“หัวใจตายด้าน” ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นชั่วพริบตา
ทุกอย่างที่เธอทุ่มเทให้ถิงหย่วนในช่วงสามปีที่ผ่านมา บัดนี้มันกลายมาเป็นเพียงเรื่องตลกไปเเล้ว
“ฉันเข้าใจเเล้วค่ะ” หลังจากที่หยุยเอินพูดจบ เธอก็หันหลังเเล้วเดินออกจากห้องน้ำไป
เงาด้านหลังของเธอยังคงดูว้าเหว่เช่นเดิม เพิ่มเติมคือความแน่วแน่ของเธอ ถิงหย่วนก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว แต่ดวงตาของเขาก็หม่นลงอย่างรวดเร็ว พอเขานึกถึงกลอุบายที่หยุยเอินปั่นหัวเขาเล่น เขาก็หรี่ตาลงอย่างเยือกเย็น
……
เวลาอาหารเย็นในบ้านหลังเก่าของตระกูลฝู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่หยุยเอินไม่มีกระจิตกระใจจะกินข้าวอีกต่อไป เธอแต่งหน้าและปรับอารมณ์ของเธอให้เข้าที่เข้าทาง แล้วพูดกับคุณท่าน จากนั้นจึงให้คนขับรถพาเธอออกไป
ระหว่างทางกลับบ้าน เธอรู้สึกมึนงงเล็กน้อย ตอนนี้เธอจะยอมแพ้แล้วเหรอ?
เซิ่นเหยากำลังตั้งครรภ์ ถิงหย่วนไม่ยอมปล่อยให้ลูกของเขาคลอดออกมาเป็นเด็กเถื่อนที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วยังไงก็ต้องหย่ากันกับเธออยู่ดี
เพราะฉะนั้น ให้มันจบลงตรงนี้จะดีเสียกว่า ความพยายามที่เธอทุ่มเททั้งแรงกายเเละแรงใจตลอดสามปีมานี้ ถือว่าแลกกับการได้แต่งงานในครั้งนี้ก็แล้วกัน
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอก็อาบน้ำแล้วนอนหลับไป
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน มีคนกัดริมฝีปากเธออย่างรุนแรง การกระทำนั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาและความแค้น
ลมหายใจที่คุ้นเคยบอกหยุยเอินว่า เป็นฝีมือของถิงหย่วน เขามาทำอะไรที่นี่กันนะ? เวลานี้ เขาควรจะมีความสุขอยู่กับเซิ่นเหยาไม่ใช่เหรอ?
อ่อ เธอนึกขึ้นมาได้แล้ว เซิ่นเหยาเพิ่งจะตั้งครรภ์ เธอคงไม่สะดวกสักเท่าไหร่
ครู่หนึ่งหยุยเอินก็สร่างจากความง่วง เธอผลักคนที่คร่อมตัวเธออยู่ออกอย่างแรง จากนั้นจึงเปิดโคมไฟบนหัวเตียงแล้วลุกออกจากเตียง
หยุยเอินยกมือขึ้นจับคอเสื้อชุดนอนอันยุ่งเหยิงของเธอ เธอยืนเท้าเปล่าที่พื้น มองไปยังสีหน้าอันมืดหม่นของถิงหย่วนที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง เธออ้าปากเอ่ยขึ้นในทันทีว่า “ถิงหย่วน เราหย่ากันเถอะ”
“ยังล้อเล่นไม่พออีกเหรอ?” ใบหน้าเคร่งขรึมของถิงหย่วนเต็มไปด้วยความไม่พอใจและหมดซึ่งความอดทน
เขาเดินทางไปทำงานต่างถิ่นเป็นเวลาหลายวัน ความปรารถนาของเขาจำเป็นต้องระบายออกอย่างเร่งด่วน
ดังนั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะจูบหยุยเอินขณะที่เธอตกอยู่ในห้วงนิทรา เธอส่งเสียงครางตามสัญชาตญาณ ยิ่งทำให้ความต้องการของเขาพรั่งพรูยิ่งขึ้นไปอีก ในเวลานี้ร่างกายของเขาย่ำแย่เป็นที่สุด
แต่ตอนนี้เธอกลับปฏิเสธเขาแล้ว ในความคิดของเขาคิดว่า มันเป็นกลอุบายอย่างหนึ่งของเธอ
หยุยเอินสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เฮือกหนึ่ง เธอระงับความขมขื่นในหัวใจ แล้วพูดย้ำสิ่งที่เธอเพิ่งพูดขึ้นอีกครั้ง “ฉันจริงจังนะ เราหย่ากันเถอะ”
สีหน้าของเขาหม่นลงประมาณหนึ่ง
เขาปรับท่าทางของเขา เอนตัวลงบนหัวเตียงแล้วหรี่ตามองเธอ จากนั้นจึงถามด้วยเสียงอันแผ่วเบา “คุณแน่ใจนะ?”
หยุยเอินเม้มริมฝีปากไม่พูดอะไร เธอใช้ความเงียบตอบทุกคำถามที่เข้ามา
ถิงหย่วนกระตุกมุมปากเป็นรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความเยาะเย้ยมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “หยุยเอิน ให้ผมเตือนสติคุณหน่อยไหม บริษัทของพ่อคุณกับพี่ชายที่ไม่เอาไหนของคุณคนนั้น รายรับไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายมาโดยตลอด หลายปีที่ผ่านมานี้ ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากตระกูลฝู้แล้วล่ะก็ พวกเขาคงจะล้มละลายไปนานแล้วล่ะ”
ร่างของหยุยเอินโยกโคลง สีหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความอับอาย เพราะจากคำพูดที่รุนแรงเกรี้ยวกราดของถิงหย่วน
ใช่สิ ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะพ่อลูกสองคนนั้นที่ทำให้บริษัทเกือบจะล้มละลาย เธอก็คงไม่ถูกพ่อประเคนเธอให้กับถิงหย่วนอย่างนี้หรอก
ในช่วงสามปีที่ผ่านมาเธอพยายามหาโอกาสที่จะอธิบายให้เขาฟังมาโดยตลอด แต่เขาก็ไม่รับฟังเลย เขาไม่เชื่อว่า เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันเอาตัวเข้าเเลกให้กับคุณมาเป็นเวลาสามปีเพื่อแลกกับที่คุณช่วยเหลือพวกเขาไว้สามปีเช่นกัน ซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้วกับสิ่งที่พวกเขาควรได้รับ”
นัยน์ตาของถิงหย่วนเหมือนกับกำลังจะรวบรวมพายุเข้ามาถล่ม “คุณเปรียบเทียบการแต่งงานสามปีนี้เป็นดั่งข้อตกลงเชิงธุรกิจงั้นเหรอ?”
“แล้วไงล่ะ?” หยุยเอินมองมาที่เขา น้ำตาคลอเบ้า “หัวใจของคุณมีเจ้าของแล้ว ความสัมพันธ์ของคุณกับฉันนอกจากเรื่องบนเตียงแล้ว ความรู้สึกอื่นใดก็ไม่มีทั้งสิ้น ดังนั้นสามปีมานี้ต่างอะไรไปจากการที่ฉันขายตัวให้คุณล่ะ?”
“โอเค! เยี่ยมไปเลย!” ถิงหย่วนกัดฟันกรอด น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นจนสั่นสะท้าน
“หยุยเอิน คุณยอมที่จะสละชีวิตที่ดีในตอนนี้ไปใช่ไหม? นอกจากความรัก ผมก็ให้คุณหมดทุกอย่างแล้ว”
การดูถูกและเย้ยหยันของเขากระตุ้นความดื้อรั้นในหัวใจของหยุยเอินให้พวยพุ่งออกมา เธอฉีกยิ้มอ่อน ๆ ปะทะกับการจ้องมองอันน่าสะพรึงกลัวของเขา แล้วกล่าวว่า “ขอบคุณที่เตือนสติฉันนะ แต่ฉันมีมือมีเท้า ฉันไปทำงานเก็บขยะ ล้างห้องน้ำ อะไรพวกนี้ก็คงไม่ถึงขั้นอดตายแล้วล่ะ”
หยุยเอินรู้ว่า คนในตระกูลฝู้ทุกคน นอกจากคุณท่านแล้ว ทุกคนไม่เห็นหัวเธอหรอก
แต่ในความเป็นจริงเธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เพียงแต่ว่าพอเรียนจบเเล้ว เธอก็แต่งงานกับถิงหย่วนทันที เธอทำหน้าที่เป็นแม่บ้านของเขาอย่างเต็มตัว
ฝู้ถิงหย่วนยิ้มเยาะ พลางกล่าวว่า “โอเค พรุ่งนี้เช้าตอนแปดโมงครึ่ง ผมจะนัดทนายมาเซ็นใบสัญญาการหย่า”