หล่อนมองเพื่อนสาวผิวขาวตัวเล็กที่เอาเท้าขึ้นเกยโต๊ะทำงานทั้งส้นสูงแบบไม่แคร์ใคร มือขวาเลื่อนหน้าจอสายตาเพ่งเล็งอย่างลุ้นระทึก มือซ้ายแจ๊บขนมเข้าปากเหมือนว่าหล่อนเป็นอากาศ
นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงลาออกไปแล้ว
หล่อนเห็นประธานบริษัทที่ควบตำแหน่งเพื่อนสนิทเป็นแบบนี้แล้วอยากไปดึงโทรศัพท์เครื่องนั้นมาปาทิ้ง
"มึงช่วยเลิกเอาเวลาทำงานมานั่งอ่านนิยายสักทีได้ไหม!"
"เหอะน่า ทำไมขี้บ่นจัง กูก็มาตอกบัตรเข้างานตามที่มึงบอกแล้วไง คุณเลขา"
ดีนะที่ในห้องทำงานชั้นบนสุดนี่มีแค่พวกเธอสองคน ครั้งหนึ่งแม่บ้านที่ยกน้ำชามาให้ถึงกับตกใจช็อกหงายหลัง ใครจะไปคิดว่า ซีอีโอที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคุณหนูที่คิดเร็วทำเร็วที่สุดแห่งยุคจนก่อตั้งบริษัทเองจะเป็นแบบนี้
เหตุผลเดียวที่บริษัทยังไม่เจ๊งและเกิดข่าวไร้สาระพวกนั้นจะเป็นอะไรได้อีก ถ้าไม่ใช่เพราะค่าขนมงามๆที่แม่สาวเปย์ไม่อั้น
เงินคือพระเจ้าโดยแท้
"คุณเหมยลี่คะ หยุดช็อปปิ้งออนไลน์แล้วช่วยทำงานก่อนค่ะ"
ทันใดนั้น คนตรงหน้าก็เอาขาลงจากโต๊ะจ้องโทรศัพท์หน้าตาตื่น
"แย่แล้ว"
"เกิดอะไรขึ้น เจอมิจฉาชีพหรือ" หญิงสาวมองอีกฝ่ายยิ่งปัดนิ้วที่หน้าจอยิ่งหน้าซีด
คนร้อนใจลุกลี้ลุกลนรีบหยิบกระเป๋าขึ้นค้นอะไรบางอย่างที่น่าจะเป็นบัตรเครดิตและกรอกบางอย่างลงเครื่องไป กว่าหลายนาทีถึงได้ยินเสียง
"ลืมโดเนทเงินให้นักเขียนสำหรับเดือนนี้ไปซะสนิทเลย"
"โอ๊ย ก็แบบนี้ไง ถึงไม่มีใครมาจีบอ่ะ"
ตรงดิ่งเข้าไปยึดโทรศัพท์อีกฝ่ายทันที ถึงจะทำหน้ามุ่ยก็ไม่สน
"อาซิน อย่าเอาโทรศัพท์ฉันไป ฉันยังไม่ได้โดเนทให้นักเขียนเรื่อง องค์หญิงเฟิง ยอดอาชาเลย"
"อีกแล้วหรือ เธอรู้ตัวไหมวาเธออ่านไปสิบกว่ารอบแล้วตั้งแต่ปีก่อน"
"89 รอบต่างหาก"
ฉันชื่อ เหมยลี่ เป็นเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง เพราะทางบ้านฐานะดีแถมยังเป็นครอบครัวใหญ่ ฉันเลยมีทุกอย่างแบบไม่ต้องพยายาม ทุกวันนี้ที่เข้าบริษัทก็เพราะ อาซินเพื่อนรักตั้งแต่วัยเด็กทำหน้าที่เลขาดีเกินไป ทั้งโทรปลุก บางวันก็ไปรับถึงบ้าน ต่อให้อยากโดดงานนอนเอื่อยอ่านนิยายบนเตียงก็ทำไม่ได้
ทำงานก็เหนื่อยเปล่า อย่างไรบริษัทก็ไม่เจ๊งอยู่แล้ว น่าจะปล่อยให้ฉันอยู่บ้าน เห็นๆอยู่ว่าเปิดบริษัทได้แค่ห้าปีกำไรก็ตั้งเท่าไหร่
ส่วนนิยายที่ฉันติดงอมแงมมาเป็นปีชื่อว่า 'องค์หญิงเฟิง ยอดอาชา' นางเอกของเรื่องใช้ร่างกายได้สิ้นเปลืองมาก ต้องลากสังขารไปจัดการตรงโน้นรบกับตรงนี้ แต่นั่นแหละความเท่ของนางเอก บู้ก็ได้แต่บุ๋นก็ไม่แพ้กัน
นิยายเรื่องนี้ถ้าจะมีอะไรที่คอยดึงความสนุกให้ลดลงก็คงจะเป็น พระเอก ตัวละครแม้กระทั้งตัวประกอบหรือตัวร้ายในเรื่องดีหมด ทุกตัวสมเหตุสมผลที่สุด นักเขียนบรรยายได้ละเอียด แต่ไอ้พระเอกทีออกฉากบ่อยพอๆกับนางเอกเนี่ย โครตน่ารำคาญจนต้องปัดหนี
ตามหลักนิยาย พระเอกต้องหล่อ ต้องเก่ง ต้องดี ไม่หลายใจ ไม่ยุ่งเหล้าเมาสุรา
ใช่พระเอกเรื่องนี้ก็หล่อเหลาที่สุด ไม่เจ้าชู้มั่วนารี ไม่ดื่มเหล้าเมากัญชา แต่…
มันเป็นไอ้บ้าปัญญาอ่อนที่มีสติสตางค์เท่าเด็กสามขวบน่ะสิ
ถึงจะเป็นการแต่งงานทางการเมือง แต่ให้ตายอย่างไรก็ไม่ได้ รับไม่ได้...เด็ดขาด
และนั่นทำให้ฉันตั้งปนิทานไว้ตั้งแต่เดือนก่อนต่อหน้าเสาเตียงว่า ฉันจะไปเม้นถล่มพวกที่จิ้นฟินเวลานางเอกถูกไอ้ปัญญาอ่อนนั่นลากไปมาให้หมดเลย
จากนั้นฉันก็ใช้เวลาหนึ่งปีกว่าอ่านวนคอยหาเม้นใหม่ๆที่จิ้นไม่เข้าเรื่อง แล้วไปเม้นตีกลับซะ ฉันจะสาปแช่งพวกคู่ชิปพวกนี้ตลอดไป
"ขอร้อง เอาโทรศัพท์คืนมาเถอะนะ ซินจ๋า"
ซินชูโทรศัพท์ในมือขึ้นและยิ้มให้อย่างมีหวัง จากนั้นก็ตอบกลับด้วยวลีที่เด็ดที่สุด
"ไ่ม่ได้"
ซิน!!!!