" ถึงแม้ว่านิ่งเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นเด็กกำพร้าธรรมดาคนหนึ่ง แต่เธอกลับได้แต่งงานกับผู้ชายที่มีทั้งอำนาจและทรัพย์สมบัติมากที่สุดในเมืองนี้ ชายคนนี้เพอร์เฟกต์ทุกอย่างแต่เขาไม่ได้รักเธอเลย หลังจากที่พวกเขาได้แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เธอก็ได้ตั้งครรภ์ในที่สุด แต่ในวันเดียวกัน สามีของเธอขอหย่ากับเธอ ดูเหมือนเขาได้ตกหลงรักผู้หญิงคนอื่น เสียแล้วและขณะเดียวกันเขาก็คิดว่าเธอได้รักชายคนอื่นเข้าแล้ว ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขากำลังจะจบลง จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนใจและไม่อยากปล่อยให้เธอจากไป นิ่งเฉี่ยนเฉี่ยนซึ่งกำลังจะตัดสินใจหย่ากับเขา แต่ก็มาเจอกับคำสารภาพของเขา ท่ามกลางความสับสนในความสัมพันธ์ที่มีทั้งรักและแค้นนั้น นิ่งเฉี่ยนเฉี่ยนซึ่งกำลังท้องอยู่นั้นควรจะทำอย่างไร ทางไหนถึงเป็นทางที่ดีที่สุดสำหรับเธอกันแน่"
“คุณนิ่ง คุณท้องเเล้วนะ”
เฉี่ยนเฉี่ยนออกจากโรงพยาบาลด้วยความมึนงง เสียงของคุณหมอยังดังก้องอยู่ในหู
เธอมองผลตรวจที่อยู่ในมืออีกครั้ง และยกมุมปากขึ้นอย่างหยุดไม่ได้
ปีนี้เป็นปีที่สามของการแต่งงานของเฉี่ยนเฉี่ยนกับเฟิงเจวี๋ย
พวกเขาไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรัก แต่ทั้งคู่แต่งงานกันเพื่อเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของคุณย่าของเฟิงเจวี๋ย
หลังจากแต่งงาน เฟิงเจวี๋ยนั้นทำหน้าที่สามีที่ดี ให้ชีวิตที่ดีกับเธอ เอาใจใส่เธอ อีกทั้งยังให้ผู้ช่วยของเขาส่งของขวัญวันครบรอบเเต่งงานให้ภรรยาของเขาอย่างสม่ำเสมอด้วย
เขาให้เกียรติเธอในแบบที่คุณนายเฟิงควรจะได้รับ
ในสายตาของคนนอกนั้น ทั้งคู่ดูรักกันมาก
แต่...
มีแค่เฉี่ยนเฉี่ยนเท่านั้นที่รู้ว่า ตลอดสามปีที่ผ่านมา เธอไม่เคยได้ยินเฟิงเจวี๋ยพูดคำว่า “ผมรักคุณ” กับเธอเลย
เดิมทีเธอคาดหวังกับการเเต่งงานในครั้งนี้ไว้ค่อนข้างสูง เเต่เฉี่ยนเฉี่ยนเองก็พอใจกับสิ่งที่มี และตอนนี้เธอกับเขาก็มีลูกด้วยกันเเล้ว ชีวิตของพวกเขาก็จะมีแต่ความสุขมากยิ่งขึ้น
เฉี่ยนเฉี่ยนเก็บผลตรวจที่อยู่ในมือ และอดใจไม่ไหวที่จะโทร. หาเฟิงเจวี๋ย
“เฉี่ยนเฉี่ยน”
เสียงผู้ชายที่ไพเราะราวกับเสียงเชลโล่นั้น ดังออกมาจากที่ปลายสาย
เฉี่ยนเฉี่ยนไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นไว้ได้ เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “เฟิงเจวี๋ย ฉันมีเรื่องจะบอกคุณค่ะ!”
“ผมก็มีเรื่องที่จะบอกคุณอยู่พอดี ไว้คืนนี้ค่อยคุยกัน”
“โอเคค่ะ...”
เฉี่ยนเฉี่ยนยังไม่ทันพูดจบ สายก็ถูกตัดไปเสียแล้ว
เธอรู้สึกงง ๆ แต่ไม่นานความสุขของการที่จะได้เป็นแม่คนก็เข้ามาแทนที่
...
ตกดึก
วิลล่าริมน้ำเปิดไฟสว่างไสว
เฉี่ยนเฉี่ยนทำอาหารที่เฟิงเจวี๋ยชอบกินไว้เต็มโต๊ะและรอเขากลับมาอย่างเงียบ ๆ
ไม่นานเสียงรถยนต์ก็ดังมาจากนอกบ้าน
หัวใจของเฉี่ยนเฉี่ยนเต้นรัว เธอทั้งตื่นเต้นและประหม่าในคราวเดียวกัน
เธออดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นไปต้อนรับเขา
พอประตูเปิดออก ชายร่างสูงก็เดินเข้ามา
เฟิงเจวี๋ยนั้นแต่งตัวเนี๊ยบ เขาสวมเสื้อสูทสีเทาเข้ม เสื้อเชิ้ตสีขาวและผูกเนคไทเรียบร้อย
รูปหน้าของเขาดูชัดเจน จมูกโด่งเป็นสัน กรอบเเว่นตาสีทองนั้น ทำให้เขาดูเย็นชาเเละเคร่งขรึมมากยิ่งขึ้น
“มาแล้วเหรอคะ มากินข้าวกันเถอะค่ะ”
เฉี่ยนเฉี่ยนยิ้มหวาน
เธอจะจับมือของเฟิงเจวี๋ย แต่เขานั้นกลับยกมือขึ้นมาดูนาฬิกาพอดี
“นี่ก็ดึกแล้วนะ คุณยังไม่กินข้าวอีกเหรอ?” เฟิงเจวี๋ยขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เราไม่ได้บอกว่า คืนนี้จะ...” เฉี่ยนเฉี่ยนโพล่งออกมาก่อนจะหยุดและถามว่า “คุณกินข้าวมาแล้วเหรอคะ?”
เฟิงเจวี๋ยมองผ่านผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าไปที่อาหารที่ทำอย่างพิถีพิถันบนโต๊ะ
“ผมยังไม่ได้กิน”
พอพูดจบเขาก็เดินไปที่โต๊ะอาหาร
เฉี่ยนเฉี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยิ้มพลางเดินตามเขาไป
ทั้งสองนั่งที่โต๊ะด้วยกัน
เฉี่ยนเฉี่ยนนั้นมัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำซุปอยู่หลายชั่วโมง และเธอก็เริ่มหิวแล้ว
หลังจากที่กินไปได้สองสามคำ เธอก็เห็นว่า เฟิงเจวี๋ยนั้นไม่ได้แตะตะเกียบและกำลังมองมาที่เธอ
พอสบตากัน เฟิงเจวี๋ยก็พูดขึ้นมา
“เฉี่ยนเฉี่ยน เราหย่ากันเถอะ”
“เกร๊ง” เสียงตะเกียบร่วงจากมือลงมากระแทกโต๊ะ
เฉี่ยนเฉี่ยนตัวแข็งทื่อ ราวกับมีคนมากดปุ่มหยุดเธอเอาไว้
เฟิงเจวี๋ยเองก็หยุดพูดและรออย่างเงียบ ๆ เพื่อให้เธอคิด
ภายในบ้านนั้นเงียบสนิท
และเสียงข้อความก็ดังขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น
เฉี่ยนเฉี่ยนก้มหน้ามองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่สว่างอยู่ และหน้าจอก็แสดงข้อความที่ส่งมาจากกู้ซีเพื่อนสนิทของเธอ
“วันนี้ฉันเห็นเฟิงเจวี๋ยกับชิงหยวนอยู่ด้วยกันที่นิทรรศการศิลปะ! เธอต้องดูเฟิงเจวี๋ยไว้ให้ดี ๆ นะ อย่าปล่อยให้อีชิงหยวนแย่งสามีของเธอไปได้ล่ะ!”
ขนตาของเฉี่ยนเฉี่ยนสั่นไหวและเริ่มน้ำตาคลอขึ้นมา
รอยยิ้มของเธอดูขมขื่นขึ้นมาทันที
ไม่น่าแปลกใจเลย ที่วันนี้เธอรู้สึกว่า เฟิงเจวี๋ยดูแปลกไป... และเมื่อคืนเขาก็ไม่ได้กลับบ้านด้วย...
ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง
แต่อาซี ฉันจะไปทำอะไรได้ล่ะ?
เฟิงเจวี๋ยโดนแย่งไปแล้ว
เฉี่ยนเฉี่ยนหลับตาแน่นและพยายามกลั้นน้ำตาของเธอไว้
หัวใจของเธอเหมือนโดนมีดกรีด แต่ใบหน้าของเธอนั้นยังยิ้มอยู่ “หย่า...เพราะชิงหยวนใช่ไหม?”
พอเห็นสายตานิ่ง ๆ ของเธอ เฟิงเจวี๋ยก็เงียบไป
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน