img วิวาห์ฟ้าแลบ  /  บทที่ 2 วิวาห์ฟ้าแลบ | 3.51%
ดาวน์โหลดแอป
ประวัติการอ่าน

บทที่ 2 วิวาห์ฟ้าแลบ

จำนวนคำ:2572    |    อัปเดตเมื่อ:15/09/2023

เมื่อลู่ชิงชิงได้ยินเช่นนี้ เธอก็รู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่าลงมากลางใจอย่างไรอย่างนั้น

แต่เธอก็ทำได้เพียงปลอบเขาไปด้วยเสียงที่แหบพร่าว่า “ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวฉันจะโอนเงินไปให้นายห้าแสน นายให้ย่าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนค่าผ่าตัดที่เหลือ เดี๋ยวฉันจะหาวิธีเอง”

หลังจากวางสายไปแล้ว ลู่ชิงชิงก็ตัดสินใจรูดเงินสดออกมาจากบัตรเครดิต หลังจากรูดบัตรเครดิตเสร็จก็โอนเงินให้น้องชายทันที

ย่าเลี้ยงดูเธอกับน้องชายมาเพียงลำพัง หลายปีมานี้ย่าต้องลำบากลำบนมามาก แล้วมาวันนี้ก็ยังมาตรวจเจอว่าเป็นมะเร็งอีก ไม่ว่าอย่างไรยังไงเธอก็ต้องช่วยชีวิตย่าเอาไว้ให้ได้

แต่เธอจะไปหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาได้อย่างไรล่ะ? ต่อให้เธอจะขายบ้านตอนนี้เลย แต่ก็ใช่ว่าจะขายได้ง่าย ๆ

หรือว่าไปหายืมเงินดี?

ลู่ชิงชิงเริ่มโทรหาทีละคน โดยเธอไปหายืมเงินจากเพื่อนร่วมชั้นตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนถึงมหาวิทยาลัย

แม้จะได้มาคนละนิดคนละหน่อย แต่รวม ๆ แล้วก็ได้หลายแสน เพื่อนบางคนถึงขนาดไม่รับสาย

แล้วตอนที่เธอกำลังอับจนอยู่นี้ ในออนไลน์ก็มีโฆษณาประกาศหาคู่ดึงดูดความสนใจของเธอ

เนื้อหาของโฆษณาเรียบง่ายมาก

ผู้ชายคนนี้เป็นพนักงานบริษัท เขายินดีที่มอบสินสอดมูลค่าสองล้านห้าแสนให้ เพื่อตามหาวันรุ่นสาวสักคนมาเป็นคู่ชีวิต เงื่อนไขเดียวก็คือ ต้องดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวฝ่ายชายเป็นเวลาครึ่งปีก่อน

เมื่อลู่ชิงชิงเห็นคำว่า ‘สินสอดสองล้านห้าแสน’ เธอก็ใจสั่นทันที

เธอไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นการหลอกลวงรึเปล่า

เธอรีบโทรไปยังเบอร์ในโฆษณาอย่างรวดเร็ว

แต่ก็สายไม่ว่างตลอด ลู่ชิงชิงจึงร้อนใจอย่างมาก เธอกังวลว่าเงินสองล้านห้าแสนนี้จะมีคนอื่นได้ไปซะก่อน

ในที่สุดเธอก็โทรติดสักที

แต่อีกฝ่ายกลับเงียบไปพักหนึ่ง

ลู่ชิงชิงคิดว่าเธอคงจะเจอคนหลอกลวงเข้าแล้ว เธอจึงวางสายไป

เมื่อคุณปู่ตระกูลเซิงเห็นว่าหลานชายของเขาเงียบจนผู้หญิงในสายวางสายไป คุณปู่จึงโมโหจนใช้ไม้เท้าตีเขาอย่างแรง

แล้วเขาก็สั่งให้โทรกลับไปเดี๋ยวนี้

ลู่ชิงชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็กดรับสาย

คราวนี้อีกฝ่ายพูดแล้ว

เป็นเสียงที่ทุ้มต่ำ และมีเสน่ห์มาก

“ขอโทษที เมื่อกี้สัญญาณไม่ค่อยดีน่ะ”

“ไม่เป็นไรเลยค่ะ”

“ผมขอบอกเรื่องราวของผมก่อนก็แล้วกันนะ ผมชื่อเซิงหมิงซี ปีนี้อายุยี่สิบแปดปี ผมทำงานด้านไอทีในบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง มีเงินเดือนเดือนละแสนห้า โดยยังไม่รวมเงินปันผลสิ้นปี มีบ้านหนึ่งหลัง มีรถสกู๊ตเตอร์หนึ่งคัน ไม่มีนิสัยหรืองานอดิเรกแย่ ๆ อะไร”

“สิ่งที่ต้องเน้นย้ำเลยก็คือ ผมมีปู่ที่ป่วยอยู่ และต้องดูแล ดังนั้นผมจึงต้องอยู่กับเขาเป็นเวลาหกเดือนหลังจากแต่งงานแล้ว อีกอย่างหนึ่งผมอยากให้คุณเป็นแม่บ้าน ผมจะให้คุณเป็นคนคอยดูแลเงินเดือนทั้งหมดของผม แล้วก็แน่นอนว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะทำงานได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าห้ามกระทบต่อการดูแลผู้สูงอายุเด็ดขาด”

“ทั้งหมดนี้คุณทำได้ไหม?”

ลู่ชิงชิงเงียบไปสักพัก นอกจากเรื่องที่เธอต้องลาออกจากงานมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุที่ทำให้ลู่ชิงชิงรู้สึกค่อนข้างลำบากใจแล้ว เงื่อนไขอื่น ๆ ถือว่าไม่เลวเลยล่ะ

แต่เขาก็ไม่ได้ยืนกรานเลยว่าเธอจะต้องเป็นแม่แบ้านอย่างเดียว ซึ่งพอคำนึงถึงหลาย ๆ ด้านแล้วเธอก็รู้สึกว่าค่อนข้างยากพอตัวเลย

จากมุมมองนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายคนนี้ค่อนข้างที่จะเป็นคนมีเหตุมีผล

ลู่ชิงชิงครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็ตอบตกลงเงื่อนไขของเขาไป

“นอกจากเงินสินสอดสองล้านห้าแสนแล้ว คุณยังมีความต้องการอื่นอีกไหม?”

“ไม่มีแล้วค่ะ” ลู่ชิงชิงตอบไปตรง ๆ

หรือบางทีมันอาจจะตรงจนเกินไป เซิงหมิงซีจึงเกิดความสงสัยขึ้นมา “ไม่มีจริง ๆ เหรอ? เช่น การเพิ่มชื่อคุณเข้าไปในโฉนดบ้าน หรือว่า.....”

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ทรัพย์สินก่อนแต่งงานก็ยังคงเป็นของแต่ละฝ่ายเช่นเดิม”

อีกฝ่ายเงียบไปอีกครั้ง

ตอนที่ลู่ชิงชิงคิดว่าสัญญาณของอีกฝ่ายคงจะหายไปอีกครั้ง เสียงที่เคร่งขรึมของเซิงหมิงซีก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

“พรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้า คุณนำสมุดทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนมาเจอผมที่ประตูสำนักทะเบียน” หลังจากพูดจบ เขาก็วางสายไปเลย

นี่จะจดทะเบียนสมรสแล้วเหรอ?

ลู่ชิงชิงยังไม่ทันจะได้ถามเลยว่าเงินสองล้านห้าแสนนั้นเขาจะให้เมื่อไหร่

เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่ชิงชิงก็ออกไปข้างนอกทั้งที่มีรอยคล้ำใต้ตาขนาดใหญ่

เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะน้องชายโทรมาอีกครั้งบอกว่าค่าผ่าตัดของคุณย่าอย่างน้อย ๆ ก็ต้องการห้าล้าน

เธอจึงนอนกลุ้มใจเกือบทั้งคืน

แถมเธอยังตั้งใจไปโรงพยาบาลเพื่อเช็คด้วยว่าน้องชายของเธอถูกโกงรึเปล่า แต่เมื่อเห็นหนังสือแจ้งเรื่องการผ่าตัดแล้ว เธอก็เชื่อทุกอย่าง

ตอนเก้าโมงเช้า ลู่ชิงชิงก็มาถึงประตูสำนักทะเบียน

เป็นเพราะเป็นช่วงหลังวันหยุด ที่ประตูของสำนักทะเบียนจึงมีคนมาจำนวนมาก มีทั้งคนที่มาจดทะเบียนสมรส และมาหย่า

แต่ทว่าลู่ชิงชิงกลับมองเห็นผู้ชายคนหนึ่งจากฝูงชนได้อย่างรวดเร็ว เขาสวมชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม ชุดสูทถูกรีดมาเนียบมาก เขาสูงยาวเข่าดี และหน้าตาหล่อเหลาสุด ๆ เสื้อเชิ้ตที่อยู่ข้างในแหวกคอเสื้อเอาไว้เล็กน้อย เผยให้เห็นถึงลูกเดือกของเขา บนตัวของผู้ชายคนนี้ นอกเหนือจากนาฬิกาแล้ว เขาก็ไม่ได้ใส่เครื่องประดับอะไรอีกเลย รูปลักษณ์โดยรวมดูเรียบง่าย สะอาดตา

ผมหน้าม้าบาง ๆ บนหน้าผากของเขาโค้งงอเล็กน้อย เมื่อแสงยามเช้าสาดส่องลงมาจึงเกิดเป็นสีเหลืองอำพัน ขนตาที่ยาวและหนาของเขาปิดดวงตาลงมาครึ่งหนึ่ง ซ่อนอารมณ์ทั้งหมดในแววตาของเขาเอาไว้

ขณะที่ลู่ชิงชิงกำลังถือรูปถ่าย และมองไปที่ชายคนนั้นที่ทั้งดูดีกว่า และสง่างามกว่าในรูปถ่าย จนเธอไม่มั่นใจว่าจะใช่คนที่แต่งงานฟ้าแลบกับเธอรึเปล่า ผู้ชายคนนั้นก็เดินมาหาเธอ

หลังจากที่ทั้งสองทักทายกันตามมารยาทแล้ว พวกเขาก็เดินเข้าไปในสำนักทะเบียนด้วยกัน

เมื่อเซิงหมิงซีได้คิวแล้ว ทั้งสองไปไปนั่งรอที่เก้าอี้

หลู่ชิงชิงลังเลอยู่นาน แต่แล้วสุดท้ายเธอก็พูดขึ้นมาว่า:“คุณเซิง ขอโทษนะคะ ก่อนที่ฉันจะจดทะเบียบสมรสกัน ฉันอยากจะพูดอะไรสักนิดก่อนได้ไหมคะ?”

เซิงหมิงซีพยักหน้า “คุณพูดมาสิ”

“ฉันคิดว่านอกเหนือจากสินสอดสองล้านห้าแสนแล้ว ฉันอยากจะขอยืมเงินคุณอีกสองล้านห้าแสนได้ไหมคะ?”

เซิงหมิงซีหันหน้ามา สีหน้าของเขาดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

ในหัวสมองนึกถึงสถานการณ์ตอนที่คุณปู่กำลังคัดกรองข้อมูลเมื่อวานนี้

“ผู้หญิงคนนี้เคยเรียนพยาบาล มีภูมิหลังทางครอบครัวที่ค่อนข้างเรียบง่าย หน้าตาดี ดูสดใสน่าอยู่ด้วย ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว เธอน่าจะเป็นคนซื่อ......”

ซื่องั้นเหรอ เหอะ~

ลู่ชิงชิงรีบอธิบายขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า “เงินนี้แค่ยืมเฉย ๆ นะคะ ฉันยินดีที่จะเขียนสัญญาการยืมได้ ฉันจ่ายคืนให้คุณเมื่อฉันขายบ้านได้แล้ว แต่หากไม่ได้จริง ๆ ฉันสามารถที่จะให้ดอกเบี้ยคุณได้นะคะ”

“ทำไมเมื่อวานไม่พูดเรื่องนี้ทางโทรศัพท์?” เซิงหมิงซีรู้สึกว่าเขาถูกหลอก เขาจึงลุกขึ้น และเดินออกไปข้างนอกทันที

ที่ประตูทางเข้า เซิงหมิงซีกำลังรับสายของคุณปู่

“ได้ทะเบียนสมรสมารึยัง?”

เวลานี้ลู่ชิงชิงก็ตามเขาออกมาติด ๆ เธอเอาสัญญาการยืมที่เขียนเสร็จแล้วให้เซิง หมิงซีดู โดยบอกว่าเธอมีปัญหาจริง ๆ เธอไม่ได้เป็นคนหลอกลวงอย่างแน่นอน

เมื่อฟังเสียงที่คาดหวังของปู่แล้ว ในที่สุดเซิงหมิงซีก็ยอม

อาการเจ็บป่วยของปู่ไม่มีทางรักษาได้ ดังนั้นเขาจึงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกหกเดือน แล้วความปรารถนาเดียวของปู่ก่อนที่จะเสียชีวิตก็คือ อยากเห็นเขาแต่งงานและมีลูก.....

เมื่อเขาวางสายไปแล้ว เขาก็มองไปที่ลู่ชิงชิงอย่างจริงจัง และพูดขึ้นว่า:“ประการแรกเงินจำนวนนี้ไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ ผมรับปากว่าผมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรวบรวมมาให้คุณ ประการที่สองเมื่อคุณมีเงินแล้ว คุณต้องรีบคืนเงินให้เร็วที่สุด ประการที่สามผมหวังว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีก”

“ฉันสัญญาว่าฉันจะคืนให้คุณทันทีหลังจากที่ฉันขายบ้านได้แล้ว แล้วต่อไปฉันก็จะไม่ยืมเงินจากคุณอีก”

เซิงหมิงซีไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าไปในสำนักทะเบียนทันที

ในไม่ช้าก็ถึงคิวของลู่ชิงชิง และเซิงหมิงซีที่ต้องทำตามขั้นตอน ซึ่งตลอดเวลาเซิงหมิงซีจะคอยส่งข้อความอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเขายุ่งอยู่กับอะไร

หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว เซิงหมิงซีก็บอกว่าเขาจะกลับไปที่บริษัท แล้วก็บอกให้ลู่ชิงชิงกลับไปเก็บของก่อน พรุ่งนี้เย็นเธอจะต้องย้ายไปอยู่บ้านของเขา

แล้วจากนั้นเซิงหมิงซีก็ขึ้นแท็กซี่ และออกไปเลย

ลู่ชิงชิงรู้สึกว่าเธอทำเกินไปหน่อยรึเปล่า เธอได้สินสอดมาสองล้านห้าแสนแล้ว แต่ก็ยังจะไปยืมเงินเขาอีกสองล้านห้าแสนอีก

แต่ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหมือนกัน

เซิงหมิงซีนั่งแท็กซี่ไปจนรถเลี้ยวเข้าไปแยกหนึ่งแล้วก็ลงจากรถ จากนั้นก็เดินไปที่รถเบนท์ลีย์สีดำที่อยู่ข้างถนน

ขณะที่เดินเขาก็กดโทรออกไปด้วย เขาสั่งให้พ่อบ้านถอดเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่มีค่าทั้งหมดออกจากบ้านคุณปู่ทันที แล้วก็ให้แทนที่ด้วยเฟอร์นิเจอร์เก่า ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปในตลาดแทน

จากนั้นก็ซื้อสกู๊ตเตอร์เคลื่อนที่มือสองมูลค่าประมาณห้าแสนมาให้เขาคันหนึ่งด้วย

พอเข้ามานั่งอยู่ในรถแล้ว เขาก็ถอดนาฬิกาเพชรมูลค่ากว่าห้าสิบล้านบนข้อมือออก

หลังจากเช็คดูรอบหนึ่งแล้ว บนตัวของเขานอกจากชุดสูท และมือถือแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีของแพง ๆ แล้ว

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ลู่ชิงชิงไม่รู้เลยว่าตัวเองเพิ่งจะจดทะเบียนกับมหาเศรษฐีไป

เธอไปหาเอเจนซี่เพื่อลงประกาศขายบ้านทางออนไลน์ แล้วก็รีบไปที่บริษัททันที

ซึ่งทันทีที่เธอเข้าไปในบริษัท เธอก็เห็นว่าฉินฮันเยว่กำลังนินทาเธออยู่ที่แผนกต้อนรับของบริษัท

img
สารบัญ
บทที่ 1 ฉันนี่แหละเจ้าของบ้าน บทที่ 2 วิวาห์ฟ้าแลบ บทที่ 3 ย้ายบ้าน บทที่ 4 คุณปู่ ตระกูลเซิง บทที่ 5 ความวุ่นวายของแม่บ้าน บทที่ 6 หลินซั่วได้รับการว่าจ้างแล้ว บทที่ 7 กินบะหมี่ บทที่ 8 มาหาถึงที่ บทที่ 9 บ้านถูกปล่อยเช่าไปแล้ว บทที่ 10 อดีตของเยว่ฮัง
บทที่ 11 เจอกันที่สถานีตำรวจ
บทที่ 12 วันไหว้
บทที่ 13 ได้รับบาดเจ็บ
บทที่ 14 ฉลองวันเกิด
บทที่ 15 ออกกำลังกายยามเช้า
บทที่ 16 พบแฟนเก่าที่ห้างสรรพสินค้า
บทที่ 17 คุณเซิงชนท้าย
บทที่ 18 เพิ่มเงินเดือน
บทที่ 19 เซิงหมิงซีอารมณ์แปรปรวน
บทที่ 20 คุณไปไหนมา
บทที่ 21 รอยริมฝีปากบนปกคอเสื้อ
บทที่ 22 หมอเยว่โทรมา
บทที่ 23 การคิดบัญชีของฉินฮันเยว่
บทที่ 24 โดนตำรวจพาตัวไป
บทที่ 25 ไล่ตาม
บทที่ 26 แขกไม่ได้รับเชิญ
บทที่ 27 หลักฐานคาตา
บทที่ 28 ความจริงปรากฏ
บทที่ 29 ป้าของสามีมา
บทที่ 30 หาเรื่องไม่หยุด
บทที่ 31 เข้าร่วมออดิชั่น
บทที่ 32 ของขวัญวันวาเลนไทน์
บทที่ 33 ข้อตกลงของเซิงเหม่ยหลาน
บทที่ 34 อุปสรรคระหว่างทาง
บทที่ 35 ลูกพี่ลูกน้อง ฉิงเสวซาน
บทที่ 36 พาคุณปู่ไปต่างประเทศ
บทที่ 37 ผู้ชายเจ้าอารมณ์
บทที่ 38 ไข้ขึ้นอย่างกะทันหัน
บทที่ 39 ช่อกุหลาบเป็นเหตุ
บทที่ 40 ผู้เข้ารอบคนสุดท้าย
บทที่ 41 ยอมให้โอกาสเธอ
บทที่ 42 ลู่ชิงชิงของขึ้น
บทที่ 43 เซิงหมิงซีคนไม่ยอมรับผิด
บทที่ 44 พ่อลูกทะเลาะกัน
บทที่ 45 ตื่นตาตื่นใจกันทั้งงาน
บทที่ 46 แบรนด์แอมบาสเดอร์
บทที่ 47 หน้ากากจิ้งจอก
บทที่ 48 ฟันแล้วทิ้ง
บทที่ 49 พบหลินซั่วโดยบังเอิญ
บทที่ 50 ผมอยากมีลูกกับคุณ
บทที่ 51 กลับบ้านเกิด
บทที่ 52 ญาติบ้า ๆ
บทที่ 53 เกิดเรื่องขึ้นกับลู่ไห่โจว
บทที่ 54 มาหาถึงที่
บทที่ 55 เจอตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว
บทที่ 56 พบกันในบาร์โดยบังเอิญ
บทที่ 57 คอมเมนต์จากชาวเน็ต
img
  /  1
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY