จันทร์เจ้า... เจ้าสาวบ้านป่าผู้ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง กับ...พี่ช้าง บทเรียนรักอันสุดแสนจะเร่าร้อน และสุดหื่นหฤหรรษ์ คุณอย่าหวังว่าจะมีเรื่องราว แต่มีเรื่องหวานเรื่องคาว จัดเต็ม!!
จันทร์เจ้า... เจ้าสาวบ้านป่าผู้ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง กับ...พี่ช้าง บทเรียนรักอันสุดแสนจะเร่าร้อน และสุดหื่นหฤหรรษ์ คุณอย่าหวังว่าจะมีเรื่องราว แต่มีเรื่องหวานเรื่องคาว จัดเต็ม!!
จันทร์เจ้าใจคอไม่เป็นปกติ ตั้งแต่รู้ว่า คืนนี้ ไม่แคล้วต้องกลายเป็นของเขาอย่างถูกต้อง...
การแต่งงานอันเกิดจากความเห็นชอบของพ่อแม่ แต่ไม่ได้เกิดจากความรักใด ๆ ของจันทร์เจ้า ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้จักความรักหรอก หาก...เธอยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย
ชีวิตของจันทร์เจ้า ก็เหมือนกับสาวบ้านป่า ไม่เคยรู้จักรสชาติอื่นใด นอกจากการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ
มีคนจากในหมู่บ้าน ได้ออกไปเผชิญชีวิตแล้วกลับมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
และคนคนนั้นก็แนะนำ เจ้าบ่าวหนุ่มใหญ่คนนี้มาให้กับเธอ เขาชื่อ ช้าง เป็นนักธุรกิจอะไรสักอย่างในเมืองกรุง
หนุ่มใหญ่หอบเอาเงินทองตามที่พ่อแม่ของเธอเรียกร้องมาแต่งงานอย่างถูกต้อง
พิธีกรรมอันถูกต้องตามประเพณีได้ผ่านพ้นไปแล้ว คืนนี้ ในห้องหอ... เขาจึงมีสิทธิ์ในตัวเธอ
การพูดคุยระหว่างจันทร์เจ้ากับพี่ช้างเพิ่งจะเกิดขึ้นแค่ไม่กี่ประโยค เขาพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ส่วนเธอก็พยายามระงับความตื่นเต้น
“เป็นไงบ้างจันทร์เจ้า”
ร่างสูงของเขาขยับเข้ามาใกล้
“ไม่เป็นไงค่ะ”
ตอบเสียงพร่า แค่เขาเข้าใกล้ หัวใจของเธอก็แทบกระดอนออกมานอกอกอยู่แล้ว
จันทร์เจ้าหน้าแดง เขิน ไม่กล้ากระทั่งจะสบสายตากับเขา
“พี่ได้ยินเสียงเต้นหัวใจของจันทร์”
สามีที่เพิ่งผ่านพิธีกรรมแต่งงานมาอย่างถูกต้องรวบร่างของเจ้าสาวร่างอวบอิ่มงดงามไปทั้งตัวเข้าสู่อ้อมกอด
“พี่ขอหอมแก้มได้ไหม”
ทำไมต้องถามด้วยนะ จันทร์เจ้านึกในใจ แต่พยักหน้าพร้อมตอบเสียงเบา
“ค่ะ”
“ว่าไงนะ ไม่ได้ยิน”
“ค่ะ หอมสิคะ”
เอียงแก้ม จมูกโตของพี่ช้างก็จรดลงผิวแก้มนวลเนียน
สำหรับเขา อาจจะเป็นหอมไม่รู้ตั้งกี่ครั้งกับผู้หญิงสักกี่คนมาแล้ว จันทร์เจ้าไม่อาจล่วงรู้ แต่กับเธอ... มันคือหอมแรกในชีวิต หอมแรกที่อาจจะแผ่วเบา ประทับลงไปอย่างหนักหน่วงกลางดวงใจบริสุทธิ์ของเธอ
ความรู้สึกของหญิงสาว สะท้านสะบัดร้อนสะบัดหนาว และยิ่งเมื่อร่างอวบอิ่มถูกอ้อมกอดกระชับ ก็ยิ่งเติมความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เธออายุเพิ่งครบ 20 ปี เมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง ชีวิตสาวบ้านป่า ตั้งแต่ลืมตาตื่นก็คือเรื่องปากท้อง ซ่อนความงดงามของเรือนร่างทั้งหมดอยู่ในชุดมอซอ แม้แต่ใบหน้าก็แทบไม่ได้โผล่ออกมาให้ใครเห็น งานหนักในไร่ ทำให้ความเป็นลูกผู้หญิงแข็งแกร่งไม่ต่างจากเพศตรงข้าม
ถึงอย่างไร ความสวยแบบสาวบ้าน ๆ ก็ทำให้มีหนุ่ม ๆ มากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาทักทาย เกี้ยวพาราณสี
เพียงแต่หญิงสาวรู้จักวางตัวดี
ไม่ได้หยิ่ง แค่ไม่พยายามให้ความหวังกับใครเท่านั้น
หอมของพี่ช้าง...จึงเป็นหอมแรกที่สะเทือนสะท้านเข้าไปในทุกอณูความรู้สึกของจันทร์เจ้า
“แก้มหอมจังเลย”
พี่ช้างพึมพำ
จันทร์เจ้ายิ้มอาย ไม่กล้าสบตากับเขาเอาเสียเลย
“พี่ช้าง หนูอายนะคะ”
“อายทำไม เราแต่งงานเป็นผัวเมียกันแล้วนะครับ”
“หนูไม่เคยน่ะสิคะ”
เธอบ่นอุบ หากมีแสงไฟเติมลงมาอีก จะเห็นว่าใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อ ดวงตาเป็นประกายสุกสกาว มันเป็นความสุขที่เจือด้วยความเขินอาย สะท้านสะเทิ้นสุดขีดของความเป็นสาว
กลิ่นกายของพี่ช้างหอมประหลาด ซอกซอนเข้าไปในทุกอณูขุมขนของเธอ
จันทร์เจ้าไม่เคยใกล้ชิดผู้ชาย กลิ่นของพี่ช้างจึงเป็นกลิ่นของผู้ชายคนแรกที่ซอกซอนเข้าไปความรู้สึกของหญิงสาวบริสุทธิ์
เธอสะเทิ้นหนักเข้าไปอีก เมื่อแก้มอีกข้างถูกพี่ช้างฝังจมูกสูดดม
“จันทร์สั่นนะ”
“หนูอาย”
พี่ช้างนึกสงสาร รู้ได้ทันทีว่าเจ้าสาวใหม่หมาดของเขา ยังคงความบริสุทธิ์สมกับเป็นสาวบ้านป่า เขาชอบที่เธอนุ่งผ้าถุงกับเสื้อยืดเป็นชุดนอน แค่เห็นก็กระตุ้นให้เกิดอารมณ์วาบหวามจนแทบระงับความต้องการเอาไว้ไม่ไหว
แต่ตอนนี้ ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจต้องการ ทั้ง ๆ ที่ช้างน้อยลุกผงาด เมือกเหนียวซึมทะลักออกมาจากส่วนปลายลำกล้องเกินระงับ
ชุ่มตรงเป้าของกางเกงใน
ทั้ง ๆ ที่คืนนี้ จันทร์เจ้าเป็นของเขาอย่างถูกต้อง แต่เขาก็ยังอยากทำอย่างนุ่มนวล อ่อนโยน อย่างที่สุด แม้ว่า...ความต้องการลึก ๆ แล้ว อยากทาบทับลงไปด้วยพละกำลังที่มีเหลือเฟือ กระหน่ำซัดดอกไม้กลีบบางบริสุทธิ์ให้ย่อยยับอย่างใจปรารถนา
“พี่ขอจูบนะ”
พี่ช้างกระซิบขออนุญาต
หญิงสาวพยักหน้า แต่ไม่วายเขิน... “พี่ปิดไฟได้ไหมคะ”
“พี่ไม่อยากปิดไฟ”
“โธ่ พี่จ๋า หนูอายนะคะ”
หญิงสาวเสียงสะท้าน
พี่ช้างกระชับกอด “ขอพี่เปิดไฟนะครับ พี่อยากเห็น”
“อยากเห็นอะไรคะพี่ช้าง”
“เห็นตอนที่จันทร์แก้ผ้าหมด”
“อุ๊ย พี่ช้าง...”
หน้าแดงไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง แก้มถูกจมูกของพี่ช้างชน สูดเอาความหอมบริสุทธิ์ รู้สึกเขินจนต้องหลับตาลง เพราะแสงไฟนีออนแรงเทียนต่ำ แม้ว่าจะไม่ได้สว่างมากนัก แต่มันก็มากเกินพอสำหรับความเขินอายที่มีอยู่ในตัวเธอ
จันทร์เจ้าไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวชายใดมาก่อน
ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว
ความวาบหวาม อาจจะเคยมีบ้าง แต่ด้วยความที่เธออยู่บ้านนอกคอกนา กรำงานหนักมาทั้งวัน ไม่ได้ว่างพอที่จะคิดฟุ้งซ่าน
ต่อให้รู้สึกวาบหวาม สุดท้ายพอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย ไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ
เรือนหอ... เป็นห้องเดียวของบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง ความจริง ยังไม่ได้มีการกั้นห้องใด ๆ ทั้งสิ้นจนกระทั่งวันแต่งงานของจันทร์เจ้า
พ่อกับแม่แยกไปนอนในเพิงที่ต่อออกมาจากฉางข้าว เพื่อเปิดโอกาสให้บ่าวสาวคู่ใหม่
“พี่ช้างจ๋า หนูกลัวจังค่ะ”
พี่ช้างที่กำลังซุกไซ้สูดดมความหอมจากเรือนกายของเจ้าสาวใหม่หมาดชะงัก กับน้ำเสียงสารภาพสั่นพร่าของหญิงสาว
หื่นกระหายในอารมณ์ของพี่ช้าง มีมากมายเหลือล้น เป้ากางเกงในซึมแล้วซึมอีก จากเมือกรักที่ผุดซึมออกมาเกินสะกดกลั้น
จับมือของหญิงสาว รู้ได้ทันทีว่าเธอไม่ได้โกหก เพราะมือเย็นชืด
พี่ช้างนึกสงสารกับความไร้เดียงสาของเธอ ขณะเดียวกันก็นึกดีใจกับความโชคดีของตัวเองในวัย 40 เศษ เจ้าสาวบริสุทธิ์แบบนี้จะหาได้จากที่ไหน
แค่ถูกเนื้อต้องตัวของเธอเท่านั้น ก็สัมผัสได้ว่าเธอสั่นสะท้าน ใบหน้าร้อนผ่าวแดงเรื่อ ในดวงตามีประกายแห่งความหวั่นซ่อนไม่มิด
นี่คือความงดงามของหญิงสาว
เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา เธอแตกต่างลิบลับ...
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY