จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน
ตอนที่ 1 คุณชายจ้าว
ช่วงพักเที่ยงของบริษัทเกม ฟางนี่ โปรดักชั่น เมืองตงไห่..
“นี่.. พวกนายได้ดูหนังเรื่อง ‘Big Shot’ ที่เปาเป่ยเอ๋อกับหวังเชียนหยวนเล่นกันบ้างยัง? บทคุณชายจ้าวที่เปาเป่ยเอ๋อเล่นนี่แม่งเลวสุดๆเลย!”
“ฉันดูแล้ว! ฉันชอบประโยคเด็ดในหนังเรื่องนี้ที่สุด ‘ทุกคน คืนนี้คุณชายชายจ้าวเป็นเจ้ามือเอง! แล้วก็มีเสียงโห่ร้องตะโกนตามมา!’”
“ฮ่าๆๆๆ”
เสียงหัวเราะดังกึกก้องของทุกคนในที่นั้น ทำให้จ้าวเฉียนที่กำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะทำงานในตอนเช้าตื่นขึ้นมา
จ้าวเฉียนเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะ และเวลานี้สายตาของเพื่อนร่วมงานทุกคู่ต่างก็จับจ้องอยู่ที่เขาเป็นตาเดียว
“โอ้โห!! นี่ถ้าเป็นคุณชายจ้าวในหนัง เขาคงมีเงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง ผิดกับคุณชายจ้าวที่แสนยากจนของพวกเรา แม้แต่เงินจะซื้อมือถือใหม่ยังไม่มีเลย”
เสียงพูดของเจวียงหยวนดังขึ้น เขาทำงานอยู่ในแผนกเดียวกันกับจ้าวเฉียน และกำลังคิดวางแผนบางอย่างอยู่ แผนกของเขานั้นไม่มีผู้จัดการมาพักหนึ่งแล้ว เวลานี้เขากับจ้าวเฉียนก็กำลังแข่งขันกัน เขาจึงไม่ชอบขี้หน้าจ้าวเฉียนนัก และคอยหาโอกาสที่จะเขี่ยจ้าวเฉียนออกไปตลอดเวลา
เพื่อนร่วมงานต่างก็พากันหัวเราะออกมาพร้อมกันทันที
จ้าวเฉียนมักจะถูกเพื่อนร่วมงานดูถูกเรื่องความยากจนเสมอๆ แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะต่อล้อต่อเถียงด้วย แต่ยิ่งเขาไม่มีปากมีเสียงมากเท่าไหร่ คนอื่นๆก็ยิ่งอยากจะยั่วเย้าเขามากขึ้นเท่านั้น
เจวียงหยวนเดินตรงเข้าไปหาจ้าวเฉียนทันที เขาหยุดยืนอยู่ข้างๆจ้าวเฉียนพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย “คุณชายจ้าว ตั้งแต่คุณชายมาทำงานที่บริษัทของเรา คุณชายยังไม่เคยไปกินข้าวเย็นกับพวกเราเลยสักครั้ง ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันศุกร์พอดี พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องทำงาน ทำไมคุณชายจ้าวถึงไม่ชวนพวกเราไปกินข้าวสักครั้งล่ะ? ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ผมจะจ่ายส่วนของผมเอง ส่วนคุณชายจ้าวก็แค่เลี้ยงเพื่อนคนอื่นๆก็พอ..”
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆต่างก็ตอบตกลงทันที และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้ต่างคนต่างจ่าย ส่วนจ้าวเฉียนก็จ่ายเฉพาะส่วนของตัวเองท่านั้น
“ไม่ไป! ฉันไม่มีเงิน” จ้าวเฉียนตอบเสียงเบา
เจวียงหยวนจงใจพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น “ถามจริงๆ!! คุณชายจ้าว นี่นายไม่ได้ล้อเล่นใช่มั๊ย? ค่าอาหารหารกันออกมาก็ไม่น่าเกินหนึ่งหรือสองร้อยหยวนเท่านั้นเอง นี่นายยากจนขนาดนี้เลยเหรอ? เงินเดือนของนายหายไปไหนหมด? อย่าบอกนะว่าเอาไปตบรางวัลให้กับสตรีมเมอร์สาวคนนั้นหมดแล้ว ส่วนนายก็นั่งกินมาม่าแทนนี่นะ? คุณชายจ้าว นี่นายทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นได้ยังไง?”
“ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ จ้าวเฉียนเคยตบรางวัลให้สตรีมเมอร์สาวคนหนึ่งเป็นเงินถึงสองสามพันหยวน หลังจากนั้นตัวเองก็ต้องมานั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่เกือบครึ่งเดือน เมื่อทุกคนในบริษัทรู้เรื่อง พวกเขาก็พากันพูดจาถากถางจ้าวเฉียนในเรื่องนี้อยู่ตลอดทั้งเดือน และมักจะนำเรื่องนี้มาล้อเลียนเขาทุกครั้งที่มีโอกาส
คนที่แทบไม่มีจะกินแต่กลับเอาเงินไปตบรางวัลให้กับผู้หญิงแบบนี้ ต้องปัญญาอ่อนขนาดไหนกัน?
การที่จ้าวเฉียนชื่นชมสตรีมเมอร์สาวนั้น เขาย่อมต้องมีเหตุผล เพียงแต่ไม่เคยอธิบายเรื่องนี้ให้กับใครๆฟัง เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงพอที่เขาจะต้องมานั่งอธิบาย
ในเวลานั้น เสี่ยวหลิวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินก็เดินเข้ามาพอดี
“เอาล่ะ.. สาวๆหนุ่มๆฟังทางนี้ ตอนนี้บริษัทช็อตเงิน ผู้อำนวยการฟ่างบอกว่าเดือนนี้สามารถจ่ายเงินเดือนได้แค่ครึ่งหนึ่งก่อน ทุกคนสามารถเช็คยอดเงินในบัญชีของตัวเองได้เลย ถ้าใครมีปัญหาอะไร ไปพบผมได้ก่อนที่จะเลิกงาน”
แววตาของจ้าวเฉียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาล็อคอินเพื่อเช็คยอดเงินในบัญชีทันที
เจวียงหยวนถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับพูดขึ้นว่า “เห้ย!! ดูท่าทางตื่นเต้นของคุณชายจ้าวสิพวกเรา.. ห้าพันหยวน.. ไม่สิไม่ใช่ บริษัทจ่ายครึ่งเดียวก็แค่สองพันห้าร้อยหยวน เงินแค่ห้าพันหยวนนายถึงกับต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฮ่าๆๆ เจวียงหยวน นายพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ อย่าลืมว่าสตรีมเมอร์สาวกำลังรอเงินรางวัลจากเขาอยู่!”
“ฮ่าๆๆๆ”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังหัวเราะเสียงดังอยู่นั้น ผู้จัดการหวังเฉียงก็เพิ่งกลับจากไปกินอาหารกับผู้ช่วยสาวที่ชื่อเจียงเสี่ยวปิงพอดี
จ้าวเฉียนเริ่มรู้สึกอึดอัดอย่างมากเมื่อเห็นคนทั้งคู่ นั่นเพราะเจียงเสี่ยวปิงเคยเป็นแฟนของเขามาก่อน และทั้งคู่ก็เพิ่งจะเลิกรากันไปไม่กี่วันนี่เอง และตอนนี้เธอก็กำลังคบหาอยู่กับผู้จัดการหวังเฉียง
จ้าวเฉียนรีบหลบหน้าหน้าทันที และแสร้งทำเป็นเล่นโทรศัพท์มือถือในมือ
หวังเฉียงจงใจเดินเข้าไปในกลุ่ม และบอกเล่าให้ทุกคนฟังว่าตนเองกำลังมีความสุขอย่างมาก
เจวียงหยวนใช้เล่ห์กลด้วยการพยายามที่จะทำให้จ้าวเฉียนได้รับความอับอาย หากเขาทำสำเร็จและจ้าวเฉียนไม่สามารถทนทำงานที่นี่ต่อไปได้ ตำแหน่งหัวหน้าแผนกวางแผนก็ต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน
“วันนี้เงินเดือนของพวกเราก็เพิ่งออกเหมือนกัน คุณชายจ้าวบอกว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเราด้วย และชวนทุกคนในบริษัทไปด้วย ใช่มั๊ยพวกเรา?”
เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆก็ชอบเห็นจ้าวเฉียนเป็นตัวตลกเหมือนกัน จึงได้จงใจพูดออกมาเสียงดัง
หวังเฉียงเดินเข้าไปหาจ้าวเฉียน เขายิ้มให้พร้อมกับยกมือขึ้นตบบ่าจ้าวเฉียน และพูดขึ้นว่า “จ้าวเฉียน คุณเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก! ผมเองก็เคยได้ยินคนพูดกันว่า ความผิดหวังและความล้มเหลวจะทำให้คนเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ที่ผ่านๆมา คุณไม่เคยไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้ถึงกับเสนอตัวเลี้ยงพวกเรา นับว่ามีพัฒนาการขึ้นมาจริงๆ”
หลังจากที่หวังเฉียงพูดจบ เขาก็จงใจโอบกอดร่างของเจียงเสี่ยวปิงไว้แนบอก และพยายามทำไม่ให้ดูเหมือนว่าจงใจยั่วจ้าวเฉียนมากเกินไป
แต่จ้าวเฉียนก็ยังคงเล่นโทรศัพท์ในมือโดยไม่สนใจแม้แต่จะปรายตามอง
เจียงเสี่ยวปิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “จ้าวเฉียน นี่นายเสียสติไปหรือเปล่า? ถ้านายมีเงินก็เอาไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ แต่ถ้าอยากจะอวดรวยก็ลองให้คนอื่นๆสอนให้ก็ได้ว่าต้องทำยังไง! เงินเดือนแค่นั้นจะเลี้ยงข้าวทุกคนในบริษัทได้ยังไงกัน? ฉันว่าแค่ซื้อเบียร์ได้ไม่กี่ลังก็หมดแล้ว..”
“ฮ่าๆๆ”
ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะร่วน
ในฐานะที่เคยเป็นแฟนเก่าของจ้าวเฉียน เจียงเสี่ยวปิงย่อมรู้สภาพการเงินของเขาเป็นอย่างดี และจ้าวเฉียนไม่มีเงินมากพอที่จะตะเกียกตะกายขึ้นมาอยู่ในระดับสูงได้
จ้าวเฉียนที่นิ่งเงียบอยู่นาน ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากพูดขึ้นบ้าง
“คุณหวัง รบกวนช่วยพูดกับผู้อำนวยการฟ่างให้จ่ายเงินเดือนส่วนที่หลือเร็วหน่อยได้มั๊ย? ตอนนี้ผมกำลังร้อนเงินมากจริงๆ!”
คำพูดของจ้าวเฉียนทำให้เพื่อนร่วมงานพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง เพราะคนอื่นๆไม่มีใครเดือดร้อนกับเงินเดือนอีกครึ่ง มีเพียงเขาเท่านั้นที่เดือดร้อน ทุกคนจึงอดที่จะหัวเราะเยาะเขาไม่ได้
หวังเฉียงเองก็หัวเราะเสียงดังเช่นกัน เขาหยิบเงินปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเงิน เป็นจำนวนสองพันห้าร้อยหยวนพอดี
“พอดีบริษัทมีปัญหาเรื่องเงินทุนนิดหน่อย ประธานฟางไม่มีทางเลือกก็เลยต้องทำแบบนั้น ในฐานะพนักงานของบริษัท พวกเราคงไม่สามารถขัดเจ้านายได้ แต่ถ้าคุณร้อนเงินมากขนาดนั้นจริงๆ ผมให้คุณยืมก่อนก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าต่อจากนี้ไป ห้ามคุณมาวอแวกับเสี่ยวปิงอีก ไม่อย่างนั้นผมจะจัดการกับคุณขั้นเด็ดขาด ถึงตอนนั้น อย่าได้ทำลายชื่อเสียงของผมด้วยการอ้างว่าผมใช้ตำแหน่งผู้จัดการรังแกคนที่อ่อนแอกว่าล่ะ”
โคตรเลย!! ใช้เงินแค่สองพันกว่าหยวนตบหน้าคนคนหนึ่งให้อับอายได้ขนาดนี้เชียวเหรอวะ?
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็พากันจ้องมองจ้าวเฉียนกันเป็นตาเดียว พวกเขาต่างก็รู้สึกว่า ถ้าเขาเป็นจ้าวเฉียน จะไม่มีทางยอมรับเงินนั่นเด็ดขาด!
หลังจากที่เลิกรากับเจียงเสี่ยวปิงไป จ้าวเฉียนก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะทำใจได้ เมื่อสองวันก่อน เขาก็เพิ่งเห็นเธอกับหวังเฉียงพากันเข้าไปในโรงแรงข้างบริษัท ตั้งแต่นั้นมา เขาก็เลิกโหยหาคร่ำครวญถึงเจียงเสี่ยวปิงอีกเลย
แต่จางเฉวียนจำเป็นต้องรับเงินก้อนนี้มา เขามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก้อนนี้มากจริงๆ เพราะมันจะทำให้เขาสามารถลบล้างความอัปยศอดสูที่ได้รับมาตลอดได้
ด้วยเหตุนี้ ภายใต้สายตาทุกคู่ที่จับจ้องอยู่ จ้าวเฉียนจึงรีบรับเงินก้อนนั้นมาอย่างไม่ลังเล และรีบวิ่งออกไปทันที
“ฮ่าๆๆๆ”
ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะออกมา พวกเขายอมตายเสียดีกว่าถ้าจะต้องมีชีวิตแบบนี้! นี่เขาไม่หลงเหลือศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์บ้างเลยหรือยังไง?
สีหน้าดูถูกเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจียงเสี่ยวปิง และเธอได้แต่นึกดีใจที่ตัดสินใจทิ้งเขาไป
จ้าวเฉียนวิ่งดุ่มตรงไปที่ธนาคารทันที และรีบนำเงินจำนวนนั้นไปเข้าบัญชีของตัวเอง ก่อนจะโอนเงินจำนวนห้าพันหยวนเข้าบัญชีอาลีเพย์ (Alipay) ของตนเองอีกที
จ้าวเฉียนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ราวกับว่าเขาได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ จากนั้นจึงรีบอัดเสียงของตัวเองส่งไปให้ใครบางคนผ่าน WeChat
“เงิน.. ผมจ่ายเงินทั้งหมดคืนให้แล้ว คืนสัญญากู้ยืมเงินให้ผลด้วย!”
เพียงแค่ครู่เดียว อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาทันที เป็นเสียงของหญิงสาวบอกว่าได้ส่งให้เขาไปแล้ว
จ้าวเฉียนเรียกแท๊กซี่ และในระหว่างนั้นเขาก็ได้ส่งรูปสัญญากู้ยืมเงินไปให้พ่อของเขาทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง จ้าวฝูพ่อของเขาก็ส่งข้อความตอบกลับมา
“ฉันต้องรอแกถึงห้าปี มันไม่นานไปหน่อยเหรอไอ้ลูกชาย แต่เห็นแกโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแบบนี้ ฉันเองก็ดีใจ! เอาล่ะ กลับมาเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว คำสั่งห้ามทั้งหมดถูกยกเลิกแล้ว แกกลับมาได้”
จ้าวเฉียนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ในที่สุดขาก็สามารถพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์นี้ได้แล้ว
…..
จ้าวฝู ประธานบริษัทหยานจิงโอเชี่ยนเวลท์กรุ๊บ
บริษัทหยานจิงโอเชี่ยนเวลท์กรุ๊บนั้น มีธุรกิจน้ำมัน ก๊าซ เหมือง การสื่อสาร การเงิน ระบบเนวิเกชั่น อสังหาริมทรัพย์ บันเทิง จัดเลี้ยง และอุตสาหกรรมอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกแง่มุมของชีวิตมนุษย์ อีกทั้งยังลงทุนธุรกิจในประเทศอื่นๆทั่วโลกอีกนับร้อยประเทศ ทรัพย์สินทั้งหมดโดยรวมมีมูลค่าสูงถึงสองล้านล้านดอลล่าร์
จ้าวฝูมีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคน ลูกสาวคนโตชื่อว่าจ้าวฉวิน ส่วนลูกชายชื่อว่าจ้าวเฉียน
เมื่อห้าปีก่อน..
หลังจากที่จ้าวเฉียนสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ เขาก็ไปร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อนนักเรียน จ้าวเฉียนดื่มจนเมามาย แต่ก็ยังขับรถกลับ
แต่ด้วยภูมิหลังของครอบครัวเขา หากไม่ถึงกับทำให้ใครตาย ก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่เพราะเมามายจนขาดสติ เขาจึงได้ร้องตะโกนอยู่ในโรงพักว่า พ่อของเขาคือจ้าวฝู!
แต่นับเป็นคราวซวยของจ้าวเฉียน เพราะใครบางคนได้แอบถ่ายคลิปไว้ แล้วนำไปโพสในโลกอินเทอร์เน็ต จ้าวฝูถึงกับให้คนไล่ลบคลิปนั้นออก และใช้เงินไปจำนวนมากกับการปิดข่าวเรื่องนี้ เพื่อให้ลูกชายของตนปลอดภัย
แต่ครั้งนั้นก็ทำให้จ้าวฝูได้คิดว่า ขืนลูกชายของเขายังมีนิสัยใจคอเช่นนี้ อาณาจักรธุรกิจใหญ่โตมหาศาลของเขา จะต้องล่มสลายเพราะเจ้าลูกคนนี้อย่างแน่นอน!
เพื่อประโยชน์ของสกุลจ้าวในวันข้างหน้า จ้าวฝูจึงได้ไล่จ้าวเฉียนออกจากบ้าน และสั่งให้เขาออกไปหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาที่ได้จ่ายให้กับเด็กสาวที่เขาขับรถชน เมื่อเขาหาเงินได้ครบเมื่อไหร่ จึงจะสามารถกลับเข้าบ้านตระกูลจ้าวได้
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน จ้าวเฉียนได้จ่ายเงินจำนวน 195,000 หยวนไปแล้ว และขาดอีกเพียงแค่ห้าพันหยวนเท่านั้น พันธะระหว่างเขากับหญิงสาวคนนั้นก็จะจบลง เขาจึงได้ขอให้หวังเฉียงที่แย่งแฟนสาวของตน ไปพูดกับเจ้านายให้จ่ายเงินเดือนเต็มกับเขา
หวังเฉียงจึงได้อาศัยโอกาสนี้ทำให้จ้าวเฉียนอับอาย ด้วยการให้เขายืมเงินจำนวนนั้นแทน
และตอนนี้ จ้าวเฉียนก็ไม่ใช่จ้าวเฉียนที่ยากจนข้นแค้นอีกแล้ว แต่เวลานี้เขาคือจ้าวไท่ หรือคุณชายจ้าวในภาพยนตร์เรื่อง Big Shot นั่นเอง!
“เจวียงหยวน หวังเฉียง เจียงเสี่ยวปิง ทุกคนรอฉันได้เลย ฉันมีอะไรๆจะเล่นสนุกกับพวกนายอีกมาก!”
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
หลินจิงซู หญิงสาวผู้ล้มเหลวทุกอย่างในชีวิตเพราะครอบครัวเฮงซวย เธอย้อนเวลาไปยังปี1990 อาศัยความรู้ในโลกอนาคตเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสทางธุรกิจ ก่อร่างสร้างตัวจนมั่งคั่งร่ำรวย เพื่อบดขยี้ทุกคนที่เคยรังแก!
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
มหาพิภพไร้สิ้นคุณธรรม วิถีมารจึงก่อเกิด อดีตนางมารร้ายจุติใหม่ในร่างคุณหนูปัญญาอ่อน ท่ามกลางสังคมอันเน่าเฟะ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะตัดสินทุกอย่าง! และจากนี้นางก็พร้อมบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง!
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
เธอถูกย่าแท้ๆฆ่าตายตอนอายุ6ขวบ กลายเป็นผีเร่ร่อนเฝ้าดูอนาคตและจุดจบของทุกคนที่รักอย่างเจ็บแค้น ย้อนเวลากลับมาครั้งนี้ก็เพื่อแก้ไขทุกสิ่ง! แต่เอ๊ะ?คุณแม่ผู้ขี้ขลาดคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?!
เพราะความเข้าใจผิด ทำให้ต่างคนต่างก็แสดงท่าทีเย็นชาใส่กัน ทำให้ต่างคนต่างก็พลาดช่วงเวลาแห่งความสุขไป กว่าจะรู้ตัวว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญในชีวิตของตนมากแค่ไหน อีกฝ่ายก็ได้จากไปตลอดกาลเสียแล้ว...
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
ลู่หมิงเยว่ถูกแฟนนอกใจ และยังโดนดูถูกว่าเธอแค่ดีแต่หน้าตา ด้วยความโกรธ ลู่หมิงเยว่ใช้เสน่ห์ของเธอไปมีความสัมพันธ์กับเยี่ยนเฉิงจือประธานบริษัท แต่เธอกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ หลังจากเสร็จธุระนั้นเธอก็หนีไปเงียบๆ และยังเข้าใจผิดว่าคนในคืนนั้นคือเพลย์บอย เสิ่นเว่ยตง ทำให้เยี่ยนเฉิงจือเข้าใจผิดว่าเธอชอบคนอื่น เขาเลยแอบอิจฉาและหึงหวงอยู่เงียบๆ มานาน
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY