ประตูรถจี๊ปเปิดออกและปิดลงอย่างแรง เสียงดังผ่านความเงียบสงบในยามเย็น คล้ายกับเสียงปืนที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ชุดลายพรางของเขาดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมในเมืองอย่างน่าประหลาด ท่าทีเคร่งขรึมและกรามอันมั่นคงยิ่งทำให้เขาดูน่าหวาดกลัว เมื่อก้าวเข้าไปในบาร์ที่เต็มไปด้วยสีสันและความวุ่นวาย
ภายใน ไฟนีออนฉายแสงที่ส่องลงบนใบหน้าของเขาอย่างน่าอัศจรรย์ เงาสะท้อนไปทั่วใบหน้าของเขา ขณะที่เขาก้าวเดินไปอย่างมีจุดหมาย บาร์แห่งนี้คึกคักไปด้วยจังหวะดนตรีที่เร้าใจและเสียงพูดคุยของผู้คนที่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเก็บความเงียบที่น่าสะพรึงกลัวไว้รอบตัว ทำให้เขารู้สึกแปลกแยกจากความครื้นเครงที่เกิดขึ้น
ที่เคาน์เตอร์บาร์ ไรแลนด์ ฟลินน์กำลังนั่งเพลินๆ พลางพูดคุยหยอกล้อกับสาวบาร์ เขาเงยหน้าขึ้นเมื่อทหารเดินเข้ามา คราบแอลกอฮอล์หายไปจากดวงตาของเขาอย่างรวดเร็ว ร่างที่น่าเกรงขามตรงไปที่ลิฟต์ และไรแลนด์ที่สัมผัสได้ถึงความเร่งด่วนก็รีบลุกออกจากเก้าอี้เพื่อไปขวางเขาไว้
“คุณมิทเชล…… อะไรทำให้คุณมาที่ Serendipity ในคืนนี้? เสียงของไรแลนด์เริ่มสั่นเครือภายใต้สายตาเย็นชาของชายคนนั้น
ชายผู้นั้นหรี่ตาลง เสียงของเขาก้องกังวานและถามขึ้นว่า “เรนีอยู่ไหน?”
“ฉัน…… ฉันคิดว่า คืนนี้เธอคงจะอยู่ที่บ้านของเธอ” ไรแลนด์พูดติดๆ ขัดๆ ขณะพยายามทำให้ตัวเองนิ่งสงบภายใต้การจับจ้อง
ชายคนนั้นกดปุ่มลิฟต์ไปยังชั้นบนสุดโดยไม่ลังเล ด้วยการกระทำที่เฉียบคมและเด็ดขาด “คุณมีเวลาสามสิบวินาทีในการแจ้งเตือนเธอ” เขากล่าวอย่างสั้นๆ
หัวใจของไรแลนด์เต้นแรง เพราะความตื่นตระหนกที่เข้าครอบงำ เขารู้ว่าการแต่งเรื่องขึ้นมาเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออกไปยังหมายเลขของรีนี คาร์เตอร์ด้วยมือที่สั่นเทิ้ม ต่อหน้าร่างใหญ่ที่ดูน่าเกรงขามที่ยืนอยู่เหนือเขา หลังจากที่โทรศัพท์ดังติดต่อกันสามครั้ง ไรแลนด์ก็ไม่ได้รับสาย ทำให้เขาต้องรีบเปลี่ยนไปใช้ WhatsApp อย่างรวดเร็ว เขาเลือกที่จะใช้ข้อความเสียง จากนั้นก็กดไอคอนไมโครโฟนและกระซิบอย่างเร่งด่วนว่า “เรนี สามีของคุณมาหาคุณ เขากำลังจะขึ้นลิฟต์ไปแล้ว”
ความพยายามที่จะทำให้เสียงเบาที่สุดของเขานั้นมันล้มเหลวอย่างน่าเสียดาย คำพูดนั้นดังก้องชัดเจนในพื้นที่แคบๆ ของลิฟต์
เสียงหัวเราะเย็นชาแว่วออกมาจากด้านหลังของไรแลนด์ ทำให้เขารู้สึกขนลุกเมื่อลิฟต์เปิดออก เหงื่อเริ่มหยดลงมาบนหน้าผากของเขา ซึ่งแต่ละหยดเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความกลัวที่เพิ่มมากขึ้นของเขา
ชายผู้นั้นก้าวออกไปด้วยย่างก้าวอันแน่วแน่ มุ่งตรงไปยังห้องวีไอพี ไรแลนด์ที่ยังคงหวาดกลัวอยู่ เดินตามไปข้างหลังอย่างอ่อนน้อม ก้าวเดินอย่างลังเล และคิดหาทางแก้ไขอย่างใจจดใจจ่อ
ชายคนนั้นหยุดลงกะทันหันที่ประตูและหันตัวเล็กน้อย ไรแลนด์รวบรวมความกล้าเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “คุณมิทเชลล์ ฉันรับรองได้เลยว่าเธอไม่อยู่ที่นี่”
“โอกาสสุดท้าย—เปิดมันซะ ไม่งั้นฉันจะถีบประตูนี้เข้าไปเอง”
“เชื่อผมเถอะ เธอ……” ไรแลนด์พยายามอีกครั้ง แต่เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือแล้ว
“สาม!” ชายคนนั้นพูดอย่างเรียบเฉย โดยที่น้ำเสียงของเขาไม่มีช่องว่างให้โต้แย้ง ขณะที่การนับถอยหลังเริ่มต้นขึ้น
“ได้ครับ” ไรแลนด์พึมพำ เสียงของเขาเหมือนกระซิบกระซาบ ขณะที่เขากำลังหยิบกุญแจห้อง จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา มือของเขาสั่นเล็กน้อย—เขาติดอยู่ในสถานการณ์คับขัน เขาไม่กล้าขัดใจคนในครอบครัวมิทเชลล์ผู้แข็งแกร่งคนนี้
เมื่อประตูเปิดออกดังเอี๊ยดอ๊าด ดวงตาของชายคนนั้นก็หรี่ลง ท่าทางของเขาแข็งกร้าว ใบหน้าของเขาดูโหดร้ายราวกับทหารที่ผ่านศึกมากประสบการณ์
ไรแลนด์แอบมองเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว แล้วสูดลมหายใจเข้าแรงๆ ก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่น เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เขาจึงยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าแล้วสังเกตการณ์จากระยะที่ปลอดภัย
ด้านใน รีนี เอนกายพักผ่อนอย่างเอื่อยเฉื่อยบนโซฟา เธอสวมชุดเดรสสีแดงสดใสที่ดูโดดเด่น โดยมีชายหนุ่มสองคนนั่งขนาบเธออยู่ ลำตัวเปลือยเปล่าของพวกเขาประดับไปด้วยร่องรอยของความหลงใหลที่ชัดเจน มีรอยขีดข่วนปรากฏบนผิวหนังราวกับเสียงสะท้อนของการเผชิญหน้าที่เร่าร้อนของพวกเขา
เสียงประตูที่ดังขึ้นกะทันหันทำให้ผู้คุ้มกันตัวเกร็ง กล้ามเนื้อตึงขณะมองเห็นร่างที่น่าสะพรึงกลัวปรากฏอยู่ที่ทางเข้า
ตรงกันข้าม รีนีกลับมีท่าทีสบายๆ ไม่ได้ใส่ใจ เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นและยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย เมื่อมองเห็นชายคนนั้น
ด้วยประกายแววตาซุกซนในดวงตาของเธอ เธอมองเขาอย่างไม่เต็มตา รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของเธอ “ผ่อนคลายหน่อย หนุ่มๆ นี่ไม่ใช่การบุกจับของตำรวจ” เธอกล่าวหยอกล้อด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “ขอแนะนำให้รู้จักเขาคนนี้ เขาคือสามีของฉัน วิลเลียม มิตเชลล์ ผู้เป็นที่เคารพนับถือแห่งตระกูลมิตเชลล์ คุณคงจะเคยได้ยินชื่อเขามาบ้างแล้วใช่ไหม?
ขณะที่เธอพูด สายตาของเธอก็หันไปที่วิลเลียม สังเกตท่าทางสงบนิ่งของเขาด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยอันยั่วยวน “คุณมิทเชลล์ เราต้องขอบคุณคุณหรือเปล่าที่มาเยี่ยมเราในคืนนี้? คุณควรจะยุ่งอยู่กับแฟนสมัยเด็กของคุณแทนที่จะมาเสียเวลาที่นี่กับเราไม่ใช่เหรอ?”
วิลเลียมเดินเข้าไปใกล้ด้วยก้าวที่มุ่งมั่น ความหนาวเย็นของอากาศในยามค่ำคืนเกาะติดอยู่บนเสื้อแจ็คเก็ตลายพรางของเขา สะท้อนความหนาวเย็นที่แฝงอยู่บนใบหน้าของเขา เขานั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเธอ โดยนั่งไขว่ห้างอย่างเป็นธรรมชาติแต่มีเจตนาแอบแฝง
เขายิ้มเยาะก่อนจะโบกมือขึ้น “ไม่ต้องสนใจฉัน—ทำต่อเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม”