นอกเมืองจิง ชานเมือง
“จุ๋ม!“
ในความมืดมิด วัตถุหนักตกลงไปในแม่น้ำอย่างกะทันหัน ทำให้เกิดน้ำกระเซ็นเป็นวงกว้าง
ฉือเนี่ยนซึ่งนั่งพักอยู่ริมแม่น้ำ ถูกน้ำกระเซ็นใส่ไปทั้งตัว
ในอากาศมีกลิ่นสนิมจาง ๆ ลอยมา
กลิ่นนี้ เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เป็นกลิ่นเลือด
สิ่งที่เพิ่งตกลงไปในน้ำคือคน แถมยังเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บซะด้วย
ราวกับจะยืนยันความคิดของเธอ หลายเสียงที่จงใจกดให้แผ่วต่ำดังมาจากที่ไม่ไกลนัก
“หาต่อไป!“
“ห้ามพลาดเบาะแสใด ๆ แม้แต่นิดเดียว!”
“ห้ามให้มันรอดชีวิตไปได้เด็ดขาด!“
ไม่นานนัก เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบและไม่เป็นระเบียบก็ดังเข้ามาในโสตประสาท
ฉือเนี่ยนลุกขึ้นเพื่อจะเดินจากไปโดยไม่รู้ตัว แต่ข้อเท้าของเธอกลับถูกจับไว้แน่น
“ช่วยผมด้วย…… ผมจะทำตามคำขอของคุณทุกอย่าง……“ เสียงของชายคนนั้นแผ่วเบาราวกับจะขาดใจ
จากนั้น มือที่จับข้อเท้าก็คลายออก ก่อนที่เขาจะเงียบไปอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าจะหมดสติไปแล้ว
จิตใจของแพทย์ผู้เปี่ยมด้วยเมตตา ไม่ผิดต่ออาชีพของตน
การได้พบพานถือเป็นวาสนา งั้นก็ช่วยเขาไปเลยละกัน
ฉือเนี่ยนคิดพลางเริ่มขยับมือ
เธอหยิบขวดเล็ก ๆ ออกมาจากกระเป๋าคาดเอว จากนั้นก็เทยาออกมาเม็ดนึง คลำ ๆ แล้วยัดใส่เข้าไปในปากชายคนนั้น
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มีแสงสว่างส่องมาจาง ๆ
ฉือเนี่ยนรีบกลั้นหายใจดำลงไปในน้ำ และกดร่างชายคนนั้นลงไปในน้ำเพื่อซ่อนตัว
ไม่นานนักชายชุดดำหลายคนก็พากันกรูมาถึง แต่ผิวน้ำก็สงบนิ่งเป็นปกติไปแล้ว
กลุ่มคนค้นหาอยู่พักหนึ่งแต่ไม่พบอะไร จึงรีบจากไป
พอกลุ่มคนเดินไปไกลแล้ว ฉือเนี่ยนก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ แล้วลากชายคนนั้นขึ้นฝั่ง
น้ำในแม่น้ำตอนกลางคืนเย็นยะเยือก ทำเอาเธอหนาวเหน็บจนอดไม่ได้ที่จะจามออกมา
เธอหยุดพักครู่หนึ่ง แล้วรีบตรวจดูอาการของชายหนุ่มคนนั้น
เมื่อเห็นว่าเขายังมีสัญญาณชีพ เธอก็ทำการช่วยชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจและผายปอดทันที
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ จู่ ๆ ชายคนนั้นก็ไอโขลกออกมาอย่างแรง พ่นน้ำที่สำลักออกมาเป็นจำนวนมาก
ฉือเนี่ยนยื่นมือไปแตะที่ใต้จมูกเขาเพื่อยืนยันว่าเขากลับมาหายใจแล้ว จากนั้นถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เมฆหมอกจางหายไป แสงจันทร์ส่องสว่างขึ้นเรื่อย ๆ
ฉือเนี่ยนมองเห็นใบหน้าคมคายของชายหนุ่มได้อย่างชัดเจน จากนั้นก็มีคำพูดหนึ่งผุดขึ้นในหัวของเธอ
ช่างเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาอะไรอย่างนี้
ทันใดนั้น ชายหนุ่มที่นอนอยู่ก็ขยับตัว
เขาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นเล็กน้อย เห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ตรงหน้าอย่างเลือนลาง
ภายใต้แสงจันทร์ รอยสักพระจันทร์เสี้ยวสีดำบนไหปลาร้าของหญิงสาวโดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ……
ลู่เหยียนสืออยากจะเลื่อนสายตาขึ้นไปมองให้เห็นใบหน้าของหญิงสาวให้ชัดเจน แต่เปลือกตาของเขากลับหนักอึ้ง
สติเลือนหาย และเขาก็จมสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง
ฉือเนี่ยนเห็นดังนั้นก็ป้อนยาให้ชายหนุ่มอีกหนึ่งเม็ด
อาศัยแสงจันทร์สำรวจดูร่างกายที่เปียกโชกของเขา พบว่าเขาบาดเจ็บที่เอว
บาดแผลลึกมากและยังมีเลือดซึมออกมาอยู่
แต่ไม่ได้บาดเจ็บถึงจุดสำคัญ น่าจะแค่หมดสติจากการเสียเลือดมากเท่านั้น
เธอฉีกเสื้อผ้าของชายคนนั้นออกเพื่อล้างแผลให้เขา พร้อมกับโรยผงยาห้ามเลือด
เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอก็อดไม่ได้ที่จะบีบใบหน้าหล่อเหลาของชายคนนั้นเบา ๆ
“ยาช่วยชีวิต กลืนไปทีเดียวตั้งสองเม็ด ชีวิตคุณนี่มันมีค่าจริง ๆ”
พอช่วยชีวิตคนไว้ได้แล้ว ฉือเนี่ยนก็ตรวจดูข้าวของบนตัวเธออีกครั้ง และตั้งใจจะเดินจากไป
แต่ก่อนจากไปกลับนึกถึงสิ่งที่ชายคนนั้นเพิ่งพูดเมื่อครู่ จึงหันกลับไปพิจารณาเขาอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า
สุดท้ายสายตาก็จับจ้องไปที่จี้ห้อยคออัญมณีของชายคนนั้น
จี้นั้นเป็นสีชาดทั้งอัน เมื่อกระทบแสงจันทร์ก็เปล่งประกายงดงามละลานตา
“ฉันไม่มีคำขออะไรที่คุณว่าหรอก แต่ฉันชอบของแปลก ๆ แบบนี้”
พูดจบ เธอก็ก้มตัวลงแล้วเอื้อมมือไปหยิบจี้มาถือไว้ในมืออย่างรวดเร็ว
“ช่วยชีวิตคุณไว้ แลกกับจี้ของคุณหนึ่งอัน ถือว่าเจ๊ากันนะ”