"ที่รัก ฉันจะชดใช้ให้เธอด้วยทั้งชีวิตของฉัน แต่งงานใหม่กันน๊า!" หลินเอินเอิน "คุณไม่รู้สึกอายเขาบ้างเหรอที่ตามง้อฉันทุกวัน! คุณเป็นหมารึไง!" ป๋อมู่หาน "ที่รัก ฉันยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอ และเพื่อเธอคนเดียวเท่านั้น!" หลินเอินเอินหัวเราะ เธอเป็นทั้งทนายชื่อดัง หมออัจฉริยะสากล และแฮ็กเกอร์ระดับแนวหน้า ทำไมเธอต้องแต่งงานใหม่กับไอ้ผู้ชายหมาๆ นั่นละ ช่างน่าขันจริง ๆ "ไม่มีวันแต่งงานใหม่หรอก ใสหัวไปไกลๆ ซะ!"
“เพี๊ยะ!”
หนังสือข้อตกลงการหย่าฉบับหนึ่ง ถูกโยนมาอยู่ต่อหน้าหลินเอินเอิน
“พี่สาวของคุณฟื้นแล้ว ผมเคยสัญญากับเธอเอาไว้ว่า ขอเพียงแค่เธอยังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งคุณนายป๋อก็จะไม่มีทางเป็นของคนอื่นเด็ดขาด”
“หลินเอินเอิน เซ็นชื่อซะ เราหย่ากันเถอะ”
ตั้งแต่ที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอฟื้นขึ้นมาในหนึ่งเดือนนี้ หลินเอินเอินก็คาดคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นแน่ ๆ
เธอเงยหน้าขึ้น แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่นว่า “จนถึงตอนนี้แล้ว คุณยังไม่เชื่อฉันอีกเหรอ?”
ป๋อมู่หานดึงมุมปากขึ้น พลางพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยันว่า “คุณเป็นผู้หญิงที่ละโมบโลภมาก แล้วก็ขี้อิจฉาริษยามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณมีอะไรคู่ควรที่ผมจะเชื่อใจคุณอย่างนั้นเหรอ?”
“หลินเอินเอิน อย่าให้ผมต้องพูดเป็นรอบที่สอง เซ็นชื่อซะ แล้ววิลล่าหลังนี้จะเป็นของคุณ นี่ถือว่าผมรักษาหน้าคุณเป็นครั้งสุดท้าย!”
เหอะ……
หลินเอินเอินกวาดสายตามองไปด้วยความเย้ยหยัน
การที่ไม่ให้เธอหย่าออกไปโดยไม่มีอะไรติดตัวไปเลยนั้น ก็ถือว่าเขามีความเมตตาแล้วอย่างนั้นเหรอ?
เธอหยิบข้อตกลงการหย่าที่เขาโยนให้ขึ้นมา ซึ่งชื่อของเขาก็ถูกเซ็นไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลินเอินเอินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เบ้าตาของเธอร้อนผ่าวเล็กน้อย
แต่เธอก็กลับมาสงบเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว
เธอเงยหน้าขึ้นไปมองเขา “คุณย่าจะเห็นด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
“คุณคิดว่าการที่มีคุณย่าอยู่นั้น เธอก็จะสามารถให้ท้ายคุณโดยไม่มีขอบเขตอย่างนั้นเหรอ? !” ป๋อมู่หานยังคงมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชาอยู่เช่นเดิม “ทำไมเราถึงได้แต่งงานกัน เรื่องนี้คุณย่อมรู้ดีกว่าผมอยู่แล้ว หลินเอินเอิน อย่าโลภให้มันมากนักเลย มันจะทำให้ผมยิ่งเกลียดคุณเข้าไปใหญ่”
หลินเอินเอินหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “แล้วการเกลียดชังกับเกลียดชังมากกว่าเดิมนั้นมันมีอะไรที่แตกต่างกันอย่างนั้นเหรอ?”
ทันใดนั้น สีหน้าของป๋อมู่หานก็ดูดุร้ายถึงขีดสุด “หลินเอินเอิน!”
หลินเอินเอินหยิบปากกาขึ้นมา “ได้ ฉันจะเซ็นให้”
หลังจากที่ลูกพี่ลูกน้องฟื้นขึ้นมาก็ส่งรูปถ่ายที่สนิทสนมกับป๋อมู่หานมาให้เธอนับไม่ถ้วน ในเมื่อพวกเขาทั้งสองคนยังรักกันอยู่ ต่อให้เธอจะยืดยื้อให้ตายยังไง ชีวิตการแต่งงานเช่นนี้ก็คงไม่มีความหมายอะไร
หลินเอินเอินขีดฆ่าตรงวิลล่าที่เขามอบให้ แล้วก็รีบเซ็นชื่อของตัวเองลงไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้มีการยืดยื้อให้เสียเวลาเลยแม้แต่น้อย
สามปีของชีวิตการแต่งงาน ก็ได้สิ้นสุดลง ณ ตรงนี้แล้ว
นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอก็ได้รับการปลดปล่อยแล้วเช่นกัน
หลินเอินเอินยื่นหนังสือข้อตกลงการหย่าให้เขา แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยว่า “ขอเวลาให้ฉันหนึ่งชั่วโมง แล้วฉันจะเก็บของออกไปจากที่นี่”
ป๋อมู่หานขมวดคิ้ว ริมฝีปากบาง ๆ ของเขาเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง เขาจ้องมองเธอพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “วิลล่านี้ผมมอบให้คุณแล้ว คุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันคิดว่าที่ที่มีคุณอยู่......” หลินเอินเอินหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วก็พูดขึ้นทีละคำว่า “มันล้วนแต่สกปรก”
“หลินเอินเอิน!”
หลินเอินเอินไม่ได้สนใจผู้ชายที่กำลังโมโหเดือดดาลอยู่ข้างหลังเธอเลย เธอไม่ได้มีท่าทางเหมือนภรรยาตัวน้อยที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาคอยเอาใจเขาทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว เธอผลักเขาออกจากประตูห้องไปในทันที
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
เมื่อหลินเอินเอินลงไปชั้นล่าง ป๋อมู่หานก็ไม่อยู่แล้ว ทันใดนั้น สายตาของเธอมองไปที่นาฬิกาข้อมือคาสิโอของผู้ชายในมือของเธอ
นี่คือของขวัญที่เธอตั้งใจเตรียมไว้เป็นพิเศษเพื่อจะมอบให้เขาในวันเกิดที่จะถึงเร็ว ๆ นี้ แต่พอเธอมองมันในตอนนี้ เธอกลับรู้สึกว่ามันบาดตาบาดใจเป็นพิเศษ
ตึ้ง!
หลินเอินเอินโยนนาฬิการาคาห้าล้านบาทลงถังขยะโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
เธอสูดลมหายใจเข้า เวลาสามปีนั้น ก็ถือว่าความจริงใจนั้นทำเพื่อหมาตัวหนึ่งก็แล้วกัน
นับจากนี้ไป เธอจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวของเธอเอง!
หลังจากออกมาแล้ว หลินเอินเอินก็โบกรถคันหนึ่ง แล้วก็ตรงไปที่วิลล่าของเธอเอง
วิลล่านี้ถูกซื้อไว้เมื่อหลายปีที่แล้ว แต่เธอไม่เคยกลับมาเลย เพราะเธออาศัยอยู่ที่วิลล่าของตระกูลป๋อ
คนรับใช้ตกใจมากเมื่อเห็นเธอมาปรากฏตัวอย่างกะทันหัน พวกเธอรีบมายืนจ่อกันเป็นแถวพร้อมตะโกนด้วยความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกันว่า
“สวัสดีค่ะคุณนาย!”
หลินเอินเอินวางกระเป๋าเดินทางของเธอลง แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เธอถูช่องว่างระหว่างคิ้วไปมา แล้วพูดแก้ขึ้นมาว่า“นับจากนี้ไป จะไม่มีคุณนายป๋ออีกแล้ว จะมีเพียงคุณหลินเท่านั้น”
เธอเคยภูมิใจที่ถูกเรียกว่า ‘คุณนายป๋อ’ มาโดยตลอด แต่ตอนนี้ มันเป็นเพียงคำที่จี้ใจดำเธอเท่านั้น
เมื่อเหล่าคนใช้ได้ยินเช่นนี้แล้ว พวกเธอก็ไม่กล้าถามอะไร ได้แต่ถอยหลังไปด้วยความเคารพ
เมื่อกลับมาที่ห้องของตัวเองแล้ว หลินเอินเอินก็โทรไปหาซูเหมี่ยว ผู้ช่วยของเธอ “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ซูเหมี่ยวรู้สึกทั้งประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน “บอส นี่คุณเป็นฝ่ายโทรมาหาฉันเองงั้นเหรอคะ? ฝนจะตก พายุจะเข้ามั้ยเนี่ย?”
“ฉันหย่าแล้ว ฉันจะทำตามที่เธอบอก ต่อจากนี้ไป ฉันจะโฟกัสเรื่องงานเป็นหลัก”
“อะไรนะ?? ?” เสียงของซูเหมี่ยวสูงปรี๊ดขึ้นมาทันที
“บ้าไปแล้ว นี่ฉันไม่ได้หูฝาดใช่มั้ยเนี่ย! ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คุณทุ่มเทให้กับสามีมากกว่าอะไรทั้งสิ้น ถึงขนาดยอมทิ้งงานเพื่อจะไปเป็นภรรยาเต็มตัว แล้ววันนี้คุณกินยาผิดมารึไงคะ ทำไมถึงจะหย่ากันล่ะคะ นี่คุณกำลังล้อเล่นฉันรึเปล่าเนี่ย?”
ซูเหมี่ยวเป็นผู้ช่วยของหลินเอินเอิน นอกจากเธอและคนรอบตัวของหลินเอินเอินสองสามคนเท่านั้น ก็ไม่มีใครอีกแล้วที่รู้ว่าหลินเอินเอินนั้นยังมีตัวตนที่สองอีก ซึ่งก็คือ…
การเป็นทนายระดับแนวหน้า ในนามของไอริส!
มีคำพูดยอดนิยมบนโลกโซเชียลที่ว่า ถ้าไอริสเป็นที่สอง ก็คงไม่มีใครเป็นที่หนึ่งได้
ทนายความหลายคนรู้สึกหวาดกลัวมาก เมื่อได้ยินชื่อของเธอ
ในขณะที่ซูเหมี่ยวยังคงตกตะลึงไม่หาย เธอก็ได้ยินหลินเอินเอินถามขึ้นมาว่า “ช่วงนี้มีใครมาถามหาฉันบ้างมั้ย? มีคดีอะไรน่าสนใจรึเปล่า?”
ดวงตาของซูเหมี่ยวเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาทันที เธอพูดด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย “อันที่จริงก็มีอยู่คดีหนึ่งคดี ให้ราคาก็สูงเสียดฟ้าเลยแหละค่ะ แต่กลับไม่มีใครกล้ารับงาน และคุณ...... ก็ไม่สามารถรับงานนี้ได้”
“งั้นเหรอ?” น้ำเสียงของหลินเอินเอินที่เรียบเฉยมาตลอด จู่ ๆ ก็ดูสนอกสนใจขึ้นมา
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀