อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ณ เมืองเจียง บ้านตระกูลอวิ๋น
“พี่ กลับมาแล้วเหรอ? ถึงคุณหวังจะอายุมากแล้ว แต่เขาก็ยังดูแลคนอื่นได้อยู่นะ อีกอย่างธุรกิจเขาก็ใหญ่โต หลังจากที่พี่แต่งงานเข้าไปแล้ว พี่ก็จะได้เป็นคุณนายหวัง ถือว่าเป็นความโชคดีของพี่เลยนะ” พออวิ๋นเหยาเห็นอวิ๋นเจินเดินเข้าประตูมา เธอก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาด้วยความสะใจทันที
ก่อนที่อวิ๋นเหยาจะพูดจบ อวิ๋นเจินก็สาวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วก็ตบหน้าอวิ๋นเหยาเข้าอย่างจัง
“งั้นฉันขอมอบความโชคดีนี้ให้เธอ เธอเอาไหมล่ะ? เธอเป็นคนใส่ยาลงในไวน์ใช่ไหม?”
ในดวงตาสีดำเข้มของหญิงสาวที่มีผิวขาวอมชมพูแฝงไปด้วยการประชดประชัน ซึ่งสายตาของเธอดูน่ากลัวอย่างมาก
อวิ๋นเหยาตะโกนขึ้นมาว่า “โอ๊ย” ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็มีลายนิ้วมือทั้งห้าปรากฏขึ้นมา
“อวิ๋นเจิน! นังเด็กเหลือขอ! นี่แกบ้าไปแล้วรึไง? แกกล้าดียังไงมาตบเหยาเหยาแบบนี้ฮะ?” เมื่อเสิ่นหยู่หลานเห็นลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองถูกตบ เธอก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วก็โมโหจนตัวสั่นขึ้นมาทันที
แกตายแน่! นังสารเลว!
อวิ๋นเจินไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลอวิ๋น
เมื่อสามเดือนก่อน อวิ๋นเจินได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่แล้วตอนที่เจาะเลือดก็ได้พบว่าเลือดของเธอเป็นกรุ๊ปอาร์เอชซึ่งมีแค่หนึ่งในล้านเท่านั้น
ซึ่งไม่ได้ตรงกันกับกรุ๊ปเลือดของสามีภรรยาตระกูลอวิ๋นแต่อย่างใด จึงหมายความว่าอวิ๋นเจินไม่ใช่ลูกของตระกูลอวิ๋นนั่นเอง
หลังจากอวิ๋นหงเจียและภรรยาทำทุกวิถีทาง ในที่สุดเขาก็หาตัวสายเลือดที่แท้จริงของตระกูลอวิ๋นกลับมาได้ ซึ่งก็คืออวิ๋นเหยานั่นเอง
นับตั้งแต่นั้นมา ตระกูลอวิ๋นก็รู้สึกไม่ชอบอวิ๋นเจินไปโดยปริยาย โดยรู้สึกว่าเธอเข้ามาครอบครองสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเอง เข้ามาใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตั้งนานหลายปีแทนอวิ๋นเหยา
พวกเขาเป็นกังวลใจว่าอวิ๋นเหยาก็จะคิดเช่นนี้เหมือนกัน ดังนั้นพวกเขาจึงอยากจะขับไล่อวิ๋นเจินออกไป
แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี เพราะรู้สึกว่าเลี้ยงดูเธอมาโดยเปล่าประโยชน์ตั้งนานหลายปีแล้ว ประจวบเหมาะกับว่าหุ้นส่วนของพวกเขาสนใจในตัวอวิ๋นเจินอยู่พอดี ซึ่งหากทำให้เขาสามารถสมปรารถนาได้ เขาจะลงทุนให้ตระกูลอวิ๋นยี่สิบห้าล้าน
ดังนั้นพวกเขาจึงอยากจะโช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ขึ้นมา
พวกเขาจึงวางแผนวางยาอวิ๋นเจิน เพื่อที่จะให้เธอได้ชิงสุกก่อนห่ามกับคุณหวังไป
ทว่าอวิ๋นเจินกลับดันรู้ตัวซะก่อน จากนั้นก็หลบหนีไป
ไม่อย่างนั้นตอนนี้เนื้อคงเข้าปากเสือไปแล้ว
น้ำเสียงของอวิ๋นเจินเย็นชาอย่างมาก “เธอวางยาฉัน แถมยังเสียงดังโวยวาย พูดจาเยาะเย้ยต่อหน้าฉันอีก แล้วฉันไม่ควรตบเธอรึไง?”
“พี่ ฉันหวังดีกับพี่นะ ฉันได้ยินจากคุณแม่บอกว่าตอนนั้นที่อยู่ในชนบทมีการหยิบลูกผิดเกิดขึ้น ความจริงแล้วครอบครัวของพี่น่าจะเป็นคนชนบท ตอนนี้ที่พี่จะได้แต่งงานเข้าไปเป็นคุณนายน้อยในตระกูลหวัง มันก็ถือว่าเป็นเหมือนพรที่พระเจ้าประทานมาให้ไม่ใช่รึไง?” สีหน้าอวิ๋นเหยาดูเสียใจ แต่จริง ๆ แล้วเธอเกลียดชังจนกัดฟันกรอดอยู่
นังชั่ว แกมันสมควรตาย ยังจะกล้าดีมาตบฉันอีกเหรอฮะ?
คอยดูเถอะว่าต่อไปฉันจะจัดการแกยังไง?
“ในเมื่อการได้แต่งงานเข้าไปเป็นคุณนายในตระกูลที่ร่ำรวยถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แล้วทำไมเธอถึงไม่ไปแต่งซะเองเลยล่ะ?” อวิ๋นเจินหรี่ตาลง แสงอันเย็นชาปรากฏขึ้นมาในทันที
“นังโง่ คนอย่างแกสามารถมาเทียบกับเหยาเหยาได้ด้วยเหรอ? เหยาเหยาหมั้นหมายกับตระกูลลู่เมืองเจียงไปแล้วย่ะ” เสิ่นหยู่หลานต่อว่าออกมา
“ใช่แล้ว พี่ พี่ลู่เฟิงบอกว่า คนที่เขาชอบมากที่สุดก็คือฉัน” อวิ๋นเหยาพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
เดิมทีคนที่หมั้นหมายกับตระกูลลู่ไว้คืออวิ๋นเจิน แต่เนื่องจากอวิ๋นเหยาเป็นลูกสาวที่แท้จริง ดังนั้นจึงเปลี่ยนไปเป็นอวิ๋นเหยาแทน
ส่วนลู่เฟิงกับอวิ๋นเหยา ต่างฝ่ายต่างก็มีศีลเสมอกันมองตากันก็รู้ใจกัน
เมื่อเห็นใบหน้าอันงดงามของอวิ๋นเจิน ผิวที่ขาวละมุน ออร่าอันเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความสง่างรอบตัวเธอ ทำให้อวิ๋นเหยารู้สึกอิจฉาขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
“เธอไม่ต้องห่วงหรอกนะ ฉันไม่ได้สนใจพี่ลู่คนนั้นของเธอเลยสักนิด พวกเธอมันก็แค่ชายโฉดหญิงชั่วต้องอยู่ด้วยกันจนตายนั่นแหละ จะได้ไม่ต้องไปเดือดร้อนคนอื่น” อวิ๋นเจินหัวเราะเยาะเย้ยออกมา
“อวิ๋นเจิน พวกเราหวังดีกับเธอนะถึงได้หาคนดี ๆ ให้เธอ แต่ถ้าเธอไม่ค่าในน้ำใจของเรา งั้นก็แล้วแต่ เธอไปหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอซะไป!” อวิ๋นหงเจียรู้ว่าภรรยาและลูกสาวของเขาวางยาอวิ๋นเจิน เขารู้ดีอยู่แกใจว่าตัวเองนั้นไร้เหตุผล
ตอนนี้ในเมื่อเปิดเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว งั้นก็ไม่สามารถที่จะเก็บอวิ๋นเจินเอาไว้ในตระกูลอวิ๋นได้อีก
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็หยิบเงินห้าหมื่นออกมา แล้วก็ยื่นให้ไป
“เธอรับเงินนี้ไปเถอะ ตอนนั้นที่พวกเราอยู่อำเภอฉินอวิ๋นเผลออุ้มเธอผิดมา พ่อแม่ของเธอน่าจะอยู่ที่นั่นแหละ”
อำเภอฉินอวิ๋นเป็นสถานที่ที่ยากจนที่สุดในประเทศแล้ว ในแต่ละปีต้องขอเงินบริจาคจากองค์กร
“คุณพี่ ตระกูลอวิ๋นเลี้ยงดูเธอมาตั้งสิบกว่าปี เราไม่ขอค่าเลี้ยงดูจากเธอก็ดีแค่ไหนแล้ว ทำไมคุณพี่ต้องให้เงินเธออีกล่ะคะ? คุณพี่ไม่เห็นที่เธอตบหน้าเหยาเหยาเมื่อกี้นี้รึไง? เธอเป็นคนอกตัญญูจริง ๆ เลี้ยงหมา หมามันยังรู้จักตอบแทนคุณมากกว่าเลย”
ตอบแทนคุณงั้นเหรอ?
อวิ๋นเจินเยาะเย้ยออกมาเล็กน้อย
เดิมทีเธอรู้อยู่แล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกทางสายเลือดของตระกูลอวิ๋น แต่อย่างไรเธอก็อาศัยอยู่กับพวกเขามาตั้งสิบกว่าปีแล้ว ดังนั้นเธอจึงตั้งใจเอาไว้ว่าตอนที่ออกไป เธอจะให้เงินพวกเขาเอาไว้สักก้อนหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องแล้วล่ะ
อันที่จริงอวิ๋นหงเจียไม่เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารจัดการแต่อย่างใด ส่วนเสิ่นหยู่หลานก็รู้แค่การใช้จ่ายเงินในการช้อปปิ้งเท่านั้น ช่วงหลายปีมานี้ถ้าหากว่าเธอไม่ได้อยู่เบื้องหลังคอยช่วยเหลือในหลาย ๆ เรื่อง อวิ๋นซือ กรุ๊ปคงล้มไม่เป็นท่าไปนานแล้ว
อวิ๋นเจินเห็นถึงธาตุแท้ของความละโมบ และความโหดเหี้ยมของคนในครอบครัวนี้หมดแล้ว
“ต้องขอบคุณคุณอวิ๋นมากเลยนะคะ แต่ไม่จำเป็นหรอกค่ะ” สีหน้าของอวิ๋นเจินดูเย็นชาราวกับสระน้ำที่เย็นยะเยือก ริมฝีปากบาง ๆ ของเธอขยับไปมา
หลังจากพูดจบ อวิ๋นเจินก็ขึ้นไปชั้นบนเพื่อเก็บข้าวของของเธอทันที
อวิ๋นเหยาจึงรีบตามขึ้นไปชั้นบนด้วย
ตอนที่ลงมาชั้นล่าง อวิ๋นเจินแค่แบกกระเป๋าสีดำเก่า ๆ ใบหนึ่งมาด้วยเท่านั้น
อวิ๋นเหยาตามหลังเธอไปและพูดขึ้นมาอย่างหน้าซื่อใจคดว่า “พี่ เดี๋ยว เสื้อผ้าพวกนี้มีแต่ของที่ยังไม่ได้ใส่ทั้งนั้นเลย พี่จะเอาไปด้วยก็ได้นะ ได้ยินว่าบ้านพี่ที่นั่นจนมากเลยหนิ”
หลังจากพูดจบ เธอก็ยื่นมือไปดึงกระเป๋าหนังสือของอวิ๋นเจินมา
หลังจากเสียง “แกว๊ก” ดังขึ้นมา ของในกระเป๋าก็ร่วงตามเสียงลงมาทันที
ทันใดนั้นสร้อยข้อมือ ‘ซานฉาฮัว’ ที่แวววาวสะดุดตาเส้นหนึ่งก็ร่วงออกจากในกระเป๋า
อวิ๋นเหยาพูดขึ้นมาด้วยความตกใจว่า “นี่....นี่มันของขวัญที่คุณพ่อเพิ่งมอบให้ฉันเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมมันถึงไปอยู่ในกระเป๋าของพี่ได้ล่ะ?”
ริมฝีปากของอวิ๋นเจินยกขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน
ยัยแอ๊บแบ๊วนี่เริ่มเล่นเกมยัดของโยนความผิดให้คนอื่นอีกแล้วเหรอ?
ดีเลย งั้นเธอก็จะเล่นเป็นเพื่อนด้วย!
“เยี่ยมไปเลย อวิ๋นเจิน นี่แกกล้าขโมยของเลยเหรอฮะ? มิน่าล่ะถึงได้ไม่สนใจเงินห้าหมื่นนั้น ที่แท้ก็ขโมยสร้อยข้อมือมูลค่าห้าล้านไปนี่เอง คนในนี่มันน่ากลัวกว่าคนนอกจริง ๆ ด้วย!” เมื่อนายหญิงตระกูลอวิ๋นเห็นเช่นนั้นก็ก็พูดขึ้นมาด้วยความโมโหเดือดดาลทันที
อวิ๋นหงเจียขมวดคิ้วแน่นเช่นกัน “อวิ๋นเจิน นี่มันอะไรกัน?”
นิยายรักสายบาป แนวนางเอกเป็นชู้กับพ่อเลี้ยงฝรั่ง แอบมีอะไรกับพี่ชายฝรั่ง ริต้าสาวน้อยสุดสวย เธอมีพ่อเลี้ยงที่เป็นฝรั่งจอมหื่น เขามักจะแอบมาเสพย์ความสาวจากเธออยู่เสมอๆ ความสวยของเธอดึงดูดผู้ชายเข้ามาอีกมากหน้าหลายตา เธอกลายเป็นสาวเซ็กซี่ที่เร่าร้อนในที่สุด*
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"