เพราะถูกสามีเก่าทุบตีทำร้ายร่างกาย ‘เมลลี่ มัลเบิร์ต’ สาวจากเมืองทางใต้จึงทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังแล้วดิ้นรนมาตายเอาดาบหน้า เธอขนข้าวของขึ้นมาหางานทำทางภาคเหนือ ที่นี่...เธอได้งานแม่บ้านในไร่แห่งหนึ่ง หลายคนบอกว่า ‘คุณทรัค’ ชายหนุ่มรูปงามผู้เป็นเจ้าของไร่วัยเพียง 25 นั้น ดุร้ายเหมือนเสือ แต่ทำไมกับเธอ...เขาถึงใจดีนัก ดี...จนน่าใจหาย แต่แล้ว...เขาก็แสดงธาตุแท้ออกมาไม่นานจากนั้นว่าสุดท้ายเขาก็ไม่ต่างอะไรจากชายที่เธอวิ่งหนีมาทั้งชีวิต
ไอ้หนุ่มมังกรดุ
บทที่ 1 เริ่มต้นชีวิตใหม่
“ฮึก...ฮึก”
ฉันสะอึกสะอื้นอยู่กลางสถานีขนส่งโคโลโดร่ารัฐทางใต้ในฮัทเทรียน่า ตัดสินใจได้เด็ดขาดว่าจะเลิกกับ ‘เมิร์ล’ สามีคนนี้ ตลอดเวลาสามปีที่อยู่ด้วยกันมามันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยนอกจากมีแต่จะยิ่งแย่ลง
“รถไปเอมาซอว์มาแล้วค่ะ เชิญผู้โดยสารที่มีตั๋วตั้งแถวคอยได้เลยนะคะ” เสียงประกาศของพนักงานชุดขาวในสถานีขนส่งเอ่ยดังขึ้น ฉันจึงรีบเช็ดน้ำตาลวกๆ แล้วดีดตัวลุกขึ้น พร้อมกับลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ไปต่อคิวเพื่อขึ้นรถบัสไปเมืองที่อยู่เหนือสุดของแคว้น
ฉันจะไปตายเอาดาบหน้า...ดีกว่าจมปลักอยู่ที่โคลด์ เป็นไงก็เป็นกัน
รถบัสสองชั้นคันใหญ่จอดเทียบลานจอด ฉันก้าวขึ้นรถแล้วหาที่นั่งของตัวเอง
“อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” ฉันพึมพำกับตัวเอง เอาหัวพิงเบาะ หันหน้าออกทางหน้าต่าง
ในไม่ช้ารถบัสก็เคลื่อนตัวออกจากสถานีวิ่งไปตามถนนใหญ่ออกสู่ชนบทที่มีทุ่งนาแห้งๆ เมืองทางใต้ค่อนข้างร้อน ผิดกับทางเอมาซอว์หิมะจะตกตลอดปี อากาศเย็นสบาย ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น
ฉันภาวนาขอกับพระผู้เป็นเจ้า
ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าของอีกวันแล้ว
“ถึงแล้วเหรอคะ...” ฉันถามกับพนักงาน
“ใกล้แล้วค่ะ พี่จะลงที่ไหนคะ”
“ปลายทางเลยค่ะ”
“อ๋อ งั้นก็อีกสิบห้านาทีค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ ยืดตัวนั่งหลังตรง มองถนนนอกหน้าต่าง ทุกตารางนิ้วเป็นสีขาวโพลนไปหมดแม้จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนแต่ที่เอมาซอว์จะมีหิมะตกทั้งปีหนักบ้าง ปรอยๆ บ้างแล้วแต่ช่วงเดือน
ดีจริงๆ
ในเวลาต่อมา บัสคันใหญ่ก็มาจอดที่สถานีหลักกลางเมือง ฉันต่อคิวลงไปรับกระเป๋าเดินทางใต้ท้องรถ รอพักหนึ่งก็ได้มาก่อนหาลู่ทางไปชานเมืองบนภูเขาเอลซอว์เอล ที่นั่นเขาประกาศรับสมัครเกษตรกรใน ‘ไร่องุ่นทรัคเกิลทรัค’ พอดี ฉันจะลองไปดู
“จะไปไหนครับคุณผู้หญิง” เสียงคนขับแท็กซี่ร้องเรียกขึ้น
“สวัสดีค่ะลุง หนูจะไปไร่องุ่นทรัคเกิลทรัคบนเขาเอลซอว์เอลค่ะ”
“โห ไกลเชียว ทางก็ขับยาก ลุงไม่ไปหรอก หาคันอื่นเถอะ” คนขับรถแท็กซี่สะบัดหน้าใส่ฉัน อะไรกัน
ฉันยืนงงอยู่สองสามวินาทีก็ตัดใจหาคันใหม่ แต่ก็ไม่มีคันไหนไปเลย ทำยังไงดีนะ...
จ๊อกๆ
จู่ๆ ท้องก็ร้อง จริงสิ... ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อเย็น ไปหาอะไรรองท้องหน่อยดีกว่า
คิดได้ดังนั้น ก็หาร้านอาหารเล็กๆ ริมถนนนั่งกินมือเช้าไปพลางๆ ระหว่างคิดว่าจะจัดการกับปัญหาการเดินทางอย่างไรดี ในเมื่อรถแท็กซี่ไม่ไปก็ต้องหารถโดยสารอย่างอื่นไปแทน
“น้องจ๊ะ...” ฉันรั้งแม่ค้าที่เอาก๋วยเตี๋ยวไก่มาเสิร์ฟไว้
“คะพี่ ?”
“พี่จะไปไร่องุ่นทรัคเกิลทรัคบนเขาเอลซอว์เอลน่ะค่ะ จะหารถอะไรไปได้บ้าง ถามแท็กซี่กี่คันๆ ก็ไม่มีใครไปเลย”
“โอ้...” แม่ค้าสาวถึงกับร้อง “รถแท็กซี่ที่นี่ไม่มีใครไปหรอกค่ะ ที่นั่นถนนขับยาก หิมะก็ตกหนักด้วย ถ้าจะไปจริงๆ ก็ต้องจ้างกระบะไปต่างหาก”
“ตายจริง” ฉันเป็นกังวล ยกมือทาบอก “ค่าจ้างคงแพงน่าดู”
“ใช่ค่ะ”
“แล้ว...เอ่อ พี่จะไปหารถกระบะรับจ้างได้ที่ไหน”
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน” แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวไก่ตอบ “แต่หนูว่าพี่ขึ้นรถเมล์โดยสารจากขนส่งไปลงตีนเขาจะง่ายกว่านะคะ แล้วค่อยจ้างรถแถวนั้นขึ้นไปจะสะดวกกว่ามาก”
“อ้าว มีด้วยเหรอ” ฉันร้องอุทาน
“มีค่ะ”
“โอเคๆ เดี๋ยวพี่กินเสร็จจะรีบไปขึ้นเลย”
“แต่หนูรู้สึกว่ารถมันจะออกสามสี่ชั่วโมงคันหนึ่งนะคะ รอบแรกตอนเจ็ดโมงเช้า รอบที่ต่อไปน่าจะสิบหรือสิบเอ็ดโมงนู่นเลย”
“เหรอ” ฉันก้มดูนาฬิกา นี่เจ็ดโมงครึ่งคันแรกเพิ่งออกไป แต่ไม่เป็นไรฉันรอได้ “โอเคจ้ะ เดี๋ยวพี่จะไปนั่งรอที่ขนส่ง”
“ค่า”
“ขอบคุณนะ”
“ยินดีค่ะพี่ ต้องรับสู่รัฐเอมาซอว์นะคะ” แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวยิ้มหวานก่อนหมุนตัวเดินไปรับลูกค้าที่เดินเข้ามาซื้อ
ฉันลงมือกินเรื่อยๆ มีเวลาอีกถม ไม่ต้องรีบ...
###
11.00 น.
รถมินิบัสคันกลางเก่ากลางใหม่มาจอดเทียบทางขึ้น ฉันรีบกระโดดไปบนรถแล้วหาที่นั่ง โชคดีที่มาคอยก่อนไม่อย่างนั้นต้องยืนไปแน่ คนโดยสารเยอะจริงๆ จอดรับผู้โดยสารสักสิบนาทีตัวรถก็เคลื่อนออกไปตามถนน
ช่วงแรกรถในตัวเมืองเอมาซอว์ค่อนข้างหนาแน่น ผู้คนขวักไขว่ ตึกรามบ้านช่องขึ้นเรียงรายติดๆ กัน แต่หลังจากนั้นก็เป็นทุ่งนากว้างๆ เต็มไปด้วยสนสูงชะลูด มีหิมะปกคลุมขาวโพลน อากาศเย็นบาดผิวเนื้อ ดีที่ค้นเอาแจ็กเกตตัวใหญ่ออกมาคอยท่าไม่งั้นคงได้หยิบลำบากและต้องทนหนาวไปตลอดทางแน่
“หวัดดีค่ะ” อยู่ๆ เด็กผู้หญิงวัยสิบขวบที่นั่งข้างๆ ฉันก็ร้องเรียกขึ้น
“หวัดดีจ้ะ” ฉันยิ้มให้แม่หนูน้อยที่นั่งอยู่บนตักแม่
“คุณจะไปไหนคะ” เด็กหญิงถามเสียงแจ้ว
“ไร่องุ่นบนเขาเอลซอว์เอลจ้ะ”
“จริงเหรอคะ แม่หนูก็ไป” เด็กหญิงพยักพเยิดไปที่มารดา ฉันเงยหน้ามองเด็กสาววัยไม่เกินสามสิบปีผู้เป็นแม่ของหนูน้อยเชิงคำถาม
“ใช่ค่ะ พวกเรากำลังจะไปที่นั่น”
###
#Yaoi ชีวิตเขาตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับไอ้นักโทษแหกคุกในวันนั้นเมื่อห้าปีก่อน ก็เหมือนกับยืนอยู่บนเส้นทางสายกลาง ระหว่างความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับความต้องการของหัวใจ จะรักก็ไม่ได้...จะเกลียดก็ไม่ลง ใช่...มังกรไม่ใช่คนดี เขาเป็นคนเลว เป็นนักโทษ เป็นฆาตกร ซึ่งแน่นอนคนดีๆ กับโจรย่อมอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อยู่แล้ว ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องกักเก็บความรักที่เขามีต่อมังกรเอาไว้ภายใน โดยที่เขาไม่สามารถจะแสดงอะไรออกมาให้มังกรเห็นได้เลย รักของเขากับมังกรมันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ว่าจะทำหรือใช้วิธีไหนก็ตาม !
ดวงใจในไอรัก...เป็นเรื่องราวของ ‘บรูซ’ และ ‘คิมซอนมิน’ สองศิลปินชื่อดังจากทางฝั่งฮอลลีวู้ดและเกาหลีใต้ พวกเขาเจอกันเพราะงานภาพยนตร์ที่มีโอกาสได้เล่นร่วมกัน วินาทีแรกที่สองหนุ่มสบตาทั้งคู่ก็รู้เลยว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ พวกเขาตกหลุมรักกัน ซึ่งมันเป็นความรักต้องห้ามที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกันได้ ทั้งสองจะทำอย่างไรในเมื่อหัวใจได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซ้ำยังปัญหาร้อยแปดประการที่โถมใส่พวกเขาจนยากที่จะหาทางออก มาร่วมกันค้นหาบทสรุปของบรูซและคิมซอนมินกันนะครับ “ผะ...ผมทำให้ชีวิตคุณ ขะ...เขวหรือเปล่า” “ทะ...ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?” ซอนมินตกใจ หันขวับมาจ้อง “อะ...อนาคตคุณกำลังจะไปได้สวย ตะ...แต่พอเราเจอกันทุกอย่างก็วูบดับลง” “บะ...บรูซ !!!” “...” “คะ...คุณอย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ผมไม่เคยมีความคิดอะไรแบบนี้เลย !” “ฮะ...ฮึก...” บรูซสะอึกสะอื้น “คุณเองก็ยังยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผมเหมือนกัน มะ...ไม่ใช่เหรอ ?” “ชะ...ใช่ครับ ตะ...แต่มันต่างกัน ผะ...ผมอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่สามขวบ ผิดกับคุณ...ที่เพิ่งจะสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาได้ไม่กี่ปี คะ...คุณไม่เสียดายหรือไง !” ซอนมินจอดรถตรงข้างทาง ตะโกนก้องด้วยความเจ็บช้ำ “ทะ...ทำไมคุณถึงดูถูกความรู้สึกผมขนาดนี้ !!!” “ฮือออออ...” ที่สุดแล้วนักแสดงหนุ่มก็ร้องไห้โฮ ละล่ำละลักอย่างหมดอาย “ผะ...ผมกลัว กะ...กลัวจะเสียคุณไปไง !”
เป็นเรื่องราวดราม่าในครัวเรือน เน้นความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว ระหว่างพี่น้องทั้ง 5 คน แต่ยังมีกลิ่นอายความรักของหนุ่มสาวที่เป็นพระเอกนางเอกของเรื่องไว้ด้วย ตามสไตล์หนังฝรั่ง --- ฟาร่า เตฮะราน นักร้องสาวสวยชื่อดัง เชื้อสายเบรย์เมนพลอสที่ไปโด่งดังในฮอลลีวู้ด กลับมาบ้านเกิดปีนี้มี ‘บางอย่าง’ กำลังจะเปลี่ยนไป ครั้งหนึ่งเธอเคยทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงกับอดีตคนรักเก่าเพื่อแลกกับการเดินตามความฝัน... วันนี้...เธอจึงกลับมาแก้ไขเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นเช่นไร...เธอจะยอมรับมันให้ได้ ดีกว่ามานั่งเสียใจที่ไม่คิดทำอะไรเลย “ยะ...อย่าหลบหน้ากันอีกเลยนะคะ ---” “…” “ฉะ...ฉันกลับมาเพื่อขอโทษคุณ และฉันมา...เพื่อขอโอกาส จะ...จากคุณอีกครั้ง” เธอกลืนลมหายใจสะท้าน รอคอยคำตอบจากเขาแม้เพียงสักนิด “...” ทว่าเขาก็ยังเงียบสนิท ไม่ปริปากใดๆ “คะ...คุณจะให้อภัยฉันได้ไหม ?” “ฮึ ! ไม่มีประโยชน์หรอก คุณกลับไปเสียเถอะ” เสียงทุ้มเย็นชากล่าวขึ้นในท้ายที่สุด “กลับไป...แล้วต่างคนต่างอยู่เหมือนที่เคยทำมาตลอด” “ฉะ...ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น กะ...กว่าฉันจะตามหาคุณเจอต้องใช้เวลาเกือบสองปี !” ดัรวีชทำสีหน้าเจ็บปวด “คะ...คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร นะ...ในเมื่อตัวคุณเองไม่ใช่เหรอ ทะ...ที่ทิ้งผมไว้ข้างหลัง ยะ...อย่างไม่ไยดี ละ...แล้วตอนนี้คุณจะมาเอาอะไรอีกไม่ทราบ ฮะ คุณนักร้องฮอลลีวู้ด ?!!!” ฉันเหมือนโดนมีดกรีดแล่ไปในเนื้อหัวใจ ปวดร้าวทุรนทุราย “ฉะ...ฉันขอโทษ ฉะ...ฉันผิดไปแล้ว ฉะ...ฉัน ฉันรู้สึกผิดและละอายแก่ใจจริงๆ กะ...กับทุกสิ่งที่ทำกับคุณเอาไว้ คะ...คุณ จะยกโทษให้ฉันได้ไหม” เธอร้องไห้ระงม ระบายสิ่งที่อัดอั้นในอกออกมา “เฮอะ ! ช่างน่าขันสิ้นดี คุณทำกับผมเอาไว้เจ็บแสบมาก...คุณฟาร่า แล้วอยู่ๆ คุณคิดเหรอว่ากับการที่คุณแค่มาขอโทษผมง่ายๆ แบบนี้มันจะทำให้ผมยกโทษให้คุณได้ ตลกนัก...ฮะๆ” เขาหัวเราะหยัน “ความรู้สึกคนนะครับไม่ใช่แผ่นกระดาษที่หน้าขาดแล้วคุณจะใช้สกอตเทปแปะติดคืนกลับไปใหม่ได้ !!!” “…” “มันสายไปแล้วละครับ ทุกอย่าง...มันสูญสิ้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับที่ไอ้เด็กผู้ชายใสซื่อคนนั้นที่คิดว่าความรักสวยงามก็ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้วเช่นกัน !” “…” “อย่ามายุ่งกับผมอีก เราต่างคนต่างใช้ชีวิต ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่า...ผมเกลียดคุณ --- คุณฟาร่า เตฮะราน !!!” เรื่องราวของพวกเขาสองคนจะเป็นยังไงต่อไป จะดำเนินไปในทิศทางไหน อุปสรรคและปัญหาที่มาในรูปแบบต่างๆ กันก็ถาโถมโจมตีมาทดสอบไม่จบสิ้น ฟาร่าจะหาทางออกได้ไหม แล้วจะเอาชนะใจ ‘ดัรวีช’ ได้หรือเปล่า ต้องติดตามได้ในเล่มครับ ###
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ