เดิมทีเธอควรจะผลักอีกฝ่ายออกไป แต่เมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันร้อนผ่าวของเขารินรดอยู่ตรงลำคอ อีกทั้งยังได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะ จู่ ๆ เธอก็พลันเผลอใจลอยไปชั่วขณะ
ความเจ็บปวดแล่นเข้ามา ครั้งจะคิดเสียใจภายหลังก็สายเกินไปเสียแล้ว
........
หลังจากรอทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้นลงแล้ว ถึงดึงสติกลับมาได้อย่างช้า ๆ ลู่หมิงเยว่รู้สึกเสียใจอย่างถึงที่สุด
เธอมองกลับไปที่หมายเลขห้อง ที่แท้ก็เป็นห้องของเสิ่นเว่ยตง ผู้จัดการทั่วไปของแผนกนี่เอง
ลู่หมิงเยว่ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
เสิ่นเว่ยตงเป็นพวกเพลย์บอย มีผู้หญิงมากมายนับไม่ถ้วน น่าจะไม่ได้สนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ อีกทั้งเมื่อวานก็ไม่ได้เปิดไฟ เขาน่าจะไม่เห็นหน้าของตัวเอง
ถือซะว่าถูกหมากัดไปหนึ่งทีก็แล้วกัน ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น
หลังจากที่ลู่หมิงเยว่สะกดจิตตัวเองเสร็จ ก็ไปอาบน้ำร้อน เห็นร่องรอยที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ตามร่างกาย เธอก็รีบหยิบเสื้อคอเต่าออกมาทันที
เพิ่งจะใส่เสื้อ ก็ได้ยินจ้าวเสี่ยวเหอเคาะประตูจากด้านนอก “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว หมิงเยว่เธอรีบมาเร็วเข้า!”
ลู่หมิงเยว่ใจเต้นเร็ว จบเห่แล้ว
เรื่องของเธอกับเสิ่นเว่ยตงถูกเปิดเผยเร็วขนาดนี้เลยเหรอ ฟ้าเพิ่งจะสว่างเองนะ
เสิ่นเว่ยตงเป็นผู้บริหารระดับสูงของเซิ่งซื่อ กรุ๊ป เธอเพียงแค่เด็กฝึกงานที่แสนต่ำต้อยเท่านั้น ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป เสิ่นเว่ยตงไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว ถึงยังไงเขาก็เป็นพวกเพลย์บอย แต่เด็กฝึกงานที่กล้าหลับนอนกับผู้บริหารแบบเธอจะต้องมีจุดจบที่อนาถอย่างแน่นอน
เธอเปิดประตูออกไปด้วยความกระวนกระวายใจ
จ้าวเสี่ยวเหอรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่ทันได้สังเกตเห็นสีหน้าของลู่หมิงเยว่ แล้วก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นท่าเดินที่แปลกประหลาดของเธอเช่นกัน
“เร็วเข้า เดี๋ยวจะพาไปดูเทพบุตรรูปหล่อ!”
“เธอจะต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่ากิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ บอสของเราก็มาเยี่ยมเยียนพวกเราด้วย”
ที่แท้เรื่องก็ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกไป
หลังจากได้ยินเสียงพูดพึมพำของจ้าวเสี่ยวเหอ ลู่หมิงเยว่ก็ค่อย ๆ สงบสติอารมณ์ลง ก่อนจะมาที่ห้องอาหารบุฟเฟต์ของโรงแรมด้วยกันกับเธอ
บอสของบริษัทชื่อเยี่ยนเฉิงจือ วันที่ลู่หมิงเยว่มาสอบสัมภาษณ์เคยเจอกับเขามาแล้วครั้งหนึ่ง เป็นคนที่หล่อมากคนหนึ่ง
เยี่ยนเฉิงจือสร้างตัวมาด้วยสองมือเปล่า บริษัทเติบโตได้อย่างโดดเด่นภายในระยะเวลาเพียงแค่เจ็ดปี ถึงแม้ว่าวันที่หมิงเยว่ไปสอบสัมภาษณ์บอสจะเอาแต่หน้าบึ้งตึงตลอดเวลา แต่หมิงเยว่ยังคงชื่นชมเขาจากใจจริง มองว่าเขาเป็นเทพบุตรเหนือมนุษย์
ในเวลานี้เทพบุตรคนนั้นกำลังนั่งอยู่ตรงริมหน้าต่าง ยืดตัวตรง ทั้งสง่างามทั้งทรงพลัง ออร่าส่องสว่างราวกับพกไฟส่วนตัวมาเอง
สว่างจ้าจนดวงตาของลู่หมิงเยว่แทบจะบอด
เหล่าเพื่อนร่วมงานนั่งอยู่ใกล้กับท่านประธานมาก โดยเฉพาะพวกพนักงานหญิง พวกเธอแอบมองพลางพูดซุบซิบออกมาเบา ๆ
“ท่านประธานหล่อจริง ๆ”
“เมื่อตะกี้นี้ฉันเห็น ที่คอของท่านประธานมีรอยจูบด้วยล่ะ ไม่รู้ว่าคนที่โชคดีเมื่อคืนเป็นใครกันนะ”
หลังจากได้ยินคำว่า ‘รอยจูบ’ จากปากของโต๊ะข้าง ๆ ลู่หมิงเยว่ก็ดึงคอเสื้อขึ้นมาทันที เธอนึกย้อนไปถึงตอนที่ปล่อยตัวปล่อยใจเมื่อคืน ความตื่นเต้นที่ได้เจอกับเทพบุตรไอดอลของตัวเองก็หายไปทันที
ส่วนขาเมาท์แบบจ้าวเสี่ยวเหอที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะ เธอก็ยิ่งไม่มีอารมณ์จะไปรับมือ
ในเวลานี้เอง เสิ่นเว่ยตงก็เดินตรงเข้ามา ก่อนจะนั่งลงตรงกันข้ามกับเยี่ยนเฉิงจืออย่างไม่ได้แยแสสนใจ
“ประธานเยี่ยน เมื่อคืนนอนหลับสบายไหมคะ?”
เยี่ยนเฉิงจือกินอาหารเช้าอย่างช้า ๆ สายตาเหมือนจะมองมายังลู่หมิงเยว่ สีหน้าเรียบเฉย แต่แอบซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ในดวงตา
“ไม่เลว”
ลู่หมิงเยว่รู้สึกว่าตัวเองถูกสายตาที่ร้อนระอุกำลังจ้องมองอยู่ หดคอลง รีบใช้มือมาปิดบังใบหน้าของตัวเองทันที ก่อนจะแสร้งทำเป็นก้มหน้าลงกินอาหาร พยายามลดความสนใจของตัวเองลง
เสิ่นเว่ยตงบ่นขึ้นมาเบา ๆ “ประธานเยี่ยน คุณมายึดห้องของผม คุณนอนหลับสบาย แต่ผมกลับต้องไปหาโรงแรมพักกลางดึกกลางดื่น”
เซิ่งซื่อ กรุ๊ปมีพนักงานเยอะมาก โรงแรมห้องเต็มหมด ไม่มีห้องว่างเลยสักห้อง จู่ ๆ เยี่ยนเฉิงจือก็มาเข้าร่วมกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ของบริษัทอย่างกะทันหัน ในฐานะที่เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทต้องยอมยกห้องที่ดีที่สุดให้ไป
เยี่ยนเฉิงจือไม่รู้ว่าคิดอะไรขึ้นมาได้ ค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างช้า ๆ “เดี๋ยวกลับไปจะเพิ่มเงินเดือนให้”
แววตาของเสิ่นเว่ยตงเป็นประกายขึ้นมา รีบพูดประจบสอพลอทันที “ผมยอมบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่านประธานอยู่แล้วครับ”