช่นเจ้ามาดูแลเลี้ยงดูจนตัวอ้วนเช่นนี้ ดังนั้นอย่าลืมว่าเจ้าไม่มีพ่อแม่ให้เนรคุณ อย่าคิดมากเรื่องนี้อีก"
เจ้าอ้วนเป่าทำหน้าซื่อ ๆ พยายามคิดตามคำของคุณหนูแล้วพยักหน้า
"บ่าวลืมไปขอรับ หากไม่มีคุณหนูบ่าวคงตายด้วยความหิวไปแล้ว คุณหนูเช่นนั้นบ่าวขอเรียกคุณหนูว่า ท่านแม่ สักครั้งได้หรือไม่ขอรับ เพื่อเป็นการสำนึกบุญคุณของคุณหนูที่เมตตาบ่าว"
จื่อรั่วอิงถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ที่จู่ ๆ ตัวเองก็กลายเป็นแม่ของอ้วนเป่าไปเสียแล้ว บ่าวของนางคนนี้ทั้งโง่ทั้งซื่อแต่ทำตามคำสั่งได้เป็นอย่างดี ความดีของเขามีอยู่มาก เมื่อคิดถึงข้อนี้นางจึงพยักหน้า เอาล่ะนางจะให้อภัยในความคิดเหมือนเด็กน้อยของเขาสักครั้งก็แล้วกัน
"อ้วนเป่า ข้าจะเป็นแม่เจ้าได้อย่างไร ข้าสาวเพียงนี้ งามเพียงนี้ ทั้งยังโสดซิง ไม่ต้องคิดจะเรียกข้าว่าท่านแม่อีก"
อ้วนเป่าแสดงสีหน้าคล้ายจะร้องไห้
"คุณหนู ท่านรังเกียจบ่าวหรือขอรับ"
"อ้วนเป่า..."
จื่อรั่วอิงถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้คนโง่ฟังให้เข้าใจได้อย่างไร
"เอาเป็นว่านี่คือคำสั่ง ห้ามเรียกข้าว่าท่านแม่ จบนะอย่าถามมากอีก"
ในเมื่อคุณหนูสั่ง อ้วนเป่าจึงยอมรับแต่โดยดี แม้ว่าในใจคิดอยากเรียกคุณหนูด้วยความกตัญญูว่าท่านแม่สักครั้งก็ตาม
"คุณหนูซ่อนตัวอยู่ในนี้ก่อนนะขอรับ อีกไม่นานท่านอ๋องคงจะเสด็จถึงแล้ว บ่าวจะไปเตรียมตัวต้อนรับท่านอ๋องอยู่ด้านนอก ปกติจะมีองครักษ์เข้ามาสำรวจบริเวณนี้แต่ตรงจุดนี้บ่าวได้ทำที่ซ่อนเอาไว้เป็นพิเศษ รับรองว่าต้องรอดพ้นสายตาองครักษ์ได้แน่นอน"
ถึงเจ้าอ้วนเป่าจะเป็นคนที่ค่อนข้างซื่อ และออกจะโง่ในบางเรื่อง ทว่าเขากลับมีสมองอันปราดเปรื่องในเรื่องการวางกับดักและการทำที่ซ่อนคงเป็นเพราะเขาเคยอาศัยอยู่ในป่ามาก่อน
สมัยเด็ก ๆ ในตอนเล่นซ่อนหากันจื่อรั่วอิงไม่เคยหาอ้วนเป่าเจอสักครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาทำที่ซ่อนและเผลอนอนหลับไป นางให้คนช่วยค้นหาทั่วจวนก็ไม่พบกระทั่งวันต่อมาเขาจึงออกจากที่ซ่อนด้วยท่าทางหิวโซ นางยังคิดว่าเขาถูกใครจับตัวไปเสียอีก
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงไว้ใจเขาได้
จื่อรั่วอิงพยักหน้าเอ่ยว่า
"เจ้าออกไปเตรียมตัวเถิด ทำตามแผนให้ดี"
"ขอรับ"
ที่วัดเชิงเขาแห่งนี้เป็นอารามหลวงที่มีบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ลี่หมิงอ๋องเป็นบุรุษที่นางหมายตาคิดจับเป็นสามี จึงได้ให้อ้วนเป่าไปสืบข่าวของเขาโดยละเอียด จนกระทั่งได้รู้ว่าเพราะศึกครั้งสุดท้ายทำให้เขาถูกวางยาพิษ เพื่อรักษาตัวเขาจึงต้องมาแช่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นประจำ
แผนชั่วของจื่อรั่วอิงคือส่งคนมาบวชเพื่อหาทางให้นางได้ใกล้ชิดท่านอ๋อง ด้วยเจ้าอ้วนเป่าเป็นบุรุษตัวขาวอ้วน ยังไร้วรยุทธ์ ท่าทางซื่อ ๆ ยังเป็นคนยิ้มเก่งจึงทำให้ทางวัดยอมให้เขาบวช
อ้วนเป่าอาศัยอยู่ที่นี่ด้วยความอดทนเพราะต้องกินอาหารเจจนร่างกายผอมลงไปมากนานถึงสามเดือน กระทั่งพระรูปเดิมที่คอยดูแลน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ได้ล้มป่วย อ้วนเป่าของนางจึงมีโอกาสเข้ามาดูแลน้ำพุศักดิ์สิทธิ์และเริ่มทำที่ซ่อนตัวให้นางในที่สุด
จื่อรั่วอิงคิดถึงชะตาชีวิตตัวเอง ชาติก่อนนางเป็นสาวงามแห่งคณะกายกรรมอันมีชื่อเสียงโด่งดัง ตระเวนออกแสดงไปทั่วโลก คาดไม่ถึงว่าจะต้องมาตายเพราะถูกวิ่งราวโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นล่าสุดที่นางลงทุนต่อแถวไม่กินไม่นอนข้ามคืนเพื่อซื้อมันมาอย่างยากลำบาก
แต่นางใช้งานมันได้เพียงวันเดียวก็ถูกโจรร้ายวิ่งราวเสียแล้ว นางติดตามโจรกระทั่งถึงตัวมันคาดไม่ถึงว่ามันจะมีมีดด้ามยาวแทงกะซวกนางครั้งเดียวตัดขั้วหัวใจตายทันใด
เมื่อวิญญาณออกจากร่างนางยังมองไอโฟนในมือไอ้โจรชั่วนั่นอย่างเจ็บแค้น และต้องหลั่งน้ำตาแทบเป็นสายเลือดด้วยความเสียดาย นั่นมันเงินเก็บของนางตลอดหลายเดือนและการอดหลับอดนอนเพื่อต่อแถวซื้อมันเชียวนะ
แต่แล้วความดีของนางยังคงพอมีบ้างเนื่องจากนางเคยบวชเป็นแม่ชีถึงเจ็ดภพเจ็ดชาติ ท่านเทพสวรรค์จึงให้โอกาสนางได้ใช้ชีวิตที่ดีมีความสุขสมบูรณ์อีกครั้ง ด้วยการส่งมาอยู่ในร่างของคุณหนูจื่อรั่วอิงและยังบอกกับนางว่า จะมอบผู้ชายหล่อบ้านรวยสายเปย์ใจดีให้เป็นคู่ชีวิต นางถูกส่งให้เข้ามาอยู่ในร่างของจื่อรั่วอิงเมื่อเด็กน้อยอายุหกขวบและตายเพราะพิษไข้ ยามนั้นวิญญาณของนางจึงเข้ามาสวมแทนที่
ทว่าอยู่ในร่างนี้มาจนอายุสิบเจ็ดปีแทนที่จะได้เจอผู้ชายหล่อ บ้านรวยสายเปย์ตามคำของท่านเทพ นางกลับไปถูกตาต้องใจซื่อจื่อจอมเสเพลเมียยั้วเยี้ยคนหนึ่ง เพราะเขาเป็นหลานของฝ่าบาทพระองค์จึงอนุญาตให้แต่งงานได้ แม้ว่าจะไม่ประทานสมรสเป็นเรื่องเป็นราวแต่คำอนุญาตนั้นก็กำลังมัดตัวนางให้แต่งงานเป็นเมียน้อยคนอื่น
หรือว่าท่านเทพจะลืมสัญญาที่ให้นางเอาไว้ แต่นางก็ไม่อยากจะหนีโดยการไปบวชเป็นชีในชาติที่แปดเช่นกัน นางยังอยากมีชีวิตที่สนุกสนานไปอีกสักหน่อย
เมื่อคิดดังนั้นจื่อรั่วอิงย่อมไม่ยินยอม ถึงคราวที่นางต้องกำหนดชีวิตตัวเองแล้ว
จื่อรั่วอิงกลุ้มอยู่หลายวันกระทั่งนางบังเอิญได้ยินเรื่องเล่าของอ๋องตาบอดคนหนึ่ง ผู้ชายคนนี้ไม่มีเมียกวนตัว ไม่มีลูกกวนใจ ไม่มีพี่น้องแย่งสมบัติ เป็นบุรุษพิการตาบอดที่ไม่มีใครเอา คนในยุคนี้คิดว่าการแต่งกับคนพิการก็เท่ากับแต่งกับตัวกาลกิณีจึงทำให้เขายังโสดมาจนทุกวันนี้
แม้จะมีข่าวลือว่าเขาป่าเถื่อน วิปริต จิตใจบิดเบี้ยวเพราะออกรบมานาน แต่จื่อรั่วอิงกลับไม่กลัวตอนนี้เขาก็เป็นแค่คนตาบอดมองไม่เห็นอะไรไม่ใช่หรือ จะเอาอะไรมาน่ากลัวกันเล่า
การเป็นคนพิการไม่ว่าในโลกไหนล้วนไม่มีใครต้องการการแพทย์สมัยนี้ก็ล้าหลังไม่มีทางที่เขาจะหายดี จึงตัดปัญหาเมียน้อยในอนาคตไปได้ นางก็แค่ปรนนิบัติเล็กน้อย ที่เหลือก็ปล่อยพวกบ่าวทำไป หากนางได้แต่งงานกับเขาล่ะก็คิดดูสิว่าชีวิตของนางจะไม่เปรียบประดุจขึ้นสวรรค์เลยหรือ
เพียงแค่คิดก็เกิดความสุขจนแทบจะโบยบินเป็นผีเสื้อไปแล้ว แผนการลับจับผู้ชายของนางจึงเริ่มขึ้น
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้