รวมเรื่องสั้นสุดฟินในเล่มเดียว ที่คุณไม่ควรพลาดถ้าชอบหรือถูกใจสามารถให้กำลังใจนักเขียนได้โดยการ กดถูกใจ กดติดตามให้ด้วยนร้าาา ฝากนิยายเรื่องแรกไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ
รวมเรื่องสั้นสุดฟินในเล่มเดียว ที่คุณไม่ควรพลาดถ้าชอบหรือถูกใจสามารถให้กำลังใจนักเขียนได้โดยการ กดถูกใจ กดติดตามให้ด้วยนร้าาา ฝากนิยายเรื่องแรกไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ
เปิดเรียนวันแรกของโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งที่มีแต่นักเรียนหญิงล้วน กฎของโรงเรียนค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องของการรับบุคคลากรผู้ชายเข้ามาทำงาน แต่ด้วยความจำเป็นที่ต้องใช้แรงงานทางโรงเรียนจึงอนุโลมให้รับภารโรงผู้ชายเข้ามาทำงานได้
ห้องประชุมใหญ่
"นักเรียนทุกคนคะ ผู้ชายคนนี้จะมาทำงานในตำแห่งภารโรงของโรงเรียนเรานะคะ"
"สวัสดีครับ ผมชื่อนิก จะมาเป็นภารโรงที่นี่นะครับเด็กๆ"
กรี๊ดดด!!!!!
หลังจบการแนะนำตัวของเขานักเรียนหญิงต่างพากันกรีดร้องด้วยความดีใจลั่นห้องที่จะมีผู้ชายหล่อๆหน้าตาดีมาเดินอยู่ในโรงเรียนของตนเอง ก็เป็นเรื่องปกติเพราะทุกวันพวกเธอได้เจอแต่คุณครู แม่บ้านทำความสะอาดและเพื่อนที่เป็นผู้หญิง
"เอาล่ะๆ นายนิกไปทำงานได้แล้ว ส่วนพวกเธอก็รีบแยกย้ายไปเรียนได้แล้วนะ ผอ.ขอจบการประชุมเพียงเท่านี้ สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีค่ะ ผอ."
การประชุมเสร็จสิ้นลงนักเรียนแต่ละระดับชั้นต่างพากันแยกย้ายไปเรียนตามอาคารต่างๆ แต่มีเพียงนักเรียนชั้นม.6สองคนที่ชอบหนีเรียนบ่อยๆ ทั้งสองพากันมานั่งที่สนามฟุตบอลเพื่อแอบมองภารโรงหนุ่มที่ตอนนี้เขาเริ่มงานแรกด้วยการตัดหญ้าจึงต้องถอดเสื้อออกจนเห็นซิกแพคแน่น กำยำรับกับผิวสีขาวใสน่าหลงไหล
"อีเบน กูจะไม่ไหวแล้วนะ มึงดูซิกแพคนั่นสิ อร๊าาายยย"
"ให้มันน้อยๆหน่อยอีมุก คนนี้อ่ะต้องเป็นผัวกูเท่านั้น"
"แหม! อีเบน...กูไม่ยอมเว้ย!!!"
เบนและมุกเริ่มถกเถียงกันดังขึ้นเรื่อยๆจนเขาต้องหันมามองและกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างมาดเท่ห์ เมื่อทั้งสองเห็นแบบนั้นก็ยิ่งใจละลายพากันเขินหน้าแดง
"อีมุกเอาน้ำเย็นไปให้พี่ภารโรงกันดีกว่า"
"เออใช่ เป็นความคิดที่ดีมาก สมแล้วที่เป็นเพื่อนกันได้"
มุกหยิบขวดน้ำเย็นในกระเป๋าออกมาและเดินตรงไปที่เขาพร้อมกับเบนทันที
"พี่นิกขา ดื่มน้ำเย็นๆก่อนสิคะ พวกเราซื้อมาให้"
"โห้วว ขอบคุณมากเลยครับ วันนี้อากาศร้อนมากด้วย ดูเหงื่อพี่สิเต็มตัวเลย"
"ให้มุกเปิดน้ำให้นะคะ"
"ครับ! ขอบคุณครับ"
เขาขอบคุณมุกก่อนจะยิ้มที่มุมปากอีกครั้งอย่างเจ้าเล่ห์ มุกใช้มือหมุนฝาน้ำออกแต่สายตากลับจ้องมองที่ซิกแพคกำยำอย่างไม่กระพริบและต้องแอบกลืนน้ำลายลงคอ
"ดะ ได้แล้วค่ะพี่นิก"
มุกยื่นขวดน้ำให้เขาแต่ก็ต้องแกล้งมือไม้อ่อนทำน้ำหกใส่ที่หน้าท้องแกร่งของเขาครึ่งขวด
"ว๊ายย...มุกขอโทษนะ เดี๋ยวเช็ดให้ค่ะ"
มือน้อยของมุกลูบวนไปมาที่ท้องน้อยของเขาจนสัมผัสได้ถึงขนอ่อนสีเทาที่งอกขึ้นมารำไร น้ำเย็นผสานกับมือน้อยอุ่นๆที่ลูบไล้ไปมาทำให้เขาเคลิ้มเผลอใช้มือวางทับบนมือน้อยของมุกแล้วเค้นคลึงไปทั่วหน้าท้องแกร่งอย่างลืมตัว
"หยุดเลยนะอีมุก...ให้เบนช่วยดีกว่าค่ะพี่นิก"
พึ่บ!!!
"เอ๊าะ!!!"
เบนใช้ร่างชนเข้ากับร่างของมุกแรงๆจนมุกเซออกไป เบนก็ไม่น้อยหน้ารีบใช้มือจับที่หน้าท้องของเขาแล้วทำเหมือนมุกได้เพียงชั่วครู่ แต่แล้วโชคกับไม่เข้าข้างเบนเพราะมีเพื่อนร่วมชั้นมาตามให้ทั้งสองไปเข้าเรียน ไม่อย่างนั้นจะได้เรียนซ้ำชั้นเป็นแน่
"เบน...มุก คุณครูให้มาตามไปเข้าเรียน"
"โธ่เอ๊ย! รู้แล้วๆ เดี๋ยวเบนจะมาหาใหม่นะคะพี่นิก บ๊ายบายค่ะ"
"มุกด้วยค่ะ เดี๋ยวมาหาใหม่นะคะ"
"ครับ! ตั้งใจเรียนนะเด็กๆ"
ถึงเวลาพักเบรก15นาที มุกและเบนพากันมาเข้าห้องน้ำเก่าที่ไม่มีนักเรียนมาใช้เพราะจะได้ไม่ต้องแย่งกันเข้า แต่ด้วยว่าความที่เป็นห้องน้ำเก่าระบบน้ำอาจจะไม่ค่อยดีนัก ท่านผู้อำนวยการจึงให้นิกกี้เขามาซ่อมแซม
"น่าเบื่อๆจริงๆ วันๆก็ให้แต่เรียนๆ เพื่อนกูที่เรียนโรงเรียนรัฐนะ อายุ18ปีมีผัวกันไปหลายคนแล้ว"
"ก็จริงแหละขนาดมึงกับกูเต็ม18ปีไปหลายเดือนยังไม่มีผัวเลย ในโรงเรียนก็มีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น....เฮ้ออ บ่นไปก็เท่านั้นเนาะอีมุก"
"กูก็อยากมีผัวจนตัวสั่นเหมือนกันแหละ ทำไงได้ ถ้ามึงกับกูยังต้องเรียนอยู่ที่นี่อ่ะอีเบน"
เธอทั้งสองบ่นให้กันฟังเสียงดังเพราะคิดว่าไม่มีใครได้ยินแน่นอน แต่ทว่านิกกี้ก็เดินออกมาจากห้องน้ำห้องเล็กๆตรงหน้าที่พวกเธอยืนกอดอกเม้าท์กันอยู่
"ว๊ายย!!! พ พี่นิกกี้ อยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
"ก็อยู่ก่อนที่เธอทั้งสองคนบ่นอยากมีผัวตัวสั่นนะสิ"
"พี่นิกกี้คะ อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกผอ.เลยนะคะ พวกเราขอร้อง"
"งั้นเธอทั้งสอง อยากลองมีผัวไม่ใช่หรอ มาลองทำดูสิ แล้วสิ่งที่พี่ได้ยินจะไม่มีใครรู้แน่นอน"
นิกกี้เดินเข้าไปในห้องน้ำที่เขากำลังซ่อมแซมอยู่ก่อนหน้า โดยมีมุกและเบนเดินตามเข้าไปข้างในด้วย กลอนประตูถูกล็อคพร้อมกับร่างของเธอทั้งสองถูกดันให้นั่งลงกับพื้น เขาใช้มือปลดกระดุมกางเกงสแลคและดึงมันลงพร้อมกับซับในทำให้ดุ้นเอ็นขนาดมโหฬารเด้งชีหน้าน้อยของพวกเธอ
"พ พี่นิกกี้...จะให้พวกเราทำอะไรหรอคะ"
"แย่งกันอมมันเข้าไปสิ มันสนุกมากเลยนะ รีบทำเลยสิ"
"ค่ะๆ....แผล่บๆๆ"
ลิ้นน้อยของมุกไล่เลียตั้งแต่โคนพวงแฝดจรดปลายหัวเห็ดบาน ส่วนเบนก็ใช้ปากพยายามอมหัวเห็ดเข้าไปโดยแย่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
อ่านตอนต่อไป
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
นิยายเรื่องนี้มีพระนาง2คู่ "อย่าหวังจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจับฉัน ผู้หญิงของฉันทุกคนก็สาวบริสุทธิ์ทั้งนั้นแล้วอย่าลืมคุมกำเนิด ถ้าไม่อยากทำแท้ง! เพราะฉันไม่มีทางมีทายาทกับผู้หญิงชั้นต่ำ" VS "อะไรที่ฉันอยากได้ ฉันต้องได้ แม้แต่ตัวนายถ้าฉันต้องการ นายก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
© 2018-now MeghaBook
บนสุด