เรื่องย่อ วังวนร้อนรักจวนแม่ทัพใหญ่ แนว 4P ซุนหลีนถูกจับมาเป็นเชลยสงครามพร้อมพี่ชายบุญธรรมที่นางแอบมีใจให้เขาและมารดา แต่ด้วยความงามของนางจึงทำให้ฮูหยินใหญ่ที่ไร้ทายาทต้องการให้นางอุ้มท้องแทนตน เรียนท่านผู้อ่านทุกท่าน หนังสือนิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเหมาะกับสายแซ่บไม่พูดเยอะ เจ็บคอ จะมีฉาก NC นำเนื้อหาแทบทั้งเรื่อง และพล็อตเบาคลายเครียด แทบไม่มีพล็อตค่ะ ดังนั้นท่านผู้อ่านควรพิจารณาโหลดตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ขอบคุณค่ะ
จวนแม่ทัพใหญ่แคว้นเฉา
แคว้นเจ้าของซุนหลีถูกแม่ทัพโจวซีฉือแห่งแคว้นเฉาตีจนแตกพ่ายและทำให้แคว้นเฉากลายเป็นผู้ปกครองแคว้นเจ้าโดยทันที
ซุนหลีบุตรสาวแม่ทัพแคว้นเจ้าจึงกลายเชลยสงครามที่ถูกกวาดต้อนให้มาอยู่ในจวนแม่ทัพตั้งแต่อายุสิบสามปี
เพราะสงครามทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด หลังจากแพ้สงครามบิดาของนางได้รับบาดแผลหลายแห่งบนร่างกาย บิดาจึงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็จากไป
ในขณะที่มารดา ซุนหลี และพี่ชายบุญธรรมนามซุนโหว ถูกกวาดต้อนให้มาเป็นบ่าวรับใช้อยู่ในจวนแม่ทัพพร้อมกัน
บัดนี้ซุนโหวอายุยี่สิบห้าปีแล้ว เขาไม่ใช่พี่ชายที่แท้จริงของซุนหลี แต่คือบุตรชายสหายรักของบิดาซุนหลีที่ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ที่มีนามว่า อี้โหว
ต่อมาบิดาของอี้โหวได้ตายในสงครามในยามที่เขาอายุได้สิบหกปี แม่ทัพซุนจึงรับอี้โหวมาเป็นบุตรบุญธรรมและดูแลเขาประดุจบุตรชายผู้หนึ่ง
แม่ทัพซุนในยามนั้นจึงได้ให้เด็กน้อยอี้โหวเปลี่ยนแซ่มาใช้แซ่ซุนตามเขา จากอี้โหวจึงได้กลายมีเป็น ‘ซุนโหว’ ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ซุนโหวตามติดบิดาบุญธรรมไปออกรบและตำแหน่งสุดท้ายก่อนแผ่นดินแตกพ่ายของเขาก็คือแม่ทัพน้อยของแคว้นเจ้า
หลังแคว้นเจ้าถูกแคว้นเฉาตีทัพจนแตกพ่าย คนสกุลซุนสวามิภักดิ์ แม่ทัพนายกองทั้งหลายกลายเป็นสามัญชน ยังถูกกวาดต้อนเข้าเมืองหลวงเพื่อป้องกันการคิดรวบรวมคนก่อกบฏอีก
เชลยเหล่านี้ต่างถูกส่งให้ไปอยู่ในบ้านของขุนนางบ้างก็ถูกส่งไปใช้แรงงานตามชายแดน มีฐานะตกต่ำกลายเป็นทาสโดยไม่สนฐานะเดิม
หลันหยาคือฮูหยินจวนแม่ทัพ นางได้รับจดหมายจากโจวซีฉือให้ช่วยดูแลคนจากสกุลซุนให้ดีเพราะสกุลซุนเคยมีบุญคุณต่อเขาแต่อย่าออกหน้าจนเกินไป
หลันหยาย่อมเข้าใจเพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นเชลย ดังนั้นไม่อาจช่วยเหลือออกนอกหน้าได้ นางจึงจัดสรรตำแหน่งให้อย่างชาญฉลาด
เพราะซุนโหวมีใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา รูปร่างกำยำทั้งหน่วยก้านดี เขายังมีความเชี่ยวชาญเรื่องการฝึกม้า จึงได้รับหน้าที่ให้เป็นคนเลี้ยงม้าและฝึกฝนม้าของจวนแม่ทัพทันใด
เดิมทีซุนโหวมีภรรยาที่แต่งงานกันแล้วติดตามมาด้วย ทว่าภรรยาของเขากลับไปต้องตานายกองผู้หนึ่งเข้า นางจึงทิ้งเขาโดยไม่แยแสยินยอมไปเป็นอนุของนายกองผู้นั้นเพื่อความสุขสบายของตนเอง
ซุนโหวหย่ากับภรรยาของตนเอง ทว่ากลับไม่รู้สึกเสียใจอันใด ก็นั่นเพราะว่าสตรีที่อยู่ในใจของเขากลับคือน้องสาวบุญธรรมซุนหลีมาตั้งแต่ต้น
ที่เขาแต่งงานกับนางผู้นั้นล้วนเพราะท่านพ่อบุญธรรมเป็นธุระจัดการเขาจึงไม่อาจขัดได้จำต้องแต่งอย่างจำยอม
หากท่านพ่อที่แท้จริงของเขาไม่ด่วนตายจาก ไม่แน่ว่ายามนี้ซุนหลีอาจจะกลายเป็นภรรยาของเขาก็ได้
ทว่ายามนี้ฐานะตกต่ำ ไร้แผ่นดินอาศัยเขาจึงได้แต่คอยคุ้มครองแม่บุญธรรมและน้องบุญธรรมอยู่ที่นี่ไม่ให้ผู้ใดรังแกได้
จวนแม่ทัพใหญ่แคว้นเฉานับว่าไม่เลว ถึงเขาจะถูกต้อนมาเป็นทาส แต่คนในจวนก็มิได้รังแกคนที่ไร้ทางสู้ ยังให้พวกเขาอยู่อาศัยอย่างสบายใจ หากไม่คิดทรยศก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบเช่นนี้ได้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ขอเพียงได้อยู่ใกล้ซุนหลี ซุนโหวก็ไม่คิดไปที่ใดอีกแล้ว
ในขณะที่ซุนหลีมีใบหน้างดงาม ผิวขาวผ่องเรียบลื่นประดุจแพรไหม นางถูกเลี้ยงดูประดุจไข่ในหินมาตั้งแต่กำเนิด ผิวพรรณจึงผุดผาดเนียนนุ่มฉ่ำน้ำประดุจเต้าหู้ขาว กิริยามารยาทอ่อนหวาน ถ่อมตน
ยิ่งโตความงามยิ่งเลื่องลือ กระทั่งสตรีที่เห็นนางยังต้องยอมสยบ
เพราะความงามและมารยาทที่เพียบพร้อม ซุนหลีจึงเป็นที่ต้องตาฮูหยินใหญ่ และหมายตาว่าจะให้ซุนหลีเป็นอนุคนต่อไปของท่านแม่ทัพใหญ่
หลันยาบัดนี้อายุสามสิบห้าปีแล้ว แม้จะอายุมากแต่นางกลับยังงดงามใบหน้าไร้ริ้วรอยเหมือนเด็กสาวแรกแย้มนางหนึ่ง
หากเปรียบเทียบความงดงามกับซุนหลีแล้ว แม้จะแก่ชรากว่านับสิบปีทว่าก็ไม่อาจเปรียบเทียบว่าผู้ใดที่งดงามมากกว่ากัน
แม้นางจะเป็นฮูหยินที่ท่านแม่ทัพรักใคร่หลงใหลที่สุด ทว่านางมีอาการเจ็บป่วยภายในเป็นโรคประจำตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่อาจมีบุตรกับท่านแม่ทัพได้
ดังนั้นเพื่อจวนแม่ทัพแล้วนางจึงต้องการหาสตรีที่รูปร่างสมบูรณ์ โหนกเนื้ออวบอูมสีแดงฉ่ำ เต้านมใหญ่โต และที่สำคัญสะโพกต้องผายเพื่อให้เหมาะกับการตั้งครรภ์
ฮูหยินใหญ่หลันหยาจึงหมายหมั่นปั้นมือที่จะฝึกฝนให้ซุนหลีกลายเป็นอนุของแม่ทัพใหญ่เพื่อตั้งครรภ์บุตรชายสืบทอดวงศ์ตระกูล
แน่นอนว่าฮูหยินใหญ่คิดครอบครองบุตรชายของซุนหลีเอาไว้เป็นของตน
ซุนหลีมีหน้าที่เพียงตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในตัวของเด็กคนนั้น
ด้วยความชื่นชอบเรื่องเสพกามารมณ์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ที่ทรงเห็นว่าบุรุษยิ่งครอบครองสตรีมากเพียงใดก็หมายถึงอำนาจที่มากเท่านั้น
อีกทั้งน้ำรักของสตรียังเป็นยาอายุวัฒนะ หากบุรุษได้ดื่มกินมาก ๆ จะยิ่งทำให้มีอายุยืนยาว ทำให้ฮ่องเต้มักจะให้สนมหลายคนเข้าปรนนิบัติดื่มน้ำรักที่หลั่งจากรูสวาทของพวกนางในทุก ๆ วัน
ยิ่งมีหลักฐานมากมายที่คนในแคว้นต่างอายุยืนก็ยิ่งทำให้เรื่องการดื่มน้ำกำหนัดของบุรุษและสตรีเป็นที่นิยมมาช้านาน ของสิ่งนี้ดียิ่งกว่าดื่มโสมคนราคาแพงเพื่อบำรุงร่างกายเสียอีก
ธรรมเนียมของแคว้นนี้แปลกประหลาดนัก ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษหากมีความสามารถก็สามารถสอบเข้ารับราชการได้ และเมื่อก้าวหน้าก็สามารถเลี้ยงดูนางบำเรอ หรือ นายบำเรอ ได้ตามใจชอบนับว่ายุติธรรมทั้งบุรุษและสตรี
ในขณะที่ฮ่องเต้มีสนมที่คัดเลือกเข้าวังในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ในวังหลังของพระองค์จึงมีสนมหลายพันคนที่งามหยาดเยิ้ม ที่ต่อให้พระองค์หยิบป้ายพวกนางเหล่านั้นวันละสิบคนก็ยังเวียนไม่ครบ
เมื่อพระสนมมีมากนัก พระองค์จึงใช้ให้เป็นประโยชน์มอบนางเหล่านั้นให้เป็นรางวัลแก่ขุนนางและแคว้นเล็ก ๆ ที่สวามิภักดิ์แด่พระองค์ และหลายครั้งก็ยังใช้งานสตรีเหล่านั้นร่วมกับขุนนางเพื่อความสำราญ
แม้ว่าฝ่าบาทและขุนนางจะมักมากในกามารมณ์ แต่เพราะฮ่องเต้เฉลียวฉลาดปกครองแผ่นดินให้สงบสุข ประชาชนจึงเคารพฮ่องเต้ผู้เป็นโอรสสวรรค์ยิ่งนัก
เมื่อประชาชนอยู่ดีกินดี จิตใจเปี่ยมสุข เมื่อฮ่องเต้มีรสนิยมหาความสำราญทางกามารมณ์ประชาชนในแคว้นจึงยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง
ซุนหลีถูกฮูหยินใหญ่ส่งเจียวหมัวมัวมาฝึกสอนให้แก่นาง เพื่อเป็นนางอุ่นเตียงให้ท่านแม่ทัพตั้งแต่นางเข้าสู่วัยปักปิ่นเมื่ออายุได้สิบห้าปี
บัดนี้ซุนหลีอายุสิบเจ็ดปีแล้วนางก็ยังไม่เคยเห็นหน้าท่านแม่ทัพแม้แต่ครั้งเดียวเพราะท่านแม่ทัพประจำการอยู่ชายแดนตลอด
นางเคยถามฮูหยินใหญ่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของท่านแม่ทัพ ฮูหยินใหญ่เพียงแต่เอ่ยว่า
“แล้วเจ้าก็จะรู้เอง”
มีผู้คนเล่าลือว่าแม่ทัพใหญ่เมื่อสมัยยามยังหนุ่ม มีใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่องอาจ และยังมีใจมั่นคงเพียงแค่ฮูหยินใหญ่เท่านั้น ท่านแม่ทัพไม่เคยนอนกับสตรีอื่นใดเลย
ทว่าเกือบหกปีมาแล้วที่ท่านแม่ทัพมิได้กลับมายังเมืองหลวง
หลายคนจึงเอ่ยว่าเขาคือท่านปู่วัยชราผู้หนึ่ง ซึ่งสตรีน้อยใหญ่ไม่อยากร่วมหออีกต่อไป
ถึงท่านแม่ทัพจะแข็งแกร่งแต่ก็เคี่ยวกรำศึกมาหลายปี ร่างกายคงทรุดโทรกลายเป็นตาเฒ่าจิตวิปริตผู้หนึ่งไปแล้วจริง ๆ
ในจินตนาการของซุนหลี นางยอมรับว่าหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย เมื่อคิดภาพชายชรากำลังคล่อมร่างของตนอยู่
แต่เพื่อท่านแม่และให้พี่ชายของนางมีฐานะในจวนที่ดีขึ้น ไม่ต้องลำบากเป็นบ่าวรับใช้อีกต่อไป นางจึงต้องฝืนกล้ำกลืนยอมทำตาม
และถึงจะหวาดกลัวเพียงใด ซุนหลีก็ไม่เคยปริปากบ่นให้ผู้ใดฟัง กระทั่งเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแม่ซุนหลีก็ยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขไม่ให้ท่านแม่ต้องกังวล
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ในเมื่อสวรรค์ประทานโอกาสนี้ให้แก่ลูก นั่นก็หมายถึงว่าสวรรค์ให้โอกาสให้ลูกทดแทนบุญคุณท่านแม่และท่านพี่ ไม่ให้พวกท่านต้องลำบาก ไม่ว่าจะเป็นท่านแม่ทัพที่ชราก็ดี หรือจะเป็นแม่ทัพที่จิตใจบิดเบี้ยวตามข่าวลือก็ดี ซุนหลีล้วนไม่เชื่อกลัวเจ้าค่ะ”
“ลูกแม่ เด็กดีของแม่ แม่เสียใจที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้ เจ้าคือสตรีสูงศักดิ์ที่แม่เฝ้าถนอม ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ที่ต้องกลายมาเป็นอนุของเฒ่าชราผู้หนึ่ง”
“มิใช่ความผิดท่านเจ้าค่ะ ซุนหลีมิใช่คุณหนูในห้องหอดั่งวันวาน แต่ซุนหลีจะไม่ยอมแพ้ และให้ท่านแม่ลำบากอีกต่อไป”
ท่านแม่โอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียว แคว้นเจ้าของพวกนางมีความนิยมผัวเดียวเมียเดียว บุรุษไม่รับอนุเข้าบ้านเด็ดขาด
แต่แคว้นเฉาบุรุษกลับเป็นใหญ่ ขอเพียงบุรุษต้องการสตรีก็เป็นเพียงของใช้ชิ้นหนึ่ง จะใช้ร่วมกับผู้ใดหรือยกให้ผู้ใดก็ย่อมได้
“ลำบากหลีเอ๋อร์ของแม่แล้ว ลูกแม่ช่างกตัญญูยิ่งนัก”
ซุนหลีจะถูกตรวจร่างกายทุก ๆ สามเดือน นางต้องเปลือยกายต่อหน้าฮูหยินใหญ่และปล่อยให้ฮูหยินใหญ่สำรวจร่างกายของนางโดยละเอียดเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดผิดพลาด
นางต้องถูกเตรียมพร้อมให้มากที่สุด
ซุนหลียังจำวันแรกหลังจากฝึกฝนวิชาเอาใจบุรุษมานับปี เมื่อนางอายุครบสิบหกปีวันนั้นเป็นวันที่ฮูหยินใหญ่เรียกนางเข้าไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดเป็นครั้งแรก
ยามนั้นนางตื่นเต้นและหวาดกลัว ทว่าผ่านไปไม่นานซุนหลีก็เริ่มเคยชิน กล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับฮูหยินใหญ่โดยไม่ขัดเขิน
วันนี้ฮูหยินใหญ่เรียกนางไปตรวจร่างกายอีกครั้ง ซุนหลีประหลาดใจมากเพราะยังไม่ครบกำหนดสามเดือนที่ต้องตรวจร่างกาย
เมื่อซุนหลีเปิดประตูเข้าไปก็ได้รับคำสั่งให้นางปิดประตูให้เรียบร้อย
“เจ้าค่ะ”
ซุนหลีค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ กระทั่งหยุดเบื้องหน้าฮูหยินใหญ่ แล้วประสานมือที่บั้นเอวยอบกายอย่างนอบน้อมอ่อนหวาน
“ฮูหยินใหญ่ ข้าน้อยมาแล้วเจ้าค่ะ”
ฮูหยินใหญ่มองคนงามอย่างพึงใจ นับวันซุนหลียิ่งงดงามหยาดเยิ้มกระทั่งสตรีด้วยกันเมื่อเดินผ่านยังต้องมองเหลียวหลัง
และที่สำคัญร่างกายนี้เหมือนจะอวบอิ่ม สมบูรณ์ในจุดที่ฮูหยินใหญ่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ
หากนางได้รับน้ำกามทิพย์จากบุรุษ ซุนหลีจะกลายเป็นสตรีที่สมบูรณ์ยิ่งกว่านี้
“ลุกขึ้นเถิด”
“ขอบคุณฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”
“เงยหน้าของเจ้าขึ้นมา”
“เจ้าค่ะ”
ซุนหลีเงยหน้าขึ้นมองฮูหยินใหญ่ นางจึงเห็นชัดเจนว่าบัดนี้ฮูหยินใหญ่สวมชุดสีขาวและบางยิ่ง กระทั่งมองเห็นเต้าถันคู่ใหญ่อยู่ข้างใน เมื่อมองต่ำไปก็พบเส้นขนสีอ่อนรำไรปกคลุมอยู่ตรงกลางร่างกาย
ซุนหลีต้องรีบหลุบตาต่ำ เมื่อนางยังสามารถมองเห็นกลีบเนื้ออูมของฮูหยินใหญ่ได้อย่างชัดเจน
ซุนหลีกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก นางรู้สึกประหม่าเพราะสบเข้ากับสายตาของฮูหยินใหญ่ที่มองนางด้วยความพึงพอใจ
ทว่านอกจากความพึงพอใจแล้วสายตาคู่นั้นยังทำให้ซุนหลีใบหน้าร้อนวูบวาบจนกลายเป็นริ้วแดง
ฝูจื่อหรงก้มหน้าวูบลงมาบดริมฝีปากกับโจวเจ้าเว่ยเบาๆ แต่เจ้าเว่ยต้องการมากกว่านั้น หญิงสาวแลบลิ้นออกมารอรับ นางเป็นฝ่ายสอดความอ่อนนุ่มเข้าไปภายในปากของเขาแทน แม้มือจะยังไม่มีแรงมากนักแต่การยึดเหนี่ยวใบหน้าเขาไว้กลับไม่เป็นปัญหา หญิงสาวบดริมฝีปากสามีอย่างเร่าร้อน "ถอดเสื้อผ้าให้ข้า จื่อหรงถอดให้ข้ามันร้อนเหลือเกิน" เจ้าเว่ยปากสั่นร้อนรนเพราะทนกับความรู้สึกเสียวซ่านที่รบกวนจนรู้สึกทรมานในทุกสัมผัสของเขา พรางนึกขัดใจตนเองที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งเสื้อผ้าของตนเองยังไม่มีปัญญาถอด "เจ้าเว่ยของข้าอย่าได้รีบร้อน เราจะค่อยๆสัมผัสและมีความสุขด้วยกัน" ฝูจื่อหรงจุมพิตปากบาง พลางถอดอาภรณ์ของนางอย่างทะนุถนอม "พี่เต้ข้าไม่เข้าใจ เจ้าหลีกเลี่ยงข้ามาตลอดเหตุใดถึงยอมโดยง่าย หากข้ามีแรงมากกว่านี้คงได้ปลุกปล้ำเจ้าไปหลายครั้งแล้ว" เจ้าเว่ยกล่าวพลางพยามยามใช้มือคว้ามังกรตัวใหญ่ไว้ในมือจนสำเร็จ อารมณ์ความต้องการเพิ่มทวีขึ้นโดยที่เจ้าเว่ยไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอกำความใหญ่แน่นแล้วลูบไล้ช้าๆ มันร้อนไปทั่วทั้งฝ่ามือ ภายใจร่างกายและจิตใจของเจ้าเว่ยสั่นระริกด้วยความร้อนและไฟปรารถนา ในที่สุดฝูจื่อหรงก็ถอดอาภรณ์ออกจากร่างบางได้สำเร็จ เจ้าเว่ยดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย นางยังกำมังกรยักษ์แน่นไม่ยอมปล่อย นางเลียริมฝีปากเมื่อมองร่างมันจนฝูจื่อหรงรู้สึกลำคอแห้งผาก รู้สึกอยากกดศีรษะของคนตัวเล็กลงแล้วยัดมังกรเข้าไปในโพรงปากให้นางได้สมปรารถนาเสียเดี่ยวนี้ "ปล่อยมันก่อนเจ้าเว่ย เจ้าต้องไปอาบน้ำ" เขากระซิบเสียงแหบพร่า พยายามแกะมือเล็กที่กอบกำมังกรของเขาอยู่ เจ้าเว่ยต้องปล่อยอย่างอดเสียดาย ใบหน้าของนางฟ้องความต้องการออกมาจนฝูจื่อหรงนึกขัน แนะนำตัวละคร เรื่องย่อ โจวเจ้าเว่ย องค์หญิงแห่งแคว้นเหลียง ทายาทของเผ่าบุปผาขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามล่มเมือง คนของเผ่าบุปผาเป็นเผ่าที่ถือกำเนิดมาจากเทพเซียนรูปโฉมงดงามแต่ต้องคำสาปเรื่องของความรัก หากพวกเขามีความรักจะไม่สมหวังและตายอย่างอนาถด้วยความรักนั้น ฝูจื่อหรง ฮ่องเต้แคว้นชินที่มีเบื้องหลังการครองอำนาจโดยการสนับสนุนของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น รูปโฉมงดงามจนทำให้แข้งขาสตรีอ่อนระทวย เรื่องสตรีสำหรับเขาเป็นเพียงเพื่อมีไว้สนับสนุนบัลลังก์ให้มั่นคงเท่านั้น คนทั่วราชสำนักรู้ดีว่าเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น กระทั่งวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับองค์หญิงผู้ลึกลับผู้หนึ่ง ที่เข้ามาพังทะลายกำแพงหัวใจที่เขาตั้งเอาไว้ และ นางผู้นั้นยังทำท่าคล้ายกับว่าไม่อาจอยู่กับเขาได้อีก สตรีผู้หนึ่งซึ่งมีความลับบางประการซ่อนอยู่ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายฝาแฝดขององค์หญิงโจวเจ้าเว่ยโจวเจ้าเว่ยองค์หญิงผู้สามารถเดินทางข้ามมิติได้โดยใช้ขลุ่ยเพรียกบุปผาซึ่งเป็นขลุ่ยวิเศษในการเดินทางข้ามมิติ โจวเจ้าเว่ยเป็นสตรีของเผ่าบุปผาอันลี้ลับ ต้องคำสาปที่ไม่สามารถมีความรักได้ หากนางมีความรักจำเป็นต้องเจ็บปวดจนถึงแก่ความตาย เพราะเหตุนี้โจวเจ้าเว่ย และ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีแก้คำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และ พวกเขาไม่อาจเปิดเผยความลับนี้ให้ ฝูจื่อหรงล่วงรู้ได้ (เรื่องนี้เป็นนิยายภาคต่อของต้องมนต์บุปผาค่ะ)
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เหวินเฟยเทียนเป็นพ่อค้าหน้าเลือดที่เห็นแก่ตัวที่สุดโดยเขามีผู้ช่วยคนสำคัญก็คือเฉินลี่จู เด็กสาวที่เขาได้ช่วยเอาไว้จากหมู่บ้านขอทานเมื่อนานมาแล้ว เขาเพียงใช้นางเพื่อหวังผลประโยชน์ในขณะที่เฉินลี่จูกลับมอบหัวใจให้เขาจนหมดใจ กระทั่งวันหนึ่งก็ถึงจุดแตกหัก เมื่อเหวินเฟยเทียนไม่เห็นความสำคัญของนางอีกต่อไป เขากำลังจะแต่งงานกับคุณหนูซุนซื่อผู้มอบผลประโยชน์ให้เขาได้มากกว่านาง จนทำให้นางเสียใจและหนีเตลิด เพราะนางหนีจากเขาทำให้เหวินเฟยเทียนกินไม่ได้นอนไม่หลับใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เขาตามหานางและสุดท้ายได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนามว่าหลี เด็กหญิงซึ่งมีใบหน้าคล้ายคลึงเขาราวกับถอดแบบออกมา! นิยายเรื่องนี้เป็น ประเภท ดราม่า และ มีเด็กในเรื่องค่ะ
เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
องค์หญิงหลิวอี้เฟยถูกส่งตัวไปแต่งงานกับอ๋องชราต่างแคว้นโดยไม่เต็มใจยังถูกคุมตัวโดยหัวหน้าองครักษ์ผู้เหี้ยมโหดที่คิดสังหารนางเพราะนางดันไปรู้ความลับดำมืดของเขาโดยบังเอิญ ด้วยความกลัวตายนางจึงคิดหนี! หมายเหตุ เรื่องนี้เป็นนิยายแนวโรมานซ์ ปมไม่หนักจบแบบสุขนิยมนะคะ
อยากหนีก็หนีไป แต่ถ้าตามเจอเมื่อไหร่ รับรอง! ได้ทรมานกว่าเดิมแน่..!! LEE ZONMIN (อีโซมิน) ชายหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี จีน ชีวิตแสนมืดมนผลักดันให้เขาต้องดิ้นรน กว่าจะมีวันนี้ได้ ... เจ้าของคาสิโนและคอมเพล็กซ์ห้างสรรพสินค้าที่กัมพูชา และ มาเก๊า เขาตามหาหญิงสาวคนหนึ่งและเธอพยายามหนี "ถ้าคิดจะหนีก็หนีให้รอด!!" BUA YONHWA (บัว หรือ ยอนฮวา) หญิงสาวลูกครึ่งไทยเกาหลีสุดแสนน่ารักชีวิตครอบครัวอบอุ่น ได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศ... แต่ชีวิตกับพลิกผันเมื่อเจอกับคนเลวแบบเขา " ฉันไม่รู้จักคุณ!!"
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา “คุณเป็นใคร?” “ฉันเป็นภรรยาของคุณ...” เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง “ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า” ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน“เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!” เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน “ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!”
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!
[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"