คนเหงาที่ใช้ชีวิตโสดโดดเดี่ยวมานาน พลาดพลั้งพบกับสาวสวยขี้อ้อน ที่มาพร้อมกับความสดใส ถึงการพบกันครั้งแรกไม่สวยงามนัก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก... ............................... “ดึกแล้วเรารีบขึ้นข้างบนกันดีกว่า” เขาบอกพร้อมกับรอยยิ้มร้ายที่ผุดออกจากมุมปาก “จะพาดาวไปไหนคะ” “ไปนอนไงครับ” “แต่นี่เลยห้องดาวแล้วค่ะ” “คืนนี้นอนห้องพี่” “แต่...” ยังไม่ทันได้ทัดทานริมฝีปากบางอวบอิ่มก็ถูกเขากดจูบอย่างดูดดื่ม...
อากาศยามเช้าที่ควรจะสดใส ถูกปกคลุมด้วยเหล่าก้อนเมฆสีดำ ที่มืดครึ้มตั้งเค้าว่าฝนจะตกมาแต่ไกล เช้านี้เลยทำให้อากาศเย็นสบายกว่าทุกวัน
“ออเดอร์ A045 รายการของลูกค้าเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” นิศรายิ้มหวานรับแก้วกาแฟและถุงขนมจากพนักงาน ก่อนเดินไปเปิดประตูเพื่อออกจากร้าน
“ขอบคุณที่ใช้บริการ ทานให้อร่อยนะคะ” เสียงพนักงานกล่าวลาลูกค้า
..ติ๊ง ต่อง..เสียงเปิดประตูดังขึ้น
“ว้าย.ย....ขอโทษค่ะ”
นิศราร้องอุทานด้วยความตกใจ เธอชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของคนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามา ทำให้กาแฟหกใส่เสื้อนักศึกษาสีขาวเป็นคราบสีน้ำตาลเข้มเลอะเต็มเสื้อ โชคดีที่เธอสั่งเป็นกาแฟเย็น หากเป็นกาแฟร้อนเธอคงถูกลวกอย่างหลบไม่ได้
“เดินประสาอะไร ทำไมถึงไม่ดูตาม้าตาเรือ” เสียงดุเข้มของคนที่เปิดประตูมาชนเธอเอ่ยขึ้น
“อ้าวนี่...คุณมั้ย!ที่เปิดประตูไม่ระวัง ไม่เห็นคนหรือไง พุ่งเข้ามาได้...แล้วดูนี่ป้าย” เธอชี้ไปที่ป้ายที่ติดด้านหน้าประตูอย่างเอาเรื่อง “อ่านออกมั้ย ดึงอะดึง ผลักมาได้ ขอโทษสักคำก็ไม่มี ยังจะมาว่าคนอื่นอีก”
เสียงใสโวยวายอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สำนึกผิดแถมยังมากล่าวโทษว่าเป็นความผิดเธออีกต่างหาก -ไอ้ขยะเปียก- ประโยคนี้เธอด่าเขาในใจ
“เธอรู้มั้ย ว่าเสื้อตัวนี้มันราคาเท่าไหร่” ชายหนุ่มบ่นอย่างหัวเสีย ไม่สนใจคำพูดของเธอด้วยซ้ำ วันนี้เขามีประชุมสำคัญกับต้องมาเจอเหตุการณ์นี้
“ให้ตายสิ! จะราคาเท่าไหร่มันก็เรื่องของคุณมั้ย ตอนจ่ายเงินซื้อไม่ได้ดูราคารึไง ถึงต้องมาถามจากคนอื่นเนี่ย”เธอก็เริ่มจะหัวเสียกับคำพูดของเขาเช่นกัน
“พูดแบบนี้คือจะไม่รับผิดชอบ” แววตาคมกริบตวัดมอง อย่างไม่ยอมเช่นกัน
“จะให้ฉันรับผิดชอบอะไร ในเมื่อคุณเป็นคนผิด คุณนั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบ ชุดฉันเลอะเนี่ยถ่างตาดูด้วย สติค่ะสติ! หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดูดี ไม่น่าเป็นคนนิสัยไม่ดีเลย วันซวยของฉันจริง ๆ เลย”
หญิงสาวตะเบ็งเสียงต่อว่า ชี้ให้เขาดูสภาพเธอ ด้วยความไม่พอใจ เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้ม ถลึงตามองอย่างไม่พอใจ วินาทีนั้นเองที่เขาได้เห็นใบหน้าของเธอชัดเจน
คิ้วบางเลิกสูงขมวดเข้าหากัน ดวงตาโตกลมถลึงตามองอย่างไม่พอใจ ใบหน้าหวานมีสีแดงระรื่นเพราะความโกรธ ปากน้อย ๆ ขยับบ่นเขาไม่หยุด ดวงตาคู่คมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าตาไม่กะพริบ แล้วต้องชะงักเมื่อเสียงแจ๋ว ๆ ของเธอเงียบลง เปลี่ยนเป็นตะโกนเรียกเขาแทน
“นี่ นี่คุณ ฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย”
“งั้นถือว่าหายกัน ก็แล้วกัน” เมื่อได้สติชายหนุ่มจึงปรับน้ำเสียงให้นุ่มลง
“อะไรนะ หายกัน” นิศราถามย้ำเสียงดังก่อนบ่นต่อ
“ชุดฉันเลอะนะ ฉันต้องรีบไปส่งงานอาจารย์ด้วย”
“แล้วคุณต้องการเท่าไหร่”
“อะไร” เธอได้ยินชัดแหละแต่ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ
“ที่พูดมาทั้งหมด คืออยากได้เงินไม่ใช่หรือไง จะเอาเท่าไหร่” เขาเน้นเสียงพร้อมส่งสายตาเหยียดใส่เธอ มันยิ่งทำให้หญิงสาวไม่พอใจมากขึ้นไปอีก
“เท่าไหร่เหรอ พูดแบบนี้หมายความว่าไง”
“ก็อยากได้เงิน ผมก็จะรับผิดชอบให้นี่ไงอยากได้เท่าไหร่จะได้แยกย้ายกัน ผมมีธุระสำคัญรออยู่”
“ธุระของคุณมันสำคัญมากกว่าธุระของคนอื่นสินะ จะบอกให้นะ ว่าเงินของคุณน่ะ มันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่างหรอก”
“อ่าว! เฮ้อ ...แล้วจะเอายังไงล่ะครับคุณผู้หญิง”
ธีรวัฒน์ถอนหายใจยาว รู้สึกเริ่มเหนื่อยหน่ายที่เรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เสียแล้ว
ไม่ต่างกันหญิงสาวตรงหน้า เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดทำสมาธิ พร้อมทำท่าทางจริงจัง
“ฉัน ไม่ ต้อง การ เงิน ของ คุณ! แต่ขอให้คุณรับผิดชอบแบบนี้แล้วกัน”
นิศราเน้นคำพูดช้า ๆ ชัด ๆ เมื่อพูดจบหญิงสาวก็สาดกาแฟในแก้วที่เหลือ ใส่กลางลำตัวของคนตรงหน้าทันที
“เฮ้ยย! ทำอะไร เด็กบ้านี่”
ธีรวัฒน์อุทานออกมาด้วยความตกใจ ในการกระทำของเธอ ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะทำเช่นนี้ มือหยาบปัดกาแฟออกจากเสื้อพร้อมเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มเยาะกับผลงานของตัวเอง
“โอเค แบบนี้ค่อยยุติธรรมหน่อย หายกันแล้วนะ ถือว่าไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว อีกอย่างถ้ารวยมากนักก็ช่วยเคลียร์ที่ทำร้านเขาเลอะเทอะด้วยก็แล้วกัน หวังว่าเราคงจะไม่ต้องเจอกันอีกนะ เพราะคุณมันเฮงซวย!”
‘ขอโทษสักคำก็ไม่มีไอ้ขยะเปียกนี่ โตมาแบบไหนกันนะ’
เธอบ่นในใจ พร้อมมองเขาด้วยสายตาเหยียดกลับ ก่อนจะเดินออกจากร้านไปเลย ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับการกระทำของเธออยู่อย่างนั้น ไม่นึกเลยว่าเธอจะกล้าทำถึงขนาดนี้
'เหนือความคาดหมายจริง ๆ' เขาคิดในใจ ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย
ธีร์ ธีรวัฒน์ เลิศกิจเจริญ นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง ประธานบริษัทธีรวัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเภทหมู่บ้านจัดสรร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแผนขยายโครงการไปตามจังหวัดอื่น ๆ ด้วย เป็นบริษัทที่มีรายได้มากที่สุดอันดับต้น ๆ ของประเทศ
เขาเป็นคนที่ทำงานเก่ง เด็ดขาด จริงจังกับการทำงาน พูดได้ว่าชีวิตของเขามีแต่งาน สนใจแต่เรื่องงาน เป็นคนหล่อและรวยมาก ทำให้มีสาว ๆ เข้าแถวมาขายขนมจีบไม่ขาดสาย
แต่ที่เข้ามาก็เพื่อหวังเงินและผลประโยชน์จากเขาทั้งนั้น ทำให้เขามีกำแพงต่อผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ปัจจุบันสถานะจึงยังโสดสนิท
“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมมาสภาพนี้” วรวิทย์เลขาคนสนิทถามด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสภาพเจ้านายหนุ่มที่เลอะเทอะ หรือเรียกได้ว่าเละไปทั้งตัวก็ว่าได้ เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานสภาพที่ไม่เหลือมาดประธานบริษัทเลย
“เฮ่อ! อุบัติเหตุนะ จะไปซื้อกาแฟ เปิดประตูร้านผิดฝั่งป้ายให้ดึง แต่ฉันผลักเปิดเข้าไปด้วยความเคยชินอะนะ เลยไปชนเข้ากับนักศึกษาที่กำลังเดินออกจากร้านพอดี กาแฟเลยหกใส่เสื้อเธอ”
ธีรวัฒน์เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ก่อนถอนลมหายใจยาวออกมา อย่างรู้สึกเหนื่อยใจ
“กาแฟร้อนหรือเย็นครับ”
“เฮ้อ โชคดีที่เป็นกาแฟเย็น” เขาถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะตอบ
“ว่าแต่ กาแฟหกใส่เสื้อเธอคนนั้นแล้วทำไม ท่านถึง..”
วรวิทย์ถามเพราะสงสัยในสภาพของเจ้านายหนุ่ม ก่อนชี้ไปที่เสื้อของเขา
“เถียงกันไม่ลงตัวนะ ฉันเองก็ไม่ยอมรับผิด เธอคงโกรธมากเลยสาดกาแฟที่เหลือใส่” เขาเอ่ยพร้อมถอดสูท โยนพาดไปที่พนักพิงเก้าอี้
“แล้วไปทำอีท่าไหนครับ ถึงโดนสาดกาแฟใส่เนี่ย”
คนอยากรู้ยังคงถามต่อเพราะไม่เคยเห็นเจ้านายตัวเองอยู่ในสภาพนี้มาก่อน ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เห็นแต่งตัวเป๊ะตลอดเวลา
“ก็..เถียงกันไปมานั่นแหละ ฉันคิดว่าเธอคงอยากให้รับผิดชอบเป็นเงิน เลยถามไปว่าจะเอาเท่าไหร่..”
“เธอ...โกรธ”
“อืม โกรธ ไม่พอใจมากด้วย บอกไม่ต้องการเงินของฉัน เสียงดังฟังชัดเชียวแหละ ก่อนจะต่อด้วยประโยคที่ว่า ‘ขอให้คุณรับผิดชอบแบบนี้แล้วกัน’ แล้วกาแฟก็ลอยมาใส่ สภาพก็อย่างที่เห็น แถมบอกอีกว่า ‘แบบนี้ค่อยยุติธรรมหน่อย หายกันแล้วนะ’ จากนั้นก็เดินสะบัดก้นออกจากร้านไปเลย”
เขาเล่าซะละเอียดจนคนฟังนึกภาพตามออก เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
“ฮ่าๆๆ” วรวิทย์หลุดหัวเราะเสียงดังเมื่อฟังจนจบ
“หัวเราะอะไรวะ” คนถูกหัวเราะขึงตามองอย่างคาดโทษเพราะเรื่องที่เขาเล่ามันไม่ตลกเลยสักนิด
“ขอโทษครับท่าน มันตลกท่านเจอคนจริงเข้าให้แล้ว ผมเดาว่าท่านคงไม่ได้พูดขอโทษเธอด้วย”
“อืม”
“เธอคงแค่อยากได้ยินคำว่าขอโทษมากกว่าอยากได้เงินของท่านน่ะครับ แค่ชุดเลอะเธอก็คงรู้สึกแย่มากแล้ว ยังต้องมาเจอคนไม่ยอมใครแบบท่านด้วย เลยทำให้อารมณ์เสียไปอีก แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บมั้ยครับ”
“ไม่มี แค่สภาพเละดูไม่ได้ด้วยกันทั้งคู่ แต่ร้านเขานะสิ พื้นเลอะไปหมด”
“ไปล้างตัวก่อนเถอะครับ ผมจะเตรียมชุดใหม่ให้สิบโมง เรามีคุยสรุปแบบโครงการบ้านเดี่ยวที่จะสร้างที่สมุทรสาครครับ”
“อืม” ว่าแล้วเขาก็ไปจัดการกับตัวเองให้พร้อมสำหรับการประชุมในวันนี้
ญารินหญิงสาวผู้มีความฝันอยากมีพื้นที่เปิดนิทรรศการแสดงผลงานเซรามิกของตนเอง เธอมีบ้านที่อยากได้มากที่สุดและใช้เวลาขอเช่าพื้นที่กับเจ้าของบ้านนานนับปีกว่าเจ้าของจะยอมปล่อยให้เช่า ทว่าวันที่นัดเซ็นสัญญาเช่า กับเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ไปเซ็นสัญญาไม่ทัน โดยเขาเตชินทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของห้างดัง ที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพื่อรอเวลานัดเซ็นสัญญาครั้งใหม่ ในอีกหกเดือนข้างหน้า ญารินจำเป็นต้องเช่าพื้นที่ชั่วคราวไปก่อน โดยมารู้ทีหลังว่าเป็นห้างของเขา จึงจะขอยกเลิกสัญญาแต่ชายหนุ่มไม่ยอม ขู่ว่าหากยกเลิกสัญญาต้องจ่ายค่าปรับ แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมาเสียเงินให้กับเขาฟรีๆ จึงจำใจต้องทนอยู่ให้ครบสัญญา แต่การมาเปิดหน้าร้านที่ห้างของเขาไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ญารินทั้งโกรธและไม่ชอบขี้หน้าเตชินเอามากๆ แต่ชายหนุ่มก็ชอบเอาหน้าหล่อๆมาให้เห็นบ่อยๆ มิหนำซ้ำยังตามตื๊อเธอไม่เลิก แล้วโชคชะตายิ่งทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งสอง
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้