“ถิงหย่วน แกก็แต่งงานกับหยุยเอินมาสามปีแล้วนะ ควรคิดที่จะมีลูกได้แล้ว”
น้ำเสียงอันหนักแน่นของชายชราลอยออกมาจากห้องอ่านหนังสือที่ประตูเปิดไว้อยู่
คำพูดอันแสนเย็นชาของชายคนหนึ่งดังขึ้นตามมา “จะให้มีลูกกับผู้หญิงที่ไม่ได้รักได้ยังไงกันครับ”
หยุยเอินกำลังจะเคาะประตูบอกพวกเขาว่าอาหารเย็นพร้อมแล้ว เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เธอก็หยุดชะงักทันที ใบหน้าอันอ่อนโยนของเธอก็ซีดเผือดลง
เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาเริ่มหมดความอดทนลงเล็กน้อย “คุณปู่ครับ ผมจะพูดกับคุณปู่ให้ชัดเจนอีกรอบนะครับ ผมกับหยุยเอินมีลูกด้วยกันไม่ได้ คุณปู่ล้มเลิกความคิดพวกนี้ไปได้เลย”
“ไอ้เด็กเปรตเอ๊ย!” ชายชราสบถออกมาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เขาทิ้งแก้วใบหนึ่งลงกับพื้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าของชายคนหนึ่งที่เดินออกไป
หยุยเอินรีบไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำที่อยู่ข้าง ๆ เพราะว่าเธอตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เอวของเธอจึงถูกขอบแหลม ๆ ของอ่างล้างมือบาดเข้าอย่างแรง
บาดแผลนั้นเจ็บลึกไปทั่วทั้งตัว แผ่ขยายไปจนถึงในหัวใจเลยทีเดียว เธอเจ็บปวดมากจนน้ำตาเอ่อล้นไปท้วมดวงตา
เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอได้รับแจ้งใบรับรองการตั้งครรภ์ใบหนึ่งในโทรศัพท์ ซึ่งคนที่ส่งมาคือ เซิ่นเหยา นางฟ้าที่สามีของเธอฝู้ถิงหย่วนกำลังหลงใหลอยู่
ส่งมาพร้อมกับคำพูดเสียดสีของเซิ่นเหยาด้วย……
“หยุยเอิน เธอแต่งงานกับถิงหย่วนมาสามปีแล้ว แต่เขาไม่เคยรักเธอเลย เธอนี่ช่างล้มเหลวเสียจริงนะ”
“เธอได้เเต่ตัวของเขา เเต่กลับไม่ได้ใจของเขาเลย มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่ถนัดทำเรื่องต่ำต้อยไม่เคารพตัวเองเช่นนี้ ถ้าเป็นฉันก็คงจะอับอายจนกระโดดตึกฆ่าตัวตายไปนานแล้ว”
ก่อนแต่งงาน หยุยเอินไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เซิ่นเหยามีตัวตนอยู่จริง
จนกระทั่งถึงวันแต่งงาน ฝู้ถิงหย่วนไม่กลับมาทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้นข่าวอื้อฉาวของเขากับเซิ่นเหยาดาราสาวชื่อดังที่เดินเข้าออกโรงแรมก็ดังสนั่นไปทั่ว
เธอถึงได้เข้าใจว่า ที่แท้สามีของเธอมีคนอยู่ในใจอยู่แล้ว
ที่น่าตลกก็คือ ในตอนนั้นเธอยังคงคาดหวังว่าเธอจะได้ความรักเเละความสุขจากเขา เธอคิดว่า เขาคงจะเปลี่ยนเเปลงตัวเองได้หลังจากที่เเต่งงานกันเเล้ว เธอจึงลาออกจากงาน เเล้วกลายมาเป็นภรรยาอย่างเต็มตัวของเขาด้วยความอุ่นใจ
เเต่น่าเสียดายที่สามปีต่อมา……
ทันทีที่เธอเข้าไปซ่อนตัวในห้องน้ำ ประตูก็ถูกผลักเปิดออกอย่างแรง เธอเดินเซถอยหลังไปสองสามก้าว
ในสายตาอันปริ่มน้ำตาของเธอนั้น เธอเห็นชายผู้เย็นชาเดินเข้ามา เขาก็คือ ฝู้ถิงหย่วน สามีของเธอนั่นเอง
ท่าทางของเขาเย็นยะเยือกยิ่งนัก ชุดสูทสีดำทั้งตัวของเขายิ่งเพิ่มรัศมีโหดร้ายให้แผ่ออกมามากขึ้นไปอีก พอเข้ามา เขาก็บีบกรามของเธออย่างไม่เกรงใจใด ๆ “ไปยุให้คุณปู่เร่งให้ผมมีลูกกับคุณเหรอ? หยุยเอิน ไม่กี่ปีมานี้ฝีมือของเธอช่างพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ เลยนะ จริงไหม? !”
ยังไม่ทันที่หยุยเอินจะอ้าปากพูดอะไร ดวงตาของเขาก็ยิ่งหนาวเหน็บราวกับป่าดิบชื้น “เมื่อสามปีก่อน คุณได้วางแผนเข้ามาเป็นสะใภ้ในตระกูลฝู้ ตอนนี้คุณคงอยากใช้ลูกเป็นข้ออ้างในการพึ่งพาตระกูลฝู้ไปตลอดชีวิตเลยใช่ไหม?”
สีหน้าของหยุยเอินเปลี่ยนไป เธอกัดริมฝีปากแน่น “ไม่ใช่นะ!”
“ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมถึงต้องเป็นยายแม่มดมาแอบฟังการสนทนาของผมกับคุณปู่ด้วยล่ะ?”
สายตาของถิงหย่วนเย้ยหยันยิ่งนัก “แต่ว่า คุณคงมาได้ยินพอดีสินะ จะได้รู้ว่าผมรู้สึกกับคุณยังไง หยุยเอิน คุณจะให้กำเนิดลูกของผมอย่างนั้นเหรอ คุณไม่คู่ควรเลย!”
คำพูดอันแสนโหดร้ายของถิงหย่วนทำให้หยุยเอินกำมือทั้งสองข้างไว้เเน่น เล็บของเธอจิกเข้าไปในฝ่ามือของเธอเป็นรอยลึก
เธอรู้มาตลอดว่า ถิงหย่วนไม่ได้รักเธอ แต่พอได้ยินเขาพูดกับปากของเขาเองว่า “ไม่คู่ควร” วลีนี้ได้ทิ่มแทงหัวใจเธอราวกับโดนมีดปักนับหมื่นเล่ม
เป็นเวลาสามปีแล้วที่เธอพยายามทำหน้าที่เป็นภรรยาของเขาอย่างเต็มที่ เธอไม่กล้าที่จะหยุดพักเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอคิดว่า เธอสามารถทำให้หัวใจของถิงหย่วนจะค่อย ๆ ละลายลงมาบ้าง แต่ตอนนี้เธอพบว่า หัวใจของเขาเป็นภูเขาน้ำแข็งหมื่นปี ไม่ว่าเธอจะพยายามมากแค่ไหนก็ไม่สามารถละลายมันได้
“ถิงหย่วน ในช่วงระยะเวลาสามปีมานี้ คุณเคย…… ชอบฉันสักนิดไหม?”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ร่างกายของเธออดทนแรงสั่นสะเทือนเอาไว้อย่างแรงกล้า ราวกับว่าเธอได้ใช้พละกำลังและความกล้าหาญทั้งหมดของเธอไปหมดเเล้ว
คำถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและแผ่วเบาเช่นนี้ทำให้ในใจของถิงหย่วนรู้สึกแปลก ๆ แต่ชั่วพริบตาก็จางหายไป
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา “แล้วคุณว่าไงล่ะ?”
การเยาะเย้ยถากถางของเขาทำลายฟางเส้นสุดท้ายในใจของหยุยเอิน หัวใจของเธอเจ็บปวดมากเสียจนรู้สึกชาไปทั่วร่าง