ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
“คุณกู้ คุณตั้งครรภ์ครับ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เด็กในท้องของคุณมีสุขภาพแข็งแรงดีครับ”
กู้เหวยอีเดินออกจากโรงพยาบาลอย่างงุนงงโดยกำผลตรวจการตั้งครรภ์ไว้ในมือแน่น
กู้เหวยอีอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยความดีใจ มือเรียวเล็กก็ลูบท้องน้อยเบา ๆ
เธอท้องแล้ว เป็นลูกของเธอกับฟู่จิ่งเฉิน
กู้เหวยอีระงับความตื่นเต้นไว้พลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเตรียมจะโทรหาฟู่จิ่งเฉินเพื่อบอกเรื่องเซอร์ไพรส์นี้กับเขาเอง
และตอนนั้นโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา ฟู่จิ่งเฉิน สามีของเธอส่งข้อความมาพอดี
【รีบมาที่โรงแรมฮิลตันที 】
ไปโรงแรมฮิลตันตอนนี้เหรอ? ทำไมถึงปุบปับแบบนี้ล่ะ?
กู้เหวยอีรู้สึกสับสน แต่ก็ไม่ได้ลังเลอะไร เธอไปเรียกรถแท็กซี่ที่ข้างทางแล้วมุ่งหน้าไปที่โรงแรมฮิลตันทันที
ในเมื่อฟู่จิ่งเฉินอยากจะพบเธอ งั้นเธอก็บอกเรื่องที่เธอท้องต่อหน้าเขาไปเลยแล้วกัน
ไม่รู้ว่าถ้าฟู่จิ่งเฉินรู้ว่าเธอท้องแล้วจะมีปฏิกิริยายังไงนะ?
กู้เหวยอีมาที่โรงแรมด้วยความคาดหวัง แต่พอลงจากรถก็พบว่าโรงแรมเต็มไปด้วยดอกไม้ที่สวยงามมากมาย มีพรมแดงใหม่เอี่ยมปูอยู่บนพื้น เห็นได้ชัดว่ากำลังเตรียมฉลองอะไรอยู่
กู้เหวยอีอึ้งไปพักนึง ไม่นานเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของเธอกับฟู่จิ่งเฉินพอดี
เพราะงั้นฟู่จิ่งเฉินเลยเรียกเธอมาที่นี่เพื่อเซอร์ไพรส์เธองั้นเหรอ?
มีแขกจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม พวกเขากำลังดื่มกันอย่างคึกคักทีเดียว
กู้เหวยอีเดินผ่านฝูงชนไป ชุดเรียบง่ายของเธอนั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใครเลย
ไม่นานหลังจากนั้น พอเธอมองไปก็เห็นฟู่จิ่งเฉินอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาดูเจิดจรัสท่ามกลางฝูงชนมาก
นั่นคือสามีของเธอและพ่อในอนาคตของลูกเธอ
มุมปากของกู้เหวยอียกขึ้นมาทันที แต่วินาทีต่อมาพอเห็นผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ฟู่จิ่งเฉิน รอยยิ้มของเธอก็แข็งทื่อไปทันที
นั่นมัน... หลินลี่ลี่ รักแรกของฟู่จิ่งเฉิน?!
เธอกลับมาจากต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ตัวของกู้เหวยอีแข็งทื่อไปทันที เธอมองดูคนสองคนที่อยู่ไม่ไกลจับมือกันอย่างสนิทสนม ราวกับคู่รักที่น่าอิจฉา
กลุ่มเพื่อนสนิทมาล้อมรอบพวกเขาไว้และต่างพากันแสดงความยินดี
“ลี่ลี่ วันนี้ฉันต้องดื่มให้เกียรติเธอสักแก้วแล้วล่ะ ยินดีกับการกลับมาจากต่างประเทศของเธอด้วยนะ!”
“จิ่งเฉิน ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ในที่สุด นายกับลี่ลี่ก็กลับมาพบกันอีกครั้ง วันดีแบบนี้ พวกนายสองคนต้องควงแขนกันดื่มฉลองสักหน่อยแล้วนะ”
เสียงเฮดังขึ้นเรื่อย ๆ
หลินลี่ลี่สวมชุดสีแดงร้อนแรงและแต่งหน้าอย่างสวยงาม เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนขึ้นมาแล้วพูดว่า “พวกเธอเลิกเอะอะได้แล้ว ฉันกับจิ่งเฉินจะดื่มควงแขนได้ยังไงกัน? เพราะยังไงจิ่งเฉินก็มีภรรยาแล้ว ถ้าจะดื่มควงแขนกันล่ะก็ น่าจะให้จิ่งเฉินกับภรรยาของเขาทำมากกว่า”
พอได้ยินหลินลี่ลี่พูดถึงกู้เหวยอี ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ทำสีหน้าดูถูกขึ้นมาทันที
“กู้เหวยอีนั่นน่ะเหรอ? ถือเป็นภรรยาที่ไหนกัน? กู้เหวยอีก็เป็นแค่เครื่องมือที่จิ่งเฉินใช้เพื่อเอาใจคุณย่าของเขาเฉย ๆ !”
“ใช่ ๆ ผู้หญิงที่จิ่งเฉินอยากจะแต่งงานด้วยจริง ๆ ก็คือเธอมาตลอดนะ ใช่ไหมจิ่งเฉิน?”
ฟู่จิ่งเฉินรูปร่างสูงและมีหน้าตาหล่อเหลา ชุดสูทหรูหราที่ไม่ได้ดูโอเวอร์ของเขานั้นทำให้เห็นถึงท่าทางเย็นชาที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา
“พอได้แล้ว พวกนายอย่ารังแกลี่ลี่ เธอดื่มเหล้าไม่เป็น ฉันจะดื่มแทนเธอเอง”
พอได้ยินแบบนี้ พวกเพื่อน ๆ ต่างก็พากันส่งเสียงเฮดังขึ้นมากกว่าเก่า
“นี่ ฟู่จิ่งเฉิน นายปวดใจแทนลี่ลี่งั้นสินะ?” ได้! นายไม่ให้ลี่ลี่ดื่มกับพวกเรา งั้นนายต้องดื่มไวน์ของเธอให้หมดเลยนะ! ถ้าดื่มไม่หมด วันนี้ก็ห้ามกลับ!”
ท่ามกลางเสียงเอะอะของฝูงชน สีหน้าของฟู่จิ่งเฉินเย็นชา มุมปากนั้นกลับยกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่สามารถละเลยได้
หลินลี่ลี่ที่อยู่ข้าง ๆ เขานั้นกลับก้มหน้าลงอย่างอาย ๆ
ภาพที่ทั้งสองคนสวีทกันมันบาดตามาก ทำให้ใจของกู้เหวยอีปวดตึบขึ้นมาทันที
เธอไม่รู้ว่าตัวเองหนีออกมาตอนไหน จนกระทั่งเม็ดฝนเย็น ๆ ตกลงมากระทบใบหน้า เธอถึงได้รู้สึกตัวว่าด้านนอกโรงแรมนั้นฝนตก
สายลมเย็นพัดพาสายฝนมากระทบร่างกายของกู้เหวยอี ภายในพริบตา ลมแรงก็โหมกระหน่ำมา เสียงฝนตกก็แรงขึ้น
กู้เหวยอีมองฝนตรงหน้าอย่างงุนงง
เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมฟู่จิ่งเฉินถึงเรียกเธอมา
หรือว่าเขาอยากให้เธอเห็นภาพพวกเขาสวีทกัน จากนั้นก็สละตำแหน่งคุณนายฟู่ให้หลินลี่ลี่ ผู้หญิงที่เขารักอย่างรู้การรู้งานงั้นเหรอ?
ลมหายใจของกู้เหวยอีค่อย ๆ หนักขึ้น เธอยกเท้าขึ้นด้วยความแข็งทื่อ ก่อนจะเดินตากฝนกลับบ้าน
เธอยืนอยู่ที่ประตูด้วยความสิ้นหวัง พลางมองบ้านที่คุ้นเคยตรงหน้าอย่างว่างเปล่าพลางคิดอย่างเหม่อลอย
สองปีก่อน ตระกูลกู้กำลังจะล้มละลายและพยายามจะแต่งงานเกี่ยวดองกันกับตระกูลฟู่เพื่อจะได้กอบกู้สถานการณ์ที่แย่ลงของตระกูลเอาไว้
ตอนแรกฟู่จิ่งเฉินไม่ยอม แต่คุณนายใหญ่ฟู่ที่ป่วยหนักนั้นบีบบังคับให้เขาแต่งงาน เขาเลยต้องยอมแต่งงานกับเธอ
ตอนนี้อาการป่วยของคุณนายใหญ่ฟู่ดีขึ้นแล้ว หลินลี่ลี่ก็กลับมาจากต่างประเทศแล้วด้วย
ดูเหมือนจะถึงเวลาของเธอซึ่งเป็นคนนอกโดยแท้จริงที่ต้องไปจากฟู่จิ่งเฉินแล้วสินะ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ด้านนอกก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นมา
จากนั้นเสียงมีเสน่ห์ของผู้ชายคนนึงก็ดังขึ้นมาข้างหูเธอ
“กู้เหวยอี ทำไมเธอถึงมายืนตัวเปียกชุ่มอยู่ตรงนี้ล่ะ?”
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!