เพราะฐานะที่ต่างกันมาก เหลือเกิน ทำให้เค้า ได้แต่เฝ้ามองเธอเพียงเท่านั้น ความรัก ของเค้า ที่จะส่งไปให้ถึงใจเธอ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในเมื่อ ครอบครัว ของเธอ ไม่มีวันเห็นดีเห็นงาม และถ้าจะต้องตัดใจ เค้าจะทำได้ไหม ในเมื่อ เธอ คือ ความหวัง ความฝัน และความหวานละมุน ในชีวิตที่แสนจะขมขื่นของเค้า อนาคตที่มองไม่เห็นทางข้างหน้า แต่เมื่อมีเธอ เดินเข้ามา ชีวิตของเค้า ก็ดูเหมือนกับว่า อะไรมันจะง่ายลงไป แม้จะไม่ง่ายจริงๆ แต่ว่า เค้ากลับมีพลังใจในการต่อสู้ เพื่อจะอยู่ต่อไป อยากจะพิสูจน์ตัวเอง ให้เธอ ได้เห็นว่า เค้า มีเธอ เป็นแรงใจในทุกๆวัน
เด็กสาวมอหก หลายคน นั่งรอผู้ปกครอง ที่ร้านกาแฟ ที่อยู่ติดกับโรงเรียน วันนี้ เป็นวันศุกร์ ที่ทางโรงเรียน ปล่อยให้นักเรียน ชั้นมัธยมหก กลับบ้าน
" เครปเค้กค่ะ กับ สตอเบอรี่โซดา "
เสียงนุ่มนวล อ่อนหวาน บอกกับ พนักงานของร้าน แล้วก็หยิบเงินออกมา จ่ายค่าขนมและ เครื่องดื่ม
" เพิ่งกินข้าวเที่ยงมา ยังจะกินขนมอีกหรอ "
เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ถามคนตรงหน้าตัวเอง ที่รับจานเครปเค้ก มาถือเอาไว้
" ก็บุษ มีกระเพาะแยก ของคาวของหวาน "
เสียงที่บอก พร้อมกับรอยยิ้มสดใส ทำเอาคนที่ถามมองด้วยความหมั่นไส้
คุณหนูบุษกร ลูกสาวคนเดียว ของ ท่านนายอำเภอ กับ คุณนาย ความสวย ที่มาพร้อมกับ มันสมอง ที่ดีเลิศ รวมถึง ชาติตระกูล ที่ดี ทำเอาหนุ่มๆ หลายๆ คน แอบมองอยู่เสมอ
" อ้าว รถที่บ้านมาแล้ว "
ขนมที่ซื้อเอาไว้ ยังไม่ได้กินเลย เพื่อนที่มาด้วยกัน รับจานไป แล้วบอกด้วยรอยยิ้ม สดใส
" เดี๋ยวกวางกินเอง บุษกลับไปได้เลย "
" ถ้างั้น ฝากกวางด้วยนะ บุษไปก่อนนะจ้ะ "
เด็กสาว คว้ากระเป๋านักเรียน กับ ถุงใส่ของกระจุกกระจิก ที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วเปิดประตูออกมา นอกร้าน คนขับรถ ที่รออยู่แล้ว ยิ้มต้อนรับ คุณหนู ก่อนจะขับรถออกไป
" ลุงขอโทษครับ ที่ให้คุณหนูรอ "
เด็กสาวส่ายหน้า แล้วยิ้มให้
" ไม่เป็นไรเลยค่ะ บุษรอได้ "
เธอตอบกลับไป แล้วหยิบ หนังสือ การ์ตูนขึ้นมา จากที่เก็บของหลังเบาะรถ แล้วอ่านหนังสือ ระหว่างทางกลับบ้าน เงียบๆ
@ ริมฝีปากนุ่ม สัมผัส ลงไปที่ริมฝีปาก อ่อนโยน ใบหน้าหล่อเหลา ของ คาสโนว่า หนุ่มกำลังขยับเข้าไปหา ลำคอขาว ของ ฝ่ายหญิง@
ข้อความในการ์ตูนทำเอาเด็กสาว หน้าแดงก่ำด้วยความอาย แล้วก็ยิ้มอยู่คนเดียว หนังสือ แบบนี้ คุณแม่ไม่อนุญาตให้อ่านดังนั้น เธอจึงต้องเก็บซ่อน เอาไว้ในรถ ที่ใช้เป็นประจำ
ระยะทาง จากโรงเรียนมาถึงบ้าน ใช้เวลา เกือบ 40 นาที รถเก๋งคันเล็ก สีขาว ขับเข้ามาจอด ในบ้านพัก ในช่วง บ่ายกว่าแล้ว
" ทำไมถึงช้า คนขับรถช้า หรือ ลูกช้า "
ผู้เป็นแม่ ที่รออยู่หน้าบ้าน ถามเสียงดุ ทันที ที่รถ จอดสนิท ลูกสาว ที่เพิ่งยกมือไหว้ ทำความเคารพ บอกกับ แม่ ด้วยเสียง อ่อนน้อม
" ลูกอ่านหนังสือ ในห้องสมุดค่ะ เลยช้า ลุงเค้ามารอลูกนานแล้ว "
เด็กสาวบอกกับแม่ แล้วเดินเลี่ยงไปข้างในบ้าน ก่อนจะยกมือไหว้ แขก ที่นั่งล้อมวง กันอยู่เกือบสิบคน
" น้องบุษ สวัสดีค่ะ "
เพื่อนแม่ รับไหว้ เด็กสาว ที่เดินเข้ามา แล้วก็กลับมาสนใจ ของที่อยู่ในมือ กัน อย่างตื่นเต้น ว่า ตานี้ ใครจะได้ เงินที่กองอยู่ตรงหน้าไป
แม่บ้าน เดินขึ้นมาบนห้องนอน พร้อมด้วย ของว่าง และ น้ำส้ม เย็นฉ่ำ
" ขอบคุณค่ะ แต่บุษ อยากนอน "
เด็กสาวบอกกับ แม่บ้าน แล้วยกน้ำส้มขึ้นดื่ม แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า จากชุดนักเรียน เป็นชุดอยู่บ้าน
" นอนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวมื้อเย็น ป้าเสริฟบนห้องนะคะ คุณพ่อไปราชการ ส่วนคุณแม่ คงสนุกกับเพื่อนๆ จนดึกแน่ "
ลูกสาวคนเดียวของบ้าน พยักหน้ารับรู้ แล้วล้มตัวนอนลง ผู้เป็นพ่อ ที่สนใจแต่งานข้างนอก และ อยู่กับลูกน้อง ไม่รู้เลยว่า ลับหลังพ่อ แม่ของเธอ เปิดบ่อนที่บ้าน ทุกวันศุกร์ เสาร์ เป็นประจำ
โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล็ก สั่นรัว พร้อมกับเบอร์โทร ที่ไม่รู้จักโทรเข้ามา
" สวัสดีค่ะ "
" น้องบุษ ใช่ไหมครับ "
บุษกร ที่จำได้ว่า ไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของตัวเอง ให้ใครไป มองดู เบอร์ที่โทรเข้ามาอีกครั้ง แล้วก็ตอบรับกลับไป
" พี่กายครับ เป็นพี่ชายกวาง "
ชื่อ ที่เอ่ยออกมา ทำเอาเธอ ถอนหายใจ อีกครั้ง
" บุษ อยู่กับคุณพ่อค่ะ ขอโทษนะคะขอวางสายก่อน "
ไม้ตายเด็ดที่สุดของเธอ คือการอ้างพ่อแม่ แม้อีกฝ่ายจะเป็นพี่ชายของเพื่อน แต่เค้า ก็ไม่ใช่ คนที่เธอ จะต้องคุยด้วย และการที่เค้า ถือวิสาสะ โทรมาหาเธอ แบบนี้ ก็ไม่ควรเลยจริงๆ
ไอจีส่วนตัว ที่มีเอาไว้ สำหรับ ติดต่อกับเพื่อน มีเพียงรูป หนังสือ รูปการบ้าน และ รูปการเรียน เพียงอย่างเดียว ชีวิตส่วนตัวของเธอ คุณพ่อคุณแม่ ไม่อนุญาตให้แชร์ อะไรลงไป
เพื่อนๆหลายคน ไปเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้า หลังเลิกเรียน แต่เธอ ต้องกลับบ้าน เท่านั้น
เสียงพูดคุยกันดังขึ้นเพราะเครื่องดื่ม ที่เติมกัน ตั้งแต่บ่ายแก่ เริ่มออกฤทธิ์ เสียงเพลง ที่เปิดดังขึ้น ปลุกให้คนที่นอนหลับอยู่บนห้อง ตื่นขึ้นมา
มือบางนวดขมับตัวเอง เพราะรู้สึกปวดหัวตุบๆ เด็กสาวลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะมองลงมา ข้างล่าง เห็นลุงคนขับรถ ชี้ไปที่สนามหญ้า และ ต้นไม้ ที่ตอนนี้ ไม่เป็นรูป ไม่เป็นทรง
เด็กชายวัยรุ่น ผมสั้นเกรียน สวมเสื้อ รด สีเขียว กับกางเกงขาสั้น สีน้ำเงิน พยักหน้า รับคำสั่ง ก่อนจะมองขึ้นไป ข้างบน ต้นไม้ใหญ่ แล้วก็เห็นแสงไฟ ข้างบน ชั้นสอง ที่เปิดสว่างจ้า อยู่
" ตัดหญ้า ตัดต้นไม้ ให้เรียบร้อย เก็บกวาด ทำความสะอาด อย่าเดินเข้าไปในบ้านท่าน อย่าวุ่นวาย เข้าใจไหม นน "
ชานน พยักหน้า รับรู้ แล้วตอบรับ เสียงเบา ก่อนจะมองขึ้นไป ข้างบนชั้นสอง แล้วก็ส่ายหน้า เมื่อได้ยินเสียง ของนักพนัน กำลังลุ้นไพ่ กันดังลั่นบ้าน
" อย่าพูดมาก ได้ยินอะไร เห็นอะไร ก็อย่าพูด เข้าใจไหม "
ลุงที่เป็นคนขับรถ ของบ้านนี้ บอกเสียงดุ ก่อนจะยื่นเงิน แบงก์ร้อยส่งให้
" ค่าน้ำมัน ใส่เครื่องตัดหน้าหญ้า พรุ่งนี้มาแต่เช้า ลุงบอกพ่อเอ็ง ไว้แล้ว ว่าจะมาทำงานบ้านเจ้านาย "
ผู้เป็นพ่อ ที่เป็นนักการภารโรง ประจำอำเภอ ที่ตอนนี้ ป่วยอยู่ที่บ้าน ต้องยอมให้ลูกชาย ต้องมาทำงานที่นี่ เพื่อหาเงินเข้าบ้าน
" ครับ พรุ่งนี้เช้า ผมจะมา แต่เช้า "
นักเรียนชายชั้นมอหก รับเงินแล้วเก็บใส่กระเป๋า ก่อนจะเดินออกจากบ้านหลังใหญ่ ขี่รถมอเตอร์ไซค์คันเก่า กลับบ้านของตัวเอง
บ้านหลังเก่า ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านหลังใหญ่มากนัก เงียบกริบ ไฟในบ้านยังไม่ได้เปิด ทำให้บ้านหลังเก่า ดูน่ากลัว
เสียงไอคอกแคก ทำให้คนที่จอดรถ รีบเดินไปเปิดประตูออก แล้วเปิดไฟในบ้าน ก่อนจะเดินไปดูพ่อ
" ไอไม่หายเลยพ่อ " ลูกชายเทน้ำอุ่นให้ดื่ม แล้วก็จับตัวพ่อเอาไว้ ร่างกายที่ตัวร้อนรุมๆ ยังไม่ดีขึ้นเลยมาหลายวันแล้ว
" กินยาแล้ว เดี๋ยวก็ดี " พ่อบอกเสียงอ่อย แล้วล้มตัวนอนลง บนฟูกอันบาง
" ไปคุยเรื่องงานเรื่องการมาเรียบร้อยไหม "
" ครับ เรียบร้อย พรุ่งนี้ผมจะไปทำงานแต่เช้า "
" ดีแล้วทำงานให้ดีดี อย่าไปรุ่มร่ามบ้านนาย อย่าไปยุ่งกับคุณนายเค้านะ ไปแต่เช้า ทำให้เสร็จก่อนเที่ยง จะดี เพราะคุณนาย ยังไม่ตื่น "
ผู้เป็นพ่อ บอกกับลูกชาย ตามสิ่งที่ตัวเอง ทำมาตลอด ทุกสองสัปดาห์ นายจะสั่งให้ตัวเอง ไปตัดหญ้า จัดสวนที่บ้าน ให้สวยงาม เป็นระเบียบ ในช่วงวันหยุด และ นายอำเภอ ก็มักจะไม่อยู่บ้าน และ คุณนาย ก็มักจะมีเพื่อน มาเที่ยวหาอยู่เสมอ ส่วนคุณหนูบุษ ก็อยู่แต่บนห้องของตัวเอง แทบจะไม่เคยลงมา ข้างล่างเลย
เสียงพูดคุย และ เสียงโห่ร้อง เงียบเสียงลง ช่วงก่อนจะตีห้าเล็กน้อย รถหลายคัน ทยอยกันขับรถออกไป จากบ้าน ในช่วงเช้ามืด และแม่ของเธอ ก็ขึ้นมานอน ก่อนตีห้า เพียงไม่กี่นาที
เสียงที่ไม่เบานัก ทำให้คนที่หลับสนิท สะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะยืนมอง รถหลายคัน ที่ขับรถออกไป จากบ้านของตัวเองแล้ว ก็เปิดประตูห้องออกไป เจอป้ายแขวน หน้าห้อง ที่เขียน เอาไว้
@ห้ามปลุก ห้ามเรียก ห้ามรบกวน @
เด็กสาวปิดประตูห้องนอน แล้วก็หยิบหนังสือ ขึ้นมา อ่านทบทวน บทเรียน เธอจะไปอยู่หอ เธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ และเธอจะไป จากที่นี่
"ถ้าคืนนี้ ไปต่อ ฉันต้องจ่ายเท่าไหร่ลิลลี่ " เธอสวย เธอหรู เธอแพง ในเล้าจ์แห่งนี้ เธอเหมาะจะอยู่แค่บนเตียง ไม่เหมาะจะเดินเคียงข้าง" " เควิน ซุง " มองเธอด้วยความโกรธ ที่เธอท้าทายเขา กล้าดียังไงถึงมานั่งกับคนอื่น แบบนี้ "เขาเป็นลูกค้า เขาอยากนั่งกับลิลลี่ ลิลลี่เลือกไม่ได้ แล้วเขา เลี้ยงดริ้งก์คืนนี้แล้วค่ะ ถ้าคุณเควินอยากนั่งกับลิลลี่ ก็ต้องจ่ายหนักหน่อยนะคะ " "ลิลลี่ ถ้าเล่นตัวนัก จะจัดให้ร้องทั้งคืนเลย " เธอกล้าดียังไง มาทำให้เขาโกรธ แม่ดอกลิลลี่
"ล้านบาท สำหรับวันนี้ ถ้าคุณมือขึ้น ผมขอเงินคืน ถ้าคุณเสียหมด คุณจะเป็นหนี้ผมสิบล้าน รวมกับของเก่าอาทิตย์ที่แล้ว" ชายหนุ่มพูดภาษาอังกฤษน้ำเสียงหนักแน่น ชัดเจน บอกออกไป โยธิน ยิ้มกว้าง ออกมาทันที ขอเเค่คืนนี้ได้ต่อทุน คืนนี้จะต้องเป็นวันของเค้า ชายหนุ่มวัยสามสิบปียิ้มกว้างออกมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปข้างนอก เพื่อใช้เงินล้านคืนนี้ต่อทุนเป็นสิบล้าน นิอร ยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะวางจานขนมใบเล็กลงบนโต้ะอย่างเอาใจคนตรงหน้า "คุณป้าขา อย่าโมโหเลยค่ะ พี่โย อาจจะแค่เมาไม่กลับเท่านั้นเองค่ะ อย่าห่วงไปเลยค่ะ" เสียงหวานปลอบใจผู้มีพระคุณ ก่อนจะตักขนมช่อม่วงชิ้นสวย ให้คุณป้าได้ลองชิม "อรลองทำช่อม่วงค่ะ คุณป้าช่วยชิมให้อรได้ไหมคะ ถ้าเผื่ออร่อยจะได้เอาไว้รับรองแขกที่บริษัท" สาวน้อยทำทีเปลี่ยนเรื่อง เพื่อหันเหความสนใจ ป่านนี้พี่โยอยู่ที่ไหน ทำไมไม่กลับบ้าน
การตัดสินใจเดินจากมา เพราะรัก การที่เธอเลือกทางเดินเอง ก็เพราะรัก ไม่ว่าตรงหน้าของเธอ จะมีพี่นายหรือไม่ ไม่ว่าความจริงที่เจอ จะปวดร้าวเพียงใด แต่นิตาไม่เคยเสียใจสักวัน ที่เลือกจากทางเดินนี้
นางร้ายขายดี อย่าง ทอปัด ตั้งใจว่า ถ้าต่อไปนี้ ใคร จะเดินเข้ามา ขอความจริงใจ เปิดเผยและชัดเจน ความรักที่ผ่านมา ทำให้เธอ ทั้งเจ็บ และ อาย บทเรียนราคาแพง ที่ทำให้เธอ ต้องระวังระวังใจ จนกระทั่ง เขา เดินเข้ามา แล้วบอกกับเธอว่า เขาจะอยู่ตรงนี้ จะไม่ไปไหน จะจับมือเธอ เดินไปข้างหน้า และบอกทุกคนว่า คนนี้ แฟนผม
เพราะเรื่องราวในครั้งนั้น เขาไม่ชัดเจน ทำให้เธอ ต้องเสียใจ เมื่อกลับมาพบกันอีกครั้ง เขาตั้งใจว่า จะไม่ปล่อยเธอไป แต่ว่า เขาไม่รู้เลย ช่วงเวลาที่เขาหายไป เธอกลายเป็นแม่ไปแล้ว แม่ที่น่ารักแสนดี ที่มีลูกสาว และคนข้างๆ ยืนเคียงข้างไม่ห่าง หนังสือรักเล่มเดิม ที่จะปรับปรุงใหม่ จะช้าเกินไปไหม สำหรับคำว่าเรา สองคน
นิยายรัก หวานละมุน ของคุณอา และ หลานสาว ความรักของน้องพรีน ที่มอง อาแพค มานาน รักครั้งแรก ของพรีน คือ อาแพค แต่ว่า รักแรกของเธอมองเธอเป็นเพียงหลานสาว เพราะอาแพค มีแฟน ที่เหมาะสม และคู่ควรกัน การรอคอย การแอบรัก และเฝ้ามอง มานานแสนนาน น้องพรีนจะ อยู่ห่างๆ มองอาแพคไกลๆ จนกว่า อาแพค จะหันมา แล้วเจอพรีน อยู่ตรงนี้
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที