จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
ตอนที่ 1 คุณชายจ้าว
ช่วงพักเที่ยงของบริษัทเกม ฟางนี่ โปรดักชั่น เมืองตงไห่..
“นี่.. พวกนายได้ดูหนังเรื่อง ‘Big Shot’ ที่เปาเป่ยเอ๋อกับหวังเชียนหยวนเล่นกันบ้างยัง? บทคุณชายจ้าวที่เปาเป่ยเอ๋อเล่นนี่แม่งเลวสุดๆเลย!”
“ฉันดูแล้ว! ฉันชอบประโยคเด็ดในหนังเรื่องนี้ที่สุด ‘ทุกคน คืนนี้คุณชายชายจ้าวเป็นเจ้ามือเอง! แล้วก็มีเสียงโห่ร้องตะโกนตามมา!’”
“ฮ่าๆๆๆ”
เสียงหัวเราะดังกึกก้องของทุกคนในที่นั้น ทำให้จ้าวเฉียนที่กำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงานในตอนเช้าตื่นขึ้นมา
จ้าวเฉียนเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ และเวลานี้สายตาของเพื่อนร่วมงานทุกคู่ต่างก็จับจ้องอยู่ที่เขาเป็นตาเดียว
“โอ้โห!! นี่ถ้าเป็นคุณชายจ้าวในหนัง เขาคงมีเงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง ผิดกับคุณชายจ้าวที่แสนยากจนของพวกเรา แม้แต่เงินจะซื้อมือถือใหม่ยังไม่มีเลย”
เสียงพูดของเจวียงหยวนดังขึ้น เขาทำงานอยู่ในแผนกเดียวกันกับจ้าวเฉียน และกำลังคิดวางแผนบางอย่างอยู่ แผนกของเขานั้นไม่มีผู้จัดการมาพักหนึ่งแล้ว เวลานี้เขากับจ้าวเฉียนก็กำลังแข่งขันกัน เขาจึงไม่ชอบขี้หน้าจ้าวเฉียนนัก และคอยหาโอกาสที่จะเขี่ยจ้าวเฉียนออกไปตลอดเวลา
เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันหัวเราะออกมาพร้อมกันทันที
จ้าวเฉียนมักจะถูกเพื่อนร่วมงานดูถูกเรื่องความยากจนเสมอๆ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะต่อล้อต่อเถียงด้วย แต่ยิ่งเขาไม่มีปากมีเสียงมากเท่าไหร่ คนอื่นๆก็ยิ่งอยากจะยั่วเย้าเขามากขึ้นเท่านั้น
เจวียงหยวนเดินตรงเข้าไปหาจ้าวเฉียนทันที เขาหยุดยืนอยู่ข้างๆจ้าวเฉียนพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย “คุณชายจ้าว ตั้งแต่คุณชายมาทำงานที่บริษัทของเรา คุณชายยังไม่เคยไปกินข้าวเย็นกับพวกเราเลยสักครั้ง ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันศุกร์พอดี พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องทำงาน ทำไมคุณชายจ้าวถึงไม่ชวนพวกเราไปกินข้าวสักครั้งล่ะ? ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมจะจ่ายส่วนของผมเอง ส่วนคุณชายจ้าวก็แค่เลี้ยงเพื่อนคนอื่นๆก็พอ..”
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆต่างก็ตอบตกลงทันที และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้ต่างคนต่างจ่าย ส่วนจ้าวเฉียนก็จ่ายเฉพาะส่วนของตัวเองท่านั้น
“ไม่ไป! ฉันไม่มีเงิน” จ้าวเฉียนตอบเสียงเบา
เจวียงหยวนจงใจพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “ถามจริงๆ!! คุณชายจ้าว นี่นายไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย? ค่าอาหารหารกันออกมาก็ไม่น่าเกินหนึ่งหรือสองร้อยหยวนเท่านั้นเอง นี่นายยากจนขนาดนี้เลยเหรอ? เงินเดือนของนายหายไปไหนหมด? อย่าบอกนะว่าเอาไปตบรางวัลให้กับสตรีมเมอร์สาวคนนั้นหมดแล้ว ส่วนนายก็นั่งกินมาม่าแทนนี่นะ? คุณชายจ้าว นี่นายทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นได้ยังไง?”
“ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ จ้าวเฉียนเคยตบรางวัลให้สตรีมเมอร์สาวคนหนึ่งเป็นเงินถึงสองสามพันหยวน หลังจากนั้นตัวเองก็ต้องมานั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่เกือบครึ่งเดือน เมื่อทุกคนในบริษัทรู้เรื่อง พวกเขาก็พากันพูดจาถากถางจ้าวเฉียนในเรื่องนี้อยู่ตลอดทั้งเดือน และมักจะนำเรื่องนี้มาล้อเลียนเขาทุกครั้งที่มีโอกาส
คนที่แทบไม่มีจะกินแต่กลับเอาเงินไปตบรางวัลให้กับผู้หญิงแบบนี้ ต้องปัญญาอ่อนขนาดไหนกัน?
การที่จ้าวเฉียนชื่นชมสตรีมเมอร์สาวนั้น เขาย่อมต้องมีเหตุผล เพียงแต่ไม่เคยอธิบายเรื่องนี้ให้กับใครๆฟัง เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงพอที่เขาจะต้องมานั่งอธิบาย
ในเวลานั้น เสี่ยวหลิวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินก็เดินเข้ามาพอดี
“เอาล่ะ.. สาวๆหนุ่มๆฟังทางนี้ ตอนนี้บริษัทช็อตเงิน ผู้อำนวยการฟ่างบอกว่าเดือนนี้สามารถจ่ายเงินเดือนได้แค่ครึ่งหนึ่งก่อน ทุกคนสามารถเช็คยอดเงินในบัญชีของตัวเองได้เลย ถ้าใครมีปัญหาอะไร ไปพบผมได้ก่อนที่จะเลิกงาน”
แววตาของจ้าวเฉียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาล็อคอินเพื่อเช็คยอดเงินในบัญชีทันที
เจวียงหยวนถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เห้ย!! ดูท่าทางตื่นเต้นของคุณชายจ้าวสิพวกเรา.. ห้าพันหยวน.. ไม่สิไม่ใช่ บริษัทจ่ายครึ่งเดียวก็แค่สองพันห้าร้อยหยวน เงินแค่ห้าพันหยวนนายถึงกับต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฮ่าๆๆ เจวียงหยวน นายพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ อย่าลืมว่าสตรีมเมอร์สาวกำลังรอเงินรางวัลจากเขาอยู่!”
“ฮ่าๆๆๆ”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังหัวเราะเสียงดังอยู่นั้น ผู้จัดการหวังเฉียงก็เพิ่งกลับจากไปกินอาหารกับผู้ช่วยสาวที่ชื่อเจียงเสี่ยวปิงพอดี
จ้าวเฉียนเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างมากเมื่อเห็นคนทั้งคู่ นั่นเพราะเจียงเสี่ยวปิงเคยเป็นแฟนของเขามาก่อน และทั้งคู่ก็เพิ่งจะเลิกรากันไปไม่กี่วันนี่เอง และตอนนี้เธอก็กำลังคบหาอยู่กับผู้จัดการหวังเฉียง
จ้าวเฉียนรีบหลบหน้าหน้าทันที และแสร้งทำเป็นเล่นโทรศัพท์มือถือในมือ
หวังเฉียงจงใจเดินเข้าไปในกลุ่ม และบอกเล่าให้ทุกคนฟังว่าตนเองกำลังมีความสุขอย่างมาก
เจวียงหยวนใช้เล่ห์กลด้วยการพยายามที่จะทำให้จ้าวเฉียนได้รับความอับอาย หากเขาทำสำเร็จและจ้าวเฉียนไม่สามารถทนทำงานที่นี่ต่อไปได้ ตำแหน่งหัวหน้าแผนกวางแผนก็ต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน
“วันนี้เงินเดือนของพวกเราก็เพิ่งออกเหมือนกัน คุณชายจ้าวบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเราด้วย และชวนทุกคนในบริษัทไปด้วย ใช่มั๊ยพวกเรา?”
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆก็ชอบเห็นจ้าวเฉียนเป็นตัวตลกเหมือนกัน จึงได้จงใจพูดออกมาเสียงดัง
หวังเฉียงเดินเข้าไปหาจ้าวเฉียน เขายิ้มให้พร้อมกับยกมือขึ้นตบบ่าจ้าวเฉียน และพูดขึ้นว่า “จ้าวเฉียน คุณเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก! ผมเองก็เคยได้ยินคนพูดกันว่า ความผิดหวังและความล้มเหลวจะทำให้คนเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ที่ผ่านๆมา คุณไม่เคยไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้ถึงกับเสนอตัวเลี้ยงพวกเรา นับว่ามีพัฒนาการขึ้นมาจริงๆ”
หลังจากที่หวังเฉียงพูดจบ เขาก็จงใจโอบกอดร่างของเจียงเสี่ยวปิงไว้แนบอก และพยายามทำไม่ให้ดูเหมือนว่าจงใจยั่วจ้าวเฉียนมากเกินไป
แต่จ้าวเฉียนก็ยังคงเล่นโทรศัพท์ในมือโดยไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามอง
เจียงเสี่ยวปิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “จ้าวเฉียน นี่นายเสียสติไปหรือเปล่า? ถ้านายมีเงินก็เอาไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ แต่ถ้าอยากจะอวดรวยก็ลองให้คนอื่นๆสอนให้ก็ได้ว่าต้องทำยังไง! เงินเดือนแค่นั้นจะเลี้ยงข้าวทุกคนในบริษัทได้ยังไงกัน? ฉันว่าแค่ซื้อเบียร์ได้ไม่กี่ลังก็หมดแล้ว..”
“ฮ่าๆๆ”
ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะร่วน
ในฐานะที่เคยเป็นแฟนเก่าของจ้าวเฉียน เจียงเสี่ยวปิงย่อมรู้สภาพการเงินของเขาเป็นอย่างดี และจ้าวเฉียนไม่มีเงินมากพอที่จะตะเกียกตะกายขึ้นมาอยู่ในระดับสูงได้
จ้าวเฉียนที่นิ่งเงียบอยู่นาน ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นบ้าง
“คุณหวัง รบกวนช่วยพูดกับผู้อำนวยการฟ่างให้จ่ายเงินเดือนส่วนที่หลือเร็วหน่อยได้มั๊ย? ตอนนี้ผมกำลังร้อนเงินมากจริงๆ!”
คำพูดของจ้าวเฉียนทำให้เพื่อนร่วมงานพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง เพราะคนอื่นๆไม่มีใครเดือดร้อนกับเงินเดือนอีกครึ่ง มีเพียงเขาเท่านั้นที่เดือดร้อน ทุกคนจึงอดที่จะหัวเราะเยาะเขาไม่ได้
หวังเฉียงเองก็หัวเราะเสียงดังเช่นกัน เขาหยิบเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเงิน เป็นจำนวนสองพันห้าร้อยหยวนพอดี
“พอดีบริษัทมีปัญหาเรื่องเงินทุนนิดหน่อย ประธานฟางไม่มีทางเลือกก็เลยต้องทำแบบนั้น ในฐานะพนักงานของบริษัท พวกเราคงไม่สามารถขัดเจ้านายได้ แต่ถ้าคุณร้อนเงินมากขนาดนั้นจริงๆ ผมให้คุณยืมก่อนก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าต่อจากนี้ไป ห้ามคุณมาวอแวกับเสี่ยวปิงอีก ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการกับคุณขั้นเด็ดขาด ถึงตอนนั้น อย่าได้ทำลายชื่อเสียงของผมด้วยการอ้างว่าผมใช้ตำแหน่งผู้จัดการรังแกคนที่อ่อนแอกว่าล่ะ”
โคตรเลย!! ใช้เงินแค่สองพันกว่าหยวนตบหน้าคนคนหนึ่งให้อับอายได้ขนาดนี้เชียวเหรอวะ?
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันจ้องมองจ้าวเฉียนกันเป็นตาเดียว พวกเขาต่างก็รู้สึกว่า ถ้าเขาเป็นจ้าวเฉียน จะไม่มีทางยอมรับเงินนั่นเด็ดขาด!
หลังจากที่เลิกรากับเจียงเสี่ยวปิงไป จ้าวเฉียนก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะทำใจได้ เมื่อสองวันก่อน เขาก็เพิ่งเห็นเธอกับหวังเฉียงพากันเข้าไปในโรงแรงข้างบริษัท ตั้งแต่นั้นมา เขาก็เลิกโหยหาคร่ำครวญถึงเจียงเสี่ยวปิงอีกเลย
แต่จางเฉวียนจำเป็นต้องรับเงินก้อนนี้มา เขามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนนี้มากจริงๆ เพราะมันจะทำให้เขาสามารถลบล้างความอัปยศอดสูที่ได้รับมาตลอดได้
ด้วยเหตุนี้ ภายใต้สายตาทุกคู่ที่จับจ้องอยู่ จ้าวเฉียนจึงรีบรับเงินก้อนนั้นมาอย่างไม่ลังเล และรีบวิ่งออกไปทันที
“ฮ่าๆๆๆ”
ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะออกมา พวกเขายอมตายเสียดีกว่าถ้าจะต้องมีชีวิตแบบนี้! นี่เขาไม่หลงเหลือศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์บ้างเลยหรือยังไง?
สีหน้าดูถูกเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงเสี่ยวปิง และเธอได้แต่นึกดีใจที่ตัดสินใจทิ้งเขาไป
จ้าวเฉียนวิ่งดุ่มตรงไปที่ธนาคารทันที และรีบนำเงินจำนวนนั้นไปเข้าบัญชีของตัวเอง ก่อนจะโอนเงินจำนวนห้าพันหยวนเข้าบัญชีอาลีเพย์ (Alipay) ของตนเองอีกที
จ้าวเฉียนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ราวกับว่าเขาได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ จากนั้นจึงรีบอัดเสียงของตัวเองส่งไปให้ใครบางคนผ่าน WeChat
“เงิน.. ผมจ่ายเงินทั้งหมดคืนให้แล้ว คืนสัญญากู้ยืมเงินให้ผลด้วย!”
เพียงแค่ครู่เดียว อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาทันที เป็นเสียงของหญิงสาวบอกว่าได้ส่งให้เขาไปแล้ว
จ้าวเฉียนเรียกแท๊กซี่ และในระหว่างนั้นเขาก็ได้ส่งรูปสัญญากู้ยืมเงินไปให้พ่อของเขาทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง จ้าวฝูพ่อของเขาก็ส่งข้อความตอบกลับมา
“ฉันต้องรอแกถึงห้าปี มันไม่นานไปหน่อยเหรอไอ้ลูกชาย แต่เห็นแกโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแบบนี้ ฉันเองก็ดีใจ! เอาล่ะ กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว คำสั่งห้ามทั้งหมดถูกยกเลิกแล้ว แกกลับมาได้”
จ้าวเฉียนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ในที่สุดขาก็สามารถพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นี้ได้แล้ว
…..
จ้าวฝู ประธานบริษัทหยานจิงโอเชี่ยนเวลท์กรุ๊บ
บริษัทหยานจิงโอเชี่ยนเวลท์กรุ๊บนั้น มีธุรกิจน้ำมัน ก๊าซ เหมือง การสื่อสาร การเงิน ระบบเนวิเกชั่น อสังหาริมทรัพย์ บันเทิง จัดเลี้ยง และอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกแง่มุมของชีวิตมนุษย์ อีกทั้งยังลงทุนธุรกิจในประเทศอื่นๆทั่วโลกอีกนับร้อยประเทศ ทรัพย์สินทั้งหมดโดยรวมมีมูลค่าสูงถึงสองล้านล้านดอลล่าร์
จ้าวฝูมีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคน ลูกสาวคนโตชื่อว่าจ้าวฉวิน ส่วนลูกชายชื่อว่าจ้าวเฉียน
เมื่อห้าปีก่อน..
หลังจากที่จ้าวเฉียนสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ เขาก็ไปร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อนนักเรียน จ้าวเฉียนดื่มจนเมามาย แต่ก็ยังขับรถกลับ
แต่ด้วยภูมิหลังของครอบครัวเขา หากไม่ถึงกับทำให้ใครตาย ก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่เพราะเมามายจนขาดสติ เขาจึงได้ร้องตะโกนอยู่ในโรงพักว่า พ่อของเขาคือจ้าวฝู!
แต่นับเป็นคราวซวยของจ้าวเฉียน เพราะใครบางคนได้แอบถ่ายคลิปไว้ แล้วนำไปโพสในโลกอินเทอร์เน็ต จ้าวฝูถึงกับให้คนไล่ลบคลิปนั้นออก และใช้เงินไปจำนวนมากกับการปิดข่าวเรื่องนี้ เพื่อให้ลูกชายของตนปลอดภัย
แต่ครั้งนั้นก็ทำให้จ้าวฝูได้คิดว่า ขืนลูกชายของเขายังมีนิสัยใจคอเช่นนี้ อาณาจักรธุรกิจใหญ่โตมหาศาลของเขา จะต้องล่มสลายเพราะเจ้าลูกคนนี้อย่างแน่นอน!
เพื่อประโยชน์ของสกุลจ้าวในวันข้างหน้า จ้าวฝูจึงได้ไล่จ้าวเฉียนออกจากบ้าน และสั่งให้เขาออกไปหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาที่ได้จ่ายให้กับเด็กสาวที่เขาขับรถชน เมื่อเขาหาเงินได้ครบเมื่อไหร่ จึงจะสามารถกลับเข้าบ้านตระกูลจ้าวได้
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน จ้าวเฉียนได้จ่ายเงินจำนวน 195,000 หยวนไปแล้ว และขาดอีกเพียงแค่ห้าพันหยวนเท่านั้น พันธะระหว่างเขากับหญิงสาวคนนั้นก็จะจบลง เขาจึงได้ขอให้หวังเฉียงที่แย่งแฟนสาวของตน ไปพูดกับเจ้านายให้จ่ายเงินเดือนเต็มกับเขา
หวังเฉียงจึงได้อาศัยโอกาสนี้ทำให้จ้าวเฉียนอับอาย ด้วยการให้เขายืมเงินจำนวนนั้นแทน
และตอนนี้ จ้าวเฉียนก็ไม่ใช่จ้าวเฉียนที่ยากจนข้นแค้นอีกแล้ว แต่เวลานี้เขาคือจ้าวไท่ หรือคุณชายจ้าวในภาพยนตร์เรื่อง Big Shot นั่นเอง!
“เจวียงหยวน หวังเฉียง เจียงเสี่ยวปิง ทุกคนรอฉันได้เลย ฉันมีอะไรๆจะเล่นสนุกกับพวกนายอีกมาก!”
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
นักศึกษาสาวหัวกะทิแห่งศตวรรษที่21เกิดใหม่เป็นลูกเลี้ยงบ้านนางเอกนิยาย ทันทีที่ทะลุมิติเข้ามาดันอยู่ในฉากคันขับที่เธอกับวายร้ายหลักของเรื่องต่างเสียรู้ ถูกจับขึ้นเตียงด้วยกันเพื่อรอเวลาถูกเปิดโปง!
หลินจิงซู หญิงสาวผู้ล้มเหลวทุกอย่างในชีวิตเพราะครอบครัวเฮงซวย เธอย้อนเวลาไปยังปี1990 อาศัยความรู้ในโลกอนาคตเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสทางธุรกิจ ก่อร่างสร้างตัวจนมั่งคั่งร่ำรวย เพื่อบดขยี้ทุกคนที่เคยรังแก!
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
ไม่คิดว่าการช่วยชีวิตบุรุษแปลกหน้ากลางป่าในวันนั้น จะย้อนกลับมาช่วยชีวิตนางในวันนี้ "บุญคุณช่วยชีวิต วันหน้าข้าจะชดใช้ให้" "เช่นนั้นก็ชดใช้เสียวันนี้... มาเป็นสามีของข้าเถิด" ------ เยี่ยนหลิง : หญิงสาวชาวบ้าน นางเกือบถูก บังคับให้แต่งงานกับบุตรชายหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อแลกกับยารักษาร่างกายให้พี่ใหญ่ แต่แล้วที่นางเก็บบุรุษแปลกหน้าได้ที่กลางป่า ชีวิตนางก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เซียวชินหย่วน : ซื่อจื่อจวนเซียวกั๋วกง ขึ้นเขามาเก็บสมุนไพร แต่ถูกลอบทำร้ายจนพลัดตกเขา โชคดีที่ได้เยี่ยนหลิงช่วยชีวิตเอาไว้
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หล่อนถูกส่งมาบรรณาการในฐานะทาสบำเรอความใคร่ เพื่อแลกกับหนี้สินก้อนโต นอนกับเขาจนกว่าเขาจะเบื่อ แล้วเมื่อนั้นแหละหน้าที่บำเรอบนเตียงของหล่อนจึงจะหมดไป พะแพง ถูกส่งตัวมาเป็นนางบำเรอให้กับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในลาสเวกัส หน้าที่ของหล่อนคือทำให้เดมอน ลินการ์ด มีความสุขที่สุดยามอยู่บนเตียง หล่อนก้มหน้าก้มตาทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพึงพอใจ แต่ไม่นานเขาก็เบื่อหน่าย ขับไล่ไสส่งหล่อนออกไปจากชีวิต ข่าวงานแต่งงานของเขากับผู้หญิงคนใหม่ที่ทั้งสวยและแสนคู่ควรดังก้องคับแผ่นฟ้า ในขณะที่หล่อนต้องหลบอยู่ในซอกหลืบของความมืดมิดเพื่อซ่อนเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอาไว้อย่างรวดร้าวทรมาน
"ชาร์ลีถูกทิ้งไว้ที่ห้องจัดงานและกลายเป็นตัวตลก เธอพยายามทำตัวให้ว่านอนสอนง่าย แต่สุดท้ายกลับได้รับคลิปวีดีโอที่เกี่ยวกับคู่หมั้นและน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอเสียใจมากและใช้เวลาทั้งคืนอย่างสุดเหวี่ยงกับคนแปลกหน้าที่ร้อนแรง ซึ่งควรจะเป็นแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับโผล่มาช่วยเธอทำโปรเจ็กต์ต่างๆ และแก้แค้น ในขณะที่คอยจีบเธออยู่ตลอดเวลา ในไม่ช้า ชาร์ลีก็ตระหนักว่าการมีเขาอยู่ใกล้ๆ เป็นเรื่องดี จนกระทั่งแฟนเก่าของเธอปรากฏตัวที่หน้าประตูบ้านของเธอและขอร้องให้โอกาสอีกครั้ง คนรักที่ร่ำรวยของเธอถามว่า “คุณจะเลือกใคร คิดให้ดีก่อนตอบ”"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
© 2018-now MeghaBook
บนสุด