เพราะเป็นตัวซวยของครอบครัว เธอจึงถูกส่งไปอยู่กับยาย แต่ย่าผู้เกลียดชังของเธอก็ขอให้เธอแต่งงานกับคู่หมั้นของพี่สาวฝาแฝด เธอจำต้องรับเงื่อนไขของผู้เป็นย่าเพราะคุณยายป่วยหนัก เพื่อยื้อชีวิตของคุณยายที่รักและดูแลเธอมาตลอด ดังนั้นเธอจึงยอมแต่งงานกับเขา
เพราะเป็นตัวซวยของครอบครัว เธอจึงถูกส่งไปอยู่กับยาย แต่ย่าผู้เกลียดชังของเธอก็ขอให้เธอแต่งงานกับคู่หมั้นของพี่สาวฝาแฝด เธอจำต้องรับเงื่อนไขของผู้เป็นย่าเพราะคุณยายป่วยหนัก เพื่อยื้อชีวิตของคุณยายที่รักและดูแลเธอมาตลอด ดังนั้นเธอจึงยอมแต่งงานกับเขา
ท้องฟ้าสีคราม ท้องน้ำสะท้อนแสงแดดยามเช้าอันแสนสดใส บ้านเรือนไทยหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมลำคลองอันเงียบสงบ ห่างไกลจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ ขวัญเนตรนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้เก่าๆ ข้างๆ คุณยายที่เลี้ยงดูเธอมาแต่อ้อนแต่ออด นอกจากจะมีม้านั่งไม้ยาวที่ตั้งอยู่ข้างบ้าน บ้านเรือนไทยยังถูกตกแต่งด้วยไม้ลวดลายไทยแบบดั้งเดิมที่แสดงถึงความงามของวัฒนธรรมโบราณ
“ช่วงนี้คนสั่งขนมกันเยอะมากเลยนะคะคุณยาย” ขวัญเนตรพูดกับผู้เป็นยาย
ขวัญเนตรเพิ่งเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์การอาหารมาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
เธอตั้งใจว่าเรียนจบ จะกลับอยู่ดูแลคุณยายที่บ้าน เปิดร้านขายขนมเล็ก ๆ สร้างอาชีพให้ตัวเอง เพราะคุณยายไม่มีใคร เธอไม่อยากทิ้งท่านเอาไว้เพียงลำพัง อีกอย่างเธอก็รับจ๊อบทำวิจัยให้กับอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่ช่วงนี้ไม่มีงาน เธอจึงรับออร์เดอร์ขนมมาทำแทน
“ใช่จ้ะ เพราะเรานั่นแหละหาลูกค้าให้ยาย”
คุณยายพูดเสียงอ่อนโยน แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มือหยาบกร้านจากการทำงานหนักทั้งชีวิตหยิบจับทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่ว จัดการกับวัตถุดิบและเครื่องมือทำขนมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ขวัญเนตรหันไปมองคุณยายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและเคารพ
“ลูกค้าสั่งขนมตาลมากเป็นพิเศษค่ะคุณยาย เพราะติดใจฝีมือของคุณยาย” ขวัญเนตรยิ้มให้กับคุณยาย สายตาของเธอเต็มไปด้วยความรักใคร่
“ขนมตาลต้องหอมหวานและนุ่มนิ่ม มะพร้าวก็ต้องหอมหวานมันอร่อย ไม่แก่จนเกินไป ไม่อ่อนจนเกินไป” คุณยายพูดไปพลางหยิบลูกตาลโตนดที่เพิ่งเก็บมาจากต้นข้างบ้านมาจัดการเตรียมเอาไว้
ขวัญเนตรเริ่มเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ข้างๆ คุณยาย เธอรู้ดีว่าแต่ละขั้นตอนนั้นสำคัญมาก การทำขนมไทยไม่ใช่แค่การผสมแป้งและน้ำตาล แต่มันคือการทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ รักษาความอร่อยและความสมบูรณ์แบบตามวิธีดั้งเดิม
“ต้องใส่น้ำตาลโตนดจากต้นที่เราเพิ่งเก็บมาเมื่อวานนี้นะจ๊ะ เพราะมันหวานและหอมที่สุด” คุณยายบอกกับหลานสาวพลางจัดการคนแป้งกับน้ำตาลอย่างชำนาญ
ขวัญเนตรหันไปมองน้ำในคลองที่ใสสะอาด และแสงแดดยามเช้าที่เริ่มส่องผ่านต้นไม้ใหญ่ไปกระทบกับผิวน้ำ ทำให้เกิดภาพที่งดงามและสงบเงียบ เธอรู้สึกเหมือนว่าเวลาเดินไปช้าๆ ผ่อนคลายและมีความสุขอย่างประหลาด
การทำขนมไทยกับคุณยายเป็นเหมือนการเชื่อมต่อกับอดีตที่เต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ ระหว่างเธอกับท่าน
เมื่อก่อนคุณยายหาบขนมไปขายที่ตลาด บ้างก็รับทำขนม เธอไปช่วยขายขนมแต่เด็ก รู้จักผู้คนแถวนี้ดี ใคร ๆ ก็ติดใจขนมไทยโบราณของคุณยายแทบทั้งสิ้น
“เดี๋ยวทำเสร็จแล้ว ก็เก็บลงในตะกร้าหวาย แล้ววางให้เย็นก่อน เพราะถ้ายังอุ่นอยู่มันจะไม่คงตัว”
ขวัญเนตรทำตามขั้นตอนทุกอย่าง อย่างระมัดระวัง คอยใส่ใจทุกรายละเอียด
บรรยากาศในบ้านเรือนไทยริมคลองช่างอบอุ่นและผ่อนคลาย
เสียงน้ำไหลในคลองและเสียงนกร้องท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งเพิ่มความสุขใจให้กับวันนั้น แม้แต่สายลมที่พัดผ่านก็ยังทำให้รู้สึกเหมือนกับเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ และทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านหลังนี้เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน
"จำไว้นะ ทำทุกอย่างด้วยความรัก ความพยายาม ความใจเย็น แล้วขนมจะออกมาหอมหวานอร่อยเสมอ" คุณยายบอกอีกครั้งขณะมองดูหลานสาวกำลังทำงานด้วยความตั้งใจ
ขวัญเนตรยิ้มรับ ตั้งใจทำขนมตาลอย่างแข็งขัน คุณยายของเธอทำขนมได้หลากหลาย แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง หากมีจำนวนมากก็จะเริ่มเตรียมกันตั้งแต่เย็นของอีกวัน เช่นขนมใส่ไส้ที่ต้องเตรียมตัดใบตอง และไม้กลัดให้มีขนาดห่อเท่า ๆ กัน
ขณะที่ขวัญเนตรกำลังตั้งใจผสมแป้งและน้ำตาลตามขั้นตอนที่คุณยายบอกอย่างระมัดระวัง มือเล็กๆ ของเธอกำลังปั้นขนมตาลอย่างพิถีพิถัน ทุกอย่างดูเหมือนจะ
ราบรื่นจนกระทั่งคุณยายล้มหมดสติลงใกล้ๆ กับที่เธอนั่งอยู่
“คุณยาย... คุณยายเป็นอะไรไปคะ” ขวัญเนตรถามด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ใบหน้าของท่านเริ่มซีดจนเห็นได้ชัด
“คุณยาย!” ขวัญเนตรร้องเสียงหลง รีบประคองร่างของคุณยายขึ้นมา แต่มันหนักเกินกว่าที่เธอจะรับไหว
หญิงสาวรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกกำลังจะหยุดหมุน
ขวัญเนตรรู้ตัวว่าต้องการความช่วยเหลือ เธอวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน รีบตะโกนเรียกหาคนช่วยจากบ้านข้างๆ แต่ในขณะเดียวกันนั้น มือของขวัญเนตรก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากกระเป๋าและรีบโทร. เรียกรถพยาบาลโดยด่วน
ขวัญเนตรรีบวิ่งกลับไปหาคุณยาย เธอจับมือคุณยายไว้แน่น พลางพูดด้วยเสียงสะอื้น
“คุณยาย... อย่าเป็นอะไรนะคะ เดี๋ยวรถฉุกเฉินก็มาแล้วค่ะ” ภายในใจของขวัญเนตรเต็มไปด้วยความกลัว ความกังวล ความหวาดหวั่นจนแทบขาดใจ แต่เธอพยายามตั้งสติให้มากที่สุด คุณยายได้ให้ชีวิตและความรักกับเธอมากมาย เธอไม่อยากให้ท่านเป็นอะไรไป
เพื่อนบ้านมาช่วยประคองคุณยายเอาไว้ พร้อมทั้งช่วยกันปฐมพยาบาล
ในเวลาต่อมา รถพยาบาลก็มาถึงบ้านเรือนไทยริมคลอง เจ้าหน้าที่การแพทย์ช่วยหามคุณยายขึ้นเปลในทันที ขวัญเนตรตามไปติดๆ ด้วยหัวใจสั่นไหว ไม่รู้จะทำอะไรได้มากไปกว่าการมองดูคุณยายถูกพาขึ้นรถ
เธอเป็นคู่หมั้นคู่หมายกับเขามานานหลายปี แต่เขาไม่อยากหมั้นและแต่งงานกับเธอ เขามีคนที่รักอยู่แล้ว เธอจึงกลายเป็นส่วนเกิน บิดามารดามาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้เธอไร้ที่พึ่งพิง ในเมื่อเขาไม่รักใคร่ไยดี เธอก็พร้อมถอยห่าง แต่เขากลับตามติดไม่ยอมให้เธอออกไปจากชีวิตของเขา
เขาเจอเธอเมื่อวันก่อน ทำให้เขาตกหลุมรักเธอในทันที เขาได้เจอเธออีกครั้งในสภาพบาดเจ็บและความจำเสื่อม โดยไม่รู้ว่าแท้ที่จริงเธอคือคู่หมั้นวัยเด็กของเขา แต่เพราะเขาตกหลุมรักเธอ จึงโกหกเธอไปว่าเขาคือสามี!
ในอดีตเขาคือพี่ชายที่แสนดี แต่ในวันนี้เขากลับหมางเมิน เย็นชา จิกกัดและปากร้าย เธอจึงอยากหลีกหนีเขาไปให้ไกล แต่ทำไมทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เธอต้องมาเป็นเลขาของเขา แถมยังต้องมามีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขาอีก!
งานแต่งงานที่เกิดขึ้น เพราะผู้ใหญ่ เธอถูกสามีรังเกียจ ก็ให้มันรู้ไปว่าเขาจะเกลียดเธอไปได้สักกี่น้ำ เธอจะแกล้งเขาให้หนำใจ ทำหน้าที่เมียให้สาสมกับที่เขาเกลียด!
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล
"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
© 2018-now MeghaBook
บนสุด