แต่งงานกับผมนะคลาร่า” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าเสื้อ นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวคนรักตรงหน้าอย่างรอคำตอบด้วยความตื่นเต้น เขานัดเธอขึ้นมาบนดาดฟ้าของบริษัทเพื่อขอแต่งงานในวันนี้ โดยแสร้งทำเป็นว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ตอนนี้ใจเขาเต้นตึกตักมากอย่างบอกไม่ถูก เขาเฝ้ารอเวลานี้มานานแล้ว ถึงเวลาที่เขากับเธอจะได้สร้างชีวิตด้วยกันซะที “คลาร่าแต่งงานกับคุณไม่ได้จริงๆ ค่ะณอน” น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆ เธอก้มหน้าลงไม่กล้าสบสายตาเขา เธอได้ปฏิเสธสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการมากที่สุด “ทำไมล่ะครับ” เขาถามขึ้นด้วยความสงสัย ทำไมกัน??? เธอถึงได้ปฏิเสธเขาทั้งๆ ที่เราสองคนได้คุยตกลงกันเรื่องนี้ไว้แล้วว่า จะแต่งงานกันหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ และตอนนี้เขาก็พร้อมหมดทุกอย่างแล้วเหลือเพียงแค่ขอแต่งงานเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาเพิ่งโดนปฏิเสธคำขอแต่งงานไปอย่างไม่รู้สาเหตุอะไร “ณอน ฟังคลาร่าดีๆ นะคะ เราเลิกกันเถอะ! ”
“แต่งงานกับผมนะคลาร่า” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบแหวนขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อ นัยน์ตาคมจ้องมองหญิงสาวคนรักตรงหน้าอย่างรอคำตอบด้วยความตื่นเต้น เขานัดเธอขึ้นมาบนด่านฟ้าของบริษัทเพื่อขอแต่งงานในวันนี้ โดยแสร้งทำเป็นว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เขาเตรียมการแบบลับๆ เอาไว้ล่วงหน้าก่อน 1 อาทิตย์
“คลาร่าแต่งงานกับคุณไม่ได้จริงๆ ค่ะณอน” น้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบเอ่ยอย่างช้าๆ ไม่กล้าแม้จะสบสายตามองชายหนุ่มคนรักตรงหน้า แม้ว่าลึกๆ จะตื่นเต้นและดีจากแค่ไหน ทว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเขา ไม่สามารถไปกันได้มากกว่านี้ เธอพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาเพื่อทำตัวให้เป็นปรกติมากที่สุด
“ทำไมล่ะครับ” เขาถามด้วยความสงสัย เพราะเหตุผลอะไรทำไมเธอถึงได้ปฏิเสธเขา ทั้งที่เราสองคนได้ตกลงคุยกันไว้เนิ่นๆ แล้วว่าจะแต่งงานหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ และตอนนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อย ช่วงเวลานี้แหละเหมาะสมที่เขาจะขอคลาร่าแต่งงาน
“ณอน ฟังคลาร่าดีๆ นะ เราเลิกกันเถอะ!”
สิ้นเสียงของหญิงสาวแหวนเพชร 11 กะรัต ร่วงล้นบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง คำพูดตัดความสัมพันธ์ของเราสองคนเธอเอ่ยกล่าวในตอนที่เขาขอเธอแต่งงาน เขาทรุดเข่าสองข้างลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง แหงนมองหน้าคลาร่าด้วยความสับสนมึนงง ทว่าสีหน้าของเธอกลับเรียบเฉยไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เอ่ยออกมาหรือแม้กระทั้งตอนที่เขาขอแต่งงานด้วยก็ตาม
“คุณล้อเล่นผมหรือเปล่าคลาร่า ผมทำให้คุณไม่พอใจหรืออึดอัดตรงไหน บอกผมสิ ผมจะได้แก้ไขตัวเอง ก่อนหน้านี้เราสองคนก็รักกันดี เพิ่งจะไปดินเนอร์ด้วย แล้วทำไมจู่ๆ คุณถึงได้มาบอกเลิกผมแบบนี้” เขาถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ พยายามระงับอารมณ์สับสนของตัวเองให้คงที เขาคิดทบทวนเรื่องราวที่มา ไม่มีเลยสักครั้งที่ทำให้หญิงเสียใจ เขารักและทนุถนอมเธอมากให้เกียรติเธอทุกอย่างประกาศให้คนในสังคมรับรู้ว่า เธอคือคนรักของเขา แล้วทำไมในวันที่เขามีความสุข เธอกลับเอ่ยคำพูดที่กระชากหัวใจของเขาออกมา
“คุณเป็นผู้ชายที่ดีค่ะณอน เป็นแฟนที่ดีกับคลาร่าเสมอมา แต่.... คุณควรไปเจอคนที่ดีกว่าคลาร่า ผู้หญิงคนนี้ไม่มีค่ามากพอที่จะคู่ควรเป็นเจ้าสาวของคุณ” เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แม้ว่าภายนอกเธอจะทำเป็นเฉยชาราวกับไม่รู้สึกอะไร ทว่าภายในใจเธอก็เจ็บปวดร้าวรานไม่ต่างอะไรกับเขา เธออยากตอบตกลงแต่งงานกับเขาใจจะขาด ทว่า.... เธอทำไม่ได้ เธอไม่อาจเห็นเขาต้องตกเป็นเหยื่อของบิดาอีกต่อไป
เธอรักเขามาก มากจนไม่อยากเห็นเขาเสียใจตอนรู้ความจริงว่าเรื่องทั้งหมด คือแผนการของบิดา โดยส่งเธอมาเป็นตัวการเชื่อมต่อให้โครงสำเร็จ เธอไม่อยากเป็นเครื่องมือของใครอีก และไม่อยากให้ณอนต้องผิดหวังไปมากกว่า ที่ผ่านมาเธอก็โทษตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับสิ่งที่กระทำลงไป
“ผมไม่ยอม! ผมไม่มีวันเลิกกับคุณเด็ดขาด!!!” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังลั่นโวยวายอย่างไม่ยอมรับกับคำพูดตัดความสัมพันธ์ของหญิงสาว เขามองว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เขากับเธอจะต้องมาเลิกกันเพียงเพื่อเพราะเหตุผลไร้สาระเช่นนี้
ให้เขาไปหาคนที่ดีกว่า ในเมื่อผู้หญิงที่ดีและเหมาะสมสำหรับเขาคือ เธอ เท่านั่น
“มันไม่มีประโชชน์อะไรที่คุณจะต้องคัดค้าน เพราะว่าพรุ่งนี้คลาร่าจะบินไปอยู่อเมริกา” เธอพูดขึ้นอย่างไร้เยื่อใยเพื่อให้เขายอมรับความจริงทั้งหมด ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดเจียนตายก็ตาม ซึ่งเธอก็ไม่ต่างกับเขาเลยสักนิด
“คลาร่า....” ณอนมองหน้าหญิงสาวคนรักด้วยความไม่เข้าใจ มีคำถามมากมายหลายพันคำที่อยากจะถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ว่าเพราะอะไรกัน เขาไม่สามารถยอมรับคำบอกเลิกของเธอได้หรอกนะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด.... ทำไมต้องมาพบเจอกับความเสียใจเช่นนี้ด้วย
“ณอน... คลาร่าขอโทษ” เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอหันหลังให้กับเขาไม่อยากให้เห็นหยาดน้ำตาที่ไหลออกมา
“ทำไมคุณถึงได้ทำกับผมแบบนี้ ผมผิดตรงไหน ไม่ดีตรงไหนเหรอ ทำไมคุณต้องมาทำร้ายหัวใจของผมแบบนี้ด้วย แล้วที่ผ่านมามันคืออะไรกัน”
“ลืมเรื่องราวของเราสองคนทั้งหมดเถอะค่ะณอน เส้นทางของเราสองคนไม่มีวันมาบรรจบกันได้ ยิ่งฝืนเราสองคนก็ยิ่งเจ็บปวด แค่นี้คลาร่าก็รู้สึกผิดต่อคุณมากพอแล้ว ไม่อยากให้คุณต้องมาเสียใจในภายหลังอีก”
“มะ... หมายความว่ายังไง” เขาลุกขึ้นยืนมองแผ่นหลังบางด้วยความงุนงง
“เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่แผนการเท่านั่น คลาร่าทำทุกอย่างเพื่อให้บริษัทของเราสองคนร่วมลงทุนกัน คลาร่ารู้ว่ามันผิดที่ไปล้อเล่นกับความรู้สึกของคุณ ซึ่งคลาร่าเองก็ไม่ได้อยากจะทำเลยสักนิด ตอนนี้ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ถึงเวลาที่คลาร่าต้องบอกความจริงกับคุณ ก่อนที่คุณจะรู้ด้วยตัวเอง”เธอกล่าวพลางกลืนก้อนสะอื้นลงคอ
“แผนการงั้นเหรอ... แล้วที่คุณบอกรักผม ให้ผมเป็นคนแรกของคุณ ก็คือแผนการทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ” เขาถามด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด
“ใช่ค่ะ คลาร่าทำไปเพื่อบริษัทเท่านั้น เพื่อผลประโยชน์ทั้งหมด”
“หึ! เพื่อแค่โครงการเดียว คุณถึงต้องยอมเอาตัวเข้าแลกเลยเหรอ คุณเห็นผมเป็นคนโง่มากหรือไง ถึงได้มาหลอกใช้กันแบบนี้ ผมไม่น่ามอบความรักอันแสนบริสุทธิ์ให้กับผู้หญิงอย่างคุณ เคยนึกถึงตลอดที่เราสองคนมีความสุขกันบ้างมั้ย อยู่กับผมคุณมีความสุขหรือต้องฝืนทนกับความรู้สึกตัวเอง”
“คลาร่าขอโทษ... ทั้งหมดที่ทำลงไปคลาร่ามีความจำเป็น ไม่ได้ตั้งใจจะมาหลอกคุณ คลาร่าเองก็รู้สึกเสียใจไม่ต่างกับคุณหรอก”
“ไม่ได้ตั้งอย่างงั้นเหรอ.... คุณลองมองดูผมตอนนี้นะ! ว่ามีสภาพยังไง! คุณบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ทนคบหากับผมมาเกือบสองปี แล้วตอนนี้ก็มาบอกเลิกอย่างไร้เยื่อใย ทำไมคุณถึงไม่ปฏิเสธในวันที่ผมขอเป็นแฟน ทำไมต้องตอบตกลงด้วย!!! บอกผมมา!!” เขาตวาดเสียงลั่นด้วยความเสียใจ ทำเลวร้ายต้องมาเกิดขึ้นกับเขาด้วย ทั้งที่ ณ ช่วงเวลานี้เขาควรมีความสุข บริษัทกำลังก้าวเติบโตไปด้วยดี ทุกอย่างราบรื่นไปหมด แต่แล้วต้องพังทลายกับความจริงที่ได้รับรู้ว่าตัวเองคือหมากในแผนการของผู้ที่เขารักและกำลังจะเปลี่ยนสถานะให้เธอมาเป็นภรรยา สร้างชีวิตครอบครัวด้วยกัน
“เพื่อให้คุณตายใจยังไงล่ะคะ ถ้าไม่ทำแบบนั้นโครงการของบริษัทของคลาร่าก็จะไม่ผ่าน คลาร่าคาดหวังกับสิ่งนี่มาก ถึงได้ยอมทำลงไปยังไงละคะ”
“หึ! ผมเข้าใจดีแล้ว คุณแค่ต้องการผลประโยชน์จากผมเท่านั้น ตอนนี้ผมกลายเป็นไอ้หน้าโง่คนหนึ่งที่โดนหญิงคนรักหลอกใช้ ยังมีอีกบ้างที่คุณไม่หลอกผม หรือว่าไม่มีเลย จูบของเรา คืนแรกของคุณ ทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์ใช่มั้ย เพียงแค่เงินไม่กี่ล้านบาทซึ่งคุณเองก็หามาได้ง่ายๆ แต่คุณกลับใจร้าย มาหลอกลวงผมแบบนี้ ผมคงโง่มากเลยสินะ เรียนจบมาจากนอก เป็นถึงประธานบริษัท แต่กลับโดนผู้หญิงตัวเล็กๆ เพียงคนเดียวหลอก หากใครรู้คงได้หัวเราะเยาะว่า ผมมันไอ้หน้าโง่!! ” เขาแค่นหัวเราะให้กับความน่าสมเพชของตัวเองที่ผ่านมา โดยไม่ได้เอ๊ะใจหรือจับผิดสังเกตได้เลยสักนิดว่ากำลังเป็นหมากในแผนการของผู้หญิงใจร้ายตรงหน้า
“คลาร่า....” เธอจุกจนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ความรู้สึกตอนนี้เจ็บปวดรวดร้าวทรมานราวกับเข็มนับพันทิ่มตำใจ คำพูดของเขาแต่ละคำยิ่งตอกย้ำความเลวของเธอมากชัดยิ่งขึ้น
“คุณไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปเราสองคนจะไม่ข้องเกี่ยวกันอีก ไม่ว่าจะในสถานะอะไรก็ตาม อย่าได้มารู้จักหรือเกี่ยวข้องกันอีกเลย ผมถือว่าทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ประสบการณ์ที่ไม่อยากจะจำของผมก็เท่านั่นขอบคุณทุกอย่างสำหรับสิ่งที่ทำให้ทั้งหมด หวังว่าหลังจากนี้ เราสองคนจะไม่ต้องมาพบเจอกันอีก คุณอยู่ในที่ของคุณ ส่วนผมก็จะอยู่ที่ของผม ที่ไหนมีคุณ ที่นั่นต้องไม่มี ผมทนมองหน้าหรือร่วมงานเดียวกับผู้หญิงใจร้ายไม่ได้หรอกนะ ลาก่อน” เขาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่อาย ให้อีกฝ่ายเห็นถึงความเจ็บปวดของเขาในตอนนี้ ผู้ชายที่แข็งแกร่ง นำพาบริษัทผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างไปได้อย่างไม่กลัวใคร กลับต้องมาฝ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงคนเดียว สุดท้ายแล้วความรักของเขาก็พังทลายลงไปพร้อมกับความจริงที่ปรากฎ ความรักของเขาไม่ต่างอะไรกับขอเล่นชิ้นนงที่พอเบื่อก็ถูกทิ้งขว้างอย่างไร้ค่า
“ได้ค่ะ คลาร่าจะทำตามที่คุณต้องการ ขอให้คุณโชคดีและพบกับคนที่เหมาะสมกับคุณ สิ่งสุดท้ายที่คลาร่าอยากจะบอกก็คือ คุณจะเป็นรักแรกและจะรักเดียวของคลาร่า ไม่ว่าคุณจะเจ็บมากแค่ไหน คลาร่าก็เจ็บไม่ต่างกับคุณ ได้โปรดขอให้คุณเข้าใจด้วยว่า ทุกอย่างที่คลาร่าทำลงไป ล้วนมีเหตุผลทั้งหมด คลาร่าไม่ได้ตั้งใจที่จะมาหลอกใช้ แล้วสักวันหนึ่งคุณจะเข้าใจและรู้เรื่องราวทั้งหมด ขอให้โชคดีนะคะที่รักของคลาร่า” พูดเสร็จเธอก็เดินหันหลังออกไปทันที โดยไม่หันกลับมามองชายหนาม ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่ รีบวิ่งลงจากด่านฟ้าเพื่อไปให้ถึงยังลานจอดรถให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ปลดปล่อยความเสียใจที่แทบจะปะทุออกมา ไม่ต้องการให้เขามาเห็น
เนื้อหาดำเนินด้วยเซ็กซ์เป็นหลัก “ไม่มีทางหรอกครับ หัวใจของผมยกให้คุณหนูเพียงคนเดียว สัญญาเลยครับว่า ต่อให้ผู้หญิงมาอ่อยมายั่วอยู่ตรงหน้าผมก็ไม่รู้สึก”เขารับปากด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คนอย่างเขาถ้าจะรักใคร ก็รักจริง และไม่มีนอกลู่นอกจากหาเศษหาเลยจากหญิงคนอื่นอีกนอกจากคนรักของตัวเอง “ตกลงแล้วสถานะของเราสองคนอะไรในตอนนี้”เธอยิงคำถามใส่เขาต่อพร้อมกับลุ้นคำตอบไปด้วย “แฟนสิครับ พอคุณหนูเรียนจบก็เลื่อนมาเป็นภรรยาของผม”บอกด้วยน้ำเสียงจริงใจพร้อมกับจูบซับไหล่บางสองข้างด้วยความรัก
เพียงเพราะคำสบประมาทของหลานชายตัวแสบ ทำให้เขาต้องลดตัวมาจีบเลขามนุษย์ป้า จากเลขาหน้าห้องกลายเป็นแฟนสุดรักของเขา โดยมีหลานชายตัวแสบเป็นผู้ช่วยสำคัญ ------------------------------- กูต้องการเลขาไม่ใช่ยัยป้าที่ไหนก็ไม่รู้ ป้าแล้วไง หนักหัวส่วนไหนของคุณ
ความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็นความเกลียดชัง ความเข้าใจผิด ทำให้เกิด อีกหนึ่งชีวิตขึ้นมา ---------------------------------------------------- อีกคนหนึ่งรัก อีกคนหนึ่งเกลียด ครอบครัวที่แสนสุข หรือ ครอบครัวที่ไร้รัก ----------------------------------------------------- คนโง่ ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาด โมโหแบบไม่ลืมหูลืมตา เกือบจะฆ่าอีกสองชีวิต ----------------------------------------------------- ความรัก มากแค่ไหน เจ็บมากแค่นั้น ผ้าขาวที่แสบบริสุทธิ์ คือ 1 สายใยผูกพันธ์ของสองดวงใจ 4 ปี ของคำว่า ครอบครัว 4 ปี ของคำว่า เจ็บปวด
ความรักถูกตอบแทนด้วยการหักหลัง... ผู้หญิงที่เขารักทรยศด้วยการคบชู้... มันคงไม่มีอะไรที่น่าสมเพชไปมากกว่านี้อีกแล้ว... ร่างบางนั่งลงตรงหน้าสามีเมื่อคนใช้เรียกเธอมาพบเขาที่ห้องรับแขก พลางมองชายหนุ่มที่ไม่ยอมพูดคุยกับเธอเลยตั้งแต่เข้ามานั่ง และอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะกลายเป็นอดีตสามี เธอพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกั้นอารมณ์ไว้ไม่ให้เผยด้านอ่อนแอออกมา
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ