“จูบผมหน่อยได้ไหม” น้ำเสียงคือการขอร้องและอ้อนวอน พุดแก้วยิ้มขยับตัวเข้าไปหาและค่อยๆ บรรจงจุมพิตที่ริมฝีปากเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ นิโคลัสใช้มือโอบรอบตัวเธอและกอดไว้แน่น ขณะที่ริมฝีปากนั้นรับจุมพิตอย่างพออกพอใจที่สุด “พอแล้ว” พุดแก้วพูดออกมาหลังจากที่ถอนริมฝีปากของตัวเองออกจากเขาและดันตัวออกห่างช้าๆ ในขณะที่คนตัวใหญ่มองอย่างเสียดาย “ทำไมล่ะ” “เพราะคุณจะไม่หยุดแค่นั้น” หญิงสาวพูดออกมาอย่างรู้ทัน “และขาคุณหัก” หญิงสาวขยับตัวออกห่างจากรัศมีของวงแขนเขา “แต่อย่างอื่นมันไม่ได้หักนี่นา ร่างกายบางส่วนของผมยังแข็งแรงดี”
ตอนที่ 1
5 ปีก่อน
“อะไรนะ นายโกหกฉันเหรอ นิค” มิคาเอลพูดอย่างเดือดดาล เขารีบบินกลับมาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อได้รับข้อความที่พี่ชายฝากเพื่อนมาถึง
พ่อแม่ป่วยหนักให้รีบกลับมา แต่พอมาถึงก็พบว่าพ่อแม่บินไปพักผ่อนที่ออสเตรีย แถมพี่ชายตัวดีต้องการให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงที่เลือกให้เนื่องจากผลประโยชน์ทางธุรกิจอีกต่างหาก
“ถ้าไม่โกหกนายคงไม่กลับมา” นิโคลัสพูดสั้นๆ และไม่สนใจท่าทีโมโหของน้องชายเลยแม้แต่น้อย
“นายรู้ไหมว่า นายทำให้ฉันต้องพรากจากผู้หญิงที่ฉันรัก” มิคาเอลต่อว่าอย่างเหลืออดด้วยความโมโห
“นายทำผิดก่อน นายไปเมืองไทย หลงรักผู้หญิงที่นั่น ไม่ส่งข่าวให้ครอบครัวรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ถ้าฉันไม่เจอเพื่อนนาย ป่านนี้นายก็คงไม่กลับมาแน่ๆ”
“ก็เพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้นายรู้ว่า ฉันทำอะไรที่ไหน แล้วฉันก็พลาดหลงกลนายจนได้ นายจะบ้าหรือไงที่จะจับคู่ให้ฉันกับคนที่ไม่รู้จักกันเลยแม้แต่นิดเดียว” การกลับบ้านไม่ใช่ปัญหา แต่เรื่องที่ทำให้มิคาเอลโมโหก็คือ คำสั่งบ้าๆ ของพี่ชายจอมเพี้ยนต่างหาก
“โอลีเวียร์เหมาะกับนายทุกอย่าง เธอเป็นผู้หญิงมีชื่อเสียง สวย มีการศึกษา และครอบครัวของเธอก็เอื้อกับผลประโยชน์ของเรา” นิโคลัสชื่นชมอย่างออกนอกหน้า
“แล้วทำไมนายไม่แต่งซะเอง” มิคาเอลย้อน
เขาไม่สนว่าผู้หญิงคนนั้นจะสวยหยาดฟ้าแค่ไหน เหมาะสมกับตนอย่างไร แค่ใช้เวลาร่วมกันไม่กี่ชั่วโมงแล้วแยกกันก็พอแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือกลับเมืองไทยไปหาสุดที่รักให้เร็วที่สุด
“แต่งกับฉันก็ต้องฮันนีมูนที่ทำงาน เพราะชีวิตฉันมีแต่งาน และฉันไม่ใช่คนโรแมนติกแบบนาย”
“ฉันไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ฉันแต่งงานกับพุดกรองแล้ว” มิคาเอลพูดช้าๆ ชัดๆ และนั่นทำให้อีกฝ่ายแทบจะลุกเป็นไฟขึ้นมาเผาความรักที่ไม่เข้าตาในทันที
“ผู้หญิงคนนั้นหวังจะปอกลอกนาย เธอต้องการยกระดับตัวเองเท่านั้น” นิโคลัสดูแคลนคนที่น้องชายรักสุดหัวใจ เขาไม่เชื่อหรอกว่าความรักมีจริงในโลกใบนี้
“ฉันจะไม่ทนให้ใครมาว่าเมียของฉัน นายไม่เคยรู้จักพุดกรองไม่เคยเห็นหน้ากันเลยด้วยซ้ำ นายไม่ควรไปตัดสินเธอ พุดกรองเป็นคนดีเรียบร้อย อ่อนโยน น่าทะนุถนอมและให้เกียรติฉัน เธอมีหลายอย่างที่ผู้หญิงคนอื่นไม่มี” สายตาและน้ำเสียงยามที่พูดถึงคนรักของมิคาเอล เต็มไปด้วยความสุขอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ครอบครัวของโอลิเวียร์ก็สำคัญกับธุรกิจใหม่ของเรานะ” คนเป็นพี่ย้ำถึงความสำคัญเรื่องนี้
“อย่างนั้นนายก็แต่งเสียเอง อย่าดึงฉันมายุ่งกับธุรกิจของนาย” มิคาเอลสวนกลับทันที
นิโคลัสจ้องหน้าน้องชายพยายามระงับความโกรธ สักพักก็เดินออกไปจากห้องเงียบๆ รู้ดีว่าถ้าพูดอะไรอีกจะต้องทะเลาะกันอีกแน่ ดังนั้นต้องแกล้งยอมถอยออกมาก่อน แต่เขาไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด อย่างไรก็ตามจะต้องทำทุกทางเพื่อให้มิคาเอลแต่งงานกับคนที่หาไว้ให้จนได้ และจะไม่ยอมให้เงินหลายร้อยล้านดอลลาร์หายไปต่อหน้าแน่ๆ
5 ปีต่อมา
หิมะเริ่มโปรยปรายลงมาทั่วเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อุณหภูมิในเวลานี้ใกล้จะติดลบ บุรุษร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาราวกับอาโดนิสผู้งดงามในตำนานของกรีกกลับนั่งมองกระดาษที่ถือในมือด้วยสีหน้าเคร่งเครียด อากาศที่หนาวเย็นไม่สามารถทำให้ไฟร้อนในใจของเขาสงบลงได้เลย
เขาคือนิโคลัส ชาโรนอฟ หรือ นิโคลัส อเล็กซิส ชาโรนอฟ นักธุรกิจชื่อดังลูกครึ่งรัสเซีย–ไทย เจ้าของผมสีน้ำตาลทองเป็นประกายและดวงตาสีเขียวราวกับมรกตเนื้อดีที่คมดุจพญาอินทรีย์ ผู้ที่ปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงของชาโรนอฟกรุ๊ปที่ร่ำรวยจากการเงินการธนาคารและการทำเหมืองแร่ทองคำในรัสเซีย ครอบครัวของเขามีอิทธิพลในประเทศนี้
“ไปเจอมันที่ไหน” นิโคลัสถามเลขาหนุ่มเสียงเครียด
“ในห้องของคุณมิคาเอลครับ คนที่เข้าไปทำความสะอาดเจอซองจดหมายตกอยู่ที่ใต้ตู้เสื้อผ้า” ดีแลนด์เลขาผู้ซื่อสัตย์ตอบคำถามของเจ้านายด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น แม้ไม่รู้ข้อความในจดหมายแต่เขาก็เดาได้ว่ามันคงต้องสำคัญมาก
มิคาเอล ชื่อนี้เขาไม่ได้ยินมาหลายปีแล้ว น้องชายคนเล็กที่ตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะให้มาช่วยกิจการของครอบครัว แต่ทุกอย่างจบเมื่อมิคาเอลจากไปอย่างไม่มีวันกลับ นิโคลัสไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปในห้องนี้อีกเลย แน่นอนว่าทุกคนในครอบครัวก็ทำเช่นนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความจริงอันเจ็บปวดว่ามิคาเอลจากไปแล้ว
“ไปสืบหาคนที่ชื่อพุดกรอง ไมตรีนฤนาท ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ที่ไหน” นิโคลัสออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียดเช่นเดิม
“หาตัวเธอหรือครับ” ดีแลนด์ถามย้ำให้แน่ใจอีกครา
“ใช่ หานักสืบที่เมืองไทยเก่งๆ สักคน สืบหาที่อยู่ให้ที แล้วดูด้วยว่ามีลูกผู้ชายหรือผู้หญิง” นิโคลัสบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“กำหนดระยะเวลาครับ”
“เร็วที่สุด เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า แต่ต้องชัดเจนหาข้อมูลมาให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้เข้าใจไหม”
“ครับท่าน”
“ออกไปได้แล้ว” เขาเอ่ยปากไล่พร้อมทั้งเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างคนที่อ่อนแรง ถ้าเรื่องนี้ถึงหูมารดาและน้องสาวฝาแฝดแล้วละก็ ทั้งคู่คงตกใจมากอย่างแน่นอน
นิโคลัส พี่ชายจอมบงการของฉัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโต สิ่งที่ฉันทำได้และต้องทำอยู่เสมอคือทำตามคำสั่งของนายมาตลอด นายจัดการทุกอย่างและเริ่มเข้ามาควบคุมชีวิตของฉันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การงาน หรือแม้แต่การเลือกรองเท้าสักคู่ สิ่งที่นายชอบพูดบ่อยๆ คือทุกอย่างที่นายทำให้ฉันมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
นายขีดเส้นทางชีวิตให้เดินและที่ผ่านมาฉันก็เดินตามทางนั้นโดยไม่ขัดขืน เพราะเมื่อไหร่ที่ฉันออกนอกลู่นอกทางนายจะเข้ามาจัดการทันที ฉันยอมนายมาตลอดไม่เคยตัดพ้อต่อว่าถึงแม้ว่าบางเรื่องนั้นมันจะเป็นเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยสักนิด
การที่ฉันยอมเพราะรู้ว่านายรักและหวังดีกับฉันมาก นายเป็นพี่ชายที่ดีมาก แต่สิ่งที่ฉันรับไม่ได้มากที่สุดคือนายหลอกให้ฉันกลับมาที่รัสเซีย จากนั้นก็พยายามหว่านล้อมจนถึงขั้นบังคับ ให้ฉันแต่งงานกับลูกสาวของนักธุรกิจคนดังที่สามารถต่อยอดธุรกิจตัวใหม่ของนายได้
พยายามสรรหาสิ่งต่างๆ มาหลอกล่อ เพราะอยากให้ฉันกับผู้หญิงที่แสนดีที่ชื่อว่าพุดกรองเลิกกัน นายหาว่าเธอต้องการจะหลอกฉันเพื่อหวังความสบาย นายกล่าวหาเธอทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้ากันเลยสักครั้ง
การที่นายบังคับและฉันก็ยอมทำตามคำบงการของนายมาตลอด อาจจะทำให้นายลืมไปว่าฉันเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ยอมทำตามคำสั่งเพียงเพราะถูกกรอกข้อมูลใส่มาให้ นายลืมไปว่าน้องชายของนายคนนี้มีหัวใจ และเรื่องของหัวใจไม่สามารถบังคับกันได้ หัวใจของฉันอยู่กับเธอคนนั้นมาตลอด
เราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เธอเป็นชาโรนอฟคนหนึ่งเหมือนกัน เธอชื่อพุดกรอง ไมตรีนฤนาท ชาโรนอฟ ตอนนี้ทายาทของฉันอยู่ในท้องของเธอแล้วเช่นกัน ทั้งชีวิตของนายคิดถึงแต่เรื่องงานกับผลประโยชน์
นายเลยไม่รู้ว่าการได้รักใครสักคนและคนคนนั้นก็เป็นคนรักที่แสนดี มันมีค่ามากขนาดไหน สำหรับนายความสุขอาจจะวัดได้จากตัวเลข แต่สำหรับฉันความสุขอยู่ที่ใจ
ฉันรู้ว่านายคงไม่พอใจมากที่เห็นจดหมายฉบับนี้ นายน่าจะได้อ่านตอนที่ฉันกลับไปถึงเมืองไทยแล้ว ฉันตั้งใจจะอยู่กับเมียและลูกที่กำลังจะเกิดมาไปจนตาย ฉันอยากจะขอร้องนาย
มันเป็นคำขอร้องครั้งแรกและครั้งสุดท้าย อย่าตามหาฉันอีก อย่าพยายามทำอะไรก็ตามเพื่อที่จะพรากฉันไปจากครอบครัว โปรดเคารพการตัดสินใจของฉันด้วยและฉันขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง หวังว่าสักวันนายจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันทำ
รักและเคารพพี่ชายเสมอ
มิคาเอล ชาโรนอฟ (น้องชายนอกคอกของนาย)
นิโคลัสวางจดหมายลงบนโต๊ะทำงานช้าๆ ท่าทางเหมือนคนหมดแรง เขาอ่านจดหมายเป็นครั้งที่สิบแล้ว ดวงตาคมมองมายังภาพถ่ายของทั้งคู่ที่อยู่บนโต๊ะทำงานแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“นายมันโง่ มิคาเอล ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีหนักหนา รัก ความรักเหรอ ความรักโง่ๆ น่ะสิ” เขาเอ่ยน้ำเสียงที่เยาะเย้ยอย่างเต็มที่อารมณ์หงุดหงิดเหลือเกิน
สิ่งที่ต้องรีบจัดการหลังจากที่ได้อ่านจดหมายก็คือ เช็กให้แน่ใจว่าผู้หญิงไทยคนนั้นมีลูกกับมิคาเอลจริงๆ ถ้าใช่ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อพาเด็กคนนั้นมาที่นี่
นิโคลัสหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องของน้องชายแล้วเปิดเข้าไปช้าๆ ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เขาหยุดยืนนิ่งที่ข้างเตียงนอนก้มมองรูปถ่ายเจ้าของห้องที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ฉันอยากรู้นักว่าผู้หญิงที่นายรักจะดีจริงหรือเปล่า ป่านนี้คงแต่งงานใหม่ไปแล้วก็ได้” นิโคลัสคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา วันที่เขาและมิคาเอลเถียงกันหลายครั้ง จนในที่สุดมิคาเอลตัดสินใจออกจากบ้านและจากไปอย่างไม่มีวันกลับ จวบจนกระทั่งมาถึงตอนนี้
“เอาเป็นว่า ถ้าฉันพบลูกของนายกับผู้หญิงคนนั้น ฉันจะดูแลลูกของนายอย่างดีก็แล้วกัน”
7 วันต่อมา
“รายละเอียดที่ท่านให้ดีแลนด์ไปหามาครับ ผู้หญิงไทยคนนั้น” วูฟล์ ลูกน้องคนสนิทที่ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวด้วยเอ่ย ดีแลนด์ฝากเอกสารปึกใหญ่มาให้เจ้านายโดยบอกว่าจะตามเข้ามาทีหลัง
นักธุรกิจพยักหน้ารับพร้อมเปิดซองหยิบเอกสารที่อยู่ด้านในขึ้นมาอ่านเงียบๆ ดวงตาคมสีสวยดูเครียดอย่างเห็นได้ชัดหลังจากอ่านเอกสารทั้งหมดจบ
“ตอนนี้หลานของฉันอยู่กับใคร”
“อยู่กับน้องสาวของคุณพุดกรองครับ”
“มีรูปไหม”
“มีครับ ดีแลนด์บอกว่าอยู่ในแผ่นซีดี”
“ผู้หญิงคนนั้นตายหลังจากมิคาเอลจากไปไม่ถึงปี” นิโคลัสเอ่ยเสียงเบาเมื่ออ่านข้อมูลคร่าวๆ
“เธอเสียชีวิตหลังจากคลอดลูกได้ไม่กี่วันครับ ท่าน” วูฟล์อธิบายตามข้อมูลที่รู้มา
“ไปบอกนักบินของเราให้เตรียมตัว” ท่านประธานหนุ่มเสียงเข้ม
“ท่านจะไปไหนครับ”
“เมืองไทย ไปตามหาหลานฉัน ฉันคิดว่าเด็กไม่น่าจะมีชีวิตที่สุขสบายเท่าไหร่นัก ตามข้อมูลบอกว่าหลานฉันอยู่กับน้องเมียมิคาเอล แม่นั่นคงไม่มีปัญญาเลี้ยงได้ดีแน่ หลานของฉันควรจะได้มีชีวิตที่สุขสบาย ฉันอยากชดเชยให้เขา” ในใจของนิโคลัสรู้สึกผิดกับน้องชายที่จากไปตลอดมา และนี่อาจเป็นหนทางหนึ่งที่จะชดเชยความผิดในครั้งนั้นได้
“แล้วงานที่นี่ล่ะครับ”
“ให้ดีแลนด์ดูแลงานทางนี้ ทุกอย่างมันเป็นไปตามแผนอยู่แล้ว แต่ถ้ามีปัญหาจริงๆ ให้ดีแลนด์โทร.หาฉัน ส่วนเรื่องการประชุมกับนักธุรกิจสเปนคนนั้นให้นาเดียเข้าประชุมแทน ส่วนฟลิ้นต์ให้ช่วยงานดีแลนด์และคอยนาเดียอยู่ที่นี่แหละ”
“ไปกันสองคนแบบนี้จะดีหรือครับ ท่าน” ฟลิ้นต์ บอดี้การ์ดร่างใหญ่อีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับดีแลนด์พูดขึ้น
“ไม่ต้องกังวลน่า ฟลิ้นต์ นายอยู่ที่นี่คอยดูแลนาเดียจะดีกว่า เรื่องที่เมืองไทยไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตอะไรนายไม่ต้องห่วง” นิโคลัสเอ่ย
“แล้วท่านทราบหรือครับว่าจะไปหาพวกเขาที่ไหน” ดีแลนด์ถามต่อ
“ที่อยู่ก็ตามเอกสารไง ฉันว่าคงหาไม่ยากหรอก อีกอย่างมีเดฟเพื่อนของมิคาเอลอยู่ที่เมืองไทย ฉันจะติดต่อเขาเอง ไม่ต้องห่วง” นิโคลัสวางแผนไว้
“ท่านจะไปกี่วันครับ”
“ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าคงไม่นาน นายไปเตรียมตัวเถอะ วูฟล์”
“ท่านจะไปวันไหนครับ” ดีแลนด์ถาม
“เร็วที่สุด” นิโคลัสเอ่ยเสียงเครียดแล้วกำชับต่อว่า
“เรื่องนี้รู้กันแค่ฉันและนายสามคนเท่านั้น อย่าเพิ่งให้พ่อแม่และน้องสาวฝาแฝดของฉันรู้เป็นอันขาด ถ้าพวกเขาถามก็บอกไปแค่ว่าติดธุระสำคัญแค่นั้นพอ”
“ครับ ท่าน” ทุกคนรับคำหนักแน่น รู้ดีว่าควรทำตัวเช่นไรเพื่อให้เรื่องนี้จบลงโดยเร็วและเงียบสงบที่สุด
เพราะถูกความรักทำร้ายตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นทำให้เตชน์ ชลธีพงศ์ ชายหนุ่มวัย 45 ผู้หล่อเหลาไม่คิดที่จะจริงจังกับใคร เขาใช้ชีวิตแบบชายเสเพลจนกลายเป็นที่เลื่องลือในวงสังคมว่าถ้าไม่อยากอกหักอย่ารักเตชน์ ศศิปิลันธ์ ปัทมพิสุทธิ์ หญิงสาววัย 24 ที่อ่อนหวานแต่ทว่าไม่อ่อนแอ เธอเติบโตมาโดยมีสายตาแห่งความเกลียดชังของเขาจ้องดูอยู่ตลอดเวลา ความอ่อนหวาน สดใสและอ่อนโยนของเธอจะสามารถหลอมละลายหัวใจน้ำแข็งของเขาได้หรือไม่ ความรักจะสามารถทลายกำแพงแค้นได้หรือเปล่า
“ตบนี้สำหรับสิ่งที่คุณทำกับคำพูดจาบจ้วงเมื่อครู่ ถ้าคุณทำอีก ฉันก็จะตบคุณอีก ไม่มีการละเว้น” นภัสคาดโทษด้วยน้ำเสียงจริงจัง อนิรุทธ์ยกมือลูบแก้มของตัวเองเบาๆ ริมฝีปากมีรอยยิ้มแฝงอยู่แววตายังคงเจ้าเล่ห์ซุกซนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จะบอกว่ามันไม่สลดเลยสักนิดก็ได้ “ก็ดีนะ คิดว่าคุ้มอยู่เหมือนกันหนึ่งตบแลกกับหนึ่งกอด หนึ่งจูบ หนึ่งหอม คุ้มดี” เขาทำท่าจะเข้าหาอีกต่อ แต่นภัสใช้ความเร็วหลบได้ทัน “คุณเห็นฉันเป็นอะไร คิดจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ” “เห็นคุณเป็นโฉมงาม เป็นแม่โจรเสียงหวานหน้าสวยน่ะสิ คนสวยของผม”
รักแรกพบ พรหมลิขิต แรงอธิษฐาน ปาฏิหาริย์ สองคน สองช่วงเวลา สองหัวใจที่รวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว
จู่ๆ ก็ถูกหมอผีที่แม่นับถือฟันธงว่าโดนของและต้องรีบแต่งงานเพื่อแก้คุณไสย ‘คริสตัล’ ไม่อยากถูกคลุมถุงชนจึงลี้ภัยมาอยู่ที่หอพักพี่ชายทำให้เธอได้เจอกับ‘ฮาเร็ม’ชายที่เป็นรักแรก เพราะอยากให้เขาสนใจจึงไปขอร้องให้‘เยลล์’เพื่อนชายที่รู้จักกันช่วยแต่ขนาดเปลี่ยนตัวเองจนสวยพริ้งเขาก็ยังไม่แลสักนิดซ้ำร้ายหัวใจเธอยังมาเต้นตึกตักกับตัวช่วยอย่างนายเยลล์ซะอีก สับสนเรื่องรักไม่พอยังมาปวดหัวเพราะแม่ส่งคนตามล่าตัวให้กลับไปแต่งงานอีกโอ๊ย! เคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรกัน แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปดีล่ะเนี่ย?!
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
เมื่อสาวน้อยตัวเล็กนามว่า'ซนซน'ต้องหมั้นกับมาเฟียหนุ่มหล่อแถมรวยมากๆผู้มีนามว่า'เอคาร์'ที่เธอตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบแต่เขาไม่สนใจเธอ เรื่องวุ่นๆจึงบังเกิดขึ้น แต่เขาช่างโหดเถื่อนแถมปากสุนัขสุดๆ เธอจะเอาชนะใจเขาและมัดใจเขาได้ยังไงกันนะ ในเมื่อเขาแสดงท่าทางรังเกียจเธอออกชัดเจนซะขนาดนั้น
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
“เราหย่ากันเถอะ”หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... “ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม” ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง “เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ” ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"