วันละสามเวลามากกว่าอาหาร เห็นจะเป็น สุรา สุรา สุรา... ท่านอามัวแต่ร่ำสุรา เมื่อใดจะร่ำนารีบ้างเล่า -------------------- “ทำไมเจ้าไม่ลองปรนนิบัติข้าด้วยวิธีอื่น ไม่ดีกว่าหรือ? เจียลี่ งานดูแลความสะอาดให้บ่าวรับใช้ทำไป” “ท่านอาจะให้ข้าทำอะไร?” คำถามเต็มใบหน้าของนาง หวังเฟยถอนหายใจหนัก “เอาเถอะ เจ้ายังเป็นเด็กสาว คงจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ให้เจ้าไปว่าจ้างโสเภณีในเมืองมาบำรุงบำเรอข้าดีกว่า” เจียลี่เบิกตากว้างตกใจ นางละล่ำละลักพูด “ไม่ ๆ ท่านอา ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าพอรู้เรื่องราวระหว่างชายหญิง ข้าเคยอ่านตำรากามาด้วย ข้าเพียงเห็นว่าไม่เหมาะ หญิงขาไม่ดีอย่างข้า ไม่คู่ควรกับผู้ดีอย่างท่าน” “อย่างไรถึงจะเหมาะ?” “อย่างไรก็ไม่เหมาะ” ในน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงนั้นไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อท่านอา เขาอาจโกรธนางและไล่ตะเพิดนางได้ หลังจากที่เหล้าเข้าปากแล้วเขาจะกลายเป็นคนละคนทีเดียว นางรีบแก้ต่าง “ท่านอาหวังเปรียบดังเทวดาของเจียลี่ผู้แสนต่ำต้อย ข้ามิบังอาจ” “เทวดาบ้าบออะไรของเจ้า เลิกพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องบุญคุณนี่เสียที ท่านอาขี้เมาของเจ้าน่ะ...” ร่างสูงโน้มลงหานาง กระซิบข้างหูทีละคำ “อสุรกายจากขุมนรกทีเดียว” กว่าจะเจียลี่จะเข้าใจท่านอาผู้ไม่ได้ดูแคลนนางเหมือนกับที่ผู้อื่นรังเกียจนาง หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรง น้ำเสียงสะเทือนอารมณ์ของเขา ยากที่นางจะต้านทาน “ข้าชอบกลิ่นเด็กสาวตัวหอม ๆ อย่างเจ้าซะด้วย”
ดวงตาแดงก่ำหรี่มองแสงสลัวจากตะเกียงไฟดวงเล็ก ชายร่างผอมในอาภรณ์สง่างาม เดินโซเซไปคว้าไหสีน้ำตาลบนโต๊ะไม้ข้างตั่งนอน ยกขึ้นดื่มต่างน้ำ
ในห้องนอนโล่งกว้างสมฐานะผู้สูงศักดิ์ กลิ่นสุราคละคลุ้งไปทั่ว ใบหน้าหล่อเหลาส่ายมองโดยรอบ ภายใต้ทัศนียภาพที่พร่าเลือนลง เขาเลิกคิ้วเข้มหน้าที่เรียบขนานไปกับดวงตาคมกริบขึ้น
‘แปลกนัก... นางไม่ใช่ผู้ขลาดกลัวอะไรง่ายดาย แต่จะว่ากล้าหาญ ก็ไม่เชิงว่าใช่’
ค่ำคืนก่อนมีสตรีเนื้อตัวมอมแมม มาเหยียบเยือนเรือนงูเห่า เฝ้าดูแลเขาแทนบ่าวรับใช้ที่ถูกไล่ตะเพิดไปเสียหมด นางพูดวนเวียนอยู่แต่เรื่องบุญคุณ
‘หวังเฟย’ คาดว่านางไม่กล้าเสนอหน้ามารบกวนจิตใจเขาอีกเป็นแน่ หลังจากที่เขารังแกนางเพราะความเมา กลับคาดการณ์ผิดพลาดไป เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าบนพื้นไม้ การเยื้องย่างด้วยความดังไม่เท่ากันของนางไม่เหมือนผู้ใด
“ท่านอา กลับมาแล้วหรือ?” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วดังมาแต่ไกล ร่างบอบบางในเสื้อผ้าชำรุดมีรอยปะชุน ของเหลือใช้จากท่านอาหญิง นางมาเย็บปักมันเสียใหม่ให้ดูสวยงามเข้ากับใบหน้าอ่อนหวาน ปิ่นประดับมุกบนเกล้าผมดำขลับแลดูมีราคาอย่างสตรีสามัญชนในแคว้นเล็ก ๆ หากก็เป็นแคว้นที่เฟื่องฟู
‘เจียลี่’ ไม่ให้ใครมาเอ่ยคำสั่งสอนนางได้ว่าเป็นบุตรสาวพ่อค้าขายผ้า จำต้องแต่งตัวอย่างไร ถึงนางจะเป็นคนติดดิน อย่างน้อยก็เทียมหน้าเทียมตาบุตรสาวผู้อื่นในเมือง
“ไยเจ้ายังอยู่อีก?”
“ท่านอาเคยให้ความช่วยเหลือครอบครัวข้า ท่านเคยช่วยชีวิตข้าเอาไว้ตั้งหลายครั้ง บุญคุณย่อมต้องทดแทน” นางเดินกระย่องกระแย่ง ยกถังไม้ใส่น้ำมาวางไว้ข้างตั่งนอน ท่านอากระแทกก้นนั่งลงบนฟูก มองนางอย่างไม่ใคร่พอใจราวกับว่านางเป็นเครื่องเรือนเกะกะในห้องของเขา มือยกไหเหล้ากระดกเอา ๆ
ข้าวหมักกลิ่นหอมฟุ้งไหลลงเปรอะเปื้อนเต็มหนวดเคราครึ้มแซมเทา ด้วยอายุวัยสามสิบห้าปี กระทั่งอาภรณ์ขาวสะอาดบริเวณช่วงหน้าอกเปียกปอน มือหนากระแทกไหเหล้าลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างตั่งนอน
“จะอยู่เช็ดอ้วกข้าก็เชิญ!”
“ข้าเช็ดได้ ข้าไม่ใช่คนเกี่ยงงาน ข้าเช็ดมาหลายวันแล้ว” นางกระตือรือร้นดูแลท่านอาขี้เมา ที่ใดเขาทำสุราหกเรี่ยราด นางหยิบผ้าขี้ริ้วไปเช็ดจนสะอาด นางลุกขึ้นไปเก็บเสื้อผ้ากระจัดกระจายบนพื้น นำออกไปใส่ถังไม้อีกใบหนึ่งใกล้กับแหล่งน้ำ เพื่อที่นางจะนำไปซักในคราวหน้า
ในมือเรียวมีถังไม้ที่เติมน้ำจนเต็มวางเรียงไว้ด้านข้างเรือน อีกสองไว้ในห้องไว้สำหรับทำความสะอาด บ่าวรับใช้คนสุดท้ายตักน้ำใส่ถังเรียงเป็นแถวชิดกำแพงไว้แล้วหนีไป นางจดจำสิ่งที่พวกเขาเคยทำ ก่อนมารับหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้ท่านอาหวังเฟย ต่อจากพวกเขาเป็นการชั่วคราว
“อาหญิงเจ้าล่ะ ไปกับคุณชายสามหรือ?”
“ข้าจะไปรู้ไหมเล่า”
“เจ้ารู้”
“ข้าไม่รู้ ขออภัยด้วยท่านอา”
เจียลี่ไม่คิดทำร้ายน้ำใจอดีตท่านอาเขย หากไม่เป็นเพราะนางถูกกดดันด้วยกลิ่นข้าวฟ่างแดงหมักจากเรือนร่างกำยำเหนือเรือนผมของนาง อาจทำให้นางเมามายไปด้วยกับเขา
นางกลอกตาไปมาลอบมองกรามแกร่ง นัยน์ตาลุ่มลึกแลดูก้าวร้าวดุดัน เป็นอันตรายต่อสตรียิ่งนัก ขณะใบหน้าหล่อเหลาก้มลงต่ำ จนนางแทบจะฟุบหน้าลงบนพื้น
“เจ้ารู้ บอกข้ามา มิฉะนั้นเจ้าไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก”
“คือข้า...”
“ข้าไม่ชอบรับบุญคุณจากใคร โดยเฉพาะสตรีร่างบอบบางเยี่ยงเจ้า ไม่จำเป็นมากนัก แค่บ่าวรับใช้ไม่กี่คน ข้าจ้างเอาใหม่ได้มากมายถมถืดไป”
“นาง... เอ่อ... ขึ้นเกี้ยวขุนนางไปตั้งแต่รุ่งฟ้าสาง ไม่ได้อยู่ช่วยท่านแม่ขายผ้า”
“อ้อ... เป็นอย่างที่ข้าคิด”
ใบหน้าแดงก่ำส่ายมองไปทางหน้าต่างที่เปิดอ้ากว้าง มือคว้าไหสุราขึ้นยกดื่มจนหกเลอะเทอะ เจียลี่ก้มลงเช็ดน้ำที่เจิ่งนองไปทั่ว หยิบผ้าขี้ริ้วผืนใหม่มาจัดการมันอีกรอบ ไม่ให้ท่านอาขี้เมากลิ้งล้มอย่างคืนก่อนนั้น เขาเกือบเผากระท่อมไม้หลังนี้ตายไปกับไหสุรา ซึ่งร้อยวันพันปีไม่เคยจะทำอันตรายเขาได้
“เมื่อไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ สตรีย่อมลาจาก”
“ท่านก็รู้นี่ ทำไมถึงไม่เลิกร่ำสุราเสียที”
“มันเรื่องของข้า”
เจียลี่รีบทำงานของตนไม่ถกเถียงกับท่านอาขี้เมาให้มากเรื่อง นางรู้ตนดีว่าเถียงไปก็ไม่ชนะเขาหรอก นี่ขนาดว่าเขาเมามาย นั่งตาขวาง กลับมีสติกลั่นกรองคำพูดจาเลวร้ายผ่านริมฝีปากอาบยาพิษ ด่าทอต่อว่านางสารพัดได้
บอกไปใครเล่าจะเชื่อ นางได้มาเป็นสาวรับใช้ท่านอาผู้เคยเป็นว่าที่เขยของบ้าน หากท่านอาหญิงของนางไม่ยกเลิกกำหนดการงานมงคลไปหมั้นหมายกับผู้มีฐานะมากกว่า ส่วนเรื่องบุญคุณผู้ช่วยชีวิตยังเป็นอีกประเด็นสำคัญ
“ข้าเสร็จงานของข้าแล้ว ที่เหลือข้าจะกลับมาจัดการในวันพรุ่งนี้ ข้าลาเจ้าค่ะ”
“เดี๋ยว...” เสียงเข้มรั้งนาง เมื่อนางประสานมือ ก้มศีรษะคารวะ ด้วยความเคารพ นางเงยหน้าขึ้นคล้ายว่าจะถาม ท่านอาแย่งนางถามเสียก่อน
“เจ้าจะกลับเลยหรือ เจ้ากลับยังไง?”
“ข้าเดินเลาะป่าด้านหลังเรือนท่านไปก็ถึงบ้านข้าแล้ว ใช้เวลาไม่นานในการเดินเท้า”
“เป็นสาวเป็นแซ่ เดินทางกลางค่ำกลางคืน มิกลัวสิงสาราสัตว์ก็ควรจะหวาดกลัวชายโฉดโจรป่ามาทำมิดีมิร้ายเจ้าบ้าง”
“ที่พักอาศัยละแวกนี้ไม่มีผู้ใดผ่านมา แม้แต่แมวสักตัวข้าก็ไม่เคยเห็น ข้าสำรวจแล้วว่าปลอดภัย ถ้าจะมีอันตราย คงเป็นชายขี้เมาตาขวาง ข้าว่าน่ากลัว...”
“เจ้ากลัว... ทำไมเจ้าจึงมา?”
ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
ชายหนุ่มนามว่า ‘จัน’ ผู้ต้องคำสาปมนตร์ตาละวัน นั่นก็คือเขาจะต้องกลายเป็นจระเข้ในเวลากลางคืน เป็นบุรุษรูปงามผู้โดดเดี่ยวเดียวดายในเวลากลางวัน เจ้าสาวจระเข้เท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้นจากคำสาป แน่นอนว่าความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาไม่ใช่ความตาย ตัวเขาและบ่าวคนสนิทจึงใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาตลอดหลายร้อยปี จนได้พบเจ้าของพรหมลิขิตผู้ชี้ชะตาชีวิตอย่าง ‘กัญญาวีร์’ ทว่าเธอดันเป็นถึงพนักงานขายอันดับหนึ่งของโรงงานผลิตหนังจระเข้! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป... จระเข้หน้ามึนอย่างนายจันจะต้องตายหรือไม่? ฤาจะโดนกุดหาง ถลกหนังไปเป็นกระเป๋าให้แม่แก้วตาดวงใจ ร้ายที่สุดคงได้กลายเป็นสเต๊กจระเข้ในยุคข้าวยากหมากแพง “เนื้ออิ่มอวบแนบเนื้อ นวลนาง ขยับถอดสอดแท่งกาม เข้าไซร้ เคลื่อนอีกท่าคว้าดารา ได้ต่อ หนอแม่ กี่ราตรีควบขี่ข้าง พี่นี้ ดุร้าย นำพา” “ลามกจกเปรต! ผู้ชายที่ไหนเขาแต่งกลอนแนว Sexual Harassment จีบสาวกัน” กระแทกเสียงบริภาษว่า ทั่วทั้งวงหน้าหวานเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แก้มแดงก่ำเพราะโกรธและอับอาย หนุ่มใหญ่กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม “แล้วน้องต้องการเยี่ยงไร?” “สายเปย์ค่ะ พ่อบุญทุ่มหมดตัวหมดใจ กลับบ้านตรงเวลา ไปไหนกับใครส่งข้อความบอก สำคัญที่สุดคือไม่เจ้าชู้มีหลายเมีย กันไม่ชอบ ไม่เอาเด็ดขาด กลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผัวร่วมกับใคร มีไม่ดีไม่มีดีกว่า...” กัญญาวีร์หน้าบึ้งตึงใส่คนข้างกายที่อยู่ในชุดโบราณ นุ่งโจงกระเบนสีดำ อกกว้างกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวเหลืองนวลทอประกายสีทองอ่อนราวสีสันของแสงอรุณยามเช้า สตรีนางไหนได้เห็นคงต้องตาต้องใจทันทีเว้นเพียงเธอ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสติสำนึกรู้ตน ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะสนใจเส้นผมดำขลับมัดเกล้าแซมสีขาวเทาเป็นปอย ขนานไปกับกรามแกร่งราวม่านน้ำ บุรุษรูปงามราวกับว่าเป็นเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคงไม่ใช่... ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"