เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
“ข่าวด่วน:เกิดอุบัติเหตุรถชนท้ายกันบนทางหลวงหมายเลข 257 คนขับรถบรรทุกเมา แล้วชนเข้ากับท้ายรถแท็กซี่ ส่งผลให้รถแท็กซี่พลิกคว่ำอย่างรุนแรง ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงจำนวนผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่จากคำให้การของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่าผู้โดยสารเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่ใกล้คลอด……”
เสียงไซเรน เสียงกรีดร้อง และเสียงรถยนต์ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ
เสียงเหล่านั้นทิ่มแทงเข้าไปในแก้วหูของเซิงหนานอิง ปลุกความเจ็บปวดให้แล่นไปทั่ว ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นเลือดสดที่คละคลุ้ง
เธอพยายามฝืนตัวเองให้มีสติ ค่อย ๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
เกือบจะวางสายไปอยู่แล้ว ทันใดนั้นเสียงปลายสายกลับดังขึ้น
สิ่งที่ได้ยินจากปลายสายคือเสียงผู้หญิงที่เธอรู้จักดี
“พี่หนานอิง พี่หยานอันกำลังอาบน้ำอยู่ค่ะ ตอนนี้ยังรับสายไม่ได้ ถ้ามีอะไรบอกฉันแทนได้นะคะ!”
ชั่ววินาทีนั้น เซิงหนานอิงรู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงของหัวใจตัวเองแตกสลาย
ฟู่เสวี่ยเว่ย!
เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ!
คนที่ทำให้ฟู่หยานอันทิ้งเธอ ทั้งที่กำลังจะคลอด ถึงขั้นบล็อกการติดต่อของเธอนั้นไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นน้องสาวบุญธรรมที่เติบโตมาด้วยกัน และได้รับความรักจากฟู่หยานอันราวกับสมบัติอันล้ำค่า
เซิงหนานอิงหลับตาลง ความร้อนที่ทะลักออกมาจากร่างกายคอยย้ำเตือนถึงชีวิตเล็ก ๆ ที่มีค่ามาก กำลังจะหลุดลอยไปจากเธอ เธอพยายามกลั้นความเจ็บปวดและเอ่ยปากอ้อนวอน
“ช่วยฉันด้วย…… ทางหลวง 257…… ช่วยลูกฉันด้วย……”
เสียงของเธอถูกตัดเป็นช่วง ๆ ด้วยเลือดที่ทะลักออกมาไม่หยุด แต่เธอยังคงพยายามเปล่งเสียงออกไป
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้รั้วกั้นด้านข้างล้มลงและกีดขวางทางหลวงทั้งสองฝั่ง รถด้านหลังไม่สามารถขับผ่านได้ ส่วนรถด้านหน้าก็ไม่สามารถเข้ามาได้ รถกู้ภัยเองก็ต้องจอดรออยู่ด้านนอก
การอนุมัติให้ใช้เฮลิคอปเตอร์นั้นยุ่งยากเกินไป แต่เซิงหนานอิงรู้ดีว่า ตระกูลฟู่มีเครื่องบินส่วนตัว หากฟู่หยานอันรีบส่งคนมาช่วยในตอนนี้ ทุกอย่างก็ยังพอมีโอกาส……
“ขอโทษนะคะพี่หนานอิง แต่วันนี้พี่หยานอันเขายุ่งอยู่กับการเตรียมงานวันเกิดให้ฉัน เขาไม่มีเวลามาจัดการเรื่องของพี่หรอกค่ะ”
เสียงของหญิงสาวดังมาตามสาย ฟังดูไร้เดียงสาแต่แฝงด้วยความโหดร้าย
“ตู๊ด ๆ ——”
แล้วสายก็ถูกตัดไปอย่างไร้ความปรานี
เซิงหนานอิงหมดแรงทรุดตัวลงกับพื้น กลิ่นน้ำมันเบนซินที่ลอยมาตามอากาศเตือนให้เธอรีบหนีโดยด่วน มิเช่นนั้นคงไม่พ้นถูกแรงระเบิดของรถยนต์เผาทั้งเป็นในไม่ช้า
ทว่าจู่ ๆ กลับกลายเป็นเธอยอมจำนนต่อโชคชะตาเสียแล้ว
ในห้วงสุดท้ายของชีวิต เธอมองย้อนกลับไปยังชีวิตวัยยี่สิบห้าปีอันแสนสั้น เธอตระหนักได้ว่าตัวเองเสียเวลาไปครึ่งหนึ่งกับการทุ่มเทให้กับผู้ชายที่ไม่เคยรักเธอ
จากหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ในตระกูลใหญ่ กลับกลายเป็นผู้หญิงถูกทิ้งที่ต้องคอยวิ่งไล่หาความรักอย่างไร้ค่า
เธอทุ่มทั้งกายและใจให้กับฟู่หยานอันจนทำลายตระกูลเซิงที่เคยรุ่งเรือง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาแทบไม่มีค่าอะไรเลย
เธอเหนื่อยแล้ว ไม่อยากรักใครอีกแล้ว
ชีวิตนี้นับว่าเธอมองคนผิด สุดท้ายก็ถือว่าสาสมแล้ว หากชาติหน้ามีจริง เธอจะไม่มีวันย่ำรอยเดิมเป็นแน่!
……
“คุณผู้หญิงคะ คืนนี้เป็นงานการกุศล คุณจะใส่ชุดสีชมพูนี้จริง ๆ เหรอคะ ถึงแม้ว่าคุณผู้ชาย……”
น้าจางกลืนคำพูดที่เกือบหลุดจากปากกลับไป ก่อนจะค่อย ๆ แนะนำอย่างสุภาพ “แต่ชุดนี้ค่อนข้างสั้น และดูไม่เหมาะสม ลองเลือกชุดอื่นดีไหมคะ?”
ทันทีที่พูดจบ เธอก็ร้อนใจจนต้องลอบสังเกตสีหน้าของหญิงสาวที่อยู่หน้ากระจกอย่างเงียบ ๆ
จากการทำงานในตระกูลฟู่มาหลายปี น้าจางรู้ดีว่าคุณผู้หญิงของเธอรักคุณผู้ชายมาก เพื่อทำให้เขาพอใจ เธอยอมปรับทุกสิ่งให้เป็นไปตามที่คุณผู้ชายชอบ ไม่ว่าจะอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่ หรือรถราก็เปลี่ยนหมด
หัวใจของเซิงหนานอิงเต้นรัวเมื่อเธอมองไปยังฉากที่คุ้นเคยตรงหน้าเธอ
เธอไม่ได้ตายไปแล้วหรอกหรือ?
งานประมูลการกุศลที่ว่าผ่านมาตั้งสามปีแล้วไม่ใช่หรือ?
แล้วนี่มันอะไร…… หรือว่าเธอได้เกิดใหม่?!
“คุณผู้หญิง… คุณผู้หญิงคะ? !”
เสียงเรียกจากน้าจางฟังดูร้อนใจ
ดึงสติของเซิงหนานอิงกลับมาได้ทันที
“อีกแค่หนึ่งชั่วโมงคุณผู้ชายก็จะมารับแล้ว คุณผู้หญิงต้องรีบหน่อยนะคะ! ไม่อย่างงั้น ลองเป็นชุดเดรสยาวสีขาวดีไหมคะ จะได้ดูสุภาพขึ้นหน่อย……”
มุมปากของเซิงหนานอิงค่อย ๆ เผยรอยยิ้มบาง พร้อมแววตาที่แน่วแน่
งานประมูลในครั้งนี้จัดขึ้นโดยตระกูลเผย ซึ่งเป็นตระกูลที่เก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดในเมืองจาวิลล์ ภายนอกเหมือนเป็นงานประมูลธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วคือโอกาสสำหรับครอบครัวชั้นสูงในการสร้างสายสัมพันธ์กับตระกูลเผย
ตระกูลเผยให้ความสำคัญกับความสามัคคีในครอบครัว ซึ่งนั่นคือสาเหตุที่ฟู่หยานอันต้องจำใจพาเธอไปงานนี้ด้วย
ในอดีตเธอเคยอิจฉาฟู่เสวี่ยเว่ยที่ได้รับความสนใจจากฟู่หยานอันแบบหมดหัวใจ เธอจึงพยายามเลียนแบบฟู่เสวี่ยเว่ยเพื่อให้ฟู่หยานอันหันมามองบ้าง
แต่ความพยายามนั้นไม่เพียงไม่สามารถชนะใจฟู่หยานอันได้ กลับทำให้เขายิ่งรังเกียจเธอมากขึ้น
งานประมูลครั้งนั้น ฟู่หยานอันถึงกับเอาสร้อยมรกตที่เป็นสมบัติของเธอไปให้ฟู่เสวี่ยเว่ยโดยไม่บอกกล่าว ทำให้ฟู่เสวี่ยเว่ยกลายเป็นดาวเด่นของงาน
ทั้งที่เธอเป็นเจ้าของสร้อยนั่น เธอกลับกลายเป็นผู้หญิงที่ถูกฟู่หยานอันตราหน้าว่าขี้อิจฉา และกลายเป็นที่หัวเราะเยาะในสังคมชั้นสูง
แต่ในชีวิตใหม่นี้ เธอจะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอกลับคืนมา!
เซิงหนานอิงคิดทบทวนความทรงจำในช่วงนี้เมื่อครั้งก่อน และพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
“เปลี่ยนเป็นชุดกี่เพ้าสีเขียวอมเทาที่สั่งตัดเมื่อครั้งก่อน เข้ากับสร้อยมรกตของฉันพอดี”
เธอเลียนแบบฟู่เสวี่ยเว่ยมานานจนเกือบลืมไปว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ใช่เจ้าหญิงที่เอาแต่ใจสักนิด แต่คือคุณหนูจากตระกูลเซิงที่เติบโตขึ้นมาภายใต้การอบรมอย่างเคร่งครัดต่างหาก
เธอเองก็น่ามืดตามัวไป ถึงได้ไปทำตัวแข่งกับเด็กสาวที่ถูกเลี้ยงให้เป็นแค่เครื่องประดับของพวกเศรษฐีใหม่
น้าจางแอบกังวล “แต่ว่า คุณผู้ชายไม่ชอบให้ใส่กี่เพ้าที่ดูเป็นทางการแบบนี้นะคะ อีกทั้งสร้อยมรกตนั่น…ไม่ใช่ของขวัญแต่งงานที่คุณย่าของคุณให้หรอกเหรอคะ? งานแต่งงานคุณเองคุณยังทำใจที่จะเอามาใส่ไม่ได้อยู่เลย งานประมูลนี้จะไม่เยอะไปหน่อยเหรอคะ?”
“ฉันจะไปหยิบสร้อยเอง น้าช่วยเตรียมกี่เพ้าให้ฉันด้วยนะคะ”
เซิงหนานอิงลุกขึ้นยืน พลางสั่งราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
“แล้วก็ ชุดเดรสทั้งหมดในตู้ ทิ้งไปให้หมด แล้วหาเซ็ตใหม่มาแทนด้วยนะคะ”
น้าจางได้แต่มองตามหลังเซิงหนานอิงที่เดินไปยังห้องข้างในด้วยความตกตะลึง แม้เธอจะลังเล แต่สุดท้ายก็ทำตามคำสั่ง
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ เซิงหนานอิงไม่ได้รอให้ฟู่หยานอันมารับที่หน้าบ้าน เธอขับแลมโบร์กีนีจากโรงรถตรงไปยังงานประมูลเอง
งานเลี้ยงนี้ถูกจัดขึ้นในสวนส่วนตัวริมแม่น้ำ
เซิงหนานอิงสวมกี่เพ้าสีเขียวอมเทา แสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องยิ่งทำให้เธอดูงดงามดุจนางพญา
ชุดตัดพอดีตัวนั้นเสริมรูปร่างเพรียวบางของเธอได้เป็นอย่างดี เพียงมวยผมอย่างเรียบ ๆ แบบจีน และแต่งหน้าอย่างละมุนก็ทำให้เธอดูโดดเด่นราวกับภาพฝันได้แล้ว
ทันทีที่เธอส่งกุญแจรถให้พนักงานรับรถ มือถือของเธอก็เริ่มส่งเสียงดัง พร้อมกับชื่อของ “ฟู่หยานอัน” ที่กระพริบอยู่บนหน้าจอ
เซิงหนานอิงแสยะยิ้มขณะกดปุ่มรับสาย ก่อนจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายเกรี้ยวกราดขึ้นมา
“ใครให้เธอเอาสร้อยมรกตของคุณย่าไปใส่?”
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"