เพียงเพราะคำสบประมาทของหลานชายตัวแสบ ทำให้เขาต้องลดตัวมาจีบเลขามนุษย์ป้า จากเลขาหน้าห้องกลายเป็นแฟนสุดรักของเขา โดยมีหลานชายตัวแสบเป็นผู้ช่วยสำคัญ ------------------------------- กูต้องการเลขาไม่ใช่ยัยป้าที่ไหนก็ไม่รู้ ป้าแล้วไง หนักหัวส่วนไหนของคุณ
เพียงเพราะคำสบประมาทของหลานชายตัวแสบ ทำให้เขาต้องลดตัวมาจีบเลขามนุษย์ป้า จากเลขาหน้าห้องกลายเป็นแฟนสุดรักของเขา โดยมีหลานชายตัวแสบเป็นผู้ช่วยสำคัญ ------------------------------- กูต้องการเลขาไม่ใช่ยัยป้าที่ไหนก็ไม่รู้ ป้าแล้วไง หนักหัวส่วนไหนของคุณ
“จัดการหาเลขาคนใหม่มาให้ฉันด้วยนะ ไม่เอาแบบคนเก่านะ” เพลิงพิษเอ่ยสั่งขึ้นเมื่อลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาเอาเอกสารสำหรับประชุม ซึ่งรับหน้าที่เป็นเลขาชั่วคราวแทนคนเก่าที่เขาเพิ่งไล่ออกเมื่อวันก่อน เจ้าหล่อนไม่ใช่เพียงแค่อ่อยและยั่วเขาเท่านั้น ยังขยันสร้างเรื่องไม่เว้นแต่ละวัน เอาชื่อเขาไปข่มขู่คนอื่นอีก จนต้องเล่นยาแรง ยื่นใบลาออกให้เซ็นแบบโดยดี ถ้าหากไม่ยอม เขาก็จะสั่งให้ทุกบริษัทไม่ต้องรับเจ้าหล่อนทำงานและไม่มีที่ยืนในสังคม
เลขาแต่ละคนที่รับเข้ามา ไม่ได้เรื่องเลยสักคน
ไม่อ่อยเขา ก็อ่อยลูกน้อง หรือไม่ก็พนักงานในบริษัทนี่แหละ งานการก็ทำไม่เรียบร้อย จนเขาต้องจัดการเองทั้งหมด
“ครับ” ลูกน้องคนสนิทรับคำสั่ง พลางหมุนตัวเดินออกจากห้องแล้วไปยังฝ่ายบุคคลทันที เพื่อเร่งให้หาเลขาคนใหม่ให้เจ้านาย ก่อนที่ระเบิดชุดใหญ่จะลง
-------------
“แม่จ๋า... วันนี้หนูจะไปสัมภาษณ์งานเป็นเลขาของบริษัท xxx นะแม่” หญิงสาวเจ้าของเสียงนามว่า ‘ภารดา’ บอกกับมารดาขึ้น เมื่อเธอได้รับเมลตอบกลับจากบริษัทที่ส่งประวัติไปสมัครงานในตำแหน่งเลขา ทำให้เธอตื่นเต้นจนรีบตื่นแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวไปสัมภาษณ์โดยที่ยังไม่ได้บอกให้พ่อกับแม่รู้
“จะดีเหรอลูก นั้นบริษัทของมาเฟียเลยนะ” มารดาของภารดาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เมื่อลูกสาวคนเดียวของหล่อนบอกว่าจะไปสัมภาษณ์งานในบริษัทของมาเฟียทำเอาหล่อนรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา กลัวว่าบุตรสาวจะได้รับอันตราย แถมลูกสาวของหล่อนก็แทบไม่สู้คนด้วยซ้ำ
“ดีสิคะแม่ เงินเดือนก็ดี สวัสดิการก็เพียบ โบนัสก้อนโตด้วย จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไงล่ะคะแม่” ภารดากล่าวเมื่อนึกถึงผลตอบแทนที่ได้รับสูงกว่าตำแหน่งอื่น ๆ จนทำให้เธอไม่อาจที่จะพลาดโอกาสนี้ไปได้ และยังช่วยให้พ่อแม่ของเธอไม่ต้องทำงานหนักอีกด้วย จะได้มีเวลาพักผ่อน
“คิดดีแล้วใช่ไหมลูก แม่ไม่อยากให้หนูทำงานหนักสักเท่าไร กลัวว่าจะไม่ได้พักผ่อนเอา” ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ไม่คิดมากสิจ๊ะแม่ หนูทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อกับแม่สบาย ถ้าทำให้แม่กับพ่อไม่ต้องเหนื่อย หนูถือว่าคุ้มมากเลยค่ะ” เนื่องจากท่านทั้งสองก็สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงด้วย ไม่อยากให้ทำขนมขายแบบนี้ทุกวัน เธออยากให้พวกท่านพักบ้าง เรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านเธอจะเป็นคนจัดการเอง ถ้าหากได้งานนี้จะได้มีเงินพาพวกท่านไปเที่ยวพักผ่อนกัน
“แม่สงสารเอ็งเหลือเกินเลยภาที่ต้องมาลำบากแบบนี้” มือบางลูบศีรษะลูกสาวอย่างแผ่วเบา ภารดาเป็นเด็กดีมาตลอด เรียนก็เก่ง ขยันหาออร์เดอร์ขนมมาให้ สำหรับหล่อนแล้วคนเป็นแม่ย่อมมักเป็นห่วงลูกเสมอ ยิ่งรู้ว่าไปสมัครงานกับบริษัทของมาเฟียแล้วด้วย... ความเป็นห่วงมากเพิ่มทวีคูณ ไม่อยากให้ลูกต้องไปพบเจอกับอันตราย
“หนูไม่ลำบากเลยจ้ะแม่ หนูไปก่อนนะคะ ฝากบอกพ่อด้วย”
“โชคดีนะลูก แม่ขอให้ได้งานนะ” หล่อนกล่าว แล้วเดินไปทำขนมต่อ
ทางด้านของภารดาใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วโมงโดยเรียกแท็กซี่จากแกรบมารับถึงหน้าบ้าน วันสัมภาษณ์งานไม่มีใครอยากไปสายกันหรอก ทุกอย่างต้องผ่านไปได้ด้วยดีแม้กระทั้งตอนออกมาจากบ้าน เธอถือเคล็ดข้อสำคัญนี้มาก
บริษัท XXX
“ไม่ทราบว่ามาติดต่อเรื่องอะไรคะ” พนักงานสาวฝ่ายประชาสัมพันธ์เอ่ยถามพลางมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้า ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไร แล้วยังทำท่าทางเหม่อลอยราวจิตหลุด
“ดิฉันมาสัมภาษณ์งานค่ะ” ภารดาได้สติรีบบอกทันทีพลางส่งยิ้มให้กับอีกฝ่าย เมื่อกี้เธอกำลังตกตะลึงในความสวยของคนตรงหน้า คนอะไรช่างสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์จุติมาเกิด ทำเอาเธอละสายตาไม่ได้เลย จนเผลอแสดงความป้ำเป๋อของตัวเองออกมาจนขายขี้หน้า
“อ๋อ... เชิญตามมาทางนี้เลยค่ะ” หญิงสาวบอก แล้วเดินนำหน้าพาไปยังชั้นทำงานของท่านประธาน ซึ่งมีลูกน้องคนสนิทของท่านเป็นคนสัมภาษณ์เอง
ภารดาเดินตามอย่างรวดเร็ว เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อเรียกขวัญกำลังใจตัวเองให้มากที่สุด อีกไม่กี่วินาทีตรงหน้า เธอก็จะได้รู้แล้วตำแหน่งเลขาจะตกเป็นของเธอหรือเปล่า
เธอเหลือบตามองคนข้าง ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่กล้าจะเอ่ยปากพูดด้วย
เมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิด พนักงานประชาสัมพันธ์ก็พาเธอเดินตรงมานั่งโต๊ะทำงานของใครคนหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ตรงทางเดินหน้าห้อง โดยมีผู้ชายใบหน้าหล่อเหลากำลังนั่งอ่านเอกสารในมืออยู่
“สวัสดีค่ะคุณเอกภพ” หญิงสาวเอ่ยทักทายพลางส่งยิ้มให้
“สวัสดีครับ แล้วพาใครมาด้วย” ชายหนุ่มเงยหน้าตอบกลับ พลางหันมองผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยความสงสัยปนตกใจ
“ผู้หญิงคนนี้บอกว่ามาสัมภาษณ์งานในตำแหน่งเลขาของบอสค่ะ”
“อ๋อครับ... ขอบคุณมากครับที่เป็นธุระให้”
เสร็จหน้าที่ของตนเอง พนักงานสาวประชาสัมพันธ์เดินหันหลังไปยังลิฟต์ เพื่อกลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ
“สวัสดีค่ะ” ภารดายกมือไหว้ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเก้ ๆ กัง ๆ พลางยกมือขยับแว่นให้เข้าที่
“เชิญนั่งลงก่อนเลยครับ ผมชื่อ เอกภพ หรือเรียกว่าเอกก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มแนะนำตัว พลางมองสำรวจหญิงสาวที่จะมาสัมภาษณ์ในตำแหน่งเลขาของเจ้านายด้วยความตกใจอย่างมาก เขาขมวดคิ้วพลางมองสำรวจการแต่งกายของหญิงสาว ซึ่งไม่ต่างอะไรคุณป้าคุณยายเลยสักนิด กรอบแว่นสีดำหนาเตอะ กระโปรงตัวยาวกับคัชชูส้นสูง เสื้อสายดอกสีเหลืองอีกต่างหาก โอ้โฮ!!! มนุษย์ป้าของแท้เลย ซึ่งสวนทางกับอายุของหญิงสาวมาก
เขาสะบัดศีรษะเบา ๆ เพื่อมองชัด ๆ อีกรอบว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้ตาฝาดหรือตาลายไปใช่ไหม หญิงสาวอายุเพียงแค่ 24 ปีเท่านั้น
ก็ยังวัยรุ่นอยู่เลย ทำไมถึงได้แต่งตัวแบบนี้...
หรือว่ารสนิยมของคนเราไม่เหมือนกัน
“ฉันคือ ภารดา ชื่อเล่นชื่อว่า ภา ค่ะ” เธอแนะนำตัวกับชายหนุ่มตรงหน้า พลางส่งยิ้มเพื่อเป็นการผูกมิตร
“คุณรู้หรือเปล่าครับว่าจะมาทำงานให้กับใคร”
“รู้สิคะ ทำไมเหรอคะ” ถามกลับด้วยความสงสัย ทำงานกับมาเฟียแล้วไง ก็แค่เป็นเลขา ไม่ต้องออกไปสู้รบกับใคร
“เปล่าครับ ผมแค่กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาอีกรอบ” เอกภพยิ้มออกมาเล็กน้อยกับความใสซื่อของหญิงสาว
“มีปัญหายังไงเหรอคะ ภาต้องวิ่งหลบหนีกระสุนหรือว่าต้องเรียนการต่อสู้ไว้ เวลาเกิดเรื่องขึ้นมาจะได้เอาตัวรอดได้” เธอบอกไปตามที่คิด เธอไม่เคยทำงานกับมาเฟียเลยไม่รู้ว่าต้องรับมือยังไง แต่ถ้าให้เธอจัดการผู้ชายหลาย ๆ คน เธอไม่เอาด้วยหรอกนะ เธอสู้ไม่ไหว จะให้วิ่งหลบหนีกระสุน เธอก็ไม่เอาด้วย ยิ่งวิ่งไม่เร็วเหมือนชาวบ้านชาวช่อง กลัวโดนยิงตายก่อนนะสิ
“ไม่ใช่ครับ เลขาคนก่อนทำเรื่องเอาไว้เยอะเลย แต่ผมคิดว่าคนอย่างคุณภาไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้ปวดหัวแน่นอน” เขายอมใจกับความคิดของผู้หญิงคนนี้เลยจริง ๆ คิดไปไกลยันสามโลก จนเขาถึงกับเหวออ้าปากค้าง
“ผู้หญิงเฉิ่ม ๆ อย่างภาจะไปทำอะไรได้คะ ภาน่ะไม่สนใจอะไรหรอกค่ะ ขอแค่มีงานทำก็พอแล้ว”
ทุกวันนี้มีข้าวให้กิน มีงานให้ทำ มีที่ซุกหัวนอน พ่อแม่อยู่สบาย เธอก็หมดห่วงแล้ว ใครจะบ้าบอหาเรื่องใส่ตัวเองล่ะ ยิ่งทำงานกับมาเฟียด้วย ต้องรักษาชีวิตเอาไว้ดี ๆ เกิดทำอะไรไม่ถูกใจขึ้นมา เดี๋ยวจะโดนสั่งเก็บเอาได้ เธอกลัวตาย
“สมมุติว่าถ้ามีใครมาด่าคุณภาหรือจะทำร้าย คุณภาพร้อมสู้กลับไหมครับ” อันนี้เป็นคำถามสำคัญเลยก็ว่าได้ เขาต้องถามทุกครั้งเวลามีการสัมภาษณ์เลขาและส่วนใหญ่ก็ทำได้
“นิดหน่อยค่ะ ทำไมเหรอคะ” เธอเอียงคอเล็กน้อยถามด้วยความสงสัย
“ท่านประธานมีผู้หญิงมากมายเข้ามาพัวพัน ไม่ว่าจะเป็นนางแบบ ลูกคุณหนู คุณภารับมือไหวไหมครับ” เสียงทุ้มบอก ถ้าหากรับมือไม่ไหว เขาจะได้ให้ทดลองงานซะ 1 อาทิตย์ แล้วค่อยมาพิจารณาดูใหม่ว่าสมควรรับไว้ทำงานดีหรือเปล่า เพราะเลขาของเจ้านายเขาต้องสู้รบตบมือกับพวกผู้หญิงซะส่วนมาก ถ้าหากอ่อนแอไม่สู้คน ก็จะโดนผู้หญิงเหล่านั้นเล่นงานคืนเอาได้
“ไหวค่ะ แค่นี้สบายมากอยู่แล้ว” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แต่ลึก ๆ ก็อดกังวลไม่น้อย เธอไม่ค่อยตบหรือทะเลาะกับใครเลย กลัวว่าจะแพ้อีกฝ่ายได้ แต่เงินเดือนในตำแหน่งเลขาสูงลิบลิ่วขนาดนี้ คนอย่างภารดาพร้อมรับมือทุกรูปแบบ ต่อยมาต่อยกลับ ไม่ยอมให้ทำฝ่ายเดียวหรอกนะ!
“งั้นผมรับคุณภาเข้าทำงานครับ ส่วนเรื่องเงินเดือน บริษัทจ่ายให้เดือนละสองแสนบาท ไม่รวมสวัสดิการ โบนัส เบี้ยขยันและอีกสารพัด ถ้าหากคุณทำงานดี”
“สองแสน!!!! คุณไม่ได้ล้อภาเล่นใช่ไหมคะ” ร้องออกมาดังลั่นด้วยความตกใจกับจำนวนเงินที่ได้รับ เล่นเอาเธอแทบเป็นลมล้มพับไปเลย
เงินเดือนขนาดนี้ ยังไม่รวมค่าต่าง ๆ อีก ไม่ต่ำกว่าสามแสนแน่ เธอสามารถเปิดร้านขนมให้พ่อกับแม่ได้เลยนะเนี่ย
“พูดจริงครับ เงินเดือนคุณภาสองแสนบาท” เขาอยากจะหัวเราะออกมากับท่าทางของหญิงสาวเมื่อกี้
“ภาจะเป็นลม ไม่คิดว่าเงินเดือนจะเยอะขนาดนี้ ตอนแรกในประกาศบอกว่าห้าหมื่นถึงหนึ่งแสน” มือบางล้วงยาหอมขึ้นมาสูดดมเข้าปอดลึก ๆ กลัวว่าจะเป็นลมเอาจริง ๆ
“แค่คุณภาทำงานของตัวเองให้ดีและจัดการพวกผู้หญิงของบอสได้ ผมถือว่าเงินเดือนแค่นี้ยังน้อยไปเลยครับ” เขาเชื่อมั่นเลยว่าหญิงสาวตรงหน้าจะจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยกว่าเลขาคนเก่า ๆ ที่ผ่านมา เพราะเขาเห็นถึงความตั้งใจในแววตาคู่นั้นและที่สำคัญเธอไม่มีทางอ่อยเจ้านายเขา รับประกันฟังธง!
“คุณเอกเชื่อในฝีมือภาได้เลยค่ะ ไม่มีวันผิดหวังแน่นอน แล้วจะให้ภาเริ่มทำงานได้วันไหนคะ”
“วันพรุ่งนี้เลยครับ วันนี้คุณภากลับไปพักผ่อนแล้วเตรียมตัวรับมือกับงานดีกว่านะครับ รับรองได้เลยว่าปวดหัวเข้าขั้นสมองระเบิด”
เพราะว่าพรุ่งนี้จะมีคู่ขาของบอสและพวกลูกคุณหนูหลายคนแวะเวียนมาหา อยากให้หญิงสาวได้กลับไปเตรียมอกเตรียมใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะได้ตั้งรับไว้ถูก
“งั้นภาขอตัวก่อนแล้วกันนะคะ สวัสดีค่ะ เอ่อ! ลืมบอกไปเลยค่ะว่าพ่อกับแม่ของภาขายขนมไทย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะหิ้วมาฝากนะคะ” หญิงสาวยกมือไหว้ลาชายหนุ่มอีกครั้งแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างมีความสุขเมื่อได้งานทำเรียบร้อย โดยไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้ต้องรับมือกับศึกหนักอันใหญ่หลวงตรงหน้าชนิดที่ว่า ยาพาราร้อยเม็ดก็เอาไม่อยู่
ช่วงบ่าย
“แม่จ๋า หนูกลับมาแล้ววว” เสียงหวานตะโกนลั่นบ้าน สองมือถือของใช้ส่วนตัวที่เพิ่งซื้อมาจากห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน
“เป็นยังไงบ้างนังหนู เอ็งได้งานหรือเปล่า” เสียงของบิดาเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่ภรรยาเดินมาบอกว่าลูกสาวไปสัมภาษณ์งานในตำแหน่งเลขาของมาเฟีย ทำให้เขาค่อนข้างเป็นห่วงและกังวลเล็กน้อย
“พ่อคิดว่ายังไงล่ะ” วางของลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงข้างท่าน
“ได้อยู่แล้ว ลูกสาวพ่อเก่งจะตาย” บอกเลยว่าเรื่องอวยลูกเนี่ย เขามาที่หนึ่งเลย ชมลูกให้เพื่อนบ้าน เพื่อนฝูงฟังไม่หยุดปาก
“ตามนั้นเลยค่ะพ่อ หนูได้งานแล้ว และรู้ไหมคะว่าเงินเดือนเท่าไร”
“ไม่รู้...” ส่ายหัวพลางมองหน้าลูกสาวอย่างรอคำตอบ
“สองแสนบาทค่ะ”
“สองแสนบาท เอ็งไม่ได้ล้อพ่อกับแม่เล่นใช่ไหมนังหนู”
ทั้งเขาและภรรยาต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ พลางหันมองหน้ากันสลับมองหน้าลูกสาว จำนวนเงินเมื่อกี้ เขาได้ยินไม่ผิดแน่นอน ทำไมมันช่างมากมายขนาดนี้
“ใช่จ้ะ เงินเดือนหนูสองแสนบาท”
“แม่ไม่เคยเห็นใครได้เงินเดือนเยอะขนาดนี้มาก่อน เอ็งต้องตั้งใจทำงานให้ดี ๆ ละ รู้ไหม เจ้านายจะได้รักและเอ็นดูมาก ๆ” ไม่ลืมย้ำกำชับหนักแน่น
การได้ค่าตอบแทนมาก นั้นหมายความว่าลูกสาวเขาต้องมีคุณสมบัติมากพอที่ทางบริษัทยอมจ่าย
“จ้ะแม่ เงินเดือนก็ดี สวัสดิการก็เพียบ ใครปล่อยให้หลุดมือก็บ้าแล้ว หนูจะพยายามทำอย่างเต็มที่ จะได้มีเงินมาเปิดร้านให้พ่อกับแม่ไงจ๊ะ”
“ไม่ต้องเลย... แค่นี้ก็เหนื่อยพอแล้ว แค่เอ็งมีงานทำ พ่อกับแม่ก็สบายใจ”
“จ้า แต่ว่าตอนนี้มีอะไรให้กินบ้างจ๊ะ หิวมากเลย”
“ไปดูในตู้กับข้าวเลย แม่ทำของโปรดไว้ กินเสร็จจะได้มาช่วยแม่ทำขนมต่อ”
“รับทราบค่ะแม่” เธอยิ้มแล้วลุกจากเก้าอี้ หยิบถุงของใช้ส่วนตัวเดินขึ้นห้องนอนเพื่ออาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวให้สดชื่น แล้วค่อยมาลงกินข้าวและช่วยมารดาทำขนมให้เสร็จ ก่อนถึงเวลาจัดส่งให้ลูกค้า
เนื้อหาดำเนินด้วยเซ็กซ์เป็นหลัก “ไม่มีทางหรอกครับ หัวใจของผมยกให้คุณหนูเพียงคนเดียว สัญญาเลยครับว่า ต่อให้ผู้หญิงมาอ่อยมายั่วอยู่ตรงหน้าผมก็ไม่รู้สึก”เขารับปากด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คนอย่างเขาถ้าจะรักใคร ก็รักจริง และไม่มีนอกลู่นอกจากหาเศษหาเลยจากหญิงคนอื่นอีกนอกจากคนรักของตัวเอง “ตกลงแล้วสถานะของเราสองคนอะไรในตอนนี้”เธอยิงคำถามใส่เขาต่อพร้อมกับลุ้นคำตอบไปด้วย “แฟนสิครับ พอคุณหนูเรียนจบก็เลื่อนมาเป็นภรรยาของผม”บอกด้วยน้ำเสียงจริงใจพร้อมกับจูบซับไหล่บางสองข้างด้วยความรัก
แต่งงานกับผมนะคลาร่า” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าเสื้อ นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวคนรักตรงหน้าอย่างรอคำตอบด้วยความตื่นเต้น เขานัดเธอขึ้นมาบนดาดฟ้าของบริษัทเพื่อขอแต่งงานในวันนี้ โดยแสร้งทำเป็นว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้ใจเขาเต้นตึกตักมากอย่างบอกไม่ถูก เขาเฝ้ารอเวลานี้มานานแล้ว ถึงเวลาที่เขากับเธอจะได้สร้างชีวิตด้วยกันซะที “คลาร่าแต่งงานกับคุณไม่ได้จริงๆ ค่ะณอน” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ เธอก้มหน้าลงไม่กล้าสบสายตาเขา เธอได้ปฏิเสธสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการมากที่สุด “ทำไมล่ะครับ” เขาถามขึ้นด้วยความสงสัย ทำไมกัน??? เธอถึงได้ปฏิเสธเขาทั้งๆ ที่เราสองคนได้คุยตกลงกันเรื่องนี้ไว้แล้วว่า จะแต่งงานกันหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ และตอนนี้เขาก็พร้อมหมดทุกอย่างแล้วเหลือเพียงแค่ขอแต่งงานเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเพิ่งโดนปฏิเสธคำขอแต่งงานไปอย่างไม่รู้สาเหตุอะไร “ณอน ฟังคลาร่าดีๆ นะคะ เราเลิกกันเถอะ! ”
ความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็นความเกลียดชัง ความเข้าใจผิด ทำให้เกิด อีกหนึ่งชีวิตขึ้นมา ---------------------------------------------------- อีกคนหนึ่งรัก อีกคนหนึ่งเกลียด ครอบครัวที่แสนสุข หรือ ครอบครัวที่ไร้รัก ----------------------------------------------------- คนโง่ ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด โมโหแบบไม่ลืมหูลืมตา เกือบจะฆ่าอีกสองชีวิต ----------------------------------------------------- ความรัก มากแค่ไหน เจ็บมากแค่นั้น ผ้าขาวที่แสบบริสุทธิ์ คือ 1 สายใยผูกพันธ์ของสองดวงใจ 4 ปี ของคำว่า ครอบครัว 4 ปี ของคำว่า เจ็บปวด
ความรักถูกตอบแทนด้วยการหักหลัง... ผู้หญิงที่เขารักทรยศด้วยการคบชู้... มันคงไม่มีอะไรที่น่าสมเพชไปมากกว่านี้อีกแล้ว... ร่างบางนั่งลงตรงหน้าสามีเมื่อคนใช้เรียกเธอมาพบเขาที่ห้องรับแขก พลางมองชายหนุ่มที่ไม่ยอมพูดคุยกับเธอเลยตั้งแต่เข้ามานั่ง และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะกลายเป็นอดีตสามี เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกั้นอารมณ์ไว้ไม่ให้เผยด้านอ่อนแอออกมา
ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...
เคลวิน แม็คคลาเรน ถูกคู่หมั้นหักหน้าด้วยการประกาศแต่งงานกับชายคนอื่น ด้วยความคั่งแค้นที่ถูกหยามหน้า ทำให้เขาว่าจ้างเด็กสาววัยกำดัดที่ตนเองอุปการะเอาไว้มาแต่งงานด้วย เพื่อเอาคืนคนเคยรักให้กระอักเลือด เพราะบุญคุณล้นหัว ทำให้เฌอปรางต้องยอมลงชื่อในสัญญาจ้างแต่งงาน แทนที่ผู้หญิงคนนั้นที่เขารักมาก "เธออ่านสัญญาละเอียดหรือยัง" "หนูอ่านละเอียดแล้วค่ะ" "ถ้าอ่านละเอียดแล้ว เธอคงรู้ข้อห้ามทั้งสามข้อที่เธอต้องทำให้ได้แล้วใช่ไหม" "ค่ะ หนูทราบแล้วค่ะ" "งั้นลองบอกฉันมาสิ ว่าข้อห้ามมีอะไรบ้าง" หล่อนช้อนตาขึ้นมองผู้มีพระคุณด้วยสายตาที่ซ่อนความเศร้าเอาไว้แทบไม่มิด "ข้อแรก หนูไม่มีสิทธิ์ในตัวของคุณค่ะ" "ถูกต้อง" เขายิ้มอย่างพอใจ "แล้วข้อสองล่ะ" หล่อนกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก "ห้ามรักคุณค่ะ" เขายิ้มอย่างพอใจอีกแล้ว "แล้วข้อสามล่ะ" "ห้าม... เอ่อ... ห้ามปล่อยให้ท้องค่ะ เพราะถ้าท้อง คุณจะไม่รับผิดชอบ" "ถูกต้อง และฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด" หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากฝืนยิ้มออกไป "แล้วถ้าครบสัญญาหกเดือนแล้ว เอ่อ... หนูต้องไปจากที่นี่ไหมคะ" "ฉันคิดว่ามันจะดีสำหรับเรา หากไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก หรือเธอคิดว่าไง" ท่าทางของเขาเย็นชา ไร้หัวใจ ทำราวกับกำลังเจรจาธุรกิจไม่มีผิด "เอ่อ หนูแล้วแต่คุณค่ะ" เธอทำได้แค่ฝืนยิ้ม ซ่อนน้ำตา ให้กับผู้ชายที่ตรเองทั้งรักทั้งบูชาเท่านั้น แต่ใครจะรู้เล่าว่า เมื่อสัญญาจบสิ้นลง เธอได้เดินจากไปพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เธอเฉิ่ม เธอเชย และเธอเป็นเลขาของเขา หน้าที่ของเธอคือเลขาหน้าห้อง แต่หลังจากความผิดพลาดในค่ำคืนนั้นเกิดขึ้น สถานะของเธอก็เปลี่ยนไปจากเดิม จากเลขาหน้าห้อง กลับกลายเป็นเลขาบนเตียงแทน... “เวลาทำงาน คุณก็เป็นเลขาหน้าห้องของผม แต่ถ้าผมเหงา คุณก็ต้องทำหน้าที่เลขาบนเตียง...” “บอส...?!” “ผมรู้ว่าคุณตกใจ ผมเองก็ตกใจเหมือนกันกับสถานะของพวกเรา แต่มันเกิดขึ้นแล้ว จะทำยังไงได้ล่ะ” “บอสคะ...” หล่อนขยับตัวพยายามจะออกจากอ้อมแขนของเขา แต่ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อย “ว่าไงครับ” “แก้ว... แก้วว่าให้แก้วทำเหมือนเดิมดีกว่าค่ะ หรือไม่ก็ให้แก้วลาออกไป...” “ผมให้คุณลาออกไม่ได้หรอก คุณเป็นเลขาที่รู้ใจผมที่สุด อย่าลืมสิแก้ว” “แต่แก้ว...” หล่อนอยู่ในฐานะนางบำเรอของเขาไม่ได้ หล่อนทะเยอทะยานต้องการมากกว่านั้น แต่ก็รู้ดีว่าไม่มีวันจะได้สิ่งที่หวังมาครอบครอง “ทำตามที่ผมบอก ไม่มีอะไรยากเย็นเลย”
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด