แมทธิว ไครช์ตัน มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อตามตื้อเด็กสาวกะโปโลอย่าง ชญาดา มานานเกือบสามปี แต่ให้ตายเถอะแม่คุณกลับเล่นตัวเหลือหลาย ก็ในเมื่อเขาทั้งหล่อ รวย และนิสัยเกือบดี แล้วแม่คุณจะอยากไปหาผู้ชายที่วิเศษกว่านี้ได้จากที่ไหนอีก แต่เอาเถอะในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่รู้จักฟัง พ่อค้าความตายอย่างแมทธิวก็เลยแปลงกายเป็นจอมมารแสนร้ายพร่าผลาญพรหมจรรย์ของผู้หญิงที่ชอบเล่นตัวมันเสียเลย อยากจะรู้นักว่าไอ้ที่หวงๆ นั่นน่ะมันจะดีเลิศสักแค่ไหน อา...เมื่อชิมแล้วเธอช่างแสนวิเศษสมกับการรอคอยเสียจริง เพราะฉะนั้นชญาดาจึงมีแค่สองทางเลือกเท่านั้น คือหนึ่งยอมตกลงแต่งงานกับเขา สองต้องส่งส่วยให้กับไอ้คนหลงตัวเองอย่างแมทธิว ไครซ์ตัน ไม่ให้ขาด และอย่าได้เผลอชายตามองผู้ชายคนไหนเชียว ไม่อย่างนั้นพ่อจะถล่มด้วยอาวุธสงครามไม่ยั้ง! “อย่ามายุ่งกับฉันได้ไหมเล่า ฉันไม่ชอบคนแก่ เข้าใจไหม” “ผมยังไม่แก่แค่สามสิบสาม” “แต่ห่างกับฉันเป็นรอบ ฉันไม่สนคุณหรอก” “ลองเมกเลิฟกันสักยกไหมล่ะ ไอ้ที่ร้องปาวๆ ว่าไม่สนคนแก่น่ะ กลัวแต่จะกลืนน้ำลายตัวเองไม่ทัน” “คนอย่างฉันคำไหนคำนั้น ไม่เคยคิดจะกลืนน้ำลายตัวเอง” “ถ้าอย่างนั้นมากลืนน้ำลายของผมดูไหม รับรองว่าซาบซ่านกว่ากลืนน้ำลายตัวเองแน่ๆ” “คนบ้า หน้าทน โรคจิต!” “ถ้าคนอยากมีเซ็กส์เป็นโรคจิต ทั้งโลกนี้ก็คงจะมีแต่โรคจิตทั้งนั้นนั่นล่ะพรีม” แมทธิวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เขาทำท่าเหมือนจะประกบปากลงที่ปากนุ่มของเธอ รีบร้องห้ามเสียงหลง “ไม่เอานะ” “ยังไม่คิดจะ ‘เอา’ แค่จะจูบ” “โอ๊ย! ฉันไม่ไหวแล้วนะ!” เธอร้องออกมาอย่างเหลืออด ไม่รู้จะทำยังไงกับความยียวนของเจ้าพ่อค้าความตายดี “ยังไม่ใช่เวลาร้องประโยคนี้ ส่วนใหญ่ประโยคนี้เขาร้องเวลาใกล้จะ ‘ถึง’” “คุณแมทธิว!” “เรียกว่า ‘ผัว’ น่าจะฟังรื่นหูกว่านะ”
ความมืดของรัตติกาลกำลังสยายปีกปกคลุมทั่วทุกอาณาบริเวณยามเมื่อพระอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้า รถปอร์เช่คาร์เรร่าจีทีสีบรอนซ์ตะกั่วถูกควบให้แล่นฉิวออกจากเมาท์เทนเกลนฟาร์มของผู้เป็นพี่ชาย มุ่งหน้าไปยังสนามบินเมืองคลีฟแลนด์เพื่อขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเดินทางต่อไปยังประเทศรัสเซีย
ความเร็วของรถค่อนข้างสูง แม้จะผ่านเข้าสู่ย่านชุมชนแล้วก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะจวนเจียนเวลาที่เครื่องจะได้เวลาบินแล้วตัวเลขดิจิตอลสีเขียวเบื้องหน้าเริ่มกะพริบถี่ๆ เป็นสัญญาณว่าอีกไม่ถึงหนึ่งวินาทีมันจะลาหายไป แล้วมีไฟสีเหลืองปรากฏขึ้นแทน คนขับไม่รอช้ารีบเหยียบคันเร่งจมลงกว่าเดิม โดยหวังว่าจะผ่านสัญญาณไฟตรงหน้านั้นทันเวลา เขาไม่ชอบไอ้สัญญาณไฟสีแดงในเวลาที่เร่งรีบแบบนี้เลย พับผ่าสิ! แต่กระนั้นการเป็นพลเมืองที่ดียามที่อยู่บนท้องถนน ยังไงซะก็ต้องเคารพกฎหมาย แม้ว่าเวลาที่ไม่ได้อยู่บนถนนเขาจะเคย...
‘ฝ่าไฟแดง’ มาบ้างก็เถอะ!!!
สัญญาณไฟสีเหลืองอำพันสว่างพรึบขึ้น ก่อนที่รถจะแล่นถึงสี่แยกซึ่งมีทางม้าลายเพียงเสี้ยววินาที แต่ความเร็วของรถก็ยังคงที่ เขา มั่นใจว่ายังไงซะรถก็ต้องแล่นผ่านทางม้าลายทันก่อนไฟแดง ทว่าเท้าที่เหยียบคันเร่งจนแทบจะมิดก็ต้องเปลี่ยนมากระทืบเบรกลงจนเต็มเท้าแทน เมื่อจู่ๆ ก็มีหญิงสาวก้าวพรวดพราดออกมายืนขวางถนนราวกับอยากฆ่าตัวตาย
เอี๊ยดดด!
เบรกเอบีเอสสมรรถนะสูงสมราคารถทำงานเต็มประสิทธิภาพทันที แต่กระนั้นมันก็ยังไม่ดีพอที่จะไม่ทำให้ร่างของผู้หญิงคนนั้นล้มลงไปกองกับพื้น
“บ้าชะมัด!”
‘แมทธิว ไครซ์ตัน’ มหาเศรษฐีวัยสามสิบสามสบถออกมาก่อน จะเปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์หยุด ดึงเบรกมือขึ้น แล้วผลักประตูออกไปอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง หล่อนอยากตายหรือไง ถึงได้กล้าเดินมาให้รถชนแบบนี้ หรือว่าหล่อนคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ทำไมไม่เลือกเป็นรถคันอื่นวะ!
“นี่คุณ! ถ้าอยากฆ่าตัวตายทำไมไม่เลือกรถคันอื่น หรือว่าคิดจะใช้วิธีนี้รีดไถเงินเหมือนในคลิป”
แทนที่จะไถ่ถามอาการคนเจ็บซึ่งกำลังนอนคลุกฝุ่นอยู่บนถนน ทว่าแมทธิวกลับพ่นผรุสวาทใส่แบบไม่ยั้งทันที เขามั่นใจว่ารถไม่ได้กระแทกใส่มนุษย์ผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่นิด เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นสภาพศพของหล่อนคงไม่สวยแบบนี้แน่ แต่นี่ร่างกายของหล่อนยังอยู่ครบทั้งสามสิบสองส่วน มิหนำซ้ำยังสามารถตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั่งได้เองอีก แบบนี้จะให้คิดว่ายังไง ถ้าไม่ใช่พวกมิจฉาชีพแบบใหม่ในบางประเทศที่เขาเคยเห็นผ่านตาในคลิป แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญมันเกิดขึ้นกับพ่อค้าความตายอย่างเขา
สาวน้อยวัยยี่สิบเอ็ดที่ยังคงช็อกกับเหตุการณ์เฉียดตายของตัวเอง อยู่ในอาการมึนงงเพราะทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เธอ กำลังคิดว่าตัวเองเป็นคนหรือเป็นวิญญาณไปแล้วกันแน่ แต่น้ำเสียงห้วนๆ ดุๆ ที่ตะคอกใส่อยู่ตอนนี้ทำให้แน่ใจว่าตัวเองยังไม่ตาย
“คุณนั่นแหละที่ผิด คันอื่นหยุดหมดแล้วคุณไม่เห็นหรือไง!”
เลือดนักสู้ที่มีอยู่ในตัวทำให้เรียวปากอิ่มขยับตอบโต้ออกไป ทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่สามารถจะลุกขึ้นต่อกรได้เลย
พ่อค้าความตายหยิบเอานามบัตรจากกระเป๋าเสื้อออกมาส่งให้คู่กรณีอย่างหงุดหงิด เพื่อหวังจะจบปัญหาให้เร็วที่สุด ถ้าในยามปกติอย่าหวังเลยว่าเขาจะยอมให้คนพวกนี้หากินด้วยวิธีแบบนี้
“นี่นามบัตรของผม อยากได้เท่าไหร่ไปคุยกับทนายของผมที่บริษัท แต่กรุณาลุกขึ้น อย่านอนขวางถนนอยู่แบบนี้เพราะผมรีบ!”
...เธอกำลังถูกเขาเอาเงินฟาดหัว...
ความคิดนั้นทำให้ ชญาดา ชัยจินดา หันขวับมาดูคู่กรณีที่ขับรถเกือบชนตัวเอง พร้อมกับตอบโต้ออกมาด้วยวาจาไปอีกชุดใหญ่อย่างเคืองขุ่นทันที
“ฉันต้องการให้คุณรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้คุณเอาเงินฟาดหัว นี่คุณเองเหรอ! ไอ้เศรษฐีแก่บ้าตัณหา!”
เสียงก่นด่าเปลี่ยนเป็นเสียงอุทานในตอนท้าย เมื่อเห็นคู่กรณีของตัวเองเต็มตา ไม่ว่าจะนานแค่ไหน เธอก็จำเขาได้แม่นยำทีเดียว
“นี่เธออีกแล้วเหรอ ยัยเด็กแสบ ยัยตัวซวย!”
แมทธิวเองก็คำรามลั่นออกมา ยัยเด็กเสิร์ฟตัวแสบที่กล้าอวดดีสาดกาแฟใส่เขาในร้านสเต๊กนี่เอง ต่อให้เคยเจอกันครั้งเดียวเขาก็จำเจ้าหล่อนได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องเห็นหน้า ไม่ต้องเห็นขาอ่อนด้วยซ้ำ แค่เห็นไฝที่อยู่เหนือริมฝีปากด้านขวาซึ่งกำลังพูดฉอดๆ อยู่เท่านั้น ก็รู้แล้วว่าเด็กคนนี้เป็นใคร!!??
“คุณต่างหากล่ะที่เป็นตัวซวยของฉัน ไอ้เศรษฐีบ้าตัณหาปากเสีย”
“หุบปากนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะหักคอเธอเดี๋ยวนี้”
การโต้เถียงเกิดขึ้นกลางสี่แยกไฟแดงทันที เมื่อคู่ปรับซึ่งไม่มีอะไรสมน้ำสมเนื้อสักนิดเจอหน้ากันโดยไม่ได้ตั้งใจอีกครั้ง
“ก็เอาสิ! ฉันจะได้แจ้งตำรวจว่าคุณตั้งใจขับรถชนและพยายามฆ่าฉัน”
ชญาดาเชิดหน้าขึ้นอย่างท้าทาย สถานการณ์เช่นนี้เธอเป็นฝ่ายได้เปรียบ อย่าหวังเลยว่าจะรังแกกันได้ง่ายๆ เหมือนครั้งที่แล้ว
“เธอจะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามา...ฉันรีบ”
“นี่คุณเอาเงินฟาดหัวฉันเหรอ? คิดว่าฉันจะยอมให้จบเรื่องง่ายๆ เพราะเงินของคุณอย่างนั้นเหรอ ไม่มีทางเสียหรอก วันนี้เป็นไงเป็นกัน ฉันสู้ตายโว้ย!”
“บ้าชะมัด!”
แมทธิวขบกรามขึ้นจนใบหน้าหล่อเหลานูนเป็นสัน ดวงตาสีเทอร์ควอยซ์แทบจะกลายเป็นสีแดงก่ำด้วยความโกรธจัดเมื่อถูกท้าทายเช่นนั้น
“เอาเป็นว่า...เธอจะไม่ยอมจบเรื่องง่ายๆ ใช่มั้ย” เสียงทุ้มเค้นลอดไรฟันออกมา
“ใช่!” ชญาดาเชิดคางขึ้น
“โอเค ถ้าเธอไม่ยอมจบตอนนี้ เราไปคุยกันต่อบนเครื่องบินของฉันก็แล้วกัน”
ว่าแล้วแมทธิวก็ไม่รอช้า เขาจัดการอุ้มร่างชญาดาขึ้นไปยัดใส่หน้ารถโดยปราศจากคำว่าอ่อนโยนโดยสิ้นเชิง ท่ามกลางสายตาของคนนับสิบที่มองมาอย่างสนใจ จากนั้นพ่อค้าความตายก็ไม่รอช้า เพราะเขาเสียเวลามามากแล้ว รถสปอร์ตคันหรูทะยานต่อไปยังสนามบินทันที
เธอ...รักอย่างภักดีและเจียมใจ เขา...จ้องแต่จะทำลาย เลยทำทุกอย่างเพื่อหลอกให้รัก สุดท้าย...สิ่งที่เธอได้รับการตอบแทน จากรักที่แสนภักดีก็คือคำว่า ง่าย ที่เขาตะโกนใส่หน้าอย่างไม่คิดแม้แต่จะสงสาร
ศาสตรา ภูวเดชาธร คือผู้ชายที่ ภัคธีมา บอกตัวเองว่าเขาช่างร้ายกาจสมกับชื่อ ผู้ชายคนนี้พร้อมจะฟาดฟันให้เธอย่อยยับแหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทั้งๆ ที่เธอคือว่าที่น้องสะใภ้ หรือเขารังเกียจว่าเธอจน ไม่คู่ควรกับคนในตระกูลภูวเดชธรเจ้าของไร่ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เขาจึงกีดกันเธอกับน้องชายเขาทุกวิถีทาง แม้ภัคธีมาพยายามจะไม่ข้องแวะกับเขา หากทว่าในที่สุด โชคชะตาก็กลั่นแกล้ง ให้ต้องตกไปอยู่ในบ่วงพันธนาการของเขาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง ภัคธีมาจึงได้แต่นับวันรอ… รอวันที่กริชผู้แข็งกร้าวอย่างเขาจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ แต่ครั้นเมื่อถึงเวลาจริงๆ มันกลับไม่ง่ายเลย เพราะหัวใจที่แสนอ่อนไหวถูกบ่วงเสน่หาร้อยรัดเอาไว้อย่างแน่นหนา
ร่างบางดำดิ่งลึกลงเรื่อยๆ ร่างกายทุรนทุรายเพื่อความอยู่รอด แต่ใจเธอยอมแพ้แล้ว มันอึดอัด มันหนาวเหน็บ นี่สินะความตาย ความตายของเธอที่พี่อิสร์ต้องการ เอมทำให้แล้วนะคะ หวังว่าการกระทำของเอมในครั้งนี้ จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เอมทำให้พี่อิสร์มีความสุข ขอให้ความรักความแค้นระหว่างเราจบลงแค่นี้ เอมเจ็บ เจ็บจนไม่อยากจะหายใจแล้วเช่นกัน ขอบคุณที่บอกให้เอมมาตาย มันน่าจะเป็นหนทางดับทุกข์ที่ดีที่สุดของเอมแล้ว ลาก่อนค่ะพี่อิสร์...
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับว่าที่เจ้าบ่าวในคืนแต่งงาน ทำให้พรรษรดาต้องเข้าพิธีกับน้องชายของเจ้าบ่าวแทน แม้วิวาห์ครั้งนี้จะเป็นเพียงวิวาห์สมมติในความรู้สึกของเขาและเธอ หากทว่าความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ข้างในนั้นต่างหากที่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอจะกล้าบอกความในได้อย่างไร ว่าแท้จริงแล้วผู้ชายที่เธอมีใจใฝ่ปองและอยากแต่งงานด้วยจริงๆ ก็คือเขา ในเมื่อผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าสามี เอาแต่เฉยเมยเย็นชาใส่ ซ้ำยังเอ่ยปากขอหย่าอยู่หลายครั้ง พรรษรดาจะจัดการปัญหาหัวใจครั้งนี้อย่างไรดี ในเมื่อยิ่งเขาทำให้เจ็บ หัวใจไม่รักดีก็ยิ่งรักเขามากขึ้นๆ เธอควรรั้งเขาไว้ให้เป็นสามีในนามเพื่อทรมานใจกันเล่นๆ หรือว่าปล่อยเขาไปให้สมรักกับผู้หญิงอื่นตามที่เขาร้องขอ ***ตัวอย่าง*** “ฉันรักเธอพรรษรดา ฉันรักเธอ รักเธอคนเดียว” เขาสารภาพออกมาเสียงแหบห้าว นัยน์ตาหม่นมัวไปด้วยแรงรักแรงปรารถนาที่อัดแน่นอยู่ข้างใน “คุณภู...” “หัวเราะสิ หัวเราะเยาะฉัน หัวเราะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่มันเป็นทาสรักของเธออย่างโงหัวไม่ขึ้นมาตลอดหลายปี หัวเราะเยาะไอ้ผู้ชายหน้าโง่ที่ตัดใจไม่ได้เสียที” คำสารภาพของเขาเหมือนระลอกคลื่นยักษ์ที่กระแทกโครมเข้าใส่หัวใจดวงน้อยของพรรษรดา เธอถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะแบกรับความรู้สึกอันท่วมท้นนั้นไม่ไหว “ฉันมันคงน่าสมเพชมากสินะ” ร่างใหญ่ขยับตัวเหมือนจะถอดถอนออกไป แต่พรรษตวัดขารัดรอบเอวสอบไว้แน่น ทำให้เขาดำดิ่งเข้ามาฝังลึกอยู่ในช่องสาวอีกครั้ง “อย่าบังอาจลุกจากตัวพรรษ” เธอแหวใส่เขาเสียงดังลั่น ตัวสั่นเทาเพราะความรัญจวนและความเต็มตื้นในหัวใจ “พรรษรดา...” “อย่าคิดว่าจะผลักไสพรรษง่ายๆ อีก รู้มั้ยว่าพรรษรอนานแค่ไหน รู้ไหมว่าต้องเสียน้ำตาไปกี่ครั้งเมื่อคิดว่าตัวเองรักคุณภูข้างเดียว อย่ามาบอกรักพรรษ ล้อเล่นกับหัวใจพรรษแล้วหนีไปง่ายๆ อีก พรรษไม่ยอมอีกแล้ว คราวนี้พรรษจะตามรังควานไปตลอดชีวิตเลย อย่าหวังว่าจะได้มีโอกาสมีความสุขกับผู้หญิงคนไหน อย่าหวังว่าจะได้บอกรักใครอีก เพราะคำว่ารักของคุณภูจะเป็นของพรรษคนเดียวตลอดไป”
ในเมื่อเธอเป็นเมียที่ได้มาจากการทรยศ ความรู้สึกเดียวที่เธอจะได้รับจากเขาก็มีแค่ ความชัง เท่านั้น อย่างหวังว่า เขาจะเลิกชัง อย่าหวังว่า เขาเหลียวแล อย่าหวังว่า จะได้แม้แต่เศษเสี้ยวความรักของเขา นภัทรบอกตัวเองเช่นนั้น อย่างหนักแน่นอยู่เสมอ แต่ความเกลียดชังโกรธแค้นของเขามันน้อยลงตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือเป็นเพราะนัยน์ตาเศร้าๆ ซื่อๆ ของเด็กคนนั้น ที่มันค่อยๆ เขย่าความเย็นชาในหัวใจเขา ให้กลายเป็นความรู้สึกอื่น
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง