หวี่ซิ่วกุมมือจงฉี่เฟิงไว้ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความกังวล “ถ้าจิ่งเฮ่ารู้เข้าว่าคุณตรวจสอบเขา เขาต้องไม่พอใจแน่ ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพวกเราเดิมทีมันก็ตึงเครียดอยู่แล้ว หรือคุณลองคุยกับเขาหน่อยดีไหมคะ”
ลุงเฝิงเองก็เห็นด้วย “ใช่ครับ นายน้อยนิสัยเป็นยังไงก็รู้ ๆ กันอยู่”
จงฉี่เฟิงสีหน้าขรึมลง เขาเอ่ยเสียงเย็น “คุณก็เห็นท่าทางของเขาเมื่อกี้แล้วนี่ ผมยังจะคุยกับเขาดี ๆ ได้อยู่เหรอ? ครั้งอื่นผมยังพอปล่อยผ่านไปได้ แต่คร้ังนี้ไม่ได้”
จงฉี่เฟิงสีหน้าอ่อนลง ทว่าท่าทางกลับดูเด็ดเดี่ยว
หวี่ซิ่วยังไม่ล้มเลิกความคิดจะเกลี้ยกล่อมเขา ทว่ากลับถูกจงฉี่เฟิงชิงตัดบทขึ้นเสียก่อน “ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมผมแล้ว เรื่องนี้ผมตัดสินใจแล้ว”
“เรื่องนี้—” ลุงเฝิงมองหวี่ซิ่วสายตาลังเล
หวี่ซิ่วถอนหายใจ “ตามใจเขาเถอะค่ะ พ่อลูกคู่นี้นิสัยเหมือนกันไม่มีผิด ใครพูดก็ไม่ฟัง”
ลุงเฝิงจึงได้แต่ทำตามที่จงฉี่เฟิงสั่ง
จงจิ่งเฮ่าเพิ่งออกจากบ้านหลังเก่ามา เหอรุ่ยหลินก็เข้ามาขวางทางเขาไว้
“จิ่งเฮ่า—”
จงจิ่งเฮ่าทำราวกับมองไม่เห็นเธอ เขามองผ่านเธอไปพลางเดินตรงไปที่รถ