หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
ที่ห้องสูทของโรงแรม แสงไฟสลัว ๆ คลุมเครือ
เวินหมั้นกำลังจูบกับชายแปลกหน้าที่หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งอย่างโซซัดโซเซ
คืนนี้กู้ฉางชิงแฟนเก่าของเธอประกาศหมั้น เธอจึงมาดื่มที่บาร์จนเมาหนักมาก ด้วยความยั่วยุจากผู้ชายและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เวินหมั้นจึงตามผู้ชายคนนี้มาที่นี่
ในเมื่อกู้ฉางชิงยังสามารถเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์สี่ปี แล้วก็ไปเกาะลูกสาวของตระกูลที่ร่ำรวยและทอดทิ้งเธอไปได้อย่างนี้แล้ว
งั้นเธอก็สามารถที่จะทำอะไรตามอำเภอใจได้เช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะมีอะไรกันนั้น......
เวินหมั้นซบไปที่หัวไหล่ของชายคนนั้น ลืมทุกสิ่งรอบตัวไป แล้วก็พึมพำชื่อของคน ๆ นั้นออกมาเหมือนแมวน้อยตัวหนึ่ง“กู้ฉางชิง!”
การกระทำที่กำลังใกล้ชิดกันทั้งหมดสิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน
มีเสียงเบา ๆ ดังขึ้น แล้วแสงไฟก็สว่างขึ้นในทันที......
แสงที่ส่องสว่างทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน
เขาคือโฮ่วซ่าวถิง หัวหน้าทนายความคนสำคัญในประเทศ ซึ่งก็เป็นคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นท่านพญายมในแวดวงกฎหมายนั่นเอง เขามีทรัพย์สินมากมายนับไม่ถ้วนในชื่อของเขา ถือได้เป็นผู้ชายหัวกะทิตัวจริงอย่างไม่มีผิด
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขามีตัวตนที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก ซึ่งเขาคือพี่เขยของกู้ฉางชิง ผู้ชายสารเลวที่คบซ้อนคนนั้น
จู่ ๆ เวินหมั้นก็สร่างเมาขึ้นมาทันที
เธอหลับตาลงเบา ๆ เยี่ยมจริง ๆ เลย! เธอเกือบมีเซ็กส์กับพี่ชายของอดีตมารหัวใจแล้ว!
โฮ่วซ่าวถิงปล่อยตัวเธอออก
เขาพิงกำแพง ก้มหน้าลงแล้วก็จุดบุหรี่มวนหนึ่งสูบพร้อมกับกวาดสายตามองเธอตั้งแต่หัวจวดเท้าอยู่เป็นเวลานาน แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าขี้เล่นว่า “น่าสนใจจริง ๆ เลย..... คุณเวิน”
เขาปัดขี้บุหรี่ทิ้ง แล้วก็ถามขึ้นมาอย่างชิว ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ตอนจูบกับผมคิดอะไรอยู่เหรอ? อยากนอนกับผมแล้วไปทำให้กู้ฉางชิงขุ่นเคืองใจเหรอ?”
เห็นได้ชัดเลยว่าโฮ่วซ่าวถิงก็จำเธอได้แล้วเช่นกัน
เวินหมั้นที่คิดจะแสร้งทำเป็นไม่รู้จักจึงไม่สามารถที่จะทำได้แล้ว
โฮ่วซ่าวถิงมีชื่อเสียงมาก ถ้าเธอบอกว่าเธอไม่รู้จักเขา คงจะดูปลอมมากเลยล่ะ แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะจำเขาไม่ได้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ตาม
แถมเธอยังรู้ดีด้วยว่าเธอไม่สามารถที่จะไปทำให้คนใหญ่คนโตแบบเขาไม่พอใจได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่ก้มหน้าและขอโทษเขาไป “ฉันขอโทษค่ะคุณโฮ่ว ฉันดื่มมากเกินไปหน่อย”
โฮ่วซ่าวถิงไม่ได้ทำให้เธอต้องลำบากอะไร หลังจากสูบบุหรี่หมดหนึ่งมวนแล้ว เขาก็ยืนตัวตรง แล้วก็โยนเสื้อคลุมตัวหนึ่งให้เธอ “คลุมไว้ซะ เดี๋ยวผมไปส่งคุณเอง”
เวินหมั้นก็ไม่ได้ทำตัวเสแสร้งดัดจริตแต่อย่างใด พูดขอบคุณเขาออกมาอย่างแผ่วเบา
รถที่โฮ่วซ่าวถิงขับคือเบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล ระหว่างทางพวกเขาสองคนไม่มีใครพูดอะไรกันเลย
เวินหมั้นมีแต่มองไปที่เขาบ้างเป็นครั้งคราว
พอมองจากด้านข้างแล้ว ใบหน้าของโฮ่วซ่าวถิงดูสมบูรณ์แบบมาก โครงหน้าของเขาชัดเจนคมคาย เสื้อเชิ้ตที่เขาใส่อยู่แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเป็นแบรนด์อะไร แต่เธอก็มองออกว่าต้องมีราคาที่แพงมากแน่ ๆ
เวินหมั้นเดาว่า ผู้ชายแบบนี้คงจะไม่มีทางขาดผู้หญิงเลยหรอก
เมื่อมาถึงแล้วเขาก็จอดรถ โฮ่วซ่าวถิหันไปด้านข้าง สายตาของเขาจ้องมองไปที่ขาที่เรียวยาวและขาวกระจ่างใสของเธออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หยิบนามบัตรจากตู้เก็บของด้านหน้าออกมา แล้วก็ยื่นให้เวินหมั้นไป
เรื่องระหว่างชายหญิงอะไรแบบนี้ เพียงแค่คิดแวบเดียวก็สามารถที่จะเข้าใจได้ในทันทีแล้ว
เวินหมั้นไม่คาดคิดเลยว่า หลังจากที่ตัวตนของเธอเปิดเผยแล้ว เขาก็ยังอยากจะมีความสัมพันธ์กับเธออยู่อีก
แม้ว่าโฮ่วซ่าวถิงจะเป็นคนที่มีเสน่ห์เหลือล้น แล้วก็คงจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้มีความสัมพันธ์กับเขา แต่พอนึกถึงตัวตนของเขา หนังศีรษะของเวินหมั้นก็ชาไปหมด หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ปฏิเสธออกไปว่า “ทนายโฮ่วคะ เราอย่าติดต่อกันอีกเลยดีกว่านะคะ”
โฮ่วซ่าวถิงก็ไม่ได้ถือสาอะไรมาก
เวินหมั้นเป็นคนที่สวยมากก็จริง แต่เขาก็ไม่มีทางจะไปขืนใจคนอื่นแน่นอน
เขาเก็บนามบัตรของเขาไป แล้วก็พยักหน้าอย่างสงบเสงี่ยมพลางพูดว่า “ผู้หญิงแบบคุณ เหมาะสมที่จะเป็นผู้หญิงที่ดีจริง ๆ”
เวินหมั้นรู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่แล้วโฮ่วซ่าวถิงกลับลงจากรถมาเปิดประตูให้เธออย่างเป็นสุภาพบุรุษมาก ราวกับว่าเหตุการณ์ที่แสนโรแมนติกของค่ำคืนนี้ไม่เคยเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
แล้วรถเบนท์ลีย์ คอนติเนนทัลสีทองก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป
ลมกระโชกแรงยามค่ำคืนพัดผ่านไป เวินหมั้นรู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วทั้งร่างกาย จากนั้นเธอก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่าเธอลืมคืนเสื้อคลุมให้เขา
ในขณะที่เธอกำลังลังเลว่าจะต้องตามไปไหม โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา
เป็นน้าหร่วนที่โทรเข้ามา น้ำเสียงของน้าหร่วนดูร้อนใจแถมยังติดเสียงร้องไห้ไปด้วยอีก “เวินหมั้น เธอรีบกลับมาเร็ว ๆ เลยนะ ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!”
เวินหมั้นรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แล้วน้าหร่วนกลับไม่สามารถอธิบายในทางโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจน บอกแค่ว่าให้เธอรีบกลับบ้านโดยเร็วที่สุดเท่านั้น
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว