คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
“เจอเธอครั้งแรกใจฉันก็สั่นไหว”
งานเดินแบบการกุศลประมูลเครื่องเพชรและอัญมณี
บนเวทีงานเดินแบบเครื่องเพชรสุดอลังการเหล่าดารา นางแบบมืออาชีพชื่อดังกำลังเดินแบบพร้อมชุดเครื่องเพชรอัญมณีล้ำค่าสีสันสวยงาม ที่ล้วนดึงดูดให้เหล่าไฮโซ เซเลบคนดังทั้งหลายต้องการประมูลมาไว้ในครอบครอง ด้วยความสวยงามของอัญมณีล้ำค่าที่หาได้ยาก
เมื่อการเดินแบบมาถึงช่วงไฮไลต์สำหรับชุดฟินาเลของงาน แสงไฟสปอร์ตไลต์สาดส่องไปยังร่างบางสมส่วน ใบหน้าสวยหมดจดงดงาม นัยน์ตากลมโตภายใต้แพขนตางอนงามที่ถูกปัดให้งอนและหนากว่าปกติ ริมฝีบางอวบอิ่มสีแดงรับกับชุดเดรสยาวเว้าหลัง Sexy ปนสวยหวาน บนลำคอขาวระหงมีเครื่องเพชรที่ประดับด้วยอัญมณีสีฟ้าชุดสุดท้ายกับท่วงท่าการเดินที่งดงาม ดึงดูดสายของผู้ชมทุกคู่ให้มองตรงมาที่เธอเพียงคนเดียว
แชะ แชะ แชะ
เสียงรัวชัตเตอร์ของนักข่าวต่างพากันกระหน่ำถ่ายรูป
“เอย อรนลิน”
คือชื่อของนางแบบสาวบนเวทีที่กำลังยิ้มสวยอวดฟันขาวต่อหน้าแขกทั้งหลายที่มาร่วมงาน ก่อนที่เธอจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปหลังเวทีทันทีที่ถึงเวลาตามที่ซักซ้อมเอาไว้
“คิณ ลูกดูสิ Blue Moon ชุดสุดท้ายที่หนูเอยใส่สวยมาก แม่ล่ะอยากได้จริง ๆ เลย”
เสียงคุณหญิงเอมอร พูดอย่างชื่นชมอัญมณีเม็ดงามที่เธออยากครอบครองเป็นเจ้าของเมื่อการแสดงจบลง
ข้าง ๆ กันนั้นมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตร ส่วนประกอบของโครงหน้าไม่ว่าจะเป็น ตา คิ้ว จมูก ริมฝีปากบางที่รับกันดี ทุกส่วนของใบหน้าไร้ที่ติ ราวกับเป็นงานประติมากรรมชั้นยอด หากจะกล่าวว่าเขาเป็นลูกรักของพระเจ้าที่ลงมาเกิดยังโลกมนุษย์ก็ไม่ผิดนัก เขาผู้นี้คือ...
“คิณ อัคนี”
ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่นำเข้ารถยนต์หรู และยังเป็นเจ้าของโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ที่มีสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย หากเทียบลำดับความรวยแล้วนั้น จัดได้ว่าอยู่อันดับต้น ๆ ของประเทศ
“มากี่รอบคุณแม่ก็ชมเครื่องเพชรชุดสุดท้ายทุกที แล้วก็จะประมูลมาจนได้ทุกครั้งนี่ครับ”
คนเป็นลูกตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ วันนี้เขาเพิ่งเดินทางกลับมาจากดูงานที่สาขาอิตาลี ยังไม่ทันได้พักก็ถูกคุณแม่ยังสาว อดีตนางแบบชื่อดังของเมืองไทยลากเขามาที่งานประมูลเครื่องเพชรนี้ทันที
“แหม รู้ทันอีกแล้วนะสมกับที่เป็นลูกแม่จริง ๆ เลยน้าเรา”
คุณหญิงเอมอรเอ่ยชมลูกชายด้วยความภาคภูมิใจนี่คือสิ่งที่เธอภูมิใจนำเสนอในงานค่ำคืนนี้มาก เพราะงานนี้เหล่าคนดังต่างมากันเพียบทั้งคนรู้จัก ทั้งเพื่อนเก่า พ่วงมาด้วยลูกสาว หลานสาวของเหล่าคนดังทั้งหลาย
คิณของเธอน่าจะมีเตะตาโดนใจลูกสาวบ้านไหนบ้างแหละน้า หุุหุ เธออยากอุ้มหลานจะแย่แล้วคุณแม่ยังสาวคิดอยู่ในใจเงียบ ๆ
ด้านหลังเวทีห้องแต่งตัวของเหล่านางแบบ
“แก คุณคิณมางานนี้ด้วยแหละ ตอนที่ฉันเดินผ่านหน้าเวทีฉันเห็นแวบ ๆ ตรงแถวด้านหน้ามากับคุณหญิงเอมอรน่ะ”
มะปรางนางแบบสาวหน้าหมวย หุ่นสวยเก๋ เมาท์กับเพื่อนนางแบบอย่างดีใจ ที่คุณคิณ นักธุรกิจรูปหล่อที่เป็นที่หมายปองของเหล่าดารา นางแบบ ไฮโซ ทั้งหลายมางานนี้ด้วย
“จริงดิแก ทำไมฉันไม่เห็นเลยอะ โอ๊ย เสียดายจัง อยากเห็นหน้าหล่อ ๆ ตัวเป็น ๆ ของคุณคิณบ้าง เห็นแต่ตามหน้าหนังสือนิตยสารมันไม่ทัชใจเลยอะแก”
น้ำเสียงแสดงความเสียดายอย่างชัดเจนจากมีนนางแบบร่างผอมเพรียวสร้างความสงสัยแก่เอยที่บังเอิญได้ยินบทสนทนาเข้า คิ้วสวยขมวดมุ่นด้วยความสงสัยในทันที
ใครกันนะ คิณ ทำไมวันนี้เธอได้ยินแต่ชื่อนี้นะ
ตอนนั่งแต่งหน้าพี่ ๆ ช่างแต่งหน้าก็เมาท์กันไปแล้วรอบหนึ่ง จนเธอได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ ชื่อที่ถูกพูดถึงเหมือนจะ “ฮอต” กว่าดารา นายแบบชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทยเสียอีก
“ตั้งแต่ตาม IG คุณคิณมา ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาควงใครเลยนะตั้งแต่เรียนจบ รู้แค่ว่าเคยมีแฟนตอนเรียนมหา'ลัย แล้วก็เลิกรากันไปแล้ว”
มะปรางพูดถึงข้อมูลที่เธอรู้มาคร่าว ๆ ให้เพื่อนสาวฟัง
“นั่นสิแกแปลก ๆ เนอะ หล่อขนาดนี้แต่ไม่มีแฟน แต่วงในเขาเมาท์มาว่านางแบบรุ่นพี่ดัง ๆ ฮีฟาดเรียบนะจ๊ะฟาดแบบเช้ามาจบแยกอะ”
มีนเอ่ยถึงข้อมูลอีกด้านที่เธอเคยได้ยินนางแบบรุ่นพี่เล่าต่อๆกันมาอย่างออกรส
“เคยได้ยินพี่ส้มเมาท์ถึงรอบหนึ่ง ว่าลีลาดีมาก ฟินมาก เช้ามาพี่แกแทบไม่อยากจะออกจากห้องเลย”
มะปรางก็ไม่น้อยหน้าข้อมูลเด็ดที่เธอแอบได้ยินมาทำเอาทั้งสองสาวเพื่อนซี้ถึงกับรู้สึกอยากจะลิ้มลองรสชาติของคิณ อัคนีดูสักครั้งว่าจะเป็นเช่นดังที่ถูกเล่าขานมาหรือไม่
“แต่ก็อย่างว่าอะนะ คนแบบคุณคิณยากจ้ะที่ผู้หญิงจะเข้าถึงตัวได้ เคยได้ยินมาว่าบางคนที่ไปตามตอแยถึงกับถูกการ์ดหิ้วมาทิ้งหน้าโรงแรมจ้า”
มีนป้องปากเมาท์เสียงเบาให้ได้ยินกันสองคนแต่ถึงอย่างนั้น เอย ที่นั่งชิดติดกันก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน
“ฉันล่ะอยากขึ้นเตียงกับคุณคิณบ้างจริง ๆ ได้แค่ครั้งเดียวนี่จะไม่เสียใจเลยนะ เพราะ Body คุณเขาเพอร์เฟกต์มากอะแก ฮือ ฉันอยากได้”
มะปรางคร่ำครวญเพ้อฝันแบบไม่อายเพื่อนสาวข้าง ๆ เลยสักนิด
“แหม ยัยปราง ฉันก็ไม่ต่างกับแกหรอกย่ะได้สักครั้งจะเป็นพระคุณมากเลย ยอมตั้งแต่หน้าประตูเลยล่ะแกแซบขนาดที่คนในวงการเขาพูดถึงขนาดนี้ฉันก็อยากจะลองบ้างนะแก คิก คิก”
เสียงหัวร่อต่อกระซิกของสองสาวทำเอาเอยถึงกับอึ้งไปทันทีมันมีด้วยเหรอผู้ชายที่หล่อมากจนผู้หญิงอยากเสียตัวให้แบบวันไนต์น่ะ ไม่คิดอะไรมากขอแค่ได้ชื่นชมสักครั้งก็ยังดีมันมีแบบนี้ด้วยเหรอเอยได้แต่คิดด้วยความงุนงงสงสัยอยู่คนเดียวเงียบๆในใจ
ก่อนที่เอยจะสะบัดศีรษะไล่ความคิดไร้สาระพวกนี้ออกไปเขาเป็นใครเธอยังไม่รู้เลยแล้วเธอจะไปยุ่งเรื่องของเขาทำไมกันละเนี่ยเอย
“น้อง ๆ คะ รอบต่อไปรอบประมูลเครื่องเพชรแล้วนะออกไปทีละคนตามคิวนะคะ”
พี่ ๆ ทีมผู้จัดงานตะโกนบอกน้อง ๆ นางแบบให้เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับการโชว์เครื่องเพชรเพื่อให้เหล่าคนดังได้ประมูล
อีกด้านหนึ่งพี่ซินดี้ที่เป็นทั้งผู้มีพระคุณของเอยและพ่วงด้วยตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวรีบบอกให้เอยเตรียมตัวทันที
“ยิ้มสวย ๆ ยิ้มหวาน ๆ นะเอยเอาให้สะกดคนดูทั้งห้องไปเลย”
สาวประเภทสองหน้าสวยที่ศัลยกรรมมาแล้วทั้งตัว รีบย้ำนางแบบของเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง งานนี้ใหญ่มาก โชคดีแค่ไหนแล้วที่เอยเด็กในสังกัดของเธอได้เดินฟินาเลปิดท้ายงาน ซึ่งจะเป็นบันไดอีกขั้นที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคต งานจะไหลมาเทมาต่อจากนี้ที่ดังอยู่แล้วก็จะดังมากยิ่งขึ้นไปอีก คิก คิก กะเทยภูมิใจค่ะ
“ทราบแล้วค่ะคุณแม่ นี่ยิ้มจนเหงือกแห้งไปหมดแล้วค่ะ”
เอยพูดพลางทำปากยื่นแบบเด็ก ๆ ส่งผลให้ได้รับค้อนวงใหญ่จากซินดี้กลับมาแทบจะทันที
“ให้เหงือกแห้งไปเลยค่ะลูกสาว เพราะงานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเลยล่ะ ต่อไปงานจะไหลมาหาหนูแบบไม่ขาดสายเลยเชื่อแม่”
ซินดี้บอกเอยด้วยความมั่นอกมั่นใจเพราะเธอคิดว่าไม่ผิดจากที่เธอคิดเอาไว้แน่นอน วันนี้ลูกสาวของเธอส่องประกายโดดเด่นท่ามกลางผู้คนมากมายขนาดนี้ ไม่วายพวกผู้จัดละครเอย พวกเวทีเดินแบบเอย ถ่ายนิตยสารเอย ได้กรูกันเข้ามาจีบลูกสาวเธอไปโชว์ผลงานอีกเป็นแน่แท้
บนเวที
เอย อรนลิน ยืนโดดเด่นท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวรอยยิ้มสวยโชว์ฟันซี่ขาวเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ก่อนที่เธอจะแจกจ่ายรอยยิ้มสดใสไปทั่วทั้งงาน ส่วนพิธีกรหญิงหน้าตาดีข้าง ๆ เธอนั้น ก็ทำหน้าที่สาธยายความสวยงามเครื่องเพชรสุดหรูมูลค่าสูงบนตัวของเธออย่างไหลลื่น
“และแล้วก็มาถึงเครื่องเพชรชุดสุดท้ายแล้วนะคะทุกท่าน เครื่องเพชรชุดนี้คือ The Blue Moon อัญมณีทับทิมสีฟ้านั่นเองค่ะ เป็น The Best ของงานนี้เลยนะคะ”
“แสงเพชรงามแวววาวกระแทกตามากเลยค่ะเครื่องเพชรชุดนี้ออกแบบโดย มิสเตอร์ปีเตอร์สัน อาร์โตเรลูเน่ นักออกแบบชื่อดังของเรา ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 20 ล้านบาท พร้อมแล้วเชิญทุกท่านประมูลได้เลยค่ะ”
ทันทีที่เสียงแนะนำชุดเครื่องเพชรของพิธีกรสาวจบลงบรรดาคนดังทั้งหลายก็ยกป้ายประมูลราคากันให้ควั่กอย่างไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายคุณหญิงท่านหนึ่งก็ยกป้ายราคาขึ้นมาที่ 45 ล้านบาททำเอาพิธีกรสาวตาโตเป็นอย่างมาก
“ว้าว คุณหญิงพิณทิพย์เสนอราคามาที่ 45 ล้านบาทนะคะทุกท่าน มีใครให้มากกว่านี้ไหมคะ”
พิธีกรสาวยิ้มพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องจัดงานปรากฏว่าเงียบ ไม่มีใครยกป้ายขึ้นมาอีกเลยจาก 20 ล้านมาจนถึง 45 ล้านบาท
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะนับหนึ่งถึงสามนะคะถ้าไม่มีใครยกป้ายขึ้นอีกเครื่องเพชรชุดนี้จะตกเป็นของคุณหญิงพิณทิพย์ทันทีค่ะ”
ในขณะที่กำลังนับหนึ่งจะถึงสามอยู่นั่นเองป้ายประมูลราคาจำนวน 50 ล้านบาทก็ถูกยกขึ้นจากมือใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยงาม ภายใต้ชุด Suit ราคาแพงระยับที่ยกขึ้นมาทันทีที่พิธีกรสาวกำลังจะนับสาม
“ว้าว เซอร์ไพรส์มากเลยค่ะ 50 ล้านบาทจากคุณคิณ อัคนีค่ะทุกท่าน มีใครให้มากกว่านี้ไหมคะ?”
พิธีกรสาวถามอีกครั้งก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องจัดงานเพื่อรอลุ้นว่ามีใครจะสู้ราคาอีกไหม
ในขณะที่เอยมองตามแสงไฟที่สาดส่องไปยังผู้ชายที่พิธีกรเรียกเขาว่า
“คุณคิณ อัคนี”
วินาทีที่เผลอสบตากับดวงตาสีนิลคมกริบดวงตาคู่สวยของเอยก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างตกตะลึงในความหล่อเหลาของเขา
ใบหน้าหล่อคมคายไร้ที่ติ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากที่รับกันเหมาะเจาะกับโครงหน้าหล่อ และดวงตาคมกริบสีนิลคู่นั้นที่กำลังจ้องมองมาทางเธอเช่นกัน เหมือนโดนมนต์สะกดเอาไว้เอยไม่สามารถที่จะละสายตาไปจากคิณ ได้เลย
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งราวกับว่ามีใครมาตีกลองรัวอยู่ในอกเธอพร้อมกับความรู้สึกสั่นไหวที่หัวใจอย่างรุนแรง ความรู้สึกแบบนี้เขาเรียกว่า
“ตกหลุมรักครั้งแรก” หรือเปล่านะ
จนกระทั่งเสียงพิธีกรหญิงดังขึ้นมาอีกครั้งถึงเรียกสติของเธอให้กลับคืนมาแทบจะทันที แต่หางตามิวายมองไปทางคิณ อัคนี อีกครั้งอย่างอดใจไม่ได้ซึ่งเขาเองก็จ้องมองเธอไม่ละสายตาไปจากใบหน้างดงามหมดจดนั้นเช่นกัน
“และแล้วเราก็ได้ผู้ชนะในการประมูลเครื่องเพชรที่เป็น The Best ในงานวันนี้ The Blue Moon ซึ่งตกเป็นของคุณคิณ อัคนี นั่นเองค่ะ ราคาประมูลอยู่ที่ 50 ล้านบาท ขอเชิญคุณคิณให้เกียรติมารับชุดเครื่องเพชรบนเวทีได้เลยค่ะ”
เสียงปรบมือดังขึ้นทันทีทั่วห้องจัดงานเพื่อแสดงความยินดีให้กับคนที่ประมูลเครื่องเพชรได้
ฮะ!! อะไรนะ คนอื่นที่ผ่านมาทำไมถึงให้ส่งมอบเครื่องเพชรให้กับบรรดาเลขาหรือเจ้าตัวหลังงานเลี้ยงเลิก แต่ทำไมชุดเครื่องเพชรที่อยู่บนคอของเธอถึงให้เจ้าของที่ประมูลได้มารับตอนนี้กับมือ ฮือ ยัยเอย แกจะไหวไหมใจเต้นแรงขนาดนี้เขาจะได้ยินไหมนะเอยคิดในใจอย่างหวาดหวั่นกับเจ้าของชื่อที่กำลังเดินขึ้นมาบนเวทีด้วยท่วงท่าสง่างามอย่างช้า ๆ
เมื่อได้ยินเสียงเรียกจากพิธีกรบนเวทีคิณก็อดไม่ได้ที่จะต้องขึ้นไปรับชุดเครื่องเพชรตามมารยาทของการออกงานสังคม ปกติเขาไม่ค่อยชอบโชว์ตัวหรือสร้างจุดเด่นให้ใครพบเห็นมากเท่าไหร่นัก แต่เนื่องจากเสียงเรียกชื่อตนชัดเจนที่ดังก้องไปทั่วห้องจัดงานทำให้ต้องลุกขึ้นเดินช้า ๆ ไปบนเวทีอย่างเสียมิได้
“ขอเสียงปรบมือให้คุณคิณอีกครั้งค่ะทุกท่าน ที่ให้เกียรติประมูลเครื่องเพชรราคาแพงที่สุดในงานไปถึง 50 ล้านบาท”
เสียงพิธีกรสาวสวยยังคงทำหน้าที่ของตนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่เอยแอบเห็นนะตอนที่คุณคิณ เดินผ่านหน้าพิธีกรคนสวยเพื่อมายืนเคียงข้างเธอ พิธีกรมีชะงักและเขินอายอย่างเสียอาการก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเพราะตอนนี้คือบนเวทีที่ทุกคนสามารถมองเห็นหมดว่าใครทำอะไรบ้าง
ร่างสูงของคิณหยุดลงข้าง ๆ เอย อรนลินสายตาที่ทุกคนมองขึ้นมา บางคนอิจฉา บางคนชื่นชมหญิงสาวที่หน้าตาสวยงามราวกับภาพวาด กับชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เมื่อยืนเคียงข้างกันแล้วเหมือนภาพวาดผลงานชิ้นโบแดงของนักจิตรกรชื่อดังระดับโลกก็ไม่ปาน
กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ราคาแพงจากร่างสูงข้าง ๆ เอย ทำเอาเธอเผลอสูดกลิ่นเข้าเต็มปอดด้วยความชื่นใจ ในขณะที่คนข้าง ๆ เธอขยับเข้ามาใกล้จนยืนแนบชิดกันแทบไม่มีช่องว่างให้สิ่งใดผ่านไปได้
หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำด้วยความตื่นเต้นและหวั่นไหวเดินแบบกับคนหล่อมาก็มากแสดงละครกับพระเอกชื่อดังมาก็เยอะ แต่กับผู้ชายที่ชื่อ คิณ อัคนี ทำเอาเธอเสียอาการค่อนข้างมาก
ร่างบางของเอยสั่นนิด ๆ อย่างประหม่าเมื่อมือของคนข้าง ๆ เผลอแตะโดนนิ้วมือเรียวสวยของเธอ เหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งปราดเข้ามาในร่างกายเธอสะดุ้งด้วยความตกใจก่อนจะรีบชักมือออกมาทันที
ในขณะที่คิณขมวดคิ้วน้อยๆอย่างแปลกใจกับอาการของหญิงสาวหน้าสวยข้าง ๆ ที่ออกอาการสะดุ้งเหมือนโดนของร้อน เธอกลัวเขาอย่างนั้นหรือ ตื่นเต้น ตกใจ หรืออะไร เขาคิดเงียบ ๆ ในใจ ก่อนที่ร่างบางของคนที่ยืนเคียงข้างกันจะยื่นกล่องเครื่องเพชรที่พนักงานถอดออกมาจากลำคอสวยเนียนระหงส่งมอบให้เขา
เขาหันตัวไปรับกล่องนั้นไว้นิ้วมือที่แตะถูกกันโดยไม่ตั้งใจทำให้เขามองสบตากับสาวสวยตรงหน้าที่แก้มแดงปลั่งระเรื่อราวกับลูกตำลึงสุกที่กำลังมองสบตากับเขาเช่นกัน ดวงตากลมโตฉายแววหวั่นไหวอย่างปิดไม่มิดคิณยกยิ้มมุมปากอย่างรู้สึกขำขันกับท่าทางเขินอายและประหม่าเล็กน้อยของเอย อรนลิน
“หึ แม่กระต่ายน้อยน่ารักดีนี่เรา”
เขาคิดในใจก่อนเสียงชัตเตอร์จะรัวกระหน่ำถ่ายรูปเขากับนางแบบสาวสวยที่ยืนเคียงข้างกันไม่หยุดและนั่นคือการพบกันครั้งแรกระหว่าง
“คิณ อัคนี และ เอย อรนลิน”
เป็นการพบกันที่ทั้งคู่ไม่อาจล่วงรู้เลยว่าหนทางข้างหน้าทั้งสองคนนั้นจะถูกผูกติดไว้ด้วยกันตลอดกาล
Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย กรรฐ์ กวีวัธน์ พิสิฐกุลวัตรดิลก มาเฟียในคราบชุดกาวน์ที่ยอมสลัดคราบผู้ชายเย็นชากระโจนเข้าสู่หลุมพรางของเธอ เธอชอบเขา...เขารู้ แล้วที่เขาชอบเธอ...เธอนั้นรู้หรือยัง ? มีน มินตรา อดิพัทธ์เรืองรัตนกุล ดารานางแบบสาวสวยชื่อดังที่คนชอบมองว่าหยิ่งแท้จริงแล้วนิสัยดี จริงใจ รักเพื่อนฝูง กล้าได้กล้าเสีย โบราณบอกเอาไว้ว่ามารยาหญิงมีร้อยเล่มเกวียนถ้าอย่างนั้นเธอก็จะของัดมาสักเล่มเพื่อยั่วเขาให้ตกหลุมพรางของเธอก็แล้วกัน เขาชอบเธอ...เธอไม่เคยรู้ แล้วที่เธอชอบเขา...เขารู้หรือยัง ?
มิ้นท์ รามิล "พี่มิ้นท์ของขนมพาย" ใจที่แข็งดั่งหินผาสุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักไร้เดียงสาของเธอ "ขนมพาย" "รักฉันเท่าที่เธออยากจะรัก" ขนมพาย พิมพ์ชนก "ขนมพายของพี่มิ้นท์" เพราะความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาทำให้เธอเดินหลงเข้าไปติดกับดักรักของเขาโดยไม่รู้ตัว "รักเธอไปหมดแล้วทั้งใจ"
ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ
ท่ามกลางรัตติกาลที่มืดมิดสองหนุ่มสาวต่างหลงทางอยู่ในนิทราที่แสนหวาน และเมื่อรุ่งอรุณมาเยือนหนุ่มสาวตื่นจากการหลับไหลนิทราที่แสนหวาน กลับกลายเป็นเธอกับเขาและความรักของเราที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้่น
ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ของเธอไปเพียงชั่วข้ามคืนด้วยความเข้าใจผิด ทำให้เธอกับเขาต้องผูกติดกันไปตลอดชีวิตด้วยคำว่ารัก ❤️❤️❤️ หมอไทม์ ธามไธ ศัลยแพทย์โรงพยาบาล N ภายนอกดูเหมือนเป็นคนเย็นชาที่ไม่ค่อยสนใจใคร แต่ใครเลยจะรู้ว่าข้างในหัวใจกลับซ่อนความหวั่นไหวและอบอุ่นเอาไว้อย่างมิดชิด ครั้งหนึ่งเขาเคยตั้งปฎิญาณเอาไว้ว่าจะไม่รักใครแต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกให้เขาต้องมาตกหลุมรักผู้หญิง ที่เขาหวังเพียงแค่ค้างคืนแต่กลับคือรักจริงและรักเดียวของเขาตลอดไป ไออุ่น อัยย์วรินทร์ เด็กสาวที่มองโลกในแง่ดีน่ารักและบริสุทธิ์สดใส รอยยิ้มของเธอทำให้ใครต่อใครตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว รวมถึงเขาหมอไทม์ ธามไธ ความอบอุ่นของเธอหลอมละลายหัวใจที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งของเขา ให้กลายมาเป็นความรักที่ลึกซึ้ง
กาย กันต์ธีร์ พิสิฐกุลวัตรดิลก ฉายาราชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ หนุ่มหล่อแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เอกคอมพิวเตอร์ ปี 4 เขาหล่อ เขาเฟียร์ส เขาเฟี้ยว เขาซ่าส์ แต่โคตรทะลึ่ง และสุดแสนจะทะเล้น จีบหญิงไม่เก่ง แต่ผมเยเก่งนะครับที่สำคัญผมโสดสนิท!!แต่อยู่ดีๆดันมาเสียหัวใจให้กับยัยตัวร้ายแบบเธอ!!!อลิส อังสุมาลิน "รักนะไอ้ต้าวลิส" อลิส อังสุมาลิน ฐิศานันตกุล นิเทศศาสตร์ ปี 2 เธอสวย เธอเซ็กซี่ เจ้าแม่แห่ง Sex appeal ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอตบ!!หลงรักกายหนุ่มหล่อแสนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ๆก็มาจูบปากเธอ แถมเล่นเกินเบอร์เรียกเธอว่าเมีย!! น่ารักเบอร์นี้อลิสยินดีตกหลุมรักจ้ะพี่จ๋า ชาตินี้ไม่ได้พี่กายเป็นผัว อลิสจะโสดคอยดู!!ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก🥰มารยาหญิงร้อยเก้าเล่มเกวียนงัดมาให้หมด ☺️☺️ "รักนะน้อนพี่กาย"
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้