มินตราอยากเป็นอย่าง ‘ใจเริง’ นางร้ายในละครหลังข่าว เธออยากร้ายแบบนั้นเพื่อตอกหน้าผู้ชายเจ้าชู้อย่างนนทวัฒน์ หลานชายคนเดียวของผู้มีพระคุณของเธอ แต่เมื่อทำไม่ได้เพราะคำว่า ‘บุญคุณ’ ค้ำคอ มินตราเลยต้องเปลี่ยนวิธีใหม่ เธอจะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้ผู้ชายคนนั้นข่ม หากต้องแต่งงานกันจริง ก็จะขอแต่งงานแค่ในนามเป็นเมียตีทะเบียน แต่จะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนั้นล่วงเกินสักตารางนิ้วเดียว นนทวัฒน์ไม่คิดว่าผู้หญิงเฉิ่มเชยตรงหน้าจะกล้ายื่นข้อเสนอน่าหัวเราะให้ตนเอง...หล่อนทำเหมือนตัวเองฉาบด้วยทอง จนเขาอยากแตะต้องแทบอดใจไม่ไหว เอาสิ...หากหล่อนอยากเล่นเกมนี้นัก เขาก็จะเล่นด้วย แต่เกมนี้จะต้องจบแบบที่เขาต้องการ ไม่ใช่อย่างที่หล่อนต้องการหรอก เขาไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่หล่อนคิด ไม่มีครั้งไหนที่เขานอนบนเตียงกับผู้หญิง แล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น...พรหมจรรย์เรอะ!! ไม่อยากได้หรอกนะ แต่อยากสอนให้หล่อนรู้ ผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิงมาหยาม...
บทที่1.วันวุ่นวายที่คฤหาสน์ส่งไพศาล
“คุณย่าครับนี่มันพศ.2020แล้วนะครับ ไม่มีครอบครัวไหนจับลูกหลานคลุมถุงชนหรอกครับ”
เสียงขุ่นขวางดังลั่น หลังนั่งฟังสุภาพสตรีวัยเจ็ดสิบสองปีพูดจนจบ นนทวัฒน์ ส่งไพศาส ทายาทคนเดียวของส่งไพศาสกรุป ที่มีอุตสาหกรรมการเกษตรส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือผลผลิตทางการเกษตร ชายหนุ่มผู้นี้เป็นรุ่นที่สามที่รับช่วงมาจากบิดา เขาพัฒนาจนกิจการมีผลประกอบการมากกว่าบิดาทำไว้ถึงสามเท่า
“ใครไม่ทำก็ช่างสิ ฉันจะทำ ฉันทนไม่ได้หรอก หากหลานสะใภ้ของฉันจะขยันใช้เงินแต่ไร้สมองน่ะ”
แสงแขพูดเสียงแข็ง มองสบตาหลานชายตรงๆ พร้อมกับบ่นในใจ หากนนทวัฒน์ได้ครึ่งหนึ่งของสามีนางเรื่องการมองผู้หญิง แสงแขสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเลยสักนิด แต่นี่...เพราะหลานชายไร้สายตาในการคัดกรองผู้หญิงของเขา คงเพราะมัวแต่มองอวัยวะกลางอกเสียมากกว่า แสงแขไม่เข้าใจนักหรอก ผู้หญิงสมัยนี้ประหยัดหรือเพราะต้องการอวดของดีประจำตัวกันแน่ เสื้อผ้าที่พวกหล่อนใส่ถึงได้ทั้งแคบและสั้นจนน่าหวาดเสียว
“ย่าครับเมียคือคนที่ทำให้สามีที่ทำงานงกๆ รู้สึกผ่อนคลาย เธอไม่ต้องทำงานหรอก ขอแค่ทำให้ผมรู้สึกสุดขีดบนเตียงได้ก็พอ อยากได้อะไรก็เอาไปเถอะ ผมคิดว่าผมมีสตางค์จ่ายให้เธอ ทดแทนแรงกายที่เธอทุ่มเทให้ผมครับ”
“ตานนท์ นี่ย่านะยะ อย่ามาทะลึ่งใส่ย่า คนเรามันไม่ได้มีแค่เรื่องอย่างว่าในชีวิตเมื่อไหร่ล่ะ บอกได้เลย คนที่แกต้องแต่งงานด้วยคือคนที่ย่าเตรียมไว้ให้เท่านั้น”
นนทวัฒน์เบ้ปาก เดาใจแสงแขออกเหมือนนั่งอยู่กลางใจท่าน ผู้หญิงคนนั้นคงไม่พ้น ‘มินตรา’ เด็กสาวที่เข้านอกออกในบ้านนี้มาเป็นสิบๆ ปีแต่เขาไม่ถูกชะตากับหล่อน ผู้หญิงอะไรไม่รู้ ทั้งคร่ำเคอะและทำให้รู้สึกอับเฉา สวมแต่เสื้อสีเรียบกระโปรงยาวกรอมเท้า ผมรวบตึงไว้หลังทายท้อยและแว่นตาหนาเตอะ หากเจอกันจังๆ แล้วหล่อนหลบไม่ทันล่ะก็ หล่อนจะก้มหน้าต่ำ เห็นแค่ปลายจมูก ไม่รู้ว่ากลัวเขาหรือเป็นสัญชาตญาณผีกระสือกันแน่ ไม่รู้เป็นไรสิ ทุกครั้งที่เจอผู้หญิงคนนั้น เขาจะหงุดหงิดทุกที
“ถ้าต้องแต่งกับมินตราผมขอเป็นโสดจนตายดีกว่าครับ”
“เอะ! หนูมินไม่ดีตรงไหน ฉลาดแล้วก็เอาใจเก่งด้วย”
“แม่นั่นดีสำหรับคุณย่าครับ แต่ไม่ดีพอสำหรับผม เอาเป็นว่า ผมไม่แต่งครับ”
“ตามใจแกนะตานนท์ แกไม่แต่งกับหนูมินก็ได้ สมบัติส่วนของฉันจะได้ยกให้คนยากจนไปเลย” แสงแขพูดเสียงเด็ดขาด
“ได้ไงครับคุณย่า ส่วนนั้นต้องยกให้ผมสิ คุณปู่สั่งไว้แล้วนี่ครับ”
นนทวัฒน์ไม่ได้เสียดายสมบัติในส่วนที่แสงแขครอบครองหรอก เขามีมากพอแล้ว แต่หากท่านทำตามที่พูดไว้จริง ‘ส่งไพศาสกรุป’ จะถูกคนนอกเข้ามาครอบครองร่วม หุ้นส่วนของเขากับบิดามีไม่มากพอที่จะรั้งตำแหน่งประธานบริหารไว้ได้
“ส่วนของปู่แก ฉันจะยกให้แกเหมือนเดิม นี่ฉันพูดถึงส่วนของฉันยะ”
ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ ทุกคนในส่งไพศาสรู้ดี สามีผู้ซื่อสัตย์อย่างทนนน์ ถือหุ้นแค่10% นอกนั่นแสงแขเป็นผู้ครอบครอง 41% ที่แสงแขถือ มีผลกับตำแหน่งประธานบริหาร พ่อ แม่และเขาเองรวมกันยังมีหุ้นไม่ถึง30% เลย หากได้ส่วนของคุณปู่มาด้วยก็ไม่สามารถคานอำนาจของคนใหม่ที่จะเข้ามาในตำแหน่งประธานบริหารได้เลย
“คุณย่าไม่ควรบีบผมด้วยวิธีนี้เลยครับ”
“ฉันมีทางเลือกให้แกอยู่นะตานนท์ แกไม่เลือกก็ไม่ต้องมาสนใจฉัน ฉันจะยกสมบัติให้ใครมันก็เรื่องของฉัน”
“มันจะวุ่นวายนะสิครับ”
“ก็อย่าให้มันวุ่นสิโว้ย”
“คุณย่า”
“กลับไปคิดดีๆ ตานนท์ ย่าทำแบบนี้เพราะย่าหวังดีกับแกนะ”
แสงแขพูดเสียงอ่อน เพื่ออนาคตของส่งไพศาส นางปล่อยให้หลายชายร่วมหอลงโรงกับผู้หญิงอย่างรติรัตน์ไม่ได้ ตระกูลชัญญาปัทม์ เหลือแค่เปลือก คนในสังคมรู้ดี พวกเขาพยายามหาครอบครัวร่ำรวยเพื่อเกาะ และเจ็กพ็อตนั่นดันมาตกที่ตระกูลส่งไพศาสของนาง ไม่คิดเหมือนกันว่าผู้ชายที่โชกโชนเรื่องผู้หญิงจะมาตกม้าตายง่ายดายเช่นนี้
“ผมเกลียดผู้หญิงคนนั้นครับ”
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้