เพราะพ่อของเธอคิดใช้เล่ห์เหลี่ยมจับเขาให้แต่งงานกับลูกสาวของตัวเอง เขาจึงแก้แค้นคืนกลับไปอย่างสาสม ผู้หญิงที่เขาหลงรักกลับเป็นคนที่เขาเคยเกลียดและทำลายเขาควรทำเช่นไรให้ได้นางฟ้าอย่างเธอและลูกกลับคืนมา
ณ กรุงเทพมหานคร
ตึกสูงสามสิบชั้นใจกลางเมืองของกรุงเทพ บริษัทนพดลการค้า จำกัด บริษัทด้านการส่งออกสินค้าอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ชั้นบนสุดของอาคารห้องท่านประธานบริษัทตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และโกรธเคืองที่ลูกน้องทำงานไม่สำเร็จ
"ขอโทษครับนาย คุณชาร์ลปฎิเสธที่จะร่วมหุ้นกับเราครับ" สิงห์มือขวาและเลขาส่วนตัวของนพดลกล่าวด้วยใบหน้าสำนึกผิด
"ฉันไม่คิดเลย ว่ามันจะหยิ่งขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะมันเป็นถึงอภิมหาเศรษฐีและนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉันคงไม่ง้อมันมาถึงขนาดนี้หรอก"
นพดลกล่าวด้วยความไม่พอใจปนผิดหวังตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะเชิญชวน ชาร์ล เวลล็อค มาร่วมหุ้นด้วยตลอดแต่ก็ต้องผิดหวัง
"นายไม่ลองชวนนักธุรกิจคนอื่นดูล่ะครับ" สิงห์กล่าวแนะด้วยใบหน้าที่เกรงกลัวนิด ๆ เผื่อนายท่านจะเปลี่ยนใจ
"แกคิดว่าดีแล้วหรือถึงกล้าแนะนำฉันแบบนี้ แกก็รู้ว่าฐานะการเงินของบริษัทเป็นยังไง ถ้าฉันได้ร่วมหุ้นกับไอ้หนุ่มนั่นชื่อเสียงและเงินร่วมหุ้นของมันก็จะทำให้บริษัทมั่นคงขึ้น นักธุรกิจคนอื่นก็ล้วนแล้วอยากจะร่วมหุ้นกับมัน เพราะมันจับต้องอะไรก็ประสบความสำเร็จหมด อีกอย่างฉันอยากให้ยัยหนูมีคนเก่ง ๆ แบบนี้เคียงข้างในวันข้างหน้าด้วย" นพดลกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มย่องและเจ้าเล่ห์
"นายท่านคงไม่ได้คิดที่จะจับคู่ให้คุณหนูด้วยหรอกนะครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าอยากรู้และตกใจ
"ฮึ ฮึ ฮึ แกคิดว่าฉันพยายามขนาดนี้เพื่ออะไรล่ะ ยัยอันอ่อนเกินไปคงสานต่อธุรกิจของฉันไม่ได้แน่ ว่างจากเรียนสนใจแต่ทำอาหารและขนมอย่างเดียว แล้วแบบนี้สิ่งที่ฉันสร้างมากับมือจะให้พังลงไปง่าย ๆ งั้นเหรอ"
"แต่คุณหนูอายุห่างจากคุณชาร์ลเป็นรอบเลยนะครับ อีกอย่างคุณหนูก็อ้วนมากด้วย ผู้หญิงที่รายล้อมรอบคุณชาร์ลก็ล้วนแล้วแต่สวยๆทั้งนั้น คุณชาร์ลจะสนใจและยอมให้จับง่าย ๆ เหรอครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล
"ถ้าพูดถึงความสวยฉันคิดว่า ถ้ายัยอันผอมขึ้นมาก็ต้องสวยไม่แพ้ใครแน่นอน " นพดลกล่าวถึงบุตรสาวด้วยความภาคภูมิใจ
คฤหาสน์อมรพิพัฒน์รัตนกุล
"คุณหนูยังไม่กลับมาอีกเหรอคุณนมสาย" นพดลถามด้วยความสงสัย
"คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ สงสัยคงอาบน้ำอยู่ค่ะคุณท่าน เดี๋ยวนมให้มะลิไปตามให้ค่ะ" แม่นมสายตอบด้วยความนอบน้อม
"ไม่ต้องไปตามหนูอันหรอกค่ะ หนูอันมาแล้วคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ” สาวน้อยทรงอวบอ้วนตอบบิดาและวิ่งเข้ามากอดด้วยใบหน้าที่มีความสุข
เมื่อสิบห้าปีก่อน
สาวน้อยต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าแม่เพราะโรคหัวใจ ทำให้นมสายสาวใช้คนสนิทของคุณญาดาผู้เป็นภรรยาของคุณนพดล ต้องผันตัวเองมาเป็นคนเลี้ยงคุณหนูอันในวัยสามขวบแทน นมสายเก่งด้านทำอาหารกับขนมมาก ดังนั้นคุณหนูอันจึงติดนิสัยชอบเข้าครัวทำอาหารและชอบชิมชอบทานไปด้วย จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณหนูอันอวบอ้วนอย่างทุกวันนี้
"ปีนี้หนูอายุสิบแปดแล้วนะหนูอัน ตอนนี้หนูน้ำหนักเท่าไรแล้ว พ่อว่าปิดเทอมนี้หนูควรเข้าคอร์สลดน้ำหนักอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะที ไม่งั้นพ่อคงอดได้ลูกเขยกับคนอื่นเค้าแน่"นพดลกล่าวด้วยสีหน้าล้อเลียนลูกสาว
"โถ...คุณพ่อขาไม่อยากเลี้ยงหนูอันแล้วหรือคะ หนูอันยังเรียนไม่จบเลยนะคะ แถมอายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยไม่มีผู้ชายมาจีบหนูอันก็ดีแล้วนี่คะหนูอันจะได้อยู่กับคุณพ่อไปนาน ๆ ไงคะ หรือคุณพ่อเบื่อหนูอันแล้วคะถึงอยากให้หนูอันไปอยู่กับคนอื่นค่ะ" สาวน้อยแต่ร่างอวบอ้วนกล่าวด้วยใบหน้าแสนงอนบิดานิด ๆ
"ไม่ใช่ยังงั้น หนูก็รู้นี่ว่าพ่อรักหนูแค่ไหนแถมพ่อก็มีโรคประจำตัวอีกไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน พ่อก็แค่อยากให้หนูและธุรกิจของเรามีคนดูแลต่อจากพ่อ ถ้าพ่อเป็นอะไรไปและพ่อเชื่อว่าถ้าหนูผอมได้หนูต้องสวยมากแน่เพราะทุกวันนี้ถึงจะอวบอ้วนแต่ผิวพรรณขาวเนียนราวผิวเด็กทารก และโครงหน้ากลับสวยหวานอ่อนโยน ดวงตากลมโตแพขนตายาวงอนเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องใส่ขนตาปลอมเลยทีเดียว" นายนพดลพยายามพูดให้กำลังใจบุตรสาว
"คุณพ่ออย่าพูดอย่างงี้สิคะ หนูอันเชื่อว่าคุณพ่อต้องได้อยู่กับหนูอันอีกนานค่ะ รอปิดเทอมแล้วหนูอันจะไปเข้าคอร์สอย่างที่คุณพ่อบอกก็ได้ค่ะ ตอนนี้หนูอันก็ลดเรื่องกินไปเยอะแล้วนะคะ แต่ไม่รู้ทำไมไม่ผอมลงสักทีค่ะ เฮ่อ..." อันนาดากล่าวและถอนหายใจอย่างเริ่มปลง
เพื่อนที่มหาลัยของเธอแต่ละคนก็หุ่นดี ๆ ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่อยากได้หุ่นที่ดีผอมบางหุ่นเพรียว ที่ผ่านมาทั้งออกกำลังกายลดอาหารแต่สุดท้ายก็ลงแค่นิดเดียวเอง จนบางครั้งเธอยังรู้สึกว่าตัวเองพยายามน้อยเกินไปหรือเปล่า
"พ่อว่าเราไปทานอาหารเย็นกันเถอะ"
"ค่ะคุณพ่อ"
หนึ่งเดือนต่อมา
ก๊อก... เสียงเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าห้องหน้าห้องท่านประธานบริษัท
"เข้ามา"
"นายครับ ผมได้ข่าวมาว่าคุณชาร์ลมาที่เมืองไทยได้สามวันแล้วครับ"
"แล้วทำไมแกพึ่งมาบอกฉันตอนนี้ห้ะ" นพดลพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจปนหงุดหงิดเล็กน้อย
"ขอโทษครับนาย" สิงห์ตอบอย่างสำนึกผิด
ณ กรุงเทพมหานคร
ตึกสูงสามสิบชั้นใจกลางเมืองของกรุงเทพ บริษัทนพดลการค้า จำกัด บริษัทด้านการส่งออกสินค้าอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ชั้นบนสุดของอาคารห้องท่านประธานบริษัทตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และโกรธเคืองที่ลูกน้องทำงานไม่สำเร็จ
"ขอโทษครับนาย คุณชาร์ลปฎิเสธที่จะร่วมหุ้นกับเราครับ" สิงห์มือขวาและเลขาส่วนตัวของนพดลกล่าวด้วยใบหน้าสำนึกผิด
"ฉันไม่คิดเลย ว่ามันจะหยิ่งขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เพราะมันเป็นถึงอภิมหาเศรษฐีและนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉันคงไม่ง้อมันมาถึงขนาดนี้หรอก"
นพดลกล่าวด้วยความไม่พอใจปนผิดหวังตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะเชิญชวน ชาร์ล เวลล็อค มาร่วมหุ้นด้วยตลอดแต่ก็ต้องผิดหวัง
"นายไม่ลองชวนนักธุรกิจคนอื่นดูล่ะครับ" สิงห์กล่าวแนะด้วยใบหน้าที่เกรงกลัวนิด ๆ เผื่อนายท่านจะเปลี่ยนใจ
"แกคิดว่าดีแล้วหรือถึงกล้าแนะนำฉันแบบนี้ แกก็รู้ว่าฐานะการเงินของบริษัทเป็นยังไง ถ้าฉันได้ร่วมหุ้นกับไอ้หนุ่มนั่นชื่อเสียงและเงินร่วมหุ้นของมันก็จะทำให้บริษัทมั่นคงขึ้น นักธุรกิจคนอื่นก็ล้วนแล้วอยากจะร่วมหุ้นกับมัน เพราะมันจับต้องอะไรก็ประสบความสำเร็จหมด อีกอย่างฉันอยากให้ยัยหนูมีคนเก่ง ๆ แบบนี้เคียงข้างในวันข้างหน้าด้วย" นพดลกล่าวด้วยใบหน้าที่ยิ้มย่องและเจ้าเล่ห์
"นายท่านคงไม่ได้คิดที่จะจับคู่ให้คุณหนูด้วยหรอกนะครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าอยากรู้และตกใจ
"ฮึ ฮึ ฮึ แกคิดว่าฉันพยายามขนาดนี้เพื่ออะไรล่ะ ยัยอันอ่อนเกินไปคงสานต่อธุรกิจของฉันไม่ได้แน่ ว่างจากเรียนสนใจแต่ทำอาหารและขนมอย่างเดียว แล้วแบบนี้สิ่งที่ฉันสร้างมากับมือจะให้พังลงไปง่าย ๆ งั้นเหรอ"
"แต่คุณหนูอายุห่างจากคุณชาร์ลเป็นรอบเลยนะครับ อีกอย่างคุณหนูก็อ้วนมากด้วย ผู้หญิงที่รายล้อมรอบคุณชาร์ลก็ล้วนแล้วแต่สวยๆทั้งนั้น คุณชาร์ลจะสนใจและยอมให้จับง่าย ๆ เหรอครับ" สิงห์กล่าวด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล
"ถ้าพูดถึงความสวยฉันคิดว่า ถ้ายัยอันผอมขึ้นมาก็ต้องสวยไม่แพ้ใครแน่นอน " นพดลกล่าวถึงบุตรสาวด้วยความภาคภูมิใจ
คฤหาสน์อมรพิพัฒน์รัตนกุล
"คุณหนูยังไม่กลับมาอีกเหรอคุณนมสาย" นพดลถามด้วยความสงสัย
"คุณหนูกลับมาแล้วค่ะ สงสัยคงอาบน้ำอยู่ค่ะคุณท่าน เดี๋ยวนมให้มะลิไปตามให้ค่ะ" แม่นมสายตอบด้วยความนอบน้อม
"ไม่ต้องไปตามหนูอันหรอกค่ะ หนูอันมาแล้วคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ” สาวน้อยทรงอวบอ้วนตอบบิดาและวิ่งเข้ามากอดด้วยใบหน้าที่มีความสุข
เมื่อสิบห้าปีก่อน
สาวน้อยต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าแม่เพราะโรคหัวใจ ทำให้นมสายสาวใช้คนสนิทของคุณญาดาผู้เป็นภรรยาของคุณนพดล ต้องผันตัวเองมาเป็นคนเลี้ยงคุณหนูอันในวัยสามขวบแทน นมสายเก่งด้านทำอาหารกับขนมมาก ดังนั้นคุณหนูอันจึงติดนิสัยชอบเข้าครัวทำอาหารและชอบชิมชอบทานไปด้วย จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณหนูอันอวบอ้วนอย่างทุกวันนี้
"ปีนี้หนูอายุสิบแปดแล้วนะหนูอัน ตอนนี้หนูน้ำหนักเท่าไรแล้ว พ่อว่าปิดเทอมนี้หนูควรเข้าคอร์สลดน้ำหนักอย่างจริง ๆ จัง ๆ ซะที ไม่งั้นพ่อคงอดได้ลูกเขยกับคนอื่นเค้าแน่"นพดลกล่าวด้วยสีหน้าล้อเลียนลูกสาว
"โถ...คุณพ่อขาไม่อยากเลี้ยงหนูอันแล้วหรือคะ หนูอันยังเรียนไม่จบเลยนะคะ แถมอายุยังไม่ถึงยี่สิบด้วยไม่มีผู้ชายมาจีบหนูอันก็ดีแล้วนี่คะหนูอันจะได้อยู่กับคุณพ่อไปนาน ๆ ไงคะ หรือคุณพ่อเบื่อหนูอันแล้วคะถึงอยากให้หนูอันไปอยู่กับคนอื่นค่ะ" สาวน้อยแต่ร่างอวบอ้วนกล่าวด้วยใบหน้าแสนงอนบิดานิด ๆ
"ไม่ใช่ยังงั้น หนูก็รู้นี่ว่าพ่อรักหนูแค่ไหนแถมพ่อก็มีโรคประจำตัวอีกไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน พ่อก็แค่อยากให้หนูและธุรกิจของเรามีคนดูแลต่อจากพ่อ ถ้าพ่อเป็นอะไรไปและพ่อเชื่อว่าถ้าหนูผอมได้หนูต้องสวยมากแน่เพราะทุกวันนี้ถึงจะอวบอ้วนแต่ผิวพรรณขาวเนียนราวผิวเด็กทารก และโครงหน้ากลับสวยหวานอ่อนโยน ดวงตากลมโตแพขนตายาวงอนเรียกได้ว่าแทบไม่ต้องใส่ขนตาปลอมเลยทีเดียว" นายนพดลพยายามพูดให้กำลังใจบุตรสาว
"คุณพ่ออย่าพูดอย่างงี้สิคะ หนูอันเชื่อว่าคุณพ่อต้องได้อยู่กับหนูอันอีกนานค่ะ รอปิดเทอมแล้วหนูอันจะไปเข้าคอร์สอย่างที่คุณพ่อบอกก็ได้ค่ะ ตอนนี้หนูอันก็ลดเรื่องกินไปเยอะแล้วนะคะ แต่ไม่รู้ทำไมไม่ผอมลงสักทีค่ะ เฮ่อ..." อันนาดากล่าวและถอนหายใจอย่างเริ่มปลง
เพื่อนที่มหาลัยของเธอแต่ละคนก็หุ่นดี ๆ ทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่อยากได้หุ่นที่ดีผอมบางหุ่นเพรียว ที่ผ่านมาทั้งออกกำลังกายลดอาหารแต่สุดท้ายก็ลงแค่นิดเดียวเอง จนบางครั้งเธอยังรู้สึกว่าตัวเองพยายามน้อยเกินไปหรือเปล่า
"พ่อว่าเราไปทานอาหารเย็นกันเถอะ"
"ค่ะคุณพ่อ"
หนึ่งเดือนต่อมา
ก๊อก... เสียงเคาะประตูเพื่อขออนุญาตเข้าห้องหน้าห้องท่านประธานบริษัท
"เข้ามา"
"นายครับ ผมได้ข่าวมาว่าคุณชาร์ลมาที่เมืองไทยได้สามวันแล้วครับ"
"แล้วทำไมแกพึ่งมาบอกฉันตอนนี้ห้ะ" นพดลพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจปนหงุดหงิดเล็กน้อย
"ขอโทษครับนาย" สิงห์ตอบอย่างสำนึกผิด
"แด๊ดดี้ตกเครื่องบินตายไปแล้วล่ะ อย่าถามถึงอีกเลยนะคะเด็กดี" "ถ้าแด๊ดดี้ตายไปแล้ว แด๊ดดี้นิสัยดีหรือเปล่าคะคุณครูบอกว่านิสัยดีได้ขึ้นสวรรค์ นิสัยไม่ดีตกนรกค่ะ สรุปแล้วแด๊ดดี้หนูอยู่สวรรค์หรือนรกคะ"
อยากแต่งงานกับฉันเธอต้องทนทุกอย่างได้แพรลตา ต่อให้เธอทำงานจนล้มตายไปต่อหน้าฉันก็จะไม่สน เพราะเธอก็เหมือนต้นหญ้าเล็กๆคอยรองเท้าเวลาที่ฉันเหยียบย่ำเท่านั้น
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"