เพราะความเชื่อใจและไว้ใจเรื่องมันจึงเกิด หรือ เพราะความต้องการที่ทั้งสองมีตรงกันอันนี้ก็ไม่อาจรู้ได้
เพราะความเชื่อใจและไว้ใจเรื่องมันจึงเกิด หรือ เพราะความต้องการที่ทั้งสองมีตรงกันอันนี้ก็ไม่อาจรู้ได้
เสียงดนตรีดังกระหึ่ม ผู้คนภายในต่างโยกย้ายไปตามจังหวะและเสียงของดีเจซึ่งดังขึ้นเป็นช่วง ๆ หนุ่มสาวออกแรงเต้นชนิดที่ไม่สนใจสายตาของใครต่อใคร
“แกมาช้านะ นารา”
เสียงหนึ่งในเพื่อนสนิทที่โต๊ะดังขึ้น เมื่อนาราดาวเด่นประจำแก๊งมาถึงเพื่อนทุกคนต่างก็หันมามองเธอเป็นตาเดียว
“โทษที พวกแกมากันนานยัง?”
“ก็รอแกแค่คนเดียวนี่ละ ขนาดไอ้ธนาตัวสายประจำแก๊งยังมาก่อนแกเลย คิดเอาเองแล้วกัน”
ข้าวเจ้าพูดขึ้นทันที เมื่อนารานั่งลงตรงที่ยังว่าง ชาวีหันไปสั่งพนักงานให้เอาเครื่องดื่มมาเพิ่มแล้วบทสนทนาของแก๊งเพื่อนรักเพื่อนซี้ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง จะมีแต่ธนาซึ่งยังมองนาราไม่วางตา
“ช่วงนี้ชีวิตพวกแกเป็นไงบ้าง?”
นาราเปิดเรื่องให้เพื่อนแล้วยกเครื่องดื่มขึ้นมาจิบ เพราะนานที่จะรวมตัวกันได้ครบแก๊ง ส่วนมากจะเจอแค่หนึ่งหรือสองคนที่จะว่างตรงกัน
“ของฉันก็เหมือนเดิน ยังไม่มีใครเข้ามา”
คำตอบของข้าวเจ้า มันทำให้ทุกคนหันมองเธออย่างไม่เชื่อสายตา เป็นไปได้ไงที่ตัวแม่ของแก๊งยังไม่มีใคร ราวกับว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นเป็นแน่
“พวกแกมองฉันอย่างนี้หมายความว่าไง”
“ไม่มีใครเข้ามา หรือว่า…แกไม่เอากันแน่” นาราพูดแซวเพื่อนเป็นนัยๆ
“ผิดคาดวะ ฉันคิดว่าแกต้องมีใครก่อนพวกฉันเสียอีก”
เสียงของยูมิตอบแทนเพื่อนทุกคนแล้วเทเครื่องดื่มให้กับชาวี ส่วนธนายังคงมองหน้าของนาราจนชาวีรู้สึกผิดสังเกต
“ไอ้ธนา มึงจะมองนาราอีกนานไหม?”
คำพูดของชาวีทำให้นารารู้ตัวว่าถูกมองอยู่จึงได้หันกลับไปสบตาธนาทันที สายตาที่มองมามันทำเธอรู้สึกว่ามีอะไรแปลกไปจากเพื่อนคนนี้
“มีอะไรติดหน้าฉันหรือ?”
“เปล่า แค่วันนี้เธอดูสวยกว่าทุกครั้งที่เจอ”
กลุ่มแก๊งต่างส่งเสียงโห่ร้องกับคำพูดของธนา ราวกับว่าคำพูดนี้เชื่อถือไม่ได้ นาราหัวเราะชอบใจ เธอเองก็รู้นิสัยของเพื่อนในแก๊งนี้ทุกคนเป็นอย่างดี เอาจริงเธอรู้จักพวกมันมาตั้งแต่ประถมแล้ว จึงไม่คิดจริงจังกับคำพูดนี้เท่าไร
“วันนี้วันดีที่พวกเรามารวมตัวกันครบ ไม่ขาดใครไป” ข้าวเจ้าพูดแล้วยกแก้วขึ้น
“เรามาดื่มกันให้เต็มที่ ไม่เมาไม่กลับ” ชาวีพูดเสริม
“ใช่”
ทุกคนในแก๊งต่างก็ยกแก้วขึ้นแล้วชนจากนั้นทุกคนก็ดื่มหมดแก้ว เว้นแค่ธนาที่ดื่มไปแค่ครึ่งเดียว เมื่อดื่มกันมาได้ระยะหนึ่งยูมิก็เปิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง
“ฉัน…ยูมิทั้งสาวทั้งสวย มีดีทุกอย่าง ไม่เคยมีชายใดกล้าเมิน”
“อะไรของแก” ชาวีถามขึ้น
“ฉันถูกผู้ชายคนหนึ่งเมินนะสิ” ยูมิตอบแล้วยกแก้วขึ้นกระดก
“ใครกันกล้าเมินเพื่อนของเรา” นาราถามขึ้น
ทุกคนหันไปสนใจยูมิเป็นตาเดียวกันราวกับว่าในโลกนี้ยังมีผู้ชายที่ตาถั่วอยู่อีกหรือ ไม่ต้องรอให้ยูมิตอบอะไร ทุกคนหันมองตามสายตาที่ยูมิจ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาคนนั้นให้ได้
“ไอ้บาร์เทนเดอร์นั้นใช่ไหม?”
“ใช่!!! ฉันจะตามจีบนายนั้นให้ได้ คอยดู”
ยูมิชี้มือไปทางเขา โดยที่เพื่อนทุกคนก็รู้สึกคุ้นหน้าบาร์เทนเดอร์หนุ่มนั่นเป็นอย่างมากแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน จึงไม่ได้อะไรมากในเมื่อเพื่อนประกาศออกมาอย่างนั้นจึงได้ปล่อยให้เพื่อนรักคนนี้ทำตามต้องการ
“ไอ้ธนา…แกเลิกกับยัยโนรุยังวะ” ข้าวเจ้าถามเข้าประเด็นทันทีเมื่อนึกออก
“ฉันบอกเลิกเธอไปแล้ว แต่เธอยังตามตื๊อไม่เลิก”
“อะไรวะ เรื่องแค่นี้เอง แกก็หาแฟนใหม่สิ” ชาวีเสนอทางออก
ทุกคนต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของชาวี เพราะเพื่อนในแก๊งรักกันแบบพี่น้องคอยช่วยเหลือกันราวกับเป็นคนในครอบครัว และรู้ด้วยว่ายัยโนรุทำชั่วอะไรไว้กับธนาเพื่อนของตน แต่เมื่อธนาเลือกที่จะเดินถอยออกมาแล้วจบความสัมพันธ์ จึงไม่มีใครอยากจะยุ่งเกี่ยวกับยัยนั่นอีกจึงได้ปล่อยไป
แต่ถ้าโนรุยังคิดจะมายุ่งยากกับชีวิตของธนาไม่ยอมเลิกราเพื่อนทุกคนในกลุ่มก็พอที่จะจัดการกับยัยนั่นขั้นเด็ดขาด
เสียงดนตรีดังกระหึ่มทำให้คนเพื่อนในกลุ่มแก๊งต่างออกไปเต้น จนตอนนี้ทั้งโต๊ะเหลือแค่นารากับธนาอยู่กันแค่สองต่อสอง ทำให้ทั้งโต๊ะเกิดความเงียบโดยไม่มีใครพูดสิ่งใดออกมาเลยมันทำให้บรรยากาศในตอนนั้นดูอึดอัดจนนาราทนไม่ไหว
“แกจะเอาไงก็พูดมา มองแต่หน้าฉันอยู่ได้”
“ก็ไม่เอาไง”
คำตอบที่ได้ทำให้นาราไปต่อไม่ถูก แต่ธนากลับยิ้มออกมาราวกับว่าการได้แกล้งเธอนั้นเป็นเรื่องสนุกของเขาเสียจริง
“แกไม่ออกไปจีบสาวหรือไง? งานถนัดแกเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่อะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากมีใคร? แต่ถ้าเป็นเรื่องบนเตียงก็อีกเรื่องหนึ่ง”
นั่นไง! เสือไม่ทิ้งลายจริงๆ นาราได้แต่ถอนหายใจกับเพื่อนคนนี้เสียจริง เธอยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมากระดกหมดแก้ว เอาจริงๆช่วงนี้ชีวิตเธอก็มีแต่เรื่องเฮงซวยเข้ามาไม่หยุดหย่อน จะว่าไปชีวิตของใครต่างก็มีปัญหากันทั้งนั้นจะเป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
“แล้วแกล่ะช่วงนี้เป็นไง?”
ธนามองลึกเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวตรงหน้า เขารู้ดีว่าเธอมีเรื่องที่ไม่สบายใจถึงจะเป็นเพื่อนสนิทแต่นาราก็ไม่ยอมเล่าให้ใครฟัง
“แกอย่าทำมาเป็นรู้ดี เลยเอาตัวเองให้รอดก่อน ไอ้ธนา”
คำพูดนั้นเป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านารามีเรื่องไม่สบายใจจริงๆ เพราะทุกครั้งที่เธอมีเรื่องไม่สบายใจเธอมักจะเฉไฉไปเรื่องอื่นเสมอ
“ตามใจแกก็แล้วกันอยากเล่าก็เล่า ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า”
นารายกเครื่องดื่มเป็นแก้วที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้จนตอนนี้เธอเริ่มที่จะเมา พอดีกลับที่ข้าวเจ้ากลับมายังโต๊ะ
“แกปล่อยให้ยัยนาราเมาอย่างนี้ได้ยังไงวะ ไอ้ธนา”
ทันทีเมื่อข้าวเจ้าเดินมาถึงโต๊ะแล้วเห็นสภาพนาราซึ่งเมาไม่ได้สติเสียแล้ว จนข้าวเจ้าเหนื่อยใจกับเพื่อนแต่ละคนของเธอจริงๆ
“เดี๋ยวฉันพานารากลับไปเอง”
“ไอ้ธนา แกอย่าคิดทำเรื่องไม่ดีกลับเพื่อนนะเว้ย”
ธนาอุ้มร่างบางของนาราไปยังรถ ดีที่วันนี้เขาไม่ได้ดื่มเยอะ เอาจริงวันนี้เขาดื่มกับเพื่อนแค่แก้วเดียว ทั้งที่เขาเป็นนักดื่มตัวยงแท้ๆ แต่วันนี้กลับไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่อยากจะดื่ม ราวกับว่าเรื่องไม่สบายใจของนารามันกวนใจเขาเป็นอย่างมาก
เมื่อถึงยังคอนโดของนาราเขาพาเธอขึ้นมาถึงหน้าห้อง พยายามถามหากุญแจห้องจากเจ้าตัวแต่กลับเมาไม่ได้สติ จึงทำให้ชายหนุ่มต้องรื้อกระเป๋าของเธอเพื่อหากุญแจ
“แกอยู่ดีๆสิวะ”
ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังหากุญแจอยู่นาราดึงเขาเกือบจะล้มลงไปตรงหน้าห้องแล้ว ถึงอย่างนั้นธนาก็ยังดึงร่างของเธอเอาไว้แล้วหากุญแจต่อไปจนเมื่อได้มันมาเปิดเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มพาร่างบางไร้สติของเพื่อนรักตรงไปยังเตียงนอนทันที
“แกนี่ตัวหนักไม่ใช่เล่น” ธนาพึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา
เมื่อออกมาเขาเห็นหญิงสาวพยายามจะถอดเสื้อชั้นในแต่ด้วยตอนนี้เอื้อมมือไปไม่ถึงจนเมื่อเธอเห็นธนา
“นายปลดตะขอให้หน่อย”
ชายหนุ่มทำตามที่เพื่อนขอร้อง แต่ยังไม่ทันไรนาราพลิกตัวกลับมา ริมฝีปากบางก็ประกบเข้ามาทันที เขาที่พยายามจะดันเธอให้ออกห่างแต่มือของเธอเกี่ยวเข้าไปที่ลำคอเขาดึงให้เขาล้มลงไปนอนบนเตียง
“แกจะทำอะไรวะ ยัยนารา”
ไร้การตอบรับจากร่างบาง แต่ตอนนี้เธอขึ้นคร่อมร่างของเขาเอาไว้ ทำให้ธนาเห็นเนินอกขาวผ่านคอเสื้อที่ห้อยลงมา ในตอนนี้เขาเองก็เกิดอารมณ์ขึ้นจนไม่อาจที่จะหยุดมันได้อีกต่อไป
[ติน] ชายหนุ่มรักสนุกที่ไม่คิดจะยึดติด แต่เมื่อมีเธอเข้ามาความคิดของเขาเริ่มเปลี่ยนไป [มล] สาวมั่นที่ชอบแซ่บ แต่ต้องปิดบังผู้เป็นแม่ ตินชายหนุ่มรักสนุกมัวสาวไปทั่ว เข้าไปหยอดมลในขณะที่เธอกำลังเล่นน้ำสงกรานต์แล้วได้แซ่บกับเธอ โดยมารู้ที่หลังว่ามลเป็นลูกสาวเพื่อนแม่ เขาจึงได้ใช้เรื่องนี้เพื่อมาแบล็คเมล์ให้เธอทำตามที่ตนต้องการ แต่แล้วความรู้สึกของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป เรื่องราวของทั้งสองจึงเริ่มขึ้น
พรหมลิขิตมักเล่นตลกกับชีวิตของเราเสมอ แต่เมื่อมันมาแล้วจะรับมันไว้ หรือ จะผลักมันออกไป 'เชื่อเรื่องพรหมลิขิตกันไม่ล่ะ?'
เมื่อชีวิตมันสิ้นหวังถึงขึดสุด คืนฝัน เธอจึงได้ลองขอพรกับซาตาน แต่พรที่ของนั้นกลับไม่ถูกใจซาตานเอาเสียเลย เขาจึงได้ให้เวลาเธอ 7 วันเพื่อคิดพรใหม่ที่จะขอ
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
ในคืนแต่งงาน เธอไม่ได้พบเจ้าบ่าว ชายแปลกหน้าที่บุกเข้ามา ทำลายทุกอย่างของเธอ แม่สามีทั้งทุบตีและดูหมิ่น สามีเย็นชาและไร้ความปรานี อีกทั้งยังมีหญิงอื่นหัวเราะเยาะและอวดโอ้ เธอจึงถูกไล่ออกไปจากบ้าน ไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นทนายความมือหนึ่ง ที่สามารถใช้เอกสารฟ้องร้องชายที่ทำลายชีวิตเธอได้ แต่เธอไม่รู้ว่าชายคนนั้นคือเศรษฐีที่มีชื่อเสียงในเมืองใหญ่ คนผู้นี้ผ่านผู้หญิงมาหลายคนแต่ไม่เคยผูกพันกับใครเลย มีความสะอาดอย่างมาก อารมณ์แปรปรวน เป็นคนดื้อรั้นและเผด็จการ บังคับให้เธอแต่งงานกับเขา ทำทุกวิธีทางที่เขาจะทำได้ เธอเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีปัญหาที่ใหญ่กว่าเดิม...
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’
เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY