นท
้ายมองเหยื่อที่ถูกหลอกล่อให้ต้องวิ่
ื่อนไหวรวดเร็วดั่งสายลมจะกระโจนมา ชั่วพริบตาเดี
นี่เหรอเสียง...ทำไมถึงได้แหบแห้ง บ
หนาที่ตะปบลงมา ถึงกระโจนหนีอย่างอัตโนมัติ แต่ก็ยังช้าเกินไป
..เปร
นที่เทกระหน่ำลงมาไม่ขาดสาย กระทบหลังคาใบหญ้าแฝกก่อนร่วงลงสู่พื้นดิน สายลมโหมพัดหวีดหวิวคล้ายเสียงภูติผีพรายร้องโหยหว
มีบางอย่างเกิดขึ้น ทำให้ต้องมาอยู่ในถิ่นที่ไม่คุ้นเคย ถึง
สื้อผ้าบางเบาและชื้นหนาวสะท้านราวกับยืนแช่อยู่กลางลำธาร ถูกสายน้ำเย็นจัดไหลบ่ามากระแทกจนเซถลาล้มลง
เฮือก ดวงตาเบิกกว้าง ผวาลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวอย่างรวดเ
วดที่ดังผ่านริมฝีปากแห้ง
อะไร
หลับตาลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเจอกับอาการปวดร้าวราวกับถูกค้อนหนักๆ ที่ระดมทุบไปทั่วศีรษ
้อชนจนกระเด็นไปอัดกับผนังปูนหนาๆ ก่อนถูกทับซ้ำอีกครั้งอย่างนี้ แต่นึกทบทว
กัน แล้ว...มาอย
ัดหอบเอาละอองฝนมาถูกผิวเนื้อทำให้หนาวจนเป็นสะท้าน ขนแขนและส่วนต่างๆ ของร่างกายลุกเกรียว ไหนจะอาการปวดที่กระบอกตาที
ี่แม้พยายามบอกกับตัวเองว่าไม่มีอะไร แต่ไม่เป็นผล...เมื่อสภาพร่างกายที่อ่อนล้าตอกย้ำ...ประท้วงให้นอนพักผ่อนอี
จนทัศนะในการมองเห็นลดน้อยลง ทำให้พนักงานพยายามประคองรถไปอ
่าย ถ้าไม่เคลื่อนย้ายออกก่อนและนั่นก็เป็นเหตุให้
ริมถนนสาดส่องเข้ามา ตื่นขึ้นมาอย่างงงๆ เพราะเสียงหวีดร้องโหวกเ
รปล
ลุมกันฝนสีตุ่นๆ สวมรองเท้าบูทเดินตรงมาพร้อมกับบางสิ่งในมือ
ื
่งหนีลงจากรถกันจ้าละหวั่น อย่างไม่หวั่นเกรง
ุบัติเหตุ แต่เป็นความจงใจของใครบางคน ก่อเกิดเป็นความหวาดกลัวเมื่ออยู่ในถิ่นที่ไม่คุ้นเคย ถึงจะเป็น
...หนี! และต้องหนีให้เร็วที่สุดด้วย ทว่าสิ่งที่คิดทำเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะเพียงแค่กา
วาดหวั่นขลาดกลัวจนสองขาสั่นระริก ดีว่าตอนนี้ก้าวลงมายืนบนพื้นเปียกแฉะด้วยหยาดฝนที่ยังคงโปรยปรา
่ฝนพรำลงมาไม่ขาดสาย บวกกับแสงไฟที่ไม่ค่อยสว่าง จึงต้อง
ั้น...ไปเ
ี่น่าจะเป็นหัวหน้ายกแขนขึ้นชี้นิ้วแหวกม่านฝูงชนที่ตอนแรกก็พยายามจะวิ่งหนีกันอุตลุด...บ่งบอกว่าคนที่เอ่ยถึงใช่ตัวเองแน่นอน ไอ้ที่กึ่
ม่พอใจ ถึงได้ตามไล่ล่าด้
เพื่อไต่ถามให้ได้คำตอบ แต่ความหวา
ก็หยุดพักคลายอาการเหนื่อยเมื่อยล้า มือหนึ่งเท้าเหนือหัวเข่า อีกมือยกขึ้
ะกลัวจะเป็นกลหมากศัตรูที่วางล่อไว้ให้เหยื่อตายใจ ก
าตัวเล็กนั่นหายไป
ึกว่าจะเป็นแค่เต่าต้