“ผมจะยอมแต่งงานกับคุณก็ได้ แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยนสามข้อ คุณจะยอมรับได้ไหมแต่คุณต้องผ่านการทดสอบของผมในคืนนี้ให้ได้ก่อนนะ แล้วเราค่อยมาตกลงกัน” ความเป็นชายของเขาก็กำลังร้อนเป็นไฟ เธอมองเขาด้วยสายตาวิงวอน เธอกำลังกลัว กลัวมากที่สุด! “อย่ากลัวผมเลยนะ คุณรู้มั้ยว่าคุณน่ารักไปทั้งตัว คุณสวยจนผมอดใจไม่ไหว แล้วก็หอมหวานจนผมแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว” กฤตภพเก่งกาจเกินกว่าที่เธอจะต้านทานไหว เขาใช้ประสบการณ์อันช่ำชองพาให้เธอเคลิบเคลิ้ม และคล้อยตามเขาไปทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าเขาจะดึงขึ้นสวรรค์หรือดิ่งลงนรก เธอก็โบยบินตามเขาไปทุกที่ ตามที่เขาปรารถนา อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากเรียวขาเมื่อไหร่ไม่ทันได้รู้สึกตัว แต่รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อเห็นร่างกายกำยำของเขายืนตรงปลายเตียง
วันนี้เหมือนเป็นวันพิพากษาชีวิตของกฤตภพเลยก็ว่าได้ เมื่อประมุขใหญ่ของบ้านกับภรรยาเรียกเขาเข้าไปพบ บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียดสำหรับเขามากที่สุด
“ตากฤต วันนี้แม่ขอยื่นคำขาดเลยนะ แกต้องแต่งงานกับเจ้าสาวที่แม่เลือกให้ได้แล้ว! พ่อกับแม่ให้โอกาสแกหาเมียด้วยตัวเองมาหลายปีแล้วนะ แกก็ยังใช้ชีวิตเป็นหนุ่มเพลย์บอยมาจนถึงทุกวันนี้ ยังไงๆ วันนี้แม่ไม่มีทางยอมแกอีกแล้ว”
“แม่คร้าบ แต่ว่าผมยัง...”
“ไม่มีคำว่าแต่ และไม่มีคำแก้ตัวว่ายังไม่พร้อม แม่ได้ยินแกพูดแบบนี้มากี่ปีแล้ว เมื่อไหร่...เมื่อไหร่แกถึงจะพร้อม ต้องรอให้พ่อกับแม่ตายก่อนหรือยังไง” คุณนายกัลยาบ่นว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเอือมระอาเต็มทน
“แล้วแม่จะให้ผมแต่งกับใครล่ะครับ”
“ผู้หญิงดีๆ มีเยอะแยะ อย่างเช่นหนูแพรว ลูกคุณหญิงขวัญใจ หนูไอซ์ลูกคุณนายกิมกี่ หนูแข ลูกท่านรัฐมนตรีอดิสร แล้วก็หนูเหมียวลูกคุณหญิงไฉไล แกก็เลือกเอาสักคนสิ”
“อ้าว แล้วคุณหนูอัญชนาลูกของคุณหญิงบุษกรเพื่อนแม่อีกคนล่ะครับ หายไปไหน” กฤตภพยังจำได้ ว่าแม่ของเขาก็เคยทาบทามเด็กสาวคนนั้นให้เขาเหมือนกัน
“รายนั้นท่าทางเขาเกลียดแกเข้าไส้ แม้แต่หน้าแกเขาก็ยังไม่อยากมอง แม่ไม่อยากฝืนใจเขา”
“เหรอครับ”
“พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะไปเจรจาขอสาวให้แก เลือกเอาว่าจะแต่งกับคนไหนที่ไล่รายชื่อมาเมื่อกี้” ผู้เป็นแม่ทำสีหน้าจริงจัง
“แล้วถ้าผมไม่เลือกล่ะครับ”
“แกก็จะไม่ได้รับมรดกหมื่นล้านของฉันน่ะสิ” นายพิภพ เอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก เขาก็อยากให้ลูกชายแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที หิรัญภักดีจะได้มีทายาทสืบสกุล
“พ่อ! แล้วถ้าพ่อไม่ยกสมบัติให้ผม แล้วพ่อจะยกให้ใครล่ะครับ”
“ฉันก็จะยกสมบัติทั้งหมดให้กับการกุศลน่ะสิ” นายพิภพตอบสั้นๆ
จริงๆ แล้ว คนเป็นพ่อก็แค่คิดที่จะขู่ลูกชายเท่านั้น เขาเองก็แก่มากแล้ว เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันเขาได้อุ้มหลานสองสามคนแล้ว แต่ลูกชายเพียงคนเดียวของเขากลับยังหาเมียเป็นตัวเป็นตนไม่ได้สักที
“พ่อกับแม่ใจร้ายกับผมมากเลยนะครับเนี่ย”
กฤตภพทำท่าโอดโอยเหมือนเด็กๆ
“แกไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นเลยนะ พ่อกับแม่ไม่ได้สั่งให้แกไปลงนรกเสียหน่อย”
“ผมว่ามันยิ่งกว่าไปลงนรกเสียอีกนะครับ ผู้หญิงน่ากลัวจะตาย เชื่อใจก็ไม่ได้ วันๆ เอาแต่ช็อปปิ้ง คิดถึงแต่สามีรวยๆ แล้วก็เอาแต่แต่งสวยตลอดเวลา น่าเบื่อจะตาย”
ผู้มากวัยสองคนได้แต่ส่ายหน้าไปมาในความคิดของบุตรชายคนเดียวของพวกเขา นี่กฤตภพคงไปเจอผู้หญิงคนไหนหักอกมาหรือเปล่า หรือไม่ก็ไปยุ่งกับผู้หญิงไม่ค่อยดีมา จนทำให้มุมมองในการมองผู้หญิงของเขาถึงได้ดูเลวร้ายแบบนี้
“แกลืมไปแล้วเหรอว่าแม่ก็เป็นผู้หญิง”
“โธ่ แม่ก็ส่วนแม่สิครับ ผู้หญิงที่ผมรู้จักไม่มีใครดีเหมือนแม่สักคน ไม่งั้นผมคงสละโสดไปนานแล้ว ไม่อยู่เป็นโสดมาจนถึงป่านนี้หรอกครับ”
เขาไหลลื่นไปได้ยิ่งกว่าปลาไหลเสียอีก แต่หนนี้ไม่รู้ว่าจะลื่นไหลไปได้อีกหรือเปล่า
“แต่แกก็ยังไม่เคยคบกับลูกสาวของเพื่อนแม่ที่แม่แนะนำ เอาละ ตอบแม่มาเดี๋ยวนี้...ว่าแกจะเลือกใคร พรุ่งนี้แม่จะไปสู่ขอน้องเขาให้”
“แล้วแม่ถามลูกสาวของเพื่อนแม่แต่ละคนแล้วเหรอครับ ว่าเขาจะแต่งงานกับผมหรือเปล่า”
“แกไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น แม่หยั่งเชิงมาหมดแล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอน แกเลิกถามเซ้าซี้ได้แล้วนะ บอกมาซะดีๆ ว่าจะเลือกใครเป็นเจ้าสาวของแก”
“โอเคครับแม่ คราวนี้ผมยอมพ่อกับแม่ก็ได้ แต่ผมขอเวลาหนึ่งอาทิตย์ได้มั้ยครับ แค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น ผมสัญญา...ว่าถ้าผมหาผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วยไม่ได้จริงๆ ผมจะยอมทำตามที่พ่อกับแม่สั่ง ได้ไหมครับ” กฤตภพอ้อนวอนด้วยสายตา
“สัญญาแน่นะ” นายพิภพมองลูกชายด้วยแววตาคาดคั้น
เพราะลูกชายของเขาคอยผ่อนผันเรื่องนี้มาโดยตลอด พยายามที่จะหาเหตุผลมาคัดค้านสารพัด แต่ว่าวันนี้เขากับภรรยาได้คุยกันแล้วว่า ยังไงก็ต้องพูดให้กฤตภพยอมแต่งงานให้ได้ ถ้าพูดไม่ยอมฟังก็ต้องบังคับกันจริงๆ จังๆ เสียที
“แน่ครับพ่อ” แต่สายตาของคนพูดกลับไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย เขาก็แค่ตอบพ่อกับแม่ไปแบบส่งๆ เท่านั้น ทั้งที่หัวใจของเขาตอนนี้มันยังว่างเปล่า แล้วก็ว่างมาสองสามปีแล้วด้วย
นายพิภพกับศรีภรรยามองหน้ากันครูหนึ่ง เหมือนพูดคุยกันทางสายตาบางอย่าง อย่างคนที่รู้ใจกันมานาน และคงเป็นครั้งสุดท้ายที่สองสามีภรรยาจะยอมอุทธรณ์ให้ลูกชายที่ลื่นยังกับปลาไหลคนนี้ เพราะกฤตภพขอเลื่อนเรื่องการแต่งงานมานานเป็นสิบๆ ปีแล้ว
“ตกลง แม่จะให้เวลาแกหนึ่งอาทิตย์สุดท้าย ให้แกเลือกเจ้าสาวเอง แต่มีข้อแม้นะ ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนดีมีการศึกษา แต่แม่ขอเตือนแกก่อนนะ ไม่ว่าแกจะแต่งงานกับใคร อย่างน้อยแกจะต้องอยู่กับเขาให้ครบสองปี เมื่อครบสองปีเมื่อไหร่ พ่อกับแม่ถึงจะยกมรดกหมื่นล้านให้กับแก และเมื่อไหร่ที่แกมีหลานให้พ่อกับแม่อุ้ม ถ้าแกอยากได้อะไรก็เอาไปเลย เข้าใจที่แม่พูดมั้ย” คุณนายกัลยายื่นคำขาด
“เข้าใจครับแม่” กฤตภพตอบเสียงเบาอ่อยๆ แทบจะไม่ได้ยิน
มรดกก็อยากได้ แต่ไม่อยากมีเมียเป็นตัวเป็นตน แล้วเขาจะไปหาเจ้าสาวที่ไหนได้ไวขนาดนี้เนี่ย ขอเวลามากกว่านี้ก็ไม่ได้ กฤตภพรู้สึกกลุ้มใจมากที่สุดก็วันนี้ ตายแน่ๆ เขาต้องตายแน่ๆ เขาเกลียดการคลุมถุงชนที่สุด! แต่ทำไมยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอก็ไม่รู้
กฤตภพกลุ้มใจมาก เขาขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงจังหวัดขอนแก่น เขาหวังว่าการเดินทางไปปรึกษาเพื่อนรักคราวนี้ เขาคงจะมีทางออกที่ดีบ้าง เพราะเพื่อนรักของเขาคนนี้ประสบความสำเร็จในชีวิตรักและครอบครัวอย่างน่าอิจฉาที่สุด
“ไฮ กฤตภพ ลมอะไรพัดนายมาถึงที่นี่เนี่ย”
“ลมขื่นขักมั้ง”
ฟินิกซ์ทำหน้างง เพราะผวนภาษาไทยไม่เป็น แม้ว่าจะได้ภรรยาเป็นคนไทย และพูดภาษาไทยได้ แต่ถ้าให้ผวนคำ เขาผวนไม่เป็นเลย
“ลมขื่นขัก ก็รักขื่นขมยังไงล่ะ” กฤตภพผวนคำเพี้ยนๆ ของเขาเอง แต่ฟินิกซ์ก็พอจะฟังเข้าใจบ้าง
“นายถูกสาวที่ไหนหักอกมาเหรอ”
ฟินิกซ์ถามขณะเดินนำกฤตภพเข้าไปในร้านอาหารของตนเอง ก็พบม่านไหมกำลังป้อนข้าวให้ลูกชายคนเล็ก ท่าทางของคุณแม่ยังสาวยังสวยดูจะมีความสุขมากในการป้อนข้าวลูก
“ถ้าแค่โดนสาวๆ หักอก ฉันคงไม่มาหาแกถึงที่นี่หรอก” ร่างสูงใหญ่ตอบขณะที่เดินตามหลังเพื่อนรักไปเรื่อยๆ พอเด็กน้อยหันมาเห็นก็ยิ้มแป้นให้กับเขา
“คุณกฤต! หวัดดีค่ะ ตามสบายนะคะ ไหมขอป้อนข้าวให้เจ้าตัวเล็กนี่ก่อนนะคะ”
ม่านไหมยิ้มให้กฤตภพ ขณะที่ในมือยังถือช้อนที่มีคำข้าวพร้อมที่จะป้อนลูกชายแสนซนของหล่อน พ่อหนูน้อยไม่ยอมอ้ำคำข้าวง่ายๆ เพราะมัวแต่หันมามองผู้มาใหม่ด้วยความอยากรู้และเรียกร้องความสนใจ
“ตามสบายเลยครับ ไงเจ้าตัวเล็ก จ้ำม่ำเลยนะ ฮ่าๆ อิจฉาแกจริงๆ เลยว่ะฟินิกซ์ มีเมียมีลูกน่ารักขนาดนี้”
กฤตภพย่อตัวลงนั่งยองๆ เอื้อมมือไปหยิกแก้มพ่อหนูน้อยด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะเดินตามหลังคุณพ่อยังหนุ่มไป
“แล้วทำไมแกถึงไม่แต่งงานเสียทีล่ะ แกจะได้ไม่ต้องมาอิจฉาฉัน”
กฤตภพถอนหายใจยาวเมื่อโดนฟินิกซ์พูดจี้ใจดำพอดีเป๊ะ ไม่รู้ว่าเขาเดินทางมาปรึกษาเพื่อนรักคราวนี้จะได้เรื่องได้ราวบ้างหรือเปล่า หรือว่าจะโดนเพื่อนสวดเอาก็ยังไม่รู้
“ก็เพราะไอ้เรื่องแต่งงานนี่แหละ ฉันถึงได้หอบสังขารมาหาแกถึงที่นี่ไงล่ะ” คนตอบทำสีหน้าเซ็งๆ สายตาก็กวาดมองไปทั่วบริเวณบ้าน
เจ้าของร้านอาหารหรูหันขวับกลับมามองเพื่อนรักทันทีอย่างแปลกใจ และยังไม่เข้าใจว่ากฤตภพเดือดร้อนอะไรกับเรื่องแต่งงาน
“เล่ามาสิ เผื่อฉันจะช่วยแกได้”
ฟินิกซ์ผายมือให้กฤตภพนั่งลงเมื่อเดินมาถึงมุมรับแขกพิเศษ ในศาลาที่ร่มรื่นไปด้วยพรรณดอกไม้ และน้ำพุสวยงามที่ประดับตกแต่งอย่างลงตัว มีสุนัขหลายพันธุ์วิ่งเล่นหยอกล้อกันไปมาอยู่แถวๆ นั้นหลายตัว กฤตภพรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างเมื่อมาอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติสวยงามแบบนี้
“บ้านแกน่าอยู่จังเลยนะ เฮ้อ! ฉันขอค้างที่นี่สักสองคืนนะ เบื่อกรุงเทพฯ ว่ะ”
กฤตภพถอนหายใจ ออกอาการเบื่อๆ เซ็งๆ จนคนนั่งดูต้องอมยิ้มอย่างรู้ทัน เพราะฟินิกซ์รู้จักนิสัยความเจ้าชู้ของเพื่อนรักคนนี้ดี
“แกเบื่อกรุงเทพฯ หรือว่าเบื่อสาวๆ ที่กรุงเทพฯ กันแน่ แล้วที่บอกว่ามาหาฉันด้วยเรื่องแต่งงานหมายความยังไง” ฟินิกซ์เข้าประเด็นทันที
เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ากฤตภพมีเรื่องไม่สบายใจอะไรนักหนา ถึงได้ขับรถมาปรึกษาเขาถึงที่ขอนแก่นนี่
“พ่อกับแม่ฉันบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือกให้”
สีหน้าคนพูดดูถมึงทึงเครียดขรึมเหมือนกับว่าเขาเจอปัญหาหนักจริงๆ แต่คนฟังดูจะไม่ทุกข์ร้อนไปกับเขาด้วย ฟินิกซ์ดูอารมณ์ดีตลอดเวลา ซึ่งมันขัดกับใบหน้าเรียบตึงของกฤตภพเป็นอันมาก
“ฮ่าๆ ๆ ๆ” ฟินิกซ์ขำกลิ้ง แต่กฤตภพไม่ขำด้วย
“แกหัวเราะอะไรวะ”
“ก็ฉันไม่คิดว่าพ.ศ. นี้ยังมีการคลุมถุงชนอยู่อีกน่ะสิ แล้วจะให้ฉันช่วยอะไรแกได้บ้างล่ะเนี่ยไอ้เพื่อนรัก ไหนลองบอกมาซิ จะให้ฉันช่วยยังไง” ฟินิกซ์ยังคงยิ้มขันในสีหน้าท่าทางของเพื่อนรัก ที่ดูอมทุกข์ยิ่งกว่าอมยาขมเสียอีก
“แกช่วยหาสาวๆ สวยๆ มาให้ฉันเลือกได้มั้ยวะ เอาแบบไม่ให้น้อยหน้าเมียแกนะ ฉันจะได้จ้างเอาไปเป็นเมียสักสองปี”
“โอ้มายก๊อด แล้วไอจะหาผู้หญิงที่ไหนให้ยู ผู้หญิงดีๆ เหมือนม่านไหมหายากมากๆ แล้วผู้หญิงของนายที่คบอยู่ตอนนี้ล่ะ ไม่สวยไม่สาวเลยเหรอ หรือผู้หญิงที่แม่นายเลือกให้ขี้เหร่มากจนนายแต่งงานด้วยไม่ได้”
“มันก็ไม่เชิง แต่ฉันกลัวจะมีปัญหาทีหลัง แต่ละคนร้ายไม่ใช่เล่น ขืนฉันแต่งงานด้วย คงต้องติดคุกไปตลอดชีวิตแน่เลย”
กฤตภพทำสีหน้าทุกข์ร้อนจนฟินิกซ์ทั้งเห็นใจทั้งขำ เพื่อนของเขาเจอปัญหาหนักเข้าแล้วจริงๆ คงเป็นเพราะกฤตภพใช้ชีวิตเป็นหนุ่มเพลย์บอยที่แสนสำราญมานาน เขาจึงไม่อยากจะผูกมัดตัวเองกับสาวๆ คนไหน ถึงได้ออกอาการทุกข์ร้อนแสนสาหัสเมื่อมาเจอไม้แข็งของพ่อกับแม่ตัวเองเข้าแบบนี้
“โอเค ฉันจะหาทางช่วยแกเอง พักที่นี่ให้สบายใจสักคืนสองคืนก่อน ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขในตัวของมันอยู่แล้ว แกต้องใจเย็น ไอเชื่อว่ายูต้องผ่านมันไปได้แน่นอน” ฟินิกซ์ให้กำลังใจเพื่อนรัก ทั้งๆ ที่เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าจะช่วยคนที่เกลียดการคลุมถุงชนยังไงดี
ตี๊ดๆ ! ตี๊ดๆ!
กฤตภพรีบกดรับสายที่โทรเข้ามา ดูหน้าจอก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะโชว์แต่เบอร์บนหน้าจอมือถือ
“กฤตภพพูดครับ”
“คุณกฤต นี่ฉันเองนะคะ อัญชนา ศิริพันธ์ไพบูรณ์ คุณคงพอจำฉันได้” อัญชนา ศิริพันธ์ไพบูรณ์ ทำไมเขาจะจำชื่อนี้ไม่ได้ ผู้หญิงคนแรกที่ปฏิเสธการหมั้นหมายกับเขาอย่างหยามเหยียด และเกลียดเขาเข้าไส้ ว่าแต่หล่อนมีอะไรถึงได้โทรมาหาเขากันนะ กี่ปีแล้วนะที่ไม่ได้ติดต่อหล่อนเลย
“ถึงจะผ่านไปสิบกว่าปี ผมก็ยังจำได้ไม่ลืม คุณหนูอัญชนาคนสวย คิดถึงผมเหรอครับถึงได้โทรมาหา”
“ใช่ ฉันคิดถึงคุณ คิดถึงมากเสียด้วยสิ”
“ครับ แล้วคุณโทรมาบอกผมแค่นี้เหรอ”
“ฉันได้ข่าวว่าแม่ของคุณ อยากให้คุณแต่งงานกับคนที่ท่านเลือกให้เต็มที และฉันก็รู้ว่าคุณเกลียดการคลุมถุงชน ฉันก็เลยมีข้อเสนอดีๆ มาให้คุณฟัง คุณจะลองพิจารณาดูมั้ยล่ะ เผื่อว่าฉันอาจจะยอมเป็นเมียชั่วคราวให้กับคุณ” กฤตภพมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย และทำท่าครุ่นคิดสองสามวินาทีก่อนที่จะตอบกลับไป
“น่าสนใจนะ เพราะท่าทางคุณจะเข้าใจผมดี ผมจะลองฟังข้อเสนอของคุณก็ได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะ ต้องเป็นข้อเสนอที่ดีจริงๆ เท่านั้น” เขาเน้น และรอฟังว่าทางปลายสายจะตอบกลับเขายังไง
“แน่นอน ฉันว่าคุณต้องพอใจแน่” ทางปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจมากเช่นกัน
“ก็ได้ พูดมาสิครับ ผมกำลังฟังอยู่”
“แต่ฉันไม่สะดวกคุยทางโทรศัพท์ ฉันอยากคุยกับคุณในห้องตามลำพังสองคน จะได้รู้คำตอบกันไปเลย”
“โอ คุยกันในห้องตามลำพังสองคนงั้นเหรอ น่าสนใจมากจริงๆ ถ้าอย่างนั้นอีกสองวันค่อยพบกัน แล้วผมจะโทรนัดเวลาและสถานที่อีกทีนะคนสวย”
“ตกลงค่ะ ฉันจะรอ แค่นี้นะคะ” หลังจากวางสายจากอัญชนา กฤตภพก็หันหน้ามาปรึกษาเพื่อนรักทันที ในหัวข้อใหม่ที่อยู่ในเรื่องเดียวกัน แต่คราวนี้มีชื่อของอัญชนามาเกี่ยวข้องด้วย เขากำลังคุยกับฟินิกซ์ว่าเขาจะเอายังไงกับหล่อนดี และเขาเองก็พอจะรู้ว่าตอนนี้อัญชนาต้องมีเรื่องเดือดร้อนแน่ๆ และมันคงหนีไม่พ้นเรื่องเงิน
1 พ่ายปรารถนาเจ้ารัตติกาล 2 กระหายรักใต้เงาจันทร์ 3 พิศวาสหวามข้ามกาลเวลา(ภาคจบ) ร่างสูงเคลื่อนเข้ามาใกล้ชิดรวดเร็ว จับบ่าบอบบางสองข้างเอาไว้แน่น จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ทั้งกล้าหาญและหวาดหวั่น “คุณเลือกทางของคุณเองนะ ณิชา เกิดอะไรขึ้นอย่ามาโทษผม” “ฉะ...ฉันไม่กลัว” “คุณกำลังกลัวมากที่สุดต่างหากล่ะณิชา” ร่างเล็กถูกกระชากเข้ามาบดจูบด้วยความกระหาย ‘ณิชา ยอดรักของข้า’ เขาไม่พูดคำว่ารักออกมาให้เธอได้ยิน แต่ส่งผ่านความรู้สึกนั้นด้วยเซ็กส์ที่ทรงพลัง... เขาทะยานไปข้างหน้ารุนแรง ตอกย้ำกายใหญ่เข้าหาราวกับจะแทงทะลุให้ถึงจิตวิญญาณ ราตรีนี้ความต้องการทางกายของแวมไพร์หนุ่มจะทวีความรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า เขาหลอกล่อเธอด้วยไฟพิศวาสร้อนแรง เพื่อจะดับไฟแค้นในหัวใจ ส่วนเธอทั้งรักทั้งหลงเขา ไม่อาจห้ามใจสักครั้งเมื่อได้ชิดใกล้ แต่เมื่อรู้ความจริงว่าเขาคือใคร ดวงตะวันจะเลือนหายไปจากเธอและเขาหรือเปล่า วันเวลาหมุนเวียน ทุกสิ่งรอบกายเปลี่ยนผัน มีเพียงดวงจิตที่ผูกพัน ร้อยปีผันผ่านยังเฝ้าคอย ‘เชอร์ลีน ยอดรักของข้า “ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่เชอร์ลีน ฉันชื่อกิรณา และฉันไม่เคยไปทำความเดือดร้อนให้ใคร ไม่เคยรู้จักคุณ แล้วคุณจับฉันมาทำไม”
‘ทั้งๆ ที่รักแต่ไม่อาจครอบครอง ของของเขา เธอจะแย่งมาได้อย่างไร’ “เลิกคิดเถอะ คุณไม่เหมาะสมกับผมสักนิด และสเปคผู้หญิงของผมก็คงไม่ใช่เด็กสาวกะโปโลอย่างคุณ กลับไปเรียนหนังสือให้จบแล้วมีคนอื่นไปซะ ไม่ต้องมายั่วผมอีก เข้าใจที่ผมพูดมั้ย” เธอเข้าใจ... จึงเดินวกกลับมาจูบเขาอย่างยั่วยวนอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มหวาน “ถ้าเรียนจบแล้ว แพรจะกลับมา อย่าเพิ่งแต่งงานนะคะ...” ทว่าเมื่อเรียนจบกลับมาหาเขาอีกครั้ง ได้ใกล้ชิดชายหนุ่มอีกหน ครานี้เธอ ‘ยั่ว’ เขาหนักขึ้น แต่... เธอก็ต้องมาพบกับความร้ายกาจของผู้หญิงของเขา ที่ต้องการจะ ‘เอาเธอให้ถึงตาย!’ ลูกแพรจึงต้อง ‘ร้าย’ กลับบ้าง ‘ร้ายเพราะรัก มันต้องร้ายให้ลึกที่สุด!’
ฟรานซิส ฟาร์นองเดซ เจ้าพ่อธุรกิจไวน์รายใหญ่ที่สุดแห่งอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เขาไม่ต่างกับอสูรร้ายที่ร้ายกาจ ป่าเถื่อน เพียงเพื่อจะกำจัด ‘ผู้หญิงที่หวังรวยทางลัด’ อัญญาลิน ทายาทสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของบริษัทไวน์เนอรี่ชั้นแนวหน้าของไทย เธอตั้งใจไปเที่ยวฝรั่งเศส เพียงเพื่อจะหาความรู้เรื่องการผลิตไวน์มาบริหารงานช่วยผู้เป็นพ่อเท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอ ‘น้องชายของเขา’ “คุณกำลังเข้าใจผิด” “เปล่า ผมกำลังเข้าใจถูกต่างหาก และผมก็รู้ว่าจริงๆ แล้วคุณเองก็คงแอบมีใจให้ผมไม่น้อย ไม่อย่างนั้นคุณจะยั่วผมท้าทายผม ด้วยการขัดคำสั่งผมเหรอ เพราะคุณก็รู้ดีอยู่แล้วนี่ ว่าเวลาที่คุณขัดคำสั่งผมแล้ว ผมจะลงโทษคุณอย่างไรบ้าง ต้องการแบบนี้ใช่มั้ย ได้...ผมจะจัดให้” ศีรษะดกดำโน้มต่ำลงมาทันที อัญญาลินคิดเสมอว่าฟรานซิสรังเกียจเธอ หญิงสาวอยากจะรู้จังว่า ในสมองของเขาเคยคิดถึงเธอในแง่ดีบ้างหรือเปล่า หรือคิดแต่จะหาเรื่องทำให้เธอเป็นคนผิดที่คิดขัดคำสั่งเขาแล้วหาทางลงโทษเธอตามอำเภอใจ ‘ผู้ชายไม่มีหัวใจ’ อัญญาลินคิดได้แค่นี้ แล้วสติสัมปชัญญะของเธอก็ดับวูบลงทันที “ก็ได้! ในเมื่อคุณไม่เคยเห็นผมเป็นคนดีในสายตา ผมก็จะขอเป็นคนเลวอย่างที่คุณประณามก็แล้วกัน” ฟรานซิสสะกดเสียงต่ำลอดไรฟัน มองหน้าคนดื้อรั้นไม่ยอมฟังเหตุผลด้วยประกายตาแข็งกร้าววาววับ ด้วยอารมรณ์คุกรุ่นผสมผสานกับอารมณ์ปรารถนาของร่างกายที่อัดแน่นมานานแล้ว เขาผลักร่างบอบบางที่มีเพียงผ้าแพรปกปิดร่างกายให้นอนราบลงไปกับที่นอน ก่อนที่จะคร่อมทับร่างของเธอเอาไว้ สวมบทอสูรร้ายบ้ากามทันทีโดยไม่ฟังเสียงร้องอ้อนวอนใดๆ จากหญิงสาวอีกต่อไป
ด้วยอำนาจแห่งมนตรา หรือเพราะพรหมลิขิต ชักนำเธอเข้าสู่อ้อมกอดแห่งรัตติกาล ที่ทั้ง ‘เร่าร้อน’ และ ‘เหน็บหนาว’ ในคราวเดียวกัน ครั้งแรกที่สบตากับเขา ‘รุ้งราตรี’ ไม่รู้ตัวเลยว่าเธอกำลังเผชิญอยู่กับอะไร ทันทีที่ได้ใกล้ชิด โลกทั้งใบก็ดูเหมือนจะหยุดหมุน และแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส เธอก็รับรู้ได้ถึงความน่ากลัวบางอย่าง แต่ทำไมถึงได้หวั่นไหวนัก แค่เพียงจุมพิตแรก หัวใจที่เหมือนถูกแช่แข็งมานานของ ‘แดเนียล’ ก็เริ่มสั่นคลอน แค่จูบเดียวก็เหมาเอาว่า เธอเป็น ‘เนื้อคู่’ ของเขา แล้วใครจะเชื่อ เธอไม่อยากเข้าใกล้เขานัก แต่ความจำเป็นบางอย่าง เธอจึงพาตัวองเข้าสู่ ‘คฤหาสน์ที่น่าสะพรึงกลัว’ เป็นหนที่สอง
“คุณพลประภัทร คุณมันเป็นเจ้าหนี้ที่เผด็จการมากที่สุด ทำไมจะต้องให้ฉันไปถ่ายโฆษณากับหมอนั่นด้วย” ...นายอลัน...นายเป็นญาติฝ่ายไหนของคุณพลประภัทร... แล้วเธอจะรู้หรือเปล่า...ว่าความจริงแล้วสองคนนี้เป็นคนๆ เดียวกัน “คงถึงเวลาที่ฉันจะเริ่มคิดดอกเบี้ยเธอแล้วนะสาวน้อย” “ฉันเกลียดคุณ เกลียดที่สุด คุณมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ ออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ!” อลันรู้สึกเจ็บแสบขึ้นมาทันที และรู้สึกโมโหคนใต้ร่างมากขึ้น จึงใช้กำลังข่มเหงรุกรานหญิงสาวอีกครั้ง เขาบดขยี้เรียวปากอิ่มสีกุลาบอย่างไม่ปรานี... แล้วเมื่อความจริงปรากฏ สมองของดุจดาวก็พร่าเลือนไปหมด แต่ไฟปรารถนาที่กำลังลุกโชนท่วมร่างแกร่งกำยำของเขา มันกำลังพร้อมที่จะแผดเผาร่างของเธอให้หลอมละลาย อะไรก็หยุดเขาไม่ได้! “คุณพลประภัทร อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัว” “ผมกำลังจะมอบความสุขให้กับคุณ จะกลัวทำไม” แต่คุณกำลังจะข่มขืนฉันอยู่นะ” คนไม่มีทางสู้เริ่มขึ้นเสียง “ผมไม่ได้ข่มขืนคุณสักหน่อย เขาเรียกว่าเรียกร้องสิทธิ์ต่างหาก อย่าลืมสิว่าคุณเป็นลูกหนี้ผม และคุณทำผิดสัญญา คุณก็ต้องชดใช้”
ทุกสัมผัสของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเรียกร้องต้องการ ทั้งอ่อนหวานนุ่มนวลแต่บางครั้งก็หนักหน่วงดุดัน ร่างนุ่มสะท้านแล้วสะท้านอีก ชายหนุ่มมอมเมาเธอจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งวาบหวามทั้งตื่นตระหนก เพราะจุมพิตครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้วมากเหลือเกิน เสียงครางกระหึ่มในลำคอทำให้สาวน้อยหวาดหวั่นมากที่สุดเพราะมันเหมือนเสียงคำรามของเจ้าป่าที่กำลงจะขย้ำเหยื่อไม่มีผิด แต่แม้จะรู้สึกหวาดหวั่นมากเพียงใด ร่างกายของเธอก็ตอบสนองเขาแล้ว ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ควร ทั้งที่รู้ว่ามันอาจจะเกิดปัญหาตามมา โอ...พระเจ้า ทำไมเธอถึงได้รู้สึกต้องการเขามากมายแบบนี้ ร่างกายทุกอณูของเธอกำลังสั่นระริกไปด้วยความเสียวซ่านรัญจวนใจ นาทีนี้ความเหน็บหนาวเปล่าเปลี่ยวของหญิงสาว กำลังถูกความเร่าร้อนลามเลียไปทั่วร่างและแทรกผ่านซึมลึกเข้าสู่หัวใจ ทว่าเมื่อลมหนาวกำลังจะผ่านพ้น ความเหน็บหนาวอ้างว้าง กลับเดินทางมาเยือนหัวใจของเขา พู่กันทองถูกนำมาเก็บไว้ที่เดิม เมื่อเจ้าของภาพวาดภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ห้วงเวลาเหมันต์ใกล้จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ความรักที่เขามีต่อเธอยังคงอยู่ที่เดิม เขาจะรอ...จนกว่า...
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
"ฉันจะนอนกับคุณทุกที่ ทุกเวลา และทุกครั้งที่คุณต้องการ เพื่อแลกกับอิสรภาพของพ่อฉัน" "แล้วถ้าผมไม่ตกลงล่ะ" ในที่สุดเขาก็พูดออกมาจนได้ ยาหยีก้มหน้าซ่อนความเจ็บช้ำเอาไว้จนมิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดออกไปเสียงแผ่วเบา "ฉันจะให้คุณดูสินค้าก่อนก็ได้...แล้วค่อยตัดสินใจ" เมื่อบิดาของตนเป็นโจรขโมยเพชรล้ำค่าของตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่แห่งกรุงมอสโค ยาหยี จำต้องโยนศักดิ์ศรีของตัวเองทิ้งแล้วกลายเป็นหญิงไร้ยางอายเพื่อให้บิดารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชอย่างเขา ทางเลือกเพียงทางเดียวที่มีคือยอมพลีกายให้ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าหล่อเหลาในสามโลกได้เชยชม สาวพรหมจรรย์อย่างหล่อนแทบขาดใจตายเพราะบทพิศวาสเร่าร้อนรุนแรงที่ไม่เคยได้พานพบ ความวาบหวามครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขามอบให้ทำให้ยาหยีคลั่งไคล้ในรสสิเน่หา กายสาวร่ำร้องโหยหาแต่เขาเพียงผู้เดียว หากภายในใจก็ต้องคอยย้ำเตือนตนเองไว้ว่า หล่อนก็เป็นได้แค่ของเล่นชั่วคราว สักวันพอเขาเบื่อ ก็จะถูกเขี่ยทิ้งอย่างไร้ความปรานี!! จากที่คิดจะตามไล่ล่าเด็ดหัวคนทรยศให้แดดิ้นไปต่อหน้า คอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคมในประเทศรัสเซีย ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีเมื่อได้เจอสาวน้อยนัยน์ตากลมหวานซึ้ง ใบหน้าหวานๆ ส่งผลให้เขาต้องการอยากครอบครองหล่อนแทบคลั่ง คอร์เนลมั่นใจว่ามันจะมีผลกับร่างแกร่งได้ไม่นานหรอก เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงคือวัตถุทางเพศเคลื่อนที่ได้เท่านั้น เพียงได้ลิ้มลองแค่ครั้งเดียว เขาก็ไม่เคยหันกลับไปกินของเก่าอีก แต่ทฤษฎีนี้กลับใช้ไม่ได้ผลกับหล่อน ให้ตายสิ! เขาไม่เคยรู้สึกติดใจผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้มาก่อน คอร์เนลหลงใหลเนื้อนุ่มจนกลายเป็นเสพติด ทั้งที่ความยโสโอหังของบุรุษเลือดเย็นเยี่ยงเขาพยายามบอกกับตนเองว่า เขายังเชยชมร่างงามไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่สูญเสียไป แต่ภายในใจลึกๆ กลับตะโกนก้องสวนทางออกมาว่า เขาขาดเธอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!!
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย