รักลับ... ซ่อนปมฆาตกรรม "ยา" สายลับหนุ่มรูปงาม ต้องเข้าไปพัวพันกับ "จรัญ" ผู้พิพากษาผู้เย็นชา ในคดีฆาตกรรมอันซับซ้อน ภารกิจพิชิตใจและสืบหาความจริงจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางความลับที่ซ่อนอยู่ เกมพลิกล็อก ความรัก และความลับ จะนำพาพวกเขาไปพบกับอะไร? หัวใจของ "ยา" และ "จรัญ" จะพลิกผันแค่ไหน? ติดตามเรื่องราวสุดฟิน ชวนให้ลุ้นระทึก พร้อมลุ้นว่า "ยา" จะสืบคดีและพิชิตใจ "จรัญ" ได้หรือไม่?
ในโลกของสายลับ การสืบคดีและรวบคนร้ายให้อยู่หมัด ถือเป็นงานที่มีเกียรติและน่าภาคภูมิใจ ครอบครัว ลูก เมีย และความรัก เป็นสิ่งที่ควรอยู่ให้ห่างไกลที่สุด ซึ่งถ้าให้เลือกระหว่างตายในหน้าที่กับออกเรือนแต่งงาน…
“ผมยอมตายซะเลยจะดีกว่า!”
ในยุคเทคโนโลยี โลกที่ตำรวจ สายลับ หรือแม้แต่โจร ติดต่อและล้วงข้อมูลของกันและกันได้ภายในเสี้ยววินาที โลกที่เสรีทั้งเรื่องเพศ ภาษา และ สังคม
โอ๊ย! ใครจะไปคิดว่า ผมจะถูกจับคลุมถุงชนแบบนี้! โน…โน…โนว!
อาคารที่ตกทอดมารุ่นสู่รุ่นที่แม้ไม่ได้โอ่อ่าอลังการ แต่ก็เป็นที่กล่าวขานและรู้กันดีว่าที่นี่คือ ‘บ้านหม่อมทินกร ตระกูลเก่าผู้ดีภาคใต้’
บ้านแฝดสองชั้นตั้งคู่ขนานขั้นกลางด้วยตัวตึกที่ก่อสร้างมานานเป็นร้อยปี อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อของพ่อ ตัวบ้านตกแต่งด้วยสีและเฟอร์นิเจอร์เน้นโทนขาว ให้ความรู้สึกทั้งสะอาดและสบายตา หลังบ้านเป็นแปลงผักและสวนดอกที่ได้รับการตัดแต่งเป็นประจำอย่างดีจากเจ้าของบ้าน
แต่ถ้าวัดสีตามภาพในใจของคนที่นั่งกินข้าวอยู่ตอนนี้บอกเลยว่าบ้านหลังนี้สีเทาล้วน แถมเป็นเทาเข้มเสียด้วย
“ลูกชายคนเดียวของหม่อมทินกร นายแบบผู้แสนน่ารัก เรียบร้อย เพอร์เฟค"
"..."
"ช่างเหมาะสมกับท่านผู้พิพากษาจรัญ ราวกับ'กิ่งทองใบหยก' สมแล้วที่ไอ้เจตมันเลี้ยงลูกมันเองกับมือ ได้ดีเป็นผู้พิพากษาเหมือนมันไม่มีผิด ฮ่าๆ เพื่อนพ่อเท่เหมือนพ่อเลยใช่ไหมลูก ฮ่าๆ”
ชายวัยเกษียณผู้มีความสามารถในการชื่นชมคนอื่นมากมว่าลูกในไส้ ในชุดเสื้อโปโลสบายๆจับไหล่ลูกชายในชุดสูทสีขาวที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารของบ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สามารถเรียกได้ว่า กล่อมประสาท
ไม่รู้ว่าชาติไหนพ่อผมจะเลิกยัดคำว่ากิ่งทองใบหยกมานิยามผมกับตานั่นสักที บางทีถ้าพ่อรู้ว่าตานั่นน่าหงุดหงิดขนาดไหน พ่ออาจจะใช้คำว่า ผีเน่ากับโลงผุแทนก็ได้ ไม่สิ ถ้าตานั่นเป็นผี ผมจะเป็นหมอผี ถ้าตานั่นเป็นโรงไม้ ผมขอเป็นศาลาวัดดีกว่า
คุณหนูตุ๊กตาบาร์บี้ ผมดำ ตัวเล็กๆ ดวงตาสีน้ำตาลประกาย ผิวสีขาวเหลืองอยากจะคายข้าวทิ้งในทันที
"แต่งมันวันนี้พรุ่งนี้เลยดีไหมลูก"
พรวด!
"แค่กๆ"
ที่ผมยอมเข้าไปใกล้ชิดตานั่น ก็เพราะตานั่นมันเกี่ยวข้องกับคดีการตายของนายเจง ถ้าต้องตบแต่งกันจริงๆ สาบานได้ว่าเขาจะได้ยาพิษใส่แก้วน้ำชนิดตรวจไม่เจอเป็นของขวัญวันแต่งงาน!
ผมชอบความยุติธรรมก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากมีสามีเป็นผู้พิพากษานะพ่อ!
โบราณว่าคำบิดามารดาเป็นดั่งวาจาประกาศิต ก็คงศักดิ์สิทธิ์จริงๆ เล่นเอาคนสำลักข้าวคว้าแก้วน้ำมาดื่มแทบไม่ทัน เมื่อข้าวสวยประจำบ้านเกือบติดคอตาย เพราะคำบิดาเป็นเหตุ
แกร๊ง
ช้อนส้อมถูกจัดวางอย่างเรียบร้อยบนจานข้าวที่ยังคงเหลือข้าวอยู่มากกว่าครึ่ง ถ้าเขาไม่ได้กินข้าวต่อหน้าบิดา ช้อนส้อมที่ว่าคงถูกวางแบบไม่ไยดี ไม่ต้องพิรี้พิไร
ว่าที่เจ้าสาวที่ไม่สาวแต่กลับเป็นหนุ่มหล่อออกไปทางจิ้มลิ้ม ยกน้ำในแก้วทรงกระบอกขึ้นดื่ม น้ำเปล่าที่ควรจะปราศจากรสชาติ ทว่ายามได้ยินชื่อคนที่ไม่ถูกชะตาน้ำจืดก็ฝาดเฝือนคอจนยากจะกลืน
“อ้าว อิ่มแล้วเหรอลูกยา”
กระเดือกลงคอไม่ลงอะพ่อ พ่อเล่นเอาแต่พ่นชื่อตานั่นไม่หยุด
หม่อมทินกรถามเหมือนประหลาดใจ แต่คนถูกถามกลับรู้อยู่แก่ใจว่า ท่าทางอยากรู้อยากเห็นดูกระตือรือล้นเช่นนี้ เป็นอาการดีใจจนเก็บทรงไม่อยู่
“ครับ”
คนโตตาวาวรีบเดินมาเล็งสูทของลูกชาย มองซ้ายมองขวา จัดความเรียบร้อบตรงไหล่นิด ตรงเนคไทป์หน่อย
“ดีเลย งั้นเดี๋ยวพ่อให้คนไปส่งที่ทำงานของพี่จรัญนะลูก”
หม่อมทินกรผู้รอฟังคำตอบนี้มานาน รีบจับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนยัดใส่กล่องพัสดุเตรียมแพ็คส่งออกนอกบ้าน ซึ่งท่าทางกระดี๊กระด๊าปิดไม่มิดนี้ แน่นอนว่าคนมองทำได้แต่ยิ้มแห้งตอบ
นั่นไง ว่าแล้ว!
“ครับ”
รอยยิ้มแหยๆ เหมือนพินอคคิโอถูกส่งกลับไปอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่สงสัยไม่เอะใจใดๆของคนมอง แล้วยาก็ได้แต่เตรียมตัวขึ้นรถตามระเบียบ
………………………
ถนนสายรองที่ไม่ได้ตัดผ่านตัวเมืองทำให้หมดกังวลเรื่องปัญหารถติด ท่ามกลางร้านค้าและรถเข็นขายของข้างทางของพวกชาวบ้านและนักช็อปแนวสตรีท รถสปอร์ตสีขาวคันงามแปลกตาจากคันอื่นๆกำลังเคลื่อนไปช้าๆตามเส้นถนน
ความเร็วรถนี้มันช่าง…เต่ามาก! เต่ากว่านี้อีกนิดหนึ่งได้จอดคาที่กลางถนนแล้ว!
ที่กลางเบาะด้านหลังคุณชายในชุดสูทขาว เจ้าของสีหน้าเบื่อโลก กำลังเคลื่อนนิ้วหารายชื่อปลายทางในโทรศัพท์มือถือหาอะไรทำฆ่าเวลาบนท้องถนน ที่แม้จะไม่มีรถติดก็คงใช้เวลาไม่ต่างกัน คุณลุงคนขับรถประจำบ้านขับรถเงียบๆเป็นใบ้เหมือนอย่างที่เคย ถึงในรถจะมีสองคนก็ไม่ต่างจากการอยู่คนเดียว ทุกอย่างเงียบเสียจนสามารถนั่งสมาธิได้
ติ้ด.
(ตูด….ตูด….ตูด….)
เอี๊ยด!
รถกระชากเล็กน้อยจากการที่คนขับแตะเบรกหยุดกะทันหัน คนไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยพุ่งไปข้างหน้าเล็กน้อย ดีที่เอามือซ้ายที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์เท้ายันเบาะหน้าไว้ก่อน ก็เลยไม่ได้หัวทิ่มหัวตำ
“ขอโทษครับคุณหนู” คุณลุงคนขับรีบหันไปขอโทษขอโพยทำสีหน้าเหมือนกลัวจะโดนไล่ออก
คนตกใจนิดหน่อยยิ้มตอบส่ายหัวเล็กน้อยว่าไม่ถือสา เขาไม่ถือสาจริงๆทั้งยังคิดว่าดีแล้วที่คนขับขับช้าและที่นี่เป็นถนนนอก ถ้าเป็นเส้นหลักในเมือง คงไม่ได้มานั่งส่ายหัวใจดีใส่กันแบบนี้หรอก
(ฮัลโหลสวัสดีครับ ผู้พิพากษาจรัญครับ)
คุณลุงเมินยาหันกลับไปบังคับพวงมาลัยต่อ ส่วนยาที่กำลังฟังประโยคที่คุ้นเคยจากเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมที่กำลังแนบหู ตอนนี้นอกจะจะไม่ห่วงเรื่องตัวเองจะเผลอไปกดตัดสายแล้ว ยังอยากจะตัดสายทิ้งด้วยตัวเองเสียด้วยซ้ำ
ชัดเลย โทรกี่ครั้งก็แบบเดิม ไม่คิดจะเมมเบอร์กันเลยสินะ หรือว่าเมมเบอร์ไม่เป็น
ยายกยิ้มขืนๆ ด้วยท่าทางที่กำลังพยายามข่มใจให้เย็นกรอกเสียงสุภาพนุ่มนวลลงสาย
“ผมว่าผมจะถึงที่ทำงานของพี่อีกครึ่งชั่วโมงครับ พี่จรัญจะฝากซื้ออะไรไหมครับ”
(...ติ้ด.)
ตัดสาย! ตัดสายเนี่ยนะ!!
โอ๊ย ไอผู้พิพากษาขี้เก๊ก เฮงซวย หล่อตายแหละ ถ้าไม่ต้องสืบเรื่องนายเจงนะ สาบานเลยว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่มีวันญาติดีด้วย ไอ้งานหมั้นหมายคลุมถุงชนซังกะบ๊วยนี่นะ พ่อจะพังให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
“คุณหนูหมอบครับ!”
เอี๊ยด!
!!!
กึก!
ทันทีหลังจากสิ้นเสียงตะโกนของคนขับรถ รถหรูก็เบรกกะทันหันอีกครั้ง แถมครั้งนี้ก็ทำเอาเขาหัวทิ่มลงไปจริงๆ
สถานการณ์ไม่ชอบมาพากล คนขับก้มลงต่ำเหมือนหลบใครบางคน เนื้อตัวสั่นเล็กน้อย สีหน้าตื่นตระหนก กำลังหันมามองเขา เป็นเชิงปรามไม่ให้เงยหน้ากลับขึ้นไป สัญชาตญานบอกยาว่าด้านนอกมีอันตราย ก่อนเขาจะได้ยินเสียงปืนสองสามนัดดังแทรกเข้ามาในรถ และเสียงปืนมันก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ
“เกิดอะไรขึ้น”
ยาไม่มีทางสับสนระหว่างเสียงปืนกับเสียงประทัด เขามั่นใจว่ามีลางร้ายบางอย่างกำลังก่อตัว ทว่าคนตอบคำถามดูบ้าบอเกินกว่าจะตอบคำถามในทันที จนยาต้องเป็นฝ่ายตะคอกเสียงดัง
“เกิดอะไรขึ้น!”
ในที่สุดคนสะดุ้งเล็กน้อยก็รู้สติ ยามองเค้นตาโต ในขณะที่ด้านนอกยังมีเสียงปืนดังเปรี้ยงปร้าง
“มีคนร้ายสองสามคนกำลังกราดยิงพวกชาวบ้านครับ”
ปึก!
มือซ้ายเอื้อมไปเปิดประตูเบาะหลังอย่างไวโดยไม่ต้องคิด แต่คนขับเอื้อมมือมาจับแขนเสื้อรั้งเขาไว้ เขาหันไปสลัดออกโดยไว
ทำไมเรื่องต้องมาเกิดแถวบ้านพ่อด้วยเนี่ย! ต้องทำตัวเรียบร้อยในสถานการณ์แบบนี้ไม่ไหวหรอกนะ
เขารู้สึกได้ถึงจังหวะนรกที่มาผิดที่ผิดเวลา แต่ถึงเขาไม่ใช่ตำรวจ แต่เลือดของผู้กล้ารักความยุติธรรมก็มีไม่แพ้กัน จะให้ยืนดู แอบดูเฉยๆ เขาทำไม่ได้และจะไม่ทำ
“คุณหนูจะไปไหนครับ อย่าไปครับ มันอันตราย!” คุณลุงพยายามรั้งสุดชีวิต ทว่าอีกฝ่ายใจร้อนเกินกว่าจะเอาน้ำลายมาหยุดได้
“ฮวาหลวน ลูกต้องช่วยงานเย็บปักของตระกูล” “ไม่มีทางหรอกแม่”ของมีคมสำหรับผม มันคือไวอากร้าน่ะสิ!แต่ใครจะไปคิดว่า…“ขนาดเกิดใหม่ ยังโดนสั่งให้เย็บผ้าอีก!”“ไม่ทำ ตัดนิ้ว” แม่ทัพใหญ่แม้จะทำเสียงดุ
ไวน์ นักศึกษาปี 2 เดือนคณะผู้ปฏิญาณตนว่าจะโสดตลอดไป เจ้าของใบหน้าหล่อออกหวานนิดๆแบบเกาหลี คนที่วันๆอยู่กับการวิ่งไปแย่งคอมตัวแรงเพื่อดูหุ้นไม่ก็จมหัวอยู่ที่ร้านหมูกะทะ เรื่องโน่นนี่ไม่สนก็จริง แต่ใครอย่ามาปากหมาใส่แล้วกัน แปลงร่างเป็นพิตบูทันที เบียร์ เอกอินเตอร์บริหาร คุณชายตระกูลดังขี้รำคาญ ใบหน้าหล่อคมที่ใครๆก็บอกว่าควรขึ้นตำแหน่งเดือนมหาลัย คุณชายที่ขับรถหรู ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ติดที่ปากเสีย ขี้เหวี่ยง ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ขู่ได้แม้กระทั่งอธิการบดี ꧁{★… ★}꧂ ไอ้ผู้ชายปากหมานั่นใครวะ หยิ่งฉิบหาย พอแหย่เขาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ไวน์เลยตามตอแยทุกวิถีทาง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ด่าเขาปาวๆ บอกแค่จะเอาของมาคืน! เบียร์เห็นก็เลยแก้เผ็ด วุ่นวายดีนัก ตีหัวรวบเข้าบ้านเลยแล้วกัน “อย่าดื้อ หมอสั่ง” “หรือวะ หมอสั่งให้กูอยู่กับมึงนานขนาดนี้เลย?” ฟอด!!! คุณตำรวจ มีคนลวนลาม! “ไอ้เห้เบียร์!!” ꧁{★… ★}꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ
เหมยลี่ อายุ 25 ปี คุณหนูผู้ร่ำรวย สาวตากลมตัวเล็กผิวขาวมาดซีอีโอนุ่มนิ่ม เธอใช้เงินบัลดาลทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์โลก ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากของซีอีโอสาวสุดเพอร์เฟค จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของนิยายในหัว แถมมีอยู่เรื่องเดียวซะด้วย งานนี้งานการไม่ทำมันแล้ว มู่จิน พระเอกนิยายติงต๊อง ที่ฆ่าเมียตัวเองตายในคืนเข้าหอ ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของเรือนผมดำยาวและสันกรามทรงเสน่ห์ เขามีประวัติความเป็นมาหรือเรื่องราวของเขาเป็นมาอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เขาเบื่อหน่ายโลกใบนี้เต็มทน ชีวิตคนสำหรับเขาก็เป็นเพียงเศษหญ้าเท่านั้น ꧁⊱ ⊰꧂ เพราะถูกรถชนตายตอนที่เพิ่งอ่านนิยายจบรอบที่ 99 ยังไม่ครบร้อย พอลืมตามาก็อยู่ในร่างตัวประกอบ ไม่ใช่นางเอกไม่พอยังต้องแต่งงานกับคนบ้า 'เหมยลี่' คนนี้เลยต้องพยายามฆ่าเจ้าบ่าวในห้องหอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาฆ่าตามบทในนิยายอีกครั้ง แต่แล้ว ความพยายามของเธอก็ไร้ค่า เธอตายอีกครั้งแล้วไม่ได้กลับโลกเดิม แต่ย้อนกลับมาที่คืนเข้าหอ ทว่าทำไมรอบนี้คุณพระเอกเจ้าบ่าวมองเธอตาเยิ้มขนาดนั้นล่ะเนี่ย ꧁⊱ ⊰꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ*
เตียวเฉิน ก่อนตายเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในโลกใหม่ เขาเป็นพระรองมาดแมนแม้ตัวจะไม่มีกล้ามแซงหน้าพระเอก ในเมื่อเกิดมาหล่อ รวย หน้าตาการศึกษาดี แต่ข้างในวิญญาณไม่มีความรู้สักกะติ๊ด เขาจึงพยายามใช้สมองอันน้อยนิดหาหนทางรอด ด้วยการ มุดโพลงหมาลอดออกไปเป็นขอทานเสียเลย มู่จิน พระเอกของโลกใบนี้ นักธุรกิจและผู้มีอำนาจที่สุดในเมือง ชายหุ่นกล้ามที่ชอบใส่สูทผูกไทป์ แล้วหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน สีหน้าของเขาเยือกเย็นตลอดเวลา อะไรๆในโลกก็น่ารำคาญไปหมด ยกเว้นวันที่เห็นตัวอะไรปีนเข้าบ้าน ꧁{★… ★}꧂ เกิดใหม่ก็ต้องดิ้นรนหนีออกจากบ้าน พอนึกไปแล้ว เข้าร่างพระรองมาได้ไม่กี่เดือน แต่เดี๋ยก็ถึงเวลาที่พระเอกนายเอกเขาก็จะเจอกันแล้ว ผมก็ชิงหนีออกไปเป็นขอทานก่อนน่ะสิ เรื่องอะไรจะอยู่รอแบดเอ็น เอ๊ะ ผู้ชายที่เปลื่อยกายนั่นหน้าคุ้นๆ ทำไมบ้านที่ผมปีนกำแพงเข้าไปมันดันเป็นบ้านพระเอกล่ะ ซวยแล้ว งั้นตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนแล้วกัน ทั้งที่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนิดเดียวแท้ๆ พวกคนใช้เองก็บูลลี่กันอยู่ได้ ผมมั่นใจว่าพระเอกต้องโยนผมออกไปในไม่ช้า เขาน่ะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่... แปลกๆ นะ ขอทานแล้วได้เสื้อผ้า อาหาร เพชรพลอย ที่แปลกกว่าคือ พอผมอาละวาทพังบ้าน เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เจ้าของบ้านซื้อเฟอร์ใหม่มาให้พังเพิ่มน่ะสิ วันๆหัวจะปวด เขาจับผมมัดตั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน แล้วก็เอาแต่นั่งครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรมาให้ตอนผมขอทานดี ผมนี่ขมวดคิ้วเลย ꧁{★… ★}꧂
เมื่อคู่แห่งโชคชะตา4ขวบ อัลฟ่าพัมธุ์แท้คนสุดท้าย ผู้เพรียบพร้อมด้วยเงินและอำนาจ วันหนึ่งลูกน้องก็พังประตูเข้ามาบอกว่า เจอคู่โชคชะตาเขาแล้ว ทว่า จะป้ำลูกยังไง ก็เนื้อคู่เขาใส่ชุดอนุบาลหมีน้อยกอดตุ๊กตา
อาหลีพยายามหาหลัวในฝันผ่านตู้ปลากัด ใครที่เดินผ่านปลากัดแล้วจ้องตาเขาตอน9โมงตรงคนนั้นคือ เนื้อคู่ ...เจ้าของร้านเอือมจนขี้เกียจไล่ มาบ่อยแค่ไหนถามใจเธอดู แต่โชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อเนื้อคู่ไม่ชอบป้าบ!
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
จะทำยังไงเมื่อเชฟสาวที่อยู่ๆก็โดนลูกหลงตายแบบไม่รู้เรื่อง จากเหตุปล้นธนาคาร
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"