หลิวฉูฉู่นางเอกดังย้อนเวลากลับเข้าไปอยู่ในซีรีส์ที่ตัวเองแสดง ทว่าเรื่องไม่ง่ายเลยสักนิด เมื่อเธอ ต้องเข้าไปอยู่ในร่างนางร้ายที่สุดท้ายต้องตายตอนจบเพราะถูกพระเอกฆ่าตาย! หลิวฉูฉู่จึงต้องทำทุกวิธีที่จะให้รอดพ้นจากความตายนี้ "ฝ่าบาท รักนะเพคะ" นิยายเรื่องนี้ เป็นแนวสุขนิยม สายคลั่งรักไม่ควรพลาด ไม่มีดราม่าค่ะ อ่านคลายเครียด นุบนิบหัวใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดวัน หมายเหตุ ซื้อในเวบถูกกว่าแอปเปิ้ลนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
ประตูตำหนักเย็นถูกปิดมิดชิด อดีตฮองเฮาสกุลหลิวกำลังนอนเกลือกกลิ้งด้วยความทรมานบนพื้นอันเย็นเยียบหลังได้รับพระราชทานยาพิษจากผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของตนเอง
เบื้องหน้าคือบุรุษผู้หนึ่งใบหน้าคมคายหล่อเหลาอยู่ในอาภรณ์สีทองสูงส่งสง่างาม รอบกายคล้ายจะมีรัศมีบางอย่างแผ่กระจายออกมาดูเยือกเย็นน่ากลัวยิ่งนัก ทว่าบัดนี้เขาผู้นั้นกำลังมองนางด้วยสายตารังเกียจทั้งอำมหิต
หลิวฉูฉู่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นเปล่งเสียงกรีดร้องโหยหวนดูน่าเวทนา ทว่ากลับไม่มีผู้ใดสนใจเสียงร้องนั้นเลยแม้แต่น้อย นางค่อย ๆ ขยับร่างกายเข้าหาเขาผู้นั้นอย่างช้า ๆ อีกเพียงนิดเดียวนิ้วมือเรียวก็จะสัมผัสรองเท้าของเขาอยู่แล้ว ทว่าคนผู้นั้นกลับขยับกายห่างไม่ยอมให้นางได้แตะต้องตัวเขาเลยแม้แต่น้อย
"ฝะ ฝ่าบาท มะ หม่อมฉัน ทรมานเหลือเกิน"
ดวงตาของหลิวฉูฉู่แทบจะหลุดออกมาจากเบ้า เมื่อความทรมานนั้นถึงที่สุด โลหิตสด ๆ ไหลออกมาจากปากของนางเป็นสายกระทั่งคำที่จะเอื้อนเอ่ยยังไม่อาจพูดได้มีเพียงเสียงแหบแห้งที่หลุดออกมา ยังมีสายตาเย็นชาของคนผู้นั้นที่เฝ้ามองการตายของนางด้วยความรู้สึกสาแก่ใจ
"เจ้ากล้าวางยารัชทายาททั้ง ๆ ที่เจ้าเป็นผู้ชุบเลี้ยงเขามากับมือตนเอง เขาอายุเพียงเจ็ดขวบเท่านั้น หลิวฉูฉู่การตายของเจ้าครานี้ยังน้อยไปนัก สกุลหลิวเลี้ยงบุตรีให้เป็นคนต่ำช้าเลวทราม ต้องโทษประหารเก้าชั่วโคตร บิดามารดา ข้าก็ไม่ละเว้นแม้แต่ผู้เดียว"
เสียงกรีดร้องโหยหวนพลันดังขึ้นในขณะที่ร่างสูงค่อย ๆ สะบัดผ้าเดินออกจากตำหนักเย็นไป หลิวฉูฉู่ดวงตาเบิกค้างไม่อาจทนความเจ็บปวดได้อีกต่อไป ลมหายใจพลันขาดสะบั้นก่อนตายเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจสาสมกับความผิดที่นางได้ก่อเอาไว้
ความเงียบเข้าปกคลุมแสงตะเกียงรำไรสาดส่องร่างกายเล็กในอาภรณ์ขาว ทว่าแปดเปื้อนไปด้วยคราบโลหิต ปิดฉากชีวิตฮองเฮาผู้เคยมีอำนาจสูงสุดในวังหลัง ไร้คนเหลียวแล สิ้นวาสนากระทั่งชีวิตบัดนี้ยังไม่อาจรักษาเอาไว้ได้.....
"คัท"
หลังความสงบเงียบและเสียงของผู้กำกับพลันดังขึ้น ผู้จัดการของหลิวฉูฉู่รีบเข้ามาแล้วประคองร่างเล็กของเธอขึ้นมา
"เหนียวไปหมดแล้ว เช็ดหน้าก่อน"
ซ้อสี่พี่สะใภ้และผู้จัดการส่วนตัวของหลิวฉูฉู่พูดขึ้น
"ฉากสุดท้ายแล้วต้องทุ่มเทหน่อยไม่เป็นไร"
เธอรับผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาจนสะอาดก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินมาดูที่จอมอนิเตอร์ ผู้กำกับเอ่ยชมเธอจนยิ้มหน้าบาน
"ทำได้ดีมากเลยอาจารย์หลิว สุดยอดเลย สมแล้วที่เป็นเบอร์หนึ่งของวงการ"
"ขอบคุณค่ะ ทั้งหมดนี้เพราะได้ผู้กำกับลี่ฉันเลยเข้าถึงบทบาทและทำได้ขนาดนี้ค่ะ"
แน่นอนว่า แม้ในใจของหลิวฉูฉู่จะลำพองแค่ไหนว่าตัวเองเก่งกาจ แต่เธออยู่ในวงการมานาน การอ่อนน้อมถ่อมตัวกับผู้กำกับและคนอื่นอยู่เสมอจึงกลายเป็นฉากหน้าบังตา และสุดท้ายกลายเป็นนิสัยถาวรของหลิวฉูฉู่ไปแล้ว
ผู้กำกับลี่ยิ้มหน้าบานเมื่อดาราสาวเอ่ยยกย่อง
"เฮ้ยเรื่องนี้ความจริงส่งกันทั้งหมด บทนี้ผู้เขียนบทเขาเขียนมาให้อาจารย์หลิวโดยเฉพาะ กระทั่งชื่อของตัวเอกยังยืมชื่อของอาจารย์หลิวมาใช้ เรตติ้งถึงได้เอาชนะซีรีส์ที่ออกฉายในเวลาเดียวกันนี้ทั้งหมด ใคร ๆ ก็เกลียดฮองเฮาหลิวเข้าไส้เพราะอาจารย์หลิวเข้าถึงบทบาทยังไงล่ะครับ"
หลิวฉูฉู่ยิ้มหวานพร้อมกับพยักหน้ารับอย่างนอบน้อมยังพูดคุยกับผู้กำกับหลิวอีกหลายคำก่อนที่จะปลีกตัวออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแต่งตัวส่วนตัวของเธอเอง
"พรุ่งนี้ยังมีคิวอะไรอีกหรือเปล่าคะ"
หลิวฉูฉู่ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ด้วยความอ่อนเพลียก่อนจะหลับตาลงแล้วปล่อยให้ช่างแต่งตัวช่วยกันแกะวิกผมออกจากศีรษะของตัวเอง
ซ้อสี่ตอบคำถามอย่างรวดเร็ว
"พรุ่งนี้ไม่มีพี่จัดตารางให้เธอพักสามวันหลังจากนั้นต้องออกรายการโทรทัศน์เพื่อโพรโมตซีรีส์เรื่องนี้อีกหลายรายการ เธอจะไม่ว่างไปอีกสองเดือน"
"แล้วซีรีส์เรื่องใหม่ล่ะคะ พี่ว่ายังไง"
"ติดต่อเข้ามามากเกินไป พี่ต้องให้เธอดูก่อนว่าอยากแสดงบทแบบไหน จะเอาปัจจุบันหรือเป็นย้อนยุคดีล่ะ พี่จะได้เลือกให้"
หลิวฉูฉู่ส่ายหน้า
"ย้อนยุคพักก่อนค่ะ เดี๋ยวจะเข้าหน้าร้อนแล้วขอเป็นแนวปัจจุบันก็แล้วกันถ้าให้ถ่ายย้อนยุคตอนหน้าร้อนฉันได้ตายแน่ ๆ ต้องใส่ชุดแบบนี้ทั้งหนาแล้วยังถูกมัดเป็นบ๊ะจ่าง ไม่ไหวค่ะ"
"ก็ได้ งั้นพี่เลือกแนวปัจจุบันให้เธอก็แล้วกัน"
หลิวฉูฉู่พยักหน้า ช่างทำผมแกะวิกออกจากผมของเธอจนหมดแล้วหลังจากนั้นเลยช่วยเธอเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว จู่ ๆ ท้องของหลิวฉูฉู่ก็ร้องขึ้นมาเธอเพิ่งคิดขึ้นได้ว่าเธอถ่ายละครตั้งแต่เที่ยงวันจนตอนนี้เกือบจะตีสองแล้วเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย
ซ้อสี่ได้ยินเสียงท้องร้องของหลิวฉูฉู่เธอจึงพูดขึ้นทันใด "พี่จะไปหาอะไรมาให้กินนะ รอก่อนก็แล้วกันยังมีอาหารแฟนคลับที่ส่งมาซัปพอร์ตเธอข้างนอก เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้กิน"
หลิวฉูฉู่ยิ้มกว้างขอบคุณพี่สะใภ้ที่เอาใจใส่เธอจริง ๆ
"ขอบคุณค่ะ"
ตอนนี้ในห้องมีเพียงหลิวฉูฉู่อยู่เพียงลำพัง เธอจึงนอนพักสายตาเงียบ ๆ หลังจากพี่สะใภ้หายไปไม่ถึงห้านาที ประตูก็ถูกเคาะ ใครบางคนโผล่หน้าเข้ามาพร้อมกับน้ำส้มคั้นสดในมือ
"ฉันเป็นทีมงานค่ะ ผู้จัดการของอาจารย์หลิวให้มาเชิญอาจารย์หลิวไปทานข้าวค่ะ ดื่มน้ำส้มก่อนนะคะ"
หลิวฉูฉู่ยิ้มขอบคุณ เพราะหิวเธอจึงดื่มน้ำส้มไปเกือบหมดแก้ว ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับบิดขี้เกียจเล็กน้อย คิดว่าอาหารแฟนคลับคงมีเยอะมากจนซ้อสี่เอามาไม่ไหวแน่เลยให้คนมาตามแบบนี้
หลิวฉูฉู่เดินตามทีมงานคนนั้นไปโดยเงียบ ๆ ปกติเธอไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้าอยู่แล้วและทีมงานคนนี้ก็ไม่ช่างพูดเช่นกัน
"ด้านโน้นค่ะเห็นหรือเปล่าคะ ที่แสงไฟตรงนั้น"
หลิวฉูฉู่พยักหน้าเดินนำหน้าทีมงานคนนั้นในขณะที่กำลังเดินข้ามสะพานจู่ ๆ ก็เกิดอาการเวียนหัวกระทั่งหน้ามืดจนมองไปรอบตัวรู้สึกว่ารอบบริเวณหมุนคว้างเหมือนแผ่นดินกำลังไหวอย่างแรง ร่างกายของหลิวฉูฉู่โงนเงนหน้าแทบจะพุ่งลงพื้นดินเธอขยับตัวจับราวสะพานเอาไว้ยกมือจับศีรษะของตัวเองเอาไว้
"โอ๊ะ ฉันหน้ามืดช่วยพยุงฉันหน่อย"
ในตอนแรกหลิวฉูฉู่คิดว่าเพราะตัวเองทำงานโดยไม่ได้พักจึงเกิดอาการแบบนี้ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกได้ว่ามีความผิดปกติบางอย่าง เมื่อร่างกายถูกกระแทกอย่างแรง กระทั่งหลิวฉูฉู่คล้ายจะพุ่งถลาลงจากที่สูงจนร่างกระแทกเข้ากับผิวน้ำอย่างแรง
เธอพยายามกระเสือกกระสนที่จะว่ายน้ำขึ้นมา แต่เจ้ากรรมหลิวฉูฉู่กลับไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อสู้กับสายน้ำ ปกติแล้วเธอก็ไม่ถูกกับน้ำเพราะเคยเล่นบทใต้น้ำแล้วทำให้เกือบตายในอดีตและตอนนี้เธอยังมีความหวาดกลัวฝังใจ
สายน้ำเย็นเยียบแทบจะคร่าชีวิตของเธอแล้ว ทีมงานคนนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยไม่มีทีท่าว่าจะมีใครมาช่วยเธอเลยแม้แต่คนเดียว
ร่างกายของหลิวฉูฉู่ค่อย ๆ จมลงไปที่ก้นสระลึกทั้งมืดมิดและเย็นเยียบในตอนนี้ที่เธอได้ไร้สติไปแล้ว!
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”